To top
25 May

วิธีดู Vintage Chanel Jewelry อัพเดต 2023

วิธีดู Vintage Chanel Jewelry อัพเดต 2023

วิธีดู Vintage Chanel Jewelry อัพเดต 2023 เราอาจคุ้นเคยเป็นอย่างดี กับตราประทับ หรือสติ๊กเกอร์ Hologram ที่ปรากฏอยู่บนกระเป๋าทุกใบจาก Chanel เพื่อแสดงวันเวลาหรือสถานที่ที่ผลิต แต่สำหรับ STAMPING MARK เหล่านี้จะปรากฏอยู่บนเครื่องประดับ Costume Jewelry เป็นตัวระบุฤดูกาลและปีที่ผลิต โดยจะมีการเปลี่ยนแปลงรหัสและรูปแบบต่าง ๆ ตามฤดูกาลเช่นเดียวกับตราประทับหรือ Hologram สติ๊กเกอร์ โดยมีการสลักขึ้นในหลายรูปแบบ ทั้งการแกะสลัก ทำนูน ไปจนถึงการพิมพ์ด้วยเลเซอร์

ในบทความนี้ KATE XOXO จะพาไปทำความรู้จักสัญลักษณ์รูปแบบต่าง ๆ บนเครื่องประดับ Costume Jewelry จาก Chanel รวมถึงวิธีสังเกตและแยกแยะระหว่างเครื่องประดับของแท้ และของปลอมเบื้องต้น เพื่อใช้เป็นแนวทางในการตรวจสอบเครื่องประดับด้วยตัวคุณเอง พร้อมแล้ว ไปเริ่มกันเลย

 

วิธีดูสัญลักษณ์ Vintage Marks บนเครื่องประดับ Chanel

Vintage Chanel Jewelry

วิธีดู Vintage Chanel Jewelry

ค.ศ. 1921-1939 (ยังไม่มีตราประทับ)

เครื่องประดับซึ่งถูกผลิตระหว่างปี ค.ศ. 1921-1939 เครื่องประดับในยุคนี้ ถูกสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อส่งเสริมความโดดเด่นให้กับเสื้อผ้าของแบรนด์ชาแนล เนื่องด้วยเป็นผลงานในช่วงเริ่มแรก เป็นผลให้เครื่องประดับในยุคนี้ ยังไม่มีการทำเครื่องหมาย และเป็นสิ่งที่หายากในปัจจุบัน โดยในปี ค.ศ. 1939  The House of Chanel ได้หยุดดำเนินการ และมีการชะงักการผลิตโดยชั่วคราว เนื่องจากสงครามโลกครั้งที่สอง

เครื่องประดับ CHANEL ยุคแรก (1920S และ 1930S) ได้รับการจดทะเบียนในปี ค.ศ. 1925 อย่างไรก็ตาม เครื่องประดับชิ้นแรกๆ ของ Chanel ส่วนใหญ่ไม่ได้ลงนาม หลายชิ้นผลิตขึ้นโดยความร่วมมือกับผู้ผลิตเครื่องประดับแก้ว Maison Gripoix ชิ้นงานเหล่านี้ทำขึ้นเพื่อเสริมความโดดเด่นให้กับเสื้อผ้าของ Chanel เท่านั้น สำหรับการสังเกตเครื่องประดับยุคนี้ จะขึ้นอยู่กับความรู้และประสบการณ์ของนักสะสม และความคุ้นเคยในการตรวจสอบ

ค.ศ. 1941 Chanel Novelty Company ไม่ใช่ Chanel the Couturier

เครื่องประดับที่ถูกผลิตโดยบริษัท Chanel Novelty Company ในช่วงปี ค.ศ. 1941 ขณะยังไม่มีการเปลี่ยนชื่อนั้น ค่อนข้างมีสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ ความงาม รวมทั้งงานฝีมืออันแตกต่างจากดีไซน์ของ Chanel อย่างชัดเจน  มีการอ้างอิงจากนักศึกษาประวัติศาสตร์เครื่องประดับชาแนลว่า ตราประทับเหล่านี้ ผลิตโดย Chanel Novelty Co. เป็นแผนกหนึ่งของ Reinad (บริษัทเครื่องประดับเครื่องแต่งกายสัญชาติอเมริกันที่ตั้งอยู่ในนิวยอร์ก)

