To top
28 Nov

Balenciaga Neo Classic ครบรอบ 20 ปี ของดีไซน์คลาสสิก

Balenciaga Neo Classic - นิยามของคำว่า "กระเป๋า" ในปัจจุบันนั้น มีความหมายเป็นมากกว่าเครื่องประดับ เพราะมันกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความหรูหรามีสไตล์  ที่จะช่วยส่งเสริมบุคลิกของผู้เป็นเจ้าของ โดยเฉพาะกระเป๋าสไตล์คลาสสิก และเนื่องในโอกาสครบรอบ 20 ปีของแบรนด์คลาสสิกที่มีเอกลักษณ์อย่าง Balenciaga ได้ทำการเปิดตัวกระเป๋าใบใหม่ "Balenciaga Neo Classic" ที่เหมือนกับเป็นการรีดีไซน์ Iconic Bag ของแบรนด์อย่างกระเป๋า Classic City Bag ให้ออกมามีความสง่างามและทันสมัยมากขึ้น   About Balenciaga Balenciaga (บาเลนเซียก้า) แบรนด์แฟชั่นหรูหราระดับโอต์กูตูร์ ที่ก่อตั้งโดย คริสโตบาล บาเลนเซียกา (Cristóbal Balenciaga) นักออกแบบแฟชั่นกูตูริเยร์ในตำนานที่คนในวงการแฟชั่นโอตกูตูร์ต่างชื่นชม ผลงานการออกแบบของเขามีความโดดเด่น ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจาก ศิลปะแบบ Abstract  หรือศิลปะแบบนามธรรม ที่มีรูปทรงแปลกตาอย่างน่ามหัศจรรย์ ร้านบูติกของแบรนด์เปิดขึ้นแห่งแรกที่ย่าน ซาน เซบาสเตียน (San Sebastián) ประเทศสเปนในปี ค.ศ. 1917 ก่อนจะย้ายถิ่นฐานมาที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส   Balenciaga Neo Classic Bag กระเป๋าในไลน์คลาสสิกของ Balenciaga มาในสไตล์ Motorcycle เอกลักษณ์ของกระเป๋ารุ่นนี้คือพู่หนัง เริ่มเป็นที่รู้จักในช่วงปี ค.ศ. 2000 และได้เปิดตัวบนรันเวย์ในปี ค.ศ. 2001 เป็นต้นมา โดยกระเป๋าได้รับการออกแบบให้มีหลายขนาด และมีหลายสี Demna Gvasalia (เดมนา กวาซาเลีย) ได้นำเอาเอกลักษณ์อันโดดเด่นเหล่านี้ มาปรับใช้ในการออกแบบกระเป๋าคลาสสิกใบใหม่สำหรับคอลเล็กชั่นล่าสุด เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 20 ปีของดีไซน์คลาสสิก กระเป๋านีโอคลาสสิค ใน Fall 2020...
Continue reading
23 Nov

ประวัติ MCM แบรนด์ยอดฮิตของคนเอเชีย

ถ้าหากพูดถึงแบรนด์กระเป๋า และเครื่องหนังยอดฮิตที่ดาราเกาหลีนิยมใช้ หลาย ๆ คนก็คงนึกถึงแบรนด์ MCM อย่างแน่นอน และคนส่วนใหญ่มักจะคิดว่า MCM เป็นแบรนด์ที่ก่อตั้งโดยคนเกาหลี แต่จริง ๆ แล้ว ประวัติ MCM เริ่มขึ้นที่มิวนิก ประเทศเยอรมนีเมื่อกว่า 40 ปีที่แล้ว ด้วยเฉดสีคอนยัค (Cognac) ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร และลวดลายโมโนแกรม Visetos (วิเซโต้) ทำให้แบรนด์กลายเป็นที่จดจำจนได้รับความนิยมจากคนทั่วทั้งเอเชียละยุโรป!   The History of MCM ประวัติ MCM นั้นเริ่มจากแบรนด์เครื่องหนังหรูหราสัญชาติเยอรมัน MCM ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1977 ที่มิวนิกในเยอรมนี ผู้ก่อตั้งแบรนด์คือ ไมเคิล โครเมอร์ (Michael Cromer) เขาเกิดเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ค.ศ. 1939 ที่เมืองเครเฟลด์ ประเทศเยอรมนี โดย ไมเคิล โครเมอร์ และภรรยาของเขาได้ร่วมกันเปิดร้านเสริมสวยโดยใช้ชื่อว่า  Modern Coiffeur München ด้วยความที่เขาเป็นดาราทำให้เพื่อน ๆ ในวงการแวะเวียนมาใช้บริการร้านเสริมสวยอยู่เป็นประจำ ในปี ค.ศ. 1975 เขาและภรรยาได้สร้างชุดกระเป๋าเครื่องสำอางสีขาวที่มีโลโก้ MCM ไว้มอบให้สำหรับลูกค้าที่มาใช้บริการร้านเสริมสวย ซึ่งในปีเดียวกันนั้นเองที่ ไมเคิล โครเมอร์ ได้ไปถ่ายทำภาพยนต์ที่อิตาลี เขาสังเกตเห็นว่าพนักงานบริการของโรงแรมจะดูแลลูกค้าที่ใช้กระเป๋าเดินทางจากแบรนด์ Louis Vuitton เป็นพิเศษ นั่นทำให้เขามีความคิดที่จะสร้างกระเป๋าเดินทางของภายใต้แบรนด์ตัวเองขึ้นมา ไมเคิล โครเมอร์ ร่วมมือกับผู้ผลิตกระเป๋าเดินทาง เพื่อออกแบบและสร้างกระเป๋าเดินทางสีคอนยัค (Cognac) ซึ่งเขาเรียกว่า Visetos มาพร้อมกับโลโก้ MCM...
Continue reading
14 Nov

