เป็นที่ทราบกันดีว่า แบรนด์ Luxury Fashion ที่มีชื่อเสียงระดับตำนานของโลกนั้นส่วนใหญ่ มีต้นกำเนิดมาจากประเทศฝรั่งเศส และประเทศอิตาลี ซึ่งทั้งสองประเทศนี้ถือเป็นมหาอำนาจแห่งโลกแฟชั่น ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ Chanel (ชาแนล), Dior (ดิออร์), Gucci (กุชชี่) และ Hermès (แอร์เมส) นอกจากชื่อเสียงและความนิยมแล้ว สิ่งที่ทำให้ผู้คนจดจำแบรนด์ได้ก็คือ โลโก้ หรือสัญลักษณ์ประจำแบรนด์ โดยเราได้รวบ รวมประวัติของโลโก้ 4 แบรนด์ดัง Chanel Dior Gucci Hermes ซึ่งคุณสามารถติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจได้ในบทความนี้
Luxury Brand Logos
Chanel
เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงคุ้นเคยกันดีกับโลโก้ CC ไขว้ สัญลักษณ์ ซึ่งเป็นที่รู้จักมากที่สุดในโลกของแฟชั่น Coco Chanel (โคโค่ ชาแนล) หญิงผู้ทรงอิทธิพลทางด้านแฟชั่น ได้นำเอาตัวอักษร C ที่มีลักษณะเชื่อมต่อกัน มาใช้เป็นโลโก้อันโดดเด่นของแบรนด์ เพราะเพียงแค่มองเห็นจากที่ไกล ๆ ก็สามารถบอกได้ว่านี่คือสัญลักษณ์ของ Chanel ซึ่งอัดแน่นไปด้วยเรื่องราวต่าง ๆ มากมายเกี่ยวกับที่มาของสัญลักษณ์ที่ Coco Chanel (โคโค่ ชาแนล) ทำให้มันโด่งดังไปตลอดกาล
ทฤษฎีแรกที่บอกถึงที่มาของโลโก้ CC ไขว้นั่นก็คือ การได้รับแรงบันดาลใจการออกแบบมาจากกระจกสีของ Château Crémat (ชาตู เครมาต์) ปราสาทที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1906 ซึ่งเป็นแหล่งผลิตไวน์ที่มีไร่องุ่นในเมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส ทฤษฎีที่สองการได้รับแรงบันดาลใจการออกแบบมาจากกระจกของโบสถ์โอบาซีล สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ Coco Chanel (โคโค่ ชาแนล) เคยใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น
และทฤษฎีที่สามทฤษฎีสุดท้ายนี้ เป็นการตีความอย่งโรแมนติกว่าโลโก้ CC ไขว้นี้เป็นสัญลักษณ์ที่เป็นตัวแทนเรื่องราวของความรักระหว่าง Coco Chanel (โคโค่ ชาแนล) และ Arthur Boy Capel (บอย คาเปล) ชายผู้ซึ่งเป็นทั้งคนรัก หุ้นส่วนทางธุรกิจ และผู้ร่วมสนับสนุนร้านบูติกของแบรนด์ Chanel สัญลักษณ์ CC ที่มีดีไซน์ที่เรียบง่ายถูกใช้มาจนกระทั่งปัจจุบันนั้นสื่อถึงความร่ำรวย มั่งคั่ง ศักดิ์ศรีและชนชั้น เน้นการเข้าถึงง่าย สามารถใช้ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
Dior
เมื่อเอ่ยถึงแบรนด์ Dior (ดิออร์) คุณคงจะเคยเจอกับโลโก้ของแบรนด์ในหลายรูปแบบที่ถูกนำมาใช้กับสินค้าประเภทต่าง ๆ เพราะ Dior คือ หนึ่งใน Luxury Brand ที่เป็นแฟชั่นเฮ้าส์สุดยิ่งใหญ่ของโลก และยังเป็นเจ้าของสินค้าหลากหลายไม่ว่าจะเป็น เครื่องประดับ น้ำหอม เครื่องสำอาง เสื้อผ้าเด็ก สินค้าอุปโภคบริโภคในระดับไฮเอนด์ อีกด้วย
เริ่มต้นด้วยโลโก้รุ่นแรกของแบรนด์ Dior ที่ถูกนำมาใช้กับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง โดยจะใช้โลโก้เป็นตัวอักษรคำว่า Christian Dior ตัวอักษร CD ซึ่งมีที่มาจากตัวอักษรย่อของชื่อผู้ก่อตั้งแบรนด์ Christian Dior (คริสเตียน ดิออร์) ต่อมาไม่นานแบรนด์จึงนำเอาโลโก้ที่ใช้สำหรับสินค้าในร้านบูติกมาใช้กับเครื่องสำอางด้วย ดังนั้นโลโก้จึงถูกเปลี่ยนมาเป็นตัวอักษร Dior โดยใช้แบบอักษรตระกูล Nicolas Cochin ที่ได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักมากที่สุดในโลก