ในช่วงปี ค.ศ. 1941 บริษัท Chanel Novelty Company ได้มีการผลิตเครื่องประดับ ซึ่งมีการประทับตราโดยใช้ตัวอักษรระบุชื่อสั้น ๆ เพียงคำว่า “Chanel” ส่งผลให้  Coco Chanel ทำการฟ้องร้องบริษัทดังกล่าว ในข้อหาละเมิดเครื่องหมายการค้าอย่างชัดเจน ซึ่งหลังจากนั้นบริษัท Chanel Novelty ถูกบังคับให้เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Reinad Novelty Company และถูกชะงักการผลิตเนื่องจากสงครามโลกครั้งที่ 2 จนถูกยกเลิกการผลิตในที่สุด

ข้อควรทราบ : แม้ว่าเครื่องประดับจากยุคนี้ จะไม่ได้ถูกผลิตจาก Chanel the Couturier แต่เครื่องประดับที่ถูกผลิตจากบริษัท Reinad เหล่านี้ก็เป็นของสะสมอันมีค่า อันเป็นที่ต้องการของเหล่านักสะสมเช่นเดียวกัน

 

ค.ศ. 1950s-1970s และ ค.ศ. 1954 – 1971 , สัญลักษณ์ CHANEL และดาว 3 ดวง

ในช่วงปี ค.ศ. 1954 หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 Coco Chanel กลับมาทำธุรกิจร้านบูติกของเธออีกครั้งในกรุงปารีส โดยตั้งอยู่ที่ 31 Rue Cambon สินค้าหลายชิ้นในช่วงเวลาดังกล่าว ยังคงไม่ได้มีการประทับตรา เนื่องจากเครื่องประดับของ Chanel ยังคงได้รับการออกแบบให้เป็นส่วนหนึ่งของเครื่องแต่งกายกูตูร์ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม เครื่องประดับบางชิ้นเริ่มได้รับประทับตรา CHANEL ธรรมดา  รวมถึง CHANEL และดาว 3 ดวง บ้างแล้ว

ในช่วงปี 1950s ถึง 60s จึงมีการระบุตัวอักษร “CHANEL” ตัวพิมพ์ใหญ่ ลงบนตัวชิ้นงาน ซึ่งเป็นรูปแบบที่เรียบง่ายและสลักลงบนชิ้นงานโดยตรง โดยใช้รูปแบบสัญลักษณ์นี้เรื่อยมา จน Chanel เสียชีวิตในปี ค.ศ. 1971 เมื่อคุณพบเครื่องประดับที่ประทับตราสัญลักษณ์เป็นรูปดาว 3 ดวง ใต้ตัวอักษร CHANEL นั่นหมายถึงเครื่องประดับชิ้นนั้น ผลิตขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1960s หรือต้นทศวรรษที่ 70

ข้อสังเกต : เครื่องหมายนี้ถูกประทับลงบนโลหะที่ด้านหลังของชิ้นงาน ประทับลงบนแผ่นสี่เหลี่ยมที่ติดอยู่ที่ด้านหลังของชิ้นงาน หรือติดเป็นป้ายโลหะบนชิ้นงาน เช่น สร้อยคอ เป็นที่น่าสังเกตว่าตราประทับไม่ได้อยู่กึ่งกลางบนแท็ก/แผ่นป้ายเสมอ และตราประทับที่ไม่ได้เรียงกันไม่ได้เป็นตัวบ่งชี้ถึงความถูกต้องของสินค้า

เครื่องหมายพิเศษถูกสงวนไว้สำหรับชิ้นงานโอต์กูตูร์ซึ่งมีจำนวนจำกัดและมีคุณภาพสูงสุด เครื่องหมายนั้นเหมือนกับด้านบนโดยมีการเพิ่มดาวห้าแฉกสามดวงซึ่งอยู่ใต้ตราประทับ ‘CHANEL’

 