LOUIS VUITTON ในคอลเล็กชั่น CRUISE 2021

สืบเนื่องจากช่วงปลายปี ค.ศ. 2019 จนถึงช่วงต้นปี ค.ศ. 2020 ที่ผ่านมาเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า หรือที่รู้จักกันภายใต้ชื่อ "COVID-19" ส่งผลให้ทั่วโลกต้องถูกล็อกดาวน์ ผู้คนเริ่มทำงานจากที่บ้าน (Work from Home) และด้วยวิถีชีวิตแบบใหม่ (New Normal) นี้ ส่งผลกระทบต่อวงการแฟชั่น ทุกแบรนด์ไม่สามารถโชว์ผลงานการออกแบบในแฟชั่นวีคได้ Louis Vuitton เองก็ได้รับผลกระทบดังกล่าวเช่นกัน จึงจำเป็นต้องจัดแฟชั่นโชว์ LOUIS VUITTON ในคอลเล็กชั่น CRUISE 2021 ที่สตูดิโอแทน   Louis Vuitton Cruise 2021 Collection โดยปกติแล้วคอลเล็กชั่น Cruise จะนำเสนอเรื่องราวของการเดินทางท่องเที่ยว และจัดแฟชั่นโชว์ตามสถานที่ใหม่ ๆ แต่คอลเล็กชั่นล่าสุดของ หลุยส์ วิตตอง ที่นำทีมโดย นีโกลาส์ เฌสกีแยร์ (Nicolas Ghesquière) ได้นำเสนอการเดินทางรูปแบบใหม่ คือ การเดินทางอยู่กับที่ เพราะแฟชั่นโชว์ครั้งนี้ถูกจัดขึ้นที่สตูดิโอในปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยใช้ชื่อว่า "Game On" เป็นการนำเอาความสนุกสนานของเกมไพ่มาไว้ในแฟชั่นชั้นสูง คอลเล็กชั่น Game On ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสำรับไพ่ เนื่องจากไพ่เป็นเกมที่ นีโกลาส์ เฌสกีแยร์ ชื่นชอบมาก เพราะมีรูปแบบการเล่นมากมาย และการ์ดแต่ละใบเต็มไปด้วยสัญลักษณ์ เขาได้นำเอาเกมไพ่มาผสมผสานกับแฟชั่น โดยเล่นกับลวดลายไอคอนนิคของ หลุยส์ วิตตอง ผสานลายโมโนแกรมเข้ากับประเภทของดอกในสำรับไพ่อย่างโพธิ์ดำ โพธิ์แดง ข้าวหลามตัด และดอกจิก   Game On Speedy Bandouliére 30 กระเป๋า Speedy สุดคลาสสิกจากหลุยส์ วิตตอง...
Continue reading
11 Nov