และโลโก้ล่าสุดนั้นเป็นตัวอักษรตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมดโดยใช้แบบอักษร Serif โลโก้ Dior มีความหมายเหมือนกัน กับลักษณะบุคลิกภาพของแบรนด์ เช่น ความหรูหรา ความเย้ายวนใจ ศักดิ์ศรี ความซับซ้อน และความคิดริเริ่ม และการใช้รูปแบบสีขาวดำในโลโก้ Dior แสดงถึงความรู้สึกอบอุ่นที่เป็นธรรมชาติ ทำให้การออกแบบโดยรวมดูทรงพลังแต่มีระดับ
Gucci
Gucci (กุชชี่) คือแบรนด์แฟชั่นชั้นสูงจากอิตาลีที่ผลิตสินค้าและเครื่องหนังคุณภาพสูง แบรนด์ได้ถูกก่อตั้งขึ้นเป็นเวลายาวนานกว่า 100 ปี และสิ่งที่ทำให้แบรนด์เป็นที่จดจำนั่นก็คือโลโก้ของแบรนด์ Gucci ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความหรูหรา เพราะไม่ว่าโลโก้นี้จะไปอยู่บนแว่นตา หรือกระเป๋า ไอเทมชิ้นนั้นก็กลายเป็นที่ต้องการอย่างมากในโลกของแฟชั่น
Gucci ทำการก่อตั้งแบรนด์เมื่อปี ค.ศ. 1921 แต่ยังไม่ปรากฏตราสัญลักษณ์หรือโลโก้เครื่องหมายการค้าใด ๆ จนกระทั่งเมื่อปี ค.ศ. 1933 ตราสัญลักษณ์ Double G จึงถูกสร้างขึ้นโดย Aldo Gucci (อัลโด กุชชี่) เพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนความหมายชื่อของ Guccio Gucci และผลิตภัณฑ์ของแบรนด์นั้นถูกใช้โดยบุคคลผู้มีชื่อเสียงในสาขาต่าง ๆ นับไม่ถ้วน จึงทำให้ในปัจจุบันโลโก้ GG เปรียบเสมือนเป็นตัวแทนของความมั่งคั่ง ความมีระดับ และความหรูหรา
โลโก้ Double G เป็นหนึ่งในตราสัญลักษณ์ ซึ่งเป็นที่รู้จักมากที่สุดในโลก นอกจากนี้มันยังถูกนำมาสร้างเป็นลวดลายโมโนแกรมของแบรนด์อีกด้วย นอกจากนี้แบรนด์ยังใช้โลโก้ตัวอักษรคำว่า GUCCI ซึ่งเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมดโดยใช้แบบอักษรตระกูล Serif ที่มีความซับซ้อนสูง คล้ายกับแบบอักษร Granjon Roman และ Questal SC เพื่อสื่อถึงอำนาจ มรดก และความซับซ้อน
Hermès
Hermès (แอร์เมส) ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1837 โดย เทียร์รี่ แอร์เมส (Thierry Hermès) เป็นที่รู้จักในฐานะผู้ผลิตสินค้าหรูหราสัญชาติฝรั่งเศส เริ่มแรกเน้นการผลิตเทียมม้าและบังเหียนสำหรับรถม้าของชนชั้นสูง ก่อนมีการปรับเปลี่ยนผลิตสินค้าตามความต้องการของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า เครื่องประดับ เครื่องหนัง และของตกแต่งบ้าน
Hermès เริ่มมีการใช้ตราสัญลักษณ์หรือโลโก้เมื่อปี ค.ศ. 1945 ซึ่งประกอบด้วยรถม้า 4 ล้อกับผู้ติดตาม ออกแบบโดยจิตรกรชาวฝรั่งเศส Alfred de Dreux (อัลเฟรด เดอ เดรอซ์) ซึ่งโลโก้ที่สร้างขึ้นหลังจากช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 นี้เป็นการสื่อถึงเรื่องราวจุดเริ่มต้นของแบรนด์ เพราะสิ่งที่ทำให้แบรนด์มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักนั่นก็คือ การผลิตอานม้า
แบรนด์เองยังต้องการบอกเล่าเรื่องราวอย่างตรงไปตรงมาผ่านโลโก้นี้ ในฐานะผู้ผลิตอุปกรณ์เสริมสำหรับรถม้าสำหรับชนชั้นสูง และในฐานะแบรนด์สินค้าฟุ่มเฟือย สีส้มที่เด่นชัดของโลโก้รถม้านั้น เชื่อมโยงผลิตภัณฑ์สินค้าชั้นสูง ความมั่งคั่ง ความซับซ้อน ไปจนถึงความใส่ใจในรายละเอียด และ Hermès ยังคงตระหนักเสมอว่า ม้าคือลูกค้าคนแรกของเขา
เราจะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่แล้วชื่อแบรนด์ระดับโลกล้วนถูกตั้งตามชื่อหรือนามสกุลของผู้ก่อตั้ง ชื่ออาจจะมีอิทธิพลต่อความนิยมของแบรนด์นั้น ๆ แต่ผู้คนส่วนใหญ่จะสามารถจดจำแบรนด์ต่าง ๆ ได้จากโลโก้หรือสัญลักษณ์ของแบรนด์ รวมไปถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร และการทำให้เป็นที่จดจำนั้นต้องอาศัยกลยุทธ์ในการสร้างจุดแข็ง เพื่อให้แบรนด์เติบโตควบคู่กันไปด้วย และทั้งหมดนี้คือ รวมประวัติของโลโก้ 4 แบรนด์ดัง Chanel Dior Gucci Hermes แบรนด์ยิ่งใหญ่และเข้มแข็งระดับโลก
รัก
xoxo