ค.ศ. 1970 – 1980 พร้อมสัญลักษณ์ CC ไขว้

หลังจากการเสียชีวิตของ Coco Chanel หลังปี ค.ศ. 1974 เครื่องประดับจาก Chanel มีการระบุเครื่องหมายการค้าจดทะเบียน ลงบนแผ่นลักษณะเป็นรูปวงกลม ซึ่งห้อย หรือติดอยู่บนตัวเครื่องประดับนั้น ๆ ตัวเครื่องหมายประกอบด้วยตัวอักษร CHANEL ตัวพิมพ์ใหญ่ ตามด้วยสัญลักษณ์เครื่องหมายการค้า ® บรรทัดถัดมาเป็นตัวอักษร CC ไขว้ ตามด้วยคำว่า MADE IN FRANCE หรือปีที่ผลิตสินค้าชิ้นนั้น ๆ  ซึ่งในช่วงทศวรรษที่ 1980s เป็นต้นมา สัญลักษณ์เหล่านี้ ได้กลายเป็นสัญลักษณ์มาตรฐานที่ได้รับการยอมรับ

คุณอาจพบชิ้นส่วนของ © Chanel ในช่วงเวลานี้

เครื่องหมายเครื่องประดับ Chanel ถูกเปลี่ยนแปลงในปีค.ศ. 1971 เป็นแผ่นวงกลม แผ่นป้ายมักมีขอบวงกลมพร้อมประทับคำว่า ‘CHANEL’ ใกล้กับตรงกลาง สัญลักษณ์ลิขสิทธิ์ © อยู่ที่ด้านบนซ้าย และเครื่องหมายลงทะเบียน ‘R’ ภายในวงกลม อยู่ที่ด้านบนขวา ‘CC’ ที่ประสานกันนั้นอยู่ด้านล่างของ ‘CHANEL’ และ ‘MADE IN FRANCE’ จะอยู่ด้านล่างและตามด้วยรูปทรงของวงกลม โดยต่างหูจากยุคนี้บางครั้งมีเครื่องหมาย ‘© CHANEL’ บนแผ่นสี่เหลี่ยมแทนที่จะเป็นแผ่นวงกลม

 

ค.ศ. 1981 – 1985 

ในช่วงต้นยุค 80s “ปีที่ผลิต” ถูกรวมเข้ากับตราประทับ เครื่องประดับหลายชิ้นในยุคนี้ จึงถูกระบุ “ปีที่ผลิต” มาแทนที่ “MADE IN FRANCE” โดยจะถูกสลักอยู่ใต้ตัวอักษร © Chanel  แต่ไม่ใช่ว่าเครื่องประดับทุกชิ้นในช่วงต้นปี 1980 จะระบุ “ปีที่ผลิต” โดยบางชิ้นไม่ได้แสดงวันที่ของเครื่องประดับ แต่จะมีบางสิ่งบางอย่างที่บ่งบอกได้ว่าเครื่องประดับชิ้นดังกล่าว ได้ถูกผลิตในช่วงต้นปี 1980s เช่น สไตล์ และการออกแบบเป็นต้น

 

ค.ศ. 1984 – 1992 ประทับตราตามหมายเลขคอลเลกชั่น 

Chanel Vintage วิธีดู

หลังจากปี ค.ศ. 1983 เป็นต้นมา เป็นช่วงเวลาที่ Karl Largerfeld เข้ามารับตำแหน่งครีเอทีฟไดเรกเตอร์ให้กับแบรนด์ เขาพยายามอย่างมากในการคิดค้นตราสัญลักษณ์ ที่เป็นเอกลักษณ์ พร้อมทั้งสไตล์การออกแบบที่มีคุณภาพ สวยงาม ทันสมัย โดยในปีต่อมา เขาได้แต่งตั้ง Victoire de Castellane ช่างออกแบบเครื่องประดับ ชาวฝรั่งเศส ให้เป็นหัวหน้าฝ่ายออกแบบเครื่องประดับ โดยเธอได้ผลิตชิ้นงาน Chanel ที่มีชื่อเสียงส่วนใหญ่ ซึ่งน่าสะสมและยังคงเป็นแรงบันดาลใจจนถึงปัจจุบัน

ในระหว่างที่เธอร่วมงานกับแบรนด์ ในช่วงปี ค.ศ. 1984 ถึง 1998 นั้น เป็นช่วงเวลาแห่งการสร้างสรรค์อันน่าอัศจรรย์ เธอเปลี่ยนจากระบบระบุปีที่ผลิตลงบนชิ้นงาน มาสู่แนวคิดการจัดระเบียบตามฤดูกาลที่คอลเลกชั่นนั้น ๆ  โดยมีการระบุหมายเลข 2 ทางด้านซ้าย และหมายเลขทางด้านขวา มีความหมายคือ ซีซั่นนั้น ๆ ตั้งแต่ช่วง “กลางยุค 80” ถึง “ต้นยุค 90” Chanel ประทับตราเครื่องประดับตามหมายเลขคอลเลกชั่น คอลเลกชันหมายเลข 23-29