Burberry Scarf เบื้องหลังการรังสรรค์ผ้าพันคอแคชเมียร์

เมื่อฤดูหนาวกำลังจะมาเยือน เป็นสัญญาณเตือนว่า ‘ฤดูกาลแห่งแฟชั่น’ กำลังจะเริ่มต้นขึ้น เพราะหน้าหนาวเป็นช่วงเวลาที่สาว ๆ จะคอมพลีทลุคด้วยไอเทมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อโค้ท หมวก สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ผ้าพันคอ ที่จะช่วยให้ความอบอุ่นกับร่างกายเมื่อต้องเผชิญกับอากาศหนาวเย็น และยิ่งเป็นผ้าพันคอจากลักชัวรี่แบรนด์อย่าง Burberry ที่มีเบื้องหลังการสร้างสรรค์ผ้าพันคอแคชเมียร์อย่างพิถีพิถันด้วยแล้ว จะยิ่งเป็นไอเทมช่วยเสริมให้คุณดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น About Burberry Thomas Burberry (โทมัส เบอร์เบอรี่) Burberry (เบอร์เบอรี่) เป็นแบรนด์เก่าแก่ที่มีอายุกว่า 160 ปี ถูกก่อตั้งขึ้น ณ ประเทศอังกฤษโดย Thomas Burberry (โทมัส เบอร์เบอรี่) ผู้เป็นทั้งดีไซเนอร์และนักประดิษฐ์ เขาเป็นที่รู้จักในการคิดค้นผ้ากาบาร์ดีน (Gabardine) วัสดุที่ทนทาน มีน้ำหนักเบา และใช้ผ้ากาบาร์ดีนในการตัดเย็บ เทรนช์ โค้ท (Trench Coat) ซึ่งเป็นที่นิยมมาก เปรียบได้กับชุดประจำชาติของชาวอังกฤษ ปัจจุบัน Burberry มีสโตร์กว่า 500 แห่งโดยจำหน่ายเสื้อผ้าพร้อมสวมใส่ แจ็กเก็ต เครื่องประดับแฟชั่น รวมไปถึงผ้าพันคอ   Burberry Scarf ผ้าพันคอ Burberry Scarf สุดคลาสสิกในคอลเล็กชั่นผ้าแคชเมียร์นี้เป็นเอกลักษณ์ที่เปรียบเสมือนกับ DNA ของ Burberry ซึ่งถูกสร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันที่โรงทอผ้าในสกอตแลนด์ อายุมากกว่า 200 ปี โดยผ้าพันคอมีให้เลือกปรับแต่งได้ตามความต้องการ ทาง Burberry ได้เผยภาพเบื้องหลังงานหัตถศิลป์ ในการสร้างสรรค์ผ้าพันคอแคชเมียร์ อันสะท้อนถึงความความสัมพันธ์อันดีระหว่างแบรนด์กับช่างฝีมือท้องถิ่นชาวสกอตแลนด์ ผ้าพันคอแคชเมียร์แต่ละผืนผ่านกรรมวิธีการผลิตกว่า 30 ขั้นตอน โดยวัสดุที่นำมาถักทอนั้น ได้มาจากการผลัดขนของแพะแคชเมียร์ ซึ่งไม่ได้มีการทารุณกรรมใด ๆ เกิดขึ้น...
Continue reading
8 Nov

Size of Dior Lady Bag

กระเป๋าแบรนด์หรูสัญชาติฝรั่งเศสอย่าง Lady Dior ที่ได้รับความนิยมอย่างถล่มทลายเมื่อ เจ้าหญิงไดอาน่า ทรงถือออกงานอยู่บ่อยครั้ง นั่นเป็นจุดเริ่มต้นทำให้กระเป๋าใบนี้กลายเป็น Iconic Bag มาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นเวลานานกว่า 25 ปีแล้ว ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาดิออร์ได้มีการพัฒนากระเป๋าออกมามีรูปแบบมากมายและหลากหลายขนาด ซึ่งปัจจุบันกระเป๋าเลดี้ดิออร์มีขนาดให้เลือกถึง 5 ขนาดด้วยกัน ซึ่งเราจะพาคุณไปชมวิวัฒนาการของกระเป๋าสุดคลาสสิครุ่นนี้ ว่ามีขนาดไหนน่าสนใจ และเหมาะกับคุณผู้หญิงบ้าง เหตุผลที่หลายคนเลือกใช้กระเป๋า "เลดี้ดิออร์" คงเป็นเพราะความคลาสสิค ความโดดเด่นของกระเป๋าที่ตกแต่งด้วยลวดลาย Cannage ลวดลายที่ได้มาจากเก้าอี้สานสไตล์นโปเลียนที่ 3 และขนาดของกระเป๋าที่มีมากนั้นทำมาเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าไซ้ซ์ Mini (6.6 x 5.9 x 2.7 in) Small (7.8 x 6.4 x 3.1) Medium (9.4 x 7.8 x 4.3 in) Large (12.5 x 9.8 x 4.3 in) และ Extra Large (15.9 x 10.9 x 4.4 in) เลดี้ดิออร์ ยังเป็นกระเป๋าในฝันของใครหลายคน ด้วยภาพลักษณ์ที่เรียบหรู ดู Luxury ทำให้ดูน่าจับตามอง และความฮอตของกระเป๋าใบนี้ไม่มีวันลดลงเลยแม้แต่น้อย ขนาดของกระเป๋าแต่ละใบก็ให้ฟังก์ชั่นการใช้งานและบุคลิกที่แตกต่างกันออกไป หากคุณเป็นคนชอบออกงานสังคมบ่อยๆ ขนาดของกระเป๋าที่เหมาะกับคุณ คือ Mini เพราะไม่เทอะทะและพกพาได้สะดวก แต่ถ้าหากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบการช็อปปิ้งใส่ของได้เยอะๆ เราขอแนะนำขนาด Extra Large...
Continue reading
6 Nov

