To top
5 Aug

เปิดที่มา Chanel Caviar – วัสดุที่มีความคงทนมากที่สุด

เป็นที่ทราบกันดีสำหรับสาวก Chanel ว่ากระเป๋าซึ่งขึ้นแท่นไอคอนิกตลอดกาลของแบรนด์อย่าง Chanel Classic, Chanel Boy, Chanel 19 ไปจนถึง Chanel Wallet on Chain ส่วนใหญ่แล้ว ล้วนตัดเย็บมาจากวัสดุอยู่สองชนิด นั่นก็คือ Lambskin (หนังแกะ) และ Caviar Leather (หนังคาเวียร์) ซึ่งในบทความนี้เราจะ เปิดที่มา Chanel Caviar Leather หนังที่มีชื่อเสียงในเรื่องของความทนทาน ตลอดจนวิธีการดูแลหนังชนิดนี้ให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน

Chanel Caviar Leather

หนังคาเวียร์ เป็นชื่อที่เรียกกันโดยทั่ว ๆ ไป แท้จริงแล้วนั้นเกิดขึ้นจากการนำเอาหนังลูกวัวที่มีผิวสัมผัสค่อนข้างหยาบ มาผ่านกรรมวิธีเฉพาะทำให้เกิดลวดลายเกรน (Grained) ซึ่ง Chanel เรียกลวดลายที่เกิดขึ้นนี้ว่าคาเวียร์ (Caviar) หนังคาเวียร์นั้นเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในหมู่คนรักกระเป๋า Chanel นั่นเป็นเพราะคุณสมบัติอันโดดเด่นในเรื่องของความทนต่อการเกิดรอยขีดข่วนของหนังชนิดนี้ และมีการบำรุงรักษาที่ง่าย ไม่ซับซ้อนอีกด้วย

ความจริงแล้วหนังคาเวียร์จากแบรนด์ Chanel จะมีความหลากหลายของผิวสัมผัสที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละปีการผลิต ในบางครั้งคุณอาจจะรู้สึกว่ากระเป๋าที่ทำขึ้นจากหนังคาเวียร์ในปีนั้น ๆ  มีผิวสัมผัสที่แตกต่างจากกระเป๋ารุ่นเดียวกัน ซึ่งผลิตเมื่อ 5 ปีก่อน อีกทั้งหนังคาเวียร์ในบางซีซั่นนั้น อาจจะมีผิวสัมผัสที่นิ่มมากกว่า หรือในบางซีซั่นอาจจะมีผิวสัมผัสที่แข็ง หรือหยาบกว่า

Type of Chanel Caviar Leather

อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้นว่า หนังคาเวียร์นั้น มีความหลากหลายขึ้นอยู่กับซีซั่น หรือขึ้นอยู่กับฤดูกาลต่าง ๆ ของแฟชั่น ซึ่งสามารถแยกประเภทของหนังคาเวียร์ชนิดต่าง ๆ ได้ดังนี้

เปิดที่มา Chanel Caviar

  • Chanel Rigid Caviar : เป็นหนังคาเวียร์ที่มีผิวสัมผัสแข็งและมีน้ำหนักมากกว่าหนังคาเวียร์แบบอื่น ๆ มักนำไปใช้ในการตัดเย็บกระเป๋ารุ่น Chanel Classic และ Chanel Wallet on Chain
  • Chanel Iridescent Caviar : หนังคาเวียร