ยกตัวอย่างเช่น หากพบเห็นหมายเลข 3 ทางด้านขวา นั่นหมายถึง ซีซั่นที่ 23 ถ้าเป็นหมายเลข 6 หมายถึง ซีซั่นที่ 26 โดยเริ่มต้นจากซีซั่นที่ 23 และจบลงด้วยซั่นที่ 29 ซึ่งจะตรงกับปี 1984 – 1990 โดยประมาณ

เครื่องประดับซีซั่น 23

เครื่องประดับซีซั่น 23

ในปี ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา คำว่า MADE IN FRANCE ถูกแทนที่ด้วยตัวเลข ตัวโลหะถูกเปลี่ยนรูปร่างจากวงกลมเป็นวงรี และสัญลักษณ์ ® จะอยู่ถัดจากโลโก้ CC ไขว้ โดยแผ่นโลหะนี้ อาจถูกแยกจากตัวเครื่องประดับ หรือบางครั้งอาจแนบไปกับตัวเครื่องประดับเลยก็ได้

 

ค.ศ. 1990-1991 ss90/91  ไม่มีระบบอ้างอิงตัวเลข

ในช่วงปี ค.ศ. 1990 – 1991 ตราสัญลักษณ์มีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งหนึ่ง โดยระบบอ้างอิงตัวเลขจะไม่พบในสัญลักษณ์รุ่นนี้ จะมีแค่ตัวอักษร “CHANEL” ที่ด้านบนของแผ่นโลหะ สัญลักษณ์ CC ไขว้ตรงกลาง และ “MADE IN FRANCE” ด้านล่าง ชิ้นส่วนที่มีแท็กลักษณะนี้ผลิตขึ้นสำหรับซีซั่น 1990/91 (ตั้งแต่ปี 1990 Chanel เริ่มทำต่างหูและแหวนมากขึ้นซึ่งอาจเป็นเรื่องยากที่จะมองเห็นเครื่องหมายต่าง ๆเนื่องจากมีขนาดเล็ก)

 

ค.ศ. 1993 – 2020 

เครื่องประดับที่ถูกผลิตตั้งแต่ปี ค.ศ. 1993 – 2020 เครื่องประดับมีตราประทับทั้ง season และ year เครื่องหมายประจำฤดูกาล ได้แก่
A = Fall P = Spring C = Cruise Collection V = Continuous Line สำหรับเครื่องประดับที่มีการผลิตอย่างต่อเนื่อง จะระบุรหัส 00V อย่างไรก็ตาม รหัสนี้ จะไม่มีใช้ใน Costume Jewelry สำหรับสินค้าที่อยู่ในไลน์การผลิตต่อเนื่องนั้น จะระบุลงท้ายด้วย V (Continuous Line)

สำหรับเครื่องประดับที่ถูกผลิตออกมาเป็นฤดูกาล

ตราประทับจะตราก็ปีที่ผลิต ตามด้วยตัวอักษรย่อที่หมายถึงฤดูกาล ได้แก่ P (Printemps : ใบไม้ผลิ), S (summer), A (autumn), B หรือ K (fall/winter), C (cruise collection)  และ T (transition) ซึ่งระบุอยู่ทางด้านขวาของตัว CC ไขว้ ตามด้วย MADE IN FRANCE ด้านใต้สุด ระบุบนแผ่นโลหะรูปวงรี ซึ่งจะติดห้อยอยู่กับเครื่องประดับชิ้นนั้น ๆ หรือติดอยู่บนชิ้นงานเลยก็ได้

ส่วนตัวเลขหลักที่ 3 และ 4 จะแสดงถึงปี ตัวอย่างเช่น 95 หมายถึงปี 1995 และ 03 หมายถึงปี 2003 เป็นต้น โดยมีรูปแบบแสดงเป็นปีที่ผลิต + รหัสฤดูกาล เช่น