Versace Meander – นาฬิกาคลาสสิกผสมผสานสไตล์สปอร์ต

Versace Meander นาฬิกาเรือนหรูสุดคลาสสิค เปิดตัวครั้งแรก ในคอลเล็กชั่น Pre - Fall 2020 เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา นำทีมดีไซเนอร์โดย ดอนนาเทลล่า เวอร์ซาเช (Donatella Versace) ซึ่งใช้หลักการออกแบบที่เป็นการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างความเรียบง่ายและความหรูหรา ซึ่งถือได้ว่า เป็นเครื่องประดับที่ดีที่สุดสำหรับคนรักแฟชั่นในเวลานี้ นาฬิกาสุดหรูเรือนนี้ คือเครื่องประดับที่สวยงามทันสมัย มากด้วยเอกลักษณ์ของแบรนด์   About Versace เวอร์ซาเช่ (Versace) แบรนด์หรูสัญชาติอิตาลี ที่เป็นตำนานของแฟชั่นสไตล์วินเทจ อันมีโลโก้เป็นรูป เมดูซา (Medusa) แสดงถึงความงดงาม ทรงพลัง และอำนาจ ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1978 โดย จานนี เวอร์ซาเช่ (Gianni Versace) ดีไซเนอร์ชื่อก้องโลกแห่งยุค 90 ความโดดเด่นของแบรนด์คือลายปริ้นท์สีทอง ศิลปะสไตล์บาโรก (Baroque Art) ที่แสดงให้เห็นถึงความหรูหรา เฟื่องฟู อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ จนได้รับฉายาว่า "ราชวงศ์แห่งวงการแฟชั่น"   Meander Watch Meander Watch เปิดตัวครั้งแรก ในคอลเล็กชั่น Pre-Fall 2020 ซึ่งได้แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากสัญลักษณ์ของแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นลวดลายตัวอักษรกรีก (Greca) ที่ปรากฏอยู่บนสลักของตัวเรือน บนหน้าปัดนาฬิกา และโลโก้เมดูซา (Medusa) ตัวละครในเทพนิยายกรีก หญิงสาวรูปงามที่ถูกสาปให้กลายเป็นอสูร มีเส้นผมเป็นอสรพิษ เมื่อมีผู้ใดที่จ้องเข้าไปในดวงตาของเธอ ผู้นั้นจะกลายเป็นหิน โดยโลโก้จะอยู่บนหน้าปัดที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา ตัวเรือนของนาฬิกา มีลักษณะกลมมน ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 34.0 มิลลิเมตร ทำจากวัสดุ Stainless คุณภาพสูง มีทั้งหมด 4...
Continue reading
3 Nov

Christian Dior Fall 2020 คอลเล็กชั่นหรู ผู้ปลุกเสน่ห์ผ้ามัดย้อม

ดูเหมือนว่าผ้ามัดย้อมจะไม่ใช่แฟชั่นตามท้องถนนอีกต่อไป แต่ว่ากำลังจะกลายเป็นไอเทมสุดฮิตที่ทุกคนต้องมี ซึ่งจะเห็นได้จากแบรนด์หรูหลาย ๆ แบรนด์นั้น เริ่มมีคอลเล็กชั่นเสื้อผ้า กระเป๋า ที่มีลายพิมพ์เป็นลวดลายมัดย้อม รวมไปถึง Dior ที่ได้เปิดตัว Tie & Dior จากคอลเล็กชั่น Dior Fall ปีล่าสุด ซึ่งในคอลเล็กชั่นนี้ได้นำเอาเทคนิคการมัดย้อมมาเพิ่มความโดดเด่นให้กับไอเทมที่เป็นไอคอนิคของแบรนด์ และที่สำคัญลวดลายมัดย้อมทำให้สินค้าแต่ละชิ้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว   Christian Dior Fall 2020 ในการออกแบบคอลเล็กชั่นของ Dior ในครั้งนี้นำทีมโดย มาเรีย กราเซีย คิอูรี (Maria Grazia Chiuri) ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ของแบรนด์ ได้มีการนำเสนอลายพิมพ์แบบใหม่ ที่มีชื่อเรียกว่า "Tie & Dior" นี่คือการสร้างเสน่ห์ความน่าหลงใหลให้กับ Dior Fall 2020 Collection ได้เป็นอย่างมาก โดยผ่านนวัตกรรมของเทคนิคการย้อมสีลงบนผืนผ้า ซึ่งในแต่ละไอเทมนั้นจะมีสีพื้นเป็นสีน้ำเงินเฉด Navy Blue และสีเขียว โดดเด่นด้วยลวดลายสีขาวที่หมุนวนอยู่ตรงกลาง Lady Dior ไอเทมที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์อย่างกระเป๋ารุ่น Lady Dior ที่แสดงให้เห็นถึงความสง่างามและความงามของกระเป๋าสำหรับผู้หญิงด้วยดีไซน์ที่คงความคลาสสิก เรียบหรู และเป็นอมตะ แต่ดูทันสมัย กระเป๋าใบนี้ตัดเย็บขึ้นจากหนังลูกวัวพิมพ์ โดย Dior ได้นำเอาลายมัดย้อมสีน้ำเงินมาอยู่บนกระเป๋า Lady Dior ช่วยเสริมให้ดีไซน์เรียบหรูของกระเป๋านั้นดูโดดเด่น และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากยิ่งขึ้น   Dior Saddle Bag กระเป๋าที่มีรูปลักษณ์โดดเด่นอย่าง Dior Saddle Bag เอง ก็ถูกอัปเดตความงามแบบใหม่ โดยการนำเอาลายพิมพ์ Tie & Dye สีน้ำเงินและขาวเงินมาเสริมความน่าดึงดูดให้กับกระเป๋า นอกจากลวดลายมัดย้อมแล้วกระเป๋ายังคงเอกลักษณ์ของกระเป๋า Saddle Bag นั่นคือการปักตัวอักษร...
Continue reading
29 Oct

