Louis Vuitton Keepall Bag เป็นหนึ่งในกระเป๋าเดินทางที่มีชื่อเสียงที่สุดรุ่นหนึ่งของแบรนด์ หลุยส์ วิตตอง ถูกออกแบบและวางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1924 ด้วยการออกแบบที่เรียบง่าย รองรับการใช้งานที่หลากหลาย น้ำหนักเบา เหมาะกับงานสมบุกสมบัน อีกทั้งยังสามารถเข้าถึงได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ทำให้ Keepall กลายเป็นตัวเลือกแรกๆ ของนักเดินทางในทันที จนได้รับสมญานามว่าเป็น “Multi-use soft luggage” ตลอดกาลของหลุยส์ วิตตอง ซึ่งในวันนี้เราจะมาเจาะลึกรายละเอียดของกระเป๋ายอดฮิตใบนี้ อะไรถึงทำให้ Keepall Bag ใบนี้ ยังคงเป็นที่นิยมถึงปัจจุบัน
Front Design : ด้านหน้าของกระเป๋า
- Double Handle : หูจับคู่อันแข็งแรง สามารถรับน้ำหนักได้มาก
- Size Number Stamp : เหนืออะไหล่รูปตัว D สำหรับคล้องสายพายด้านข้างกระเป๋า ระบุ Heat Stamp เป็นตัวเลขซึ่งแสดงถึงขนาดของกระเป๋า เช่นถ้าเป็นกระเป๋า Keepall 45 ด้านข้างจะระบุเลข 45
- Adjustable Leather Strap : สายสะพาย สามารถถอดออกและปรับระดับได้ มาพร้อมที่พักไหล่ โดยจะมีอยู่ในรุ่น Keepall Bandouliere (เช่นเดียวกันกับกระเป๋ารุ่น Speedy) โดยในรุ่น Keepall ธรรมดาจะไม่มีสายสะพาย แต่มีจำหน่ายแยกต่างหาก
- Material : สำหรับลายผ้าใบที่นิยมในกระเป๋า Keepall ได้แก่ ลาย Classic Monogram, Damier Ebene, Damier Azur, Monogram Eclipse และ Damier Cobalt Canvas อีกทั้งยังมีรุ่น Limited Edition และ Seasonal อีกมากมาย โดยฟังก์ชั่นภายในกระเป๋าก็จะแตกต่างกันออกไปด้วยตามแต่เทศกาลรวมถึงประเทศที่จำหน่าย
- Handle Buckle : สายหนังสำหรับรัดหูกระเป๋าเข้าไว้ด้วยกัน สามารถปรับได้ มีลักษณะคล้ายเข็มขัด
- Padlock and Key : ชุดกุญแจแม่ลูก ซึ่งจะต้องมีหมายเลขเดียวกันถึงจะทำการล็อค-ปลดล็อคได้ โดยจะมีสีเดียวกันกับอะไหล่ของกระเป๋า
- Removable leather name tag : แผ่นหนังห้อยกระเป๋า สามารถระบุชื่อของเจ้าของกระเป๋า โดยการทำ Heat Stamp ได้ที่บูทิคหลุยส์ วิตตองทุกแห่งจะมีบริการนี้ แท็คกระเป๋าสามารถปรับระดับและสามารถถอดออกได้ ทำจากวัสดุหนัง Cowhide จะมีสีเดียวกันกับหนังของกระเป๋าในรุ่นนั้นๆ
- Leather : ใช้วัสดุหนัง Cowhide ในส่วนประกอบของกระเป๋า เช่น หูหิ้ว ขอบมุม และขอบด้านข้างของกระเป๋า
Inside Design : ด้านในกระเป๋า
- Interior : ด้านในบุผ้าทอ Cotton คุณภาพดี (Cotton Textile) ซึ่งจะมีความแตกต่างกันไปแล้วแต่รุ่นและวัสดุภายนอก อาจเป็นสีน้ำตาลอ่อน สีครีม หรือสีน้ำตาลเข้มก็ได้
- Date Code : จะระบุ Date Code อยู่บนแผ่นหนังเล็กๆ ด้านในกระเป๋า ตำแหน่งเดียวกับหูหิ้ว
- The Ring : ห่วงขนาดเล็ก ใช้สำหรับคล้องพวงกุญแจ อยู่ฝั่งเดียวกันกับแผ่นหนังที่ระบุ Date Code
- Zippered Compartment : สำหรับกระเป๋า Keepall ทั่วไปจะไม่มีช่องซิปภายใน ด้านในจะเป็นพื้นที่โล่งกว้าง แต่ยกเว้นกระเป๋ารุ่น Limited Edition หรือ Seasonal บางขนาดบางรุ่นที่มาพร้อมกับช่องซิปขนาดใหญ่ภายในกระเป๋า
- Stitching : ฝีเข็มเป็นระเบียบและมีขนาดเท่ากัน ไม่มีด้ายที่หลุดลุ่ยหรือด้ายส่วนเกิน
Back Design : ด้านหลังของกระเป๋า
- Hardwear : อะไหล่ของกระเป๋าจะต้องเป็นสีเดียวกันทั้งหมด โดยมีทั้งสีทองและสีเงิน แตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น
- Canvas : กระเป๋ารุ่น Keepall ทุกใบ ใช้ผ้าใบเพียงผืนเดียวในการขึ้นรูปกระเป๋า ดังนั้น ลายด้านหลังของกระเป๋าจึงอยู่ในลักษณะกลับหัว