96P หมายถึงเครื่องประดับตามฤดูกาล ซึ่งถูกผลิตในปี ค.ศ. 1996 ฤดูใบไม้ผลิ
06A หมายถึงเครื่องประดับตามฤดูกาล ซึ่งถูกผลิตในฤดูใบไม้ร่วง ค.ศ. 2006

โดยเครื่องหมายลักษณะนี้ ยังใช้มาจนถึงปัจจุบัน บางครั้ง อาจพบได้ว่าเครื่องประดับบางชิ้น อาจระบุ MADE IN ITALY นอกเหนือจาก MADE IN FRANCE ก็ได้ ปัจจุบัน ตัวอักษร C ถูกเพิ่มเข้ามา โดยระบุอยู่ทางด้านขวาของ CC ไขว้ ซึ่งย่อมาจากคำว่า “Croisière” เป็นเครื่องประดับจาก Cruise Collection จะทำการระบุเครื่องหมายลงบน กำไล สร้อยคอ และเข็มกลัด โดยมาในรูปแบบของตัวล็อคมากกว่าการระบุบนแผ่นโลหะรูปวงรี

ตราประทับในยุคใหม่

ตราประทับในยุคใหม่

เครื่องประดับที่จำหน่ายในร้านบูทีคของชาแนลตั้งแต่ปี 2000s เป็นต้นมา มีลักษณะคล้ายกันมาก ชิ้นงานที่ผลิตตั้งแต่ปี ค.ศ. 2005 เป็นต้นมาบางชิ้น อาจมีการระบุ เครื่องหมาย Made in Italy โดยไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็น Made in France เสมอไป ซึ่งพบเห็นได้มากขึ้นในคอลเล็กชั่นปัจจุบัน รวมถึงการประทับตราด้วยเลเซอร์

ค.ศ. 2010s to Present

เครื่องประดับตั้งแต่ 2010 เป็นต้นมาจะมาพร้อมกับ ตัวอักษร + ปีที่ผลิต + season code (A P C V) ได้แก่ A = Fall, P = Spring, C = Cruise Collection และ V = Continuous Line

เครื่องประดับส่วนใหญ่ แต่ไม่ใช่ทั้งหมดที่ผลิตตั้งแต่ปี ค.ศ. 2010 เป็นต้นไปมา จะมาพร้อมกับตัวอักษร โดยมีรูปแบบดังต่อไปนี้ คือ ตัวอักษร  + ปีที่ผลิต + รหัสฤดูกาล มีการสังเกตตัวอักษรที่ระบุส่วนมากจะเป็น A, B, C, D, E, F, I, L และ P ก่อนปีที่ผลิต เช่น.:

  • C11V หมายถึงเครื่องประดับ ที่ถูกผลิตในไลน์ Continuous Line ซึ่งถูกผลิตอย่างต่อเนื่อง (ตัวอักษร V หมายถึง Continuous Line ) ถูกผลิตขึ้นในปี ค.ศ. 2011
  • A13C หมายถึงเครื่องประดับภายใต้คอลเล็กชั่น Cruise Line (ตัวอักษร C หมายถึง Cruise Collection) ถูกผลิตขึ้นในปี ค.ศ. 2013

ตารางด้านล่าง แสดงรูปแบบตัวอักษร ที่ปรากฏบนเครื่องประดับ โดยจะมีการอัพเดทค่อนข้างสม่ำเสมอ

เราอาจสามารถพบแผ่นป้ายที่มีรอยปั๊มชาแนลในรูปแบบวงกลม วงรี สี่เหลี่ยม และแปดเหลี่ยม ในเครื่องประดับชาแนลแบบวินเทจ นบางกรณี แผ่นโลหะถูกเชื่อมในแนวทแยงมุมเล็กน้อยบนขอเกี่ยว แผ่นโลหะบางแผ่นมีสีแตกต่างจากฮาร์ดแวร์เครื่องประดับ ซึ่งพบได้น้อยกว่าเช่นกัน เช่น เครื่องประดับโทนสีทองกับแผ่นโลหะสีเงิน

ขอบคุณภาพจาก Missbugis.com

ขอบคุณภาพจาก Missbugis.com

ไม่มีกฎมาตรฐานสำหรับแผ่นโลหะที่มีรูด้านหนึ่งสำหรับสร้อยข้อมือ หรือแผ่นโลหะที่มีรูทั้งสองด้านสำหรับเข็มกลัด แผ่นตราประทับในรูปแบบต่าง ๆ สามารถพบได้ในเครื่องประดับเครื่องแต่งกายประเภทเดียวกัน (หมวดหมู่ในที่นี้หมายถึงสร้อยคอ สร้อยข้อมือ แหวน ฯลฯ)

