ปฐมบท

Coco Chanel The Series : Introduction ในช่วงชีวิตของ โคโค่ ชาแนล (Coco Chanel) มีบางสิ่งบางอย่างซ่อน เป็นนัยยะให้หลาย ๆ คนขบคิดอยู่เสมอ ในด้านความโรแมนติก เธอเป็นเด็กกำพร้าที่กล้าหาญ ที่พลิกสถานการณ์จากหน้ามือเป็นหลังมือ จนมีชื่อเสียงในปารีส สำหรับแฟชั่นนิสต้า เธอคือนักปฏิวัติที่มีรสนิยมและสง่างาม จนกลายเป็นที่พูดถึงในสังคม ในขณะเดียวกัน เธอก็เป็นเพียงเด็กผู้หญิงกำพร้าคนหนึ่ง ซึ่งต้องการเพียงแค่ตามหาพ่อของเธอ ทุกเรื่องราวที่กล่าวมานั้น ทั้งหมดเป็นความจริงทั้งสิ้น เพียงแค่ ยังไม่มีใครบอกเล่าเรื่องราวตั้งแต่ต้น เท่านั้น

หากเส้นทางสู่ความสำเร็จของเธอ เปรียบดั่งนิยายสักเล่ม มันคงจะเป็นอะไรที่ดูเหลือเชื่อมากไปหน่อย  โดยช่วงชีวิตของเธอได้ผ่านความเจ็บช้ำขุ่นข้องหมองใจ ไปจนถึงเรื่องราวอันแสนวิเศษต่าง ๆ เธอรังสรรค์เรื่องราวอันน่าเหลือเชื่อที่ถักทอขึ้นจากวัยเด็กและวัยสาวของเธอ บอกเล่าชักจูงให้ผู้ฟัง รู้สึกบิดเบือนไปจากความจริงอันแสนเศร้า ไม่เพียงแค่นั้น เธอมักจะตัดอายุของเธอทิ้งไปหนึ่งทศวรรษ – บางครั้งก็มากกว่านั้น – เพื่อหลีกหนีความจริง เหลือไว้ซึ่งความอ่อนเยาว์อย่างน่าอัศจรรย์ในวัยห้าสิบเศษ

โชคดีที่เรื่องราวของชาแนลน่าดึงดูดใจมาก นักชีวประวัติหลายท่าน ได้ทำการสืบค้นเรื่องราวของเธออย่างระมัดระวัง เพื่อค้นหาความจริงที่เธอซ่อนเอาไว้เบื้องหลัง หรืออย่างน้อยก็ข้อเท็จจริงส่วนหนึ่ง ชีวิตของเด็กสาวผู้น่าสงสาร ที่ต้องการหลีกหนีความจริงอันมืดมิดจากบ้านเกิดเมืองนอน มาใช้ชีวิตอยู่ในชนบทกับรักแรกของเธออีกหลายปี

จนกระทั่งมีโอกาสก่อร้างสร้างตัวมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ก่อกำเนิดแฟชั่นอันงดงาม โดยได้แรงบันดาลใจจากเสื้อผ้าของบรรดาเหล่าชายหนุ่มคนรักของเธอ ผ่านฝีมือการตัดเย็บเสื้อผ้าอันปราณีต เสน่ห์ที่เรียบง่ายในยุคที่ ลูกไม้และเสื้อผ้าแนวเรียบ ๆ กำลังมาแทนเสื้อผ้าแบบคอร์เซ็ต ที่ความสวยงามต้องแลกมาด้วยเจ็บปวด