- Front Strip of Leather Trim : แผ่นหนังขนาดยาว 2 เส้น ทำการเย็บเป็นคู่ขนานทั้ง 2 ข้าง โดยเริ่มต้นจากปลายหูหิ้วด้านหนึ่ง ไปบรรจบที่หูหิ้วอีกด้านหนึ่ง เพื่อเพิ่มความแข็งแรงในการรองรับน้ำหนักให้กับหูหิ้วของกระเป๋า
- Double Zipper : อะไหล่ซิปคู่ มีอักษร LV เป็นตัวนูนอยู่ที่หัวซิปทั้ง 2 ข้าง ซิปจะมีสีเดียวกันกับอะไหล่ของกระเป๋า ซึ่งมีทั้งสีทองและสีเงิน ตรงปลายหัวซิปทั้ง 2 ข้างจะมีรูเล็ก ไว้สำหรับคล้องแม่กุญแจเพื่อล็อคกระเป๋า
- Stitching : ฝีเข็มและรอยเย็บจะเป็นระเบียบ และระยะห่างเท่ากันทั้งหมด
Side Design : ด้านข้างของกระเป๋า
- Leather Trim : ใช้เทคนิคกุ๊นขอบ หรือ การเย็บขอบกระเป๋าด้วยวัสดุหนังเป็นเส้นกลม ยึดกับขอบด้านในของกระเป๋า เพื่อคงรูปทรงของและเสริมความแข็งแรงของกระเป๋า
- Strip of Leather Trim : แถบหนังความกว้าง 2 ซม. อยู่ตำแหน่งกึ่งกลางด้านข้างของกระเป๋า เพื่อความสวยงามของรูปทรงกระเป๋าและเพื่อเย็บติดกับห่วงสำหรับคล้องสายสะพาย มีทั้ง 2 ด้าน
- Heat Stamp : ด้านล่างสุดของ Leather Trim ทางด้านซ้ายของกระเป๋า จะพบกับ Heat Stamp เป็นตัวปั๊มไม่มีสี ระบุคำว่า “LOUIS VUITTON / PARIS / Made in (ประเทศที่ผลิต)”
- Leather Pad : (มีเฉพาะใน Keppall รุ่นธรรมดา) แผ่นหนังรูปใบไม้ มี 2 ด้าน โดยด้านหนึ่งปรากฏตัวปั๊มไม่มีสี ระบุคำว่า “LOUIS VUITTON / PARIS / MADE IN (ประเทศที่ผลิต)” อีกด้านว่างเปล่า
- The Shape : กระเป๋ามีรูปร่างคล้ายกับโดม โดยได้แรงบันดาลใจมาจาก Boston Bag กระเป๋าทรงหมอนที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และป็นต้นแบบให้กับกระเป๋าหลายๆแบรนด์
Bottom Design : ด้านล่างของกระเป๋า
- The Bottom : ฐานกระเป๋าเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีลักษณะอ่อนนุ่มและยืดหยุ่น ด้วยกระเป๋า Keepall ทุกใบ สามารถพับเก็บได้
- Canvas : ไม่มีรอยต่อใดๆ ระหว่างผ้าใบในการขี้นรูปกระเป๋า เพราะตัดเย็บจากผ้าใบเพียงผืนเดียว
- Strip of Leather Trim : แผ่นหนังขนาดยาว 2 เส้น ทำการเย็บเป็นคู่ขนานทั้ง 2 ข้าง โดยเริ่มต้นจากปลายหูหิ้วด้านหนึ่ง ไปบรรจบที่หูหิ้วอีกด้านหนึ่ง เพิ่มความแข็งแรงและรองรับน้ำหนักทางฐานของกระเป๋า
Size of Keepall Bag : ขนาดของกระเป๋า Keepall Bag
ขนาดของกระเป๋า Keepall มีทั้งหมด 4 ขนาดด้วยกัน ทั้งรุ่นมีสายสะพายและรุ่นธรรมดา โดยรุ่นที่ได้รับความนิยมที่สุดในหมู่บรรดาสาวๆ คือ รุ่น Keepall 45 และรุ่น Keepall 55 สำหรับหนุ่มๆ (ขนาด 55 คือขนาดใหญ่ที่สุดที่สามารถเป็น Carry-on Bag ได้ ในกรณีเดินทางโดยเครื่องบิน) โดยมีขนาดดังต่อไปนี้
- Keepall 45 : 45 x 27 x 20 ซม. (17.7 x 10.6 x 7.9 นิ้ว)
- Keepall 50 : 50 x 29 x 23 ซม. (19.7 x 11.4 x 8.7 นิ้ว)
- Keepall 55 : 55 x 31 x 26 ซม. (21.7 x 12.2 x 9.4 นิ้ว)
- Keepall 60 : 60 x 34 x 27 ซม. (23.6 x 13 x 10.2 นิ้ว)
กระเป๋า Louis Vuitton Keepall หนึ่งใน Iconic Bag ที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์เครื่องหนัง เป็นต้นแบบของกระเป๋ารุ่น Speedy ในตำนาน อีกทั้งยังเป็นกระเป๋าเดินทางรุ่นแรกๆที่ได้รับความนิยมสูงสุด ด้วยตัวกระเป๋าที่มีขนาดเบา ดูแลรักษาง่าย มีความยืดหยุ่น ที่สำคัญคือความทนทานของวัสดุที่ใช้ตัดเย็บ การออกแบบที่หรูหราแต่เรียบง่าย ตอบสนองต่อการใช้งานทุกรูปแบบ อีกทั้งยังเคยขึ้นชื่อว่าเป็นสัญญลักษณ์ของการเดินทางสมัยใหม่ และยังคงส่งต่อความคลาสสิคจากรุ่นสู่รุ่น มาจนถึงปัจจุบัน
รัก
xoxo