 

The Engraving, Embossing and Laser Imprinting

การแกะสลัก การทำให้นูน และการพิมพ์ด้วยเลเซอร์ เครื่องประดับเครื่องแต่งกายของชาแนลไม่ได้มาพร้อมกับแผ่นโลหะที่ระบุตราประทับเพียงเท่านั้น แต่ในบางชิ้นมีรอยประทับตรา เลเซอร์ประทับ ซึ่งถูกแกะสลักลงบนชิ้นส่วนของเครื่องประดับ เช่น ตัวล็อค ด้านหลังของชาร์ม/ต่างหู และเครื่องหนัง

ขอบคุณภาพจาก Missbugis.com

สำหรับเครื่องแต่งกายเครื่องประดับซึ่งมาเป็นเซ๊ต แต่ละชิ้นจะมีตราประทับของตัวเอง ตัวอย่างเช่น เครื่องประดับชุดหนึ่งประกอบด้วยกำไล 3 วงที่มีสีต่างกัน โดยแต่ละกำไลจะมีเครื่องหมายปั๊ม เช่นเดียวกับต่างหู แต่ละชิ้นงานจะมีตราประทับที่ไม่เหมือนกัน

เมื่อกาลเวลาผ่านไป แผ่นตราประทับเหล่านี้ อาจหลุดออกหรือรอยปั๊มอาจจางลงได้เนื่องจากการสึกหรอรวมถึงการใช้งาน แต่นั่นไม่ได้ทำให้ความเป็นของแท้ลดลง เช่นเดียวกับกระเป๋าถือชาแนลที่ไม่มีสติกเกอร์โฮโลแกรม ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่มีสัญลักษณ์เหล่านี้ จะเป็นของปลอมเสมอไป ดังนั้น ควรมีการพิจารณาส่วนประกอบอื่น ๆ อย่างถี่ถ้วน สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องประดับ Chanel ได้ที่ Chanel Vintage Jewelry : รสนิยม ความลึกลับ และความทรงจำ

การตรวจสอบความถูกต้องหรือความเป็นของแท้ ของเครื่องประดับ เครื่องหนัง เครื่องแต่งกายจาก Chanel ไม่ได้ขึ้นอยู่เพียงแค่การตรวจสอบเครื่องหมายต่าง ๆ ตราประทับ หรือ hologram สติ๊กเกอร์เพียงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการตรวจสอบสภาพโดยรวมของตัวสินค้าอีกด้วย เนื่องจากเทคโนโลยีในปัจจุบัน ทำให้ของละเมิดลิขสิทธิ์เติบโตขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่งผลให้คุณภาพของสินค้าปลอมสูงขึ้นไปด้วย ทำให้ยากต่อการพิสูจน์ หากไม่มีความชำนาญเพียงพอ

วิธีดู Vintage Chanel Jewelry

วิธีดู Vintage Chanel Jewelry

อย่างไรก็ตาม KATEXOXO หวังว่าคุณจะสามารถใช้ข้อมูลจากบทความนี้ได้เต็มที่ เพื่อช่วยในการตรวจสอบความถูกต้องของเครื่องประดับ เครื่องแต่งกาย จาก Chanel ในกณีที่คุณซื้อขายสินค้าเหล่านี้ จากตลาดซื้อขายแบรนด์เนมมือสอง ประเภทและรูปแบบตัวอักษรที่ใช้กับเครื่องหมายปั๊มจะเปลี่ยนไปตามกาลเวลา  บางชิ้นอาจไม่มีตราประทับเลยหากเป็นสินค้ายุคเก่า

โปรดซื้อขายสินค้ากับตัวแทนจำหน่าย ที่ได้รับการรับรองโดยผู้ตรวจสอบความถูกต้องก่อนตัดสินใจซื้อขาย ทั้งหมดนี้คือ CHANEL STAMPING MARK GUIDE 2023 ความงดงาม มนต์เสน่ห์ที่ตรึงตราตรึงใจ

รัก
xoxo

KATE