โคโค่ ผิดหวังในความรักเมื่อเธออายุได้ 35 ปี แต่เธอก็ยังมีโอกาสได้สานสัมพันธ์กับสุภาพบุรุษ ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญหลายท่านในยุโรป ตั้งแต่ราชวงศ์ลี้ภัยของรัสเซียไปจนถึง เลือดผู้ดีของขุนนางอังกฤษ เธอสามารถแทรกซึมเข้าในแวดวงโบฮีเมียนได้อย่างแนบเนียน ยังมี ปิกัสโซ ที่ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยโดยการมอบเงินสนับสนุน รวมถึง เซอร์เก เดียกิเลฟ (Sergei Diaghilev) นักเขียน Colette ได้อธิบายถึงความเป็น กาเบรียล ชาแนล (Gabrielle Chanel) ว่า เธอดูเหมือนกระทิงตัวเล็กสีดำ ซึ่งพร้อมที่จะก้มหัวพุ่งชนทุกเป้าหมายที่เธอตั้งใจเอาไว้

เอเตียน บัลซัน (Etienne Balsan) คนรักคนแรกของชาแนล ก็คาดไม่ถึงว่าอนาคตของเธอจะเป็นเช่นไร จากช่วงเวลาที่เธอเสวยสุขในคฤหาสถ์ของเขาในชนบทเป็นเวลาหลายปี ก่อนจะตัดสินใจเริ่มตัดเย็บหมวก จุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ของสิ่งที่จะกลายเป็นอาณาจักรธุรกิจอันยิ่งใหญ่ของเธอในเวลาต่อมา

เกรงว่าเรื่องราวของเธอจะเริ่มดูเหมือนเทพนิยายมากเกินไป Chanel ทำลายอัตลักษณ์ที่แท้จริงของเธอในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 การสานสัมพันธ์กับคู่รัก ซึ่งเป็นทูตลับประจำสถานทูตเยอรมนี รวมถึงประกาศสงครามน้ำหอมหมายเลข 5 กับ 2 พี่น้องชาวยิว เพื่อทวงสิ่งที่สมควรเป็นของเธอกลับคืนมา

ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจ เธอเก็บตัวเงียบเป็นเวลา 7 ปีหลังสงครามสิ้นสุดลง ก่อนที่จะกลับมาเปิดแฟชั่นกูตูร์อีกครั้ง ในปี ค.ศ. 1954 การกลับมานั้น กลายเป็นการสร้างตำนาน หลังจากที่ผู้คนในปารีสหัวเราะเยาะเธอ ผู้หญิงในช่วงวัย 70 กว่า พยายามบอกหญิงงามในวัยแรกแย้ม ว่าควรแต่งตัวอย่างไร เธอได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากสหรัฐอเมริกา และในภายหลังคอลเล็กชั่นของเธอ ก็ประสบความสำเร็จอย่างมาก

ชีวประวัติ Coco ได้ถ่ายทอดหลายเรื่องราวหลาย ๆ บทบาทของชาแนล ไม่ว่าจะเป็น เด็กกำพร้าที่ถูกทอดทิ้ง , นักธุรกิจสาวผู้ประสบความสำเร็จ , คนรักแบบลับ ๆ  , เพื่อนที่ซื่อสัตย์  และในทุก ๆ บริบท ที่ธุรกิจ และโลกส่วนตัวของเธอเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน เพื่อที่ผู้อ่านสามารถเห็นตำนาน มาดมัวแซลในบริบทในโลกของเธอ

แม้ว่าเรื่องราวชีวิตของเธอจะจบลง ในคืนวันอาทิตย์ ณ ห้องพักของเธอ ที่ Hotel Ritz Paris (สาวใช้ของเธอ จำได้ว่าคำพูดสุดท้ายของเธอ คือ “การตายของคน ๆ นึง มันก็เป็นแบบนี้แหล่ะ”) ถึงแม้ตัวจะจากไป แต่ตำนานยังคงอยู่ กับหลายร้อยเรื่องราวบอกเล่าที่เต็มไปด้วยชื่อของเธอ และความสง่างามที่ไม่มีที่สิ้นสุด ที่บ่งบอกถึงความเป็นชาแนล

อ้างอิงภาพและข้อความจาก BIOGRAPHIC COCO by SOPHIE COLLINS

รัก
xoxo