Emily in Paris : เจาะ Luxury Items ของเอมิลี่

ซีรี่ส์อเมริกันแนวคอมเมดี้-ดรามาอย่าง Emily in Paris ที่ถูกฉายบน Netflix ซีรี่ส์เรื่องนี้เป็นผลงานของทีมผู้สร้างระดับตำนานอย่าง ดาร์เรน สตาร์ (Darren Star) จากซีรี่ส์เรื่อง Sex and the City โดยได้นักแสดง ลิลี่ คอลลินส์ (Lily Collins) รับบทเป็น เอมิลี่ คูเปอร์ (Emily Cooper) หญิงสาวชาวอเมริกันที่ถูกส่งตัวให้ไปทำงานที่ปารีส วันนี้เราจะพาทุกคนไปส่องไอเท่มที่แม่สาวเอมิลี่ใช้ ซึ่งแน่นอนว่าการแต่งตัวและเครื่องประดับต่าง ๆ ที่ใช้ในเรื่องก็ต้องสวยงามและหรูหราให้สมกับที่เป็นมหานครแห่งแฟชั่นอย่างแน่นอนค่ะ   The Luxury Items 1. MCM Rare Authentic Vintage Backpack ไอเทมชิ้นแรกที่ปรากฏในซีรี่ส์เมื่อตอนที่เอมิลี่เดินทางมาถึงปารีส นั่นก็คือกระเป๋า MCM Rare Authentic Vintage Backpack ที่ทำขึ้นจากผ้าแคนวาสสีคอนยัค Cognac ลวดลาย Visetos ซึ่งเป็นลวดลายโมโนแกรมของแบรนด์ MCM กระเป๋าใบนี้นอกจากจะเป็นสินค้าวินเทจที่หายากแล้ว ยังเป็นไอเทมที่โดดเด่นด้วยสายรัดหัวเข็มขัดขนาดใหญ่ ภายในกระเป๋าเป็นช่องกว้างใส่สัมภาระได้เยอะ หากคุณจะเดินทางไปท่องเที่ยวในวันหยุดพักผ่อน MCM ใบนี้ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่เหมาะสำหรับคุณ     2. Chanel Round as Earth Bag กระเป๋าที่ปรากฏในตอนที่สองของซีรี่ส์เรื่อง Emily in Paris นี้ เป็นกระเป๋าจากแบรนด์ Chanel โดยมีชื่อรุ่นว่า Chanel Round as Earth Bag ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในคอลเล็กชั่น Fall Winter 2017 Collection Act 2...
Continue reading
12 Oct

กระเป๋าคาดอก แฟชั่นจาก Luxury Brand ของชาวสตรีท

ใน พ.ศ. นี้ หนึ่งใน Accesories เก๋ไก๋ที่หลาย ๆ คนกำลังให้ความสนใจมาเป็น Item ประดับกายนั่นก็คือ กระเป๋าคาดอก ซึ่งมาแรงแซงทะลุปีมาก เรียกได้ว่าเป็นที่นิยมทั้งเหล่าดาราเซเลบริตี้ ไปจนถึงบุคคลธรรมดาทั่วไปที่หลงรักในสายแฟฯ โดยกระเป๋าประเภทนี้ มีตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดปานกลาง คุณสามารถหยิกจับมา Mix & Match กับการแต่งตัวในลุคต่าง ๆ ของคุณได้ นอกจากนี้ กระเป๋าคาดอกยังเป็นหนึ่งใน Item ที่สุดของความสะดวกสบาย ด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานที่สอดคล้องกับความต้องการของเราในชีวิตประจำวัน จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน ซึ่งในวันนี้เราจะพาคุณไปพบกับ กระเป๋าคาดอกจาก Luxury Band เพื่อให้ชาวสตรีทได้เลือกแมทช์กับชุดโปรดของตัวคุณเอง Supreme x Louis Vuitton เปิดตัวมาในคอลเลกชั่น Fall-Winter 2017 เป็นการร่วมมือจากสองแบรนด์ดัง คือ แบรนด์เครื่องหนังหรูหราอย่าง Louis Vuitton และแบรนด์สตรีทแวร์อย่าง Supreme ที่ร่วมกันดีไซน์กระเป๋าที่เป็น Luxury Streetwear อย่างเช่นกระเป๋าคาดอกที่ทำจากหนัง Epi คุณภาพสูงซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ Louis Vuitton โดดเด่นด้วยเฉดสีแดง และโลโก้ตัวอักษรสีขาวของ Supreme กระแสความฮอตของคอลเลกชั่นนี้ทำให้สาวกชาวแฟชั่นต้องไปรอต่อคิวจับจองเป็นเจ้าของกันจนล้นชอป และราคาเปิดตัวของกระเป๋าคาดอก Supreme x Louis Vuitton นั้นอยู่ที่ประมาณ 81,500 บาท   Gucci Print Leather Belt Bag กระเป๋าที่เป็น Multi-Function อย่าง Gucci Print Leather Belt Bag ที่ติดอันดับกระเป๋ายอดฮิตแห่งปี ค.ศ. 2019 มาพร้อมสายสะพายลาย...
Continue reading
1 Oct

Used Like New? ไขข้อสงสัยกับศัพท์น่ารู้ของสินค้ามือสอง

หลายปีที่ผ่านมา การเติบโตของธุรกิจแบรนด์เนมมือสอง ได้รับความสนใจและเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีการคาดการณ์ว่ามูลค่าของสินค้าทั้งมือหนึ่งและมือสอง ที่มีจำหน่ายหมุนเวียนในประเทศไทยนั้น มีมูลค่ารวมกันทั้งสิ้นราว 2 แสนล้านบาท ด้วยความนิยมของผู้บริโภค รวมถึงทัศนคติต่อสินค้ามือสองที่เปลี่ยนแปลงไปจากอดีต ส่งผลให้มีแนวโน้มการเติบโตของตลาดซื้อขายแบรนด์เนมมือ 2 ในอนาคตค่อนข้างสูง หลักเกณฑ์การซื้อขายในปัจจุบัน สามารถแบ่งประเภทสินค้าในการจำหน่าย ออกได้ตามสภาพของสินค้า  และสิ่งที่ขายออกได้ภายในระยะเวลาสั้น ๆ ก็คือสินค้าประเภท Used Like New ซึ่งคำ ๆ นี้ เรามักจะพบได้ค่อนข้างบ่อย ในตลาดซื้อขาย สำหรับบทความนี้ เราจะพาทุกท่านมาเจาะลึกว่ามีความหมายแตกต่างจากสินค้า Used ทั่วไปหรือไม่ ร่วมค้นหาคำตอบไปพร้อมกัน ศัพท์น่ารู้ สินค้าแบรนด์เนมมือ 2 ในตลาดซื้อขายสินค้าแบรนด์เนมมือสองในปัจจุบัน เราจะพบกับคำจำกัดความที่อธิบายถึงสินค้าที่ลงจำหน่าย ในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป แต่ส่วนใหญ่ ‘การซื้อขายสินค้าแบรนด์เนม’ นั้น จะมีการแบ่งประเภทของสินค้า โดยใช้เกณฑ์ของสภาพสินค้าเป็นตัวกำหนด ซึ่งสามารถแบ่งออกได้ทั้งหมด 6 ระดับ ดังนี้ Brand New หมายถึง สินค้าใหม่ Used Like New หมายถึง สินค้าที่มีสภาพเหมือนใหม่ ไม่มีร่องรอยตำหนิบนสินค้า อาจจะผ่านการใช้งาน 1-2 ครั้ง ในบางครั้งอาจจะใช้คำว่า Pristine Excellent หมายถึง สินค้าที่ผ่านการใช้งานเล็กน้อย ยังอยู่ในสภาพดี ไม่มีตำหนิจากการใช้งาน ในบางครั้งอาจจะเป็นสินค้าที่ยังไม่ผ่านการใช้งานแต่เกิดการเปลี่ยนแปลงการเฟดของสีหนัง เนื่องจากการจัดเก็บ Very Good หมายถึง สินค้าที่ผ่านการใช้งาน มีร่องรอยจากการใช้งาน มีตำหนิเล็กน้อย หรือน้อยมาก เช่น มีตำหนิรอยขีดข่วนบนตัวฮาร์ดแวร์ Good หมายถึง สินค้าที่ผ่านการใช้งานมาพอสมควร มีร่องรอยจากการใช้งาน...
Continue reading
24 Sep

Tory Burch รองเท้าสุดฮิต 5 คู่ที่ควรมีไว้ติดตู้

รองเท้าคู่เก่งของคุณเป็นแบบไหน? ผ้าใบ หรือ รองเท้าแตะ? คุณเชื่อหรือไม่ว่าผู้คนส่วนใหญ่มีรองเท้ามากกว่าสองคู่เอาไว้เพื่อสวมใส่ตามช่วงเวลาและโอกาสที่เหมาะสม นอกจากนี้แล้ว การสวมรองเท้าให้เข้ากับเสื้อผ้าก็เป็นการเสริมสร้างบุคลิกภาพ บ่งบอกถึงสไตล์ความเป็นตัวของคุณเอง และในวันนี้เราจะมาแนะนำ Tory Burch รองเท้าสุดฮิต 5 สไตล์ที่สวมใส่สบายและสามารถเลือกใช้ตามความเหมาะสม มาดูกันว่ามีรองเท้าคู่ไหนบ้างที่ต้องมีเอาไว้ติดตู้รองเท้าของคุณกันบ้าง! 5 Must-Have Tory Burch Shoes Minnie Travel Ballet Flat รองเท้าส้นเตี้ย หรือ Ballet Flat ที่ดีและใส่สบายนั้นหายากมากสำหรับการเลือกรองเท้าสักคู่หนึ่งซึ่งสามารถใส่ไปทำงาน แมทช์กับชุดลำลอง หรือใส่ไปปาร์ตี้ได้ และรองเท้า Minnie Travel Ballet Flat ก็เป็นรองเท้าที่ตอบโจทย์นี้ได้ดีที่สุด ด้วยสโลแกน Fold Pack Go ความเก๋ไก๋และความสะดวกสบายของรองเท้าคู่นี้ คือ สามารถงอพับได้ โดยตัวรองเท้าผลิตจากหนัง Napa ที่นุ่มเป็นพิเศษทำให้สวมใส่สบายเท้า รองเท้าคู่นี้มีราคาราว ๆ 7,500 บาท เท่านั้น   Sawyer Trainner รองเท้าสนีกเกอร์รุ่นใหม่นี้ถูกตั้งชื่อตามลูกชายของ Tory Burch รองเท้า Sawyer Trainner ได้นำเอาหนังกลับโทนสี Color-Block ผสมผสานสีที่เข้ากับพื้นรองเท้าทำจากยางที่หนาและมีขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สมดุลของรองเท้าสไตล์โอเวอร์ไซ้ซ์สนีกอเกอร์เหมาะกับชุดเดรสของผู้หญิง กางเกงขาสั้นและเสื้อยืด หรือจะเป็นกางเกงยีนส์ขาด ๆ และแจ็คเก็ตหนังก็จะได้ลุคแบบสตรีท รองเท้าคู่นี้มีราคาราว ๆ 8,075 บาท   Multi-Logo Wedge รองเท้าส้นสูงทำจากหนังแพะนุ่ม (Soft Goatskin) ทรงรองเท้าที่มีปลายเท้ากลมมนดูสง่างาม และส้นรองเท้าที่ออกแบบมาให้เป็นส้นลิ่มสูง 65 มม. ซึ่งรับกับเท้าสวมใส่สบาย ทำให้ดูสูงเพรียวเมื่อสวมใส่ รองตกแต่งรองเท้าด้วยฮาร์ดแวร์ Gold double-T ซึ่งโลโก้นี้...
Continue reading
21 Sep

Boyy แบรนด์หรูฝีมือคนไทยที่ดังไกลระดับโลก

วงการแฟชั่นของเมืองไทยเฟื่องฟูมาอย่างต่อเนื่อง แต่มีเพียงไม่กี่แบรนด์จากประเทศไทยที่ก้าวสู่แบรนด์แฟชั่นชั้นนำระดับโลกได้อย่าง Boyy (บอย) แบรนด์ฝีมือคนไทยได้เป็นที่รู้จัก และเป็นที่นิยมไปทั่วโลกจนสามารถเทียบกับแบรนด์ชั้นนำอื่น ๆ ได้ แม้ว่าแบรนด์จะเพิ่งก่อตั้งได้ไม่นานนัก แต่ด้วยดีไซน์สไตล์สตรีทที่โดดเด่นและเติบโตมาท่ามกลางกระแสที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ได้รับความนิยมมากที่สุดเท่าที่ดีไซเนอร์ของเมืองไทยเคยทำมา The History of Boyy  บอย (Boyy) ก่อตั้งขึ้นใน ปี ค.ศ. 2006 โดย คุณบอย วรรณศิริ คงมั่น (Wannasiri Kongman) และเจสซี่ ดอร์ซีย์ (Jesse Dorsey) ซึ่งตัวเธอเองเธอเป็นคนไทยที่ไปใช้ชีวิตที่นิวยอร์ก โดยไปเรียนภาษาและทำงานในร้านอาหาร จุดเริ่มต้นของการสร้างแบรนด์ คือ ความรัก ความชื่นชอบ และความหลงใหลในกระเป๋า เธอเป็นคนที่รอบรู้เรื่องกระเป๋า และเธอยังชอบมองดูพฤติกรรมของผู้คนที่เดินบนถนน เพื่อดูว่าแต่ละคนจะสะพายกระเป๋าแบบใดอีกด้วย นอกจากจะทำงานแล้ว เธอยังไปเรียนภาคค่ำที่สถาบัน FIT (Fashion Institute of Technology) ในขณะที่คุณบอยกำลังศึกษาอยู่นั้น เธอก็ได้พบกับ เจสซี่ ดอร์ซีย์ (Jesse Dorsey) ซึ่งต่อมาได้กลายมาเป็นคู่ชีวิตของเธอ ต่อมาเขาก็ได้เป็นหุ้นส่วนคนสำคัญของคุณบอย ซึ่งคุณรู้หรือไม่ว่า ที่ผ่านมาคุณบอยได้ทำกระเป๋าขึ้นมาใช้เอง เพราะกระเป๋าแบรนด์ดังในท้องตลาดมีราคาแพงมาก เจสซี่ ดอร์ซีย์จึงได้ผลักดันให้เธอออกมาทำกระเป๋าเป็นของตัวเอง! เรื่องราวของความสำเร็จของคุณบอย คือ "การสร้างสรรค์ที่เกิดจากความหลงใหล" ซึ่งเริ่มขึ้นในนิวยอร์กสู่กรุงเทพมหานคร การขับเคลื่อนอย่างไม่หยุดหย่อน และความมุ่งมั่นของทั้งคู่ ทำให้กระเป๋าคอลเล็กชั่นแรกได้เกิดขึ้น ซึ่งเป็นกระเป๋าแบบเดียวที่มีสองขนาด และมีทั้งหมดสามสี ทั้งหมดนี้ถูกแสดงอยู่ที่ห้องครัวในอพาร์ทเมนต์ของ เจสซี่ ดอร์ซีย์ ในใจกลางเมืองนิวยอร์ก โดยมีผู้ซื้อ และผู้จัดจำหน่ายค้าส่งจากญี่ปุ่นได้ไปเยี่ยมชม ซึ่งทั้งคู่ยังได้นำเสนอกระเป๋าไปยังร้านค้า ๆ ในเมืองแบบ door-to-door อีกด้วย ทั้งบอยและเจสซี่ ได้รับโอกาสในการแสดงผลงานออกแบบให้กับบรรณาธิการของนิตยาสาร Visionaire Magazine นอกจากนี้ การออกแบบของ บอย ยังสะดุดตาผู้ก่อตั้งและครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ของ Colette Concept Store นั่นก็คือ ซาราห์ แอนเดลแมน (Sarah Andelmen) ซึ่งสั่งซื้อสินค้าในช่วงแรก ๆ หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็ได้เซ็นสัญญากับ สตีเวน อลัน (Steven Alan) นักออกแบบแฟชั่นชาวอเมริกัน นั่นทำให้กระเป๋าของพวกเขาถูกนำแสดงในโชว์รูมที่แมนฮัตตัน บอยและเจสซี่ ได้จัดหาวัสดุ และฮาร์ดแวร์จากโรงงานในอิตาลี การย้ายไปมิลานดูเหมือนจะเป็นก้าวไปในทิศทางที่ถูกต้อง ทั้งสองคนยังเชิญ พอล ปารวัฒน์ วราทิพย์ มาเป็นกรรมการผู้จัดการคนใหม่ ซึ่งจะทำหน้าที่ดูแลการดำเนินงานทั้งหมดในขณะที่ทั้งสองมุ่งเน้นไปที่การขยายธุรกิจ ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับการเจาะลึกไปที่แว่นตารวมถึงเครื่องประดับ และสินค้าอื่น ๆ ทั้งคู่ยังมีแผนที่จะเปิดร้านบูติกในฮ่องกงและตะวันออกกลางอีกด้วย นับว่าเป็นความสำเร็จที่น่าทึ่งของดีไซเนอร์ชาวไทยอย่าง วรรณศิริ คงมั่น ที่เริ่มต้นการสร้างสรรผลงานการออกแบบด้วยความหลงใหล และเธอเองก็มีความรู้ในเรื่องของกระเป๋า ด้วยความมุ่งมั่นบวกกับมีแรงผลักดัน ทำให้เธอได้สร้างกระเป๋า Boyy...
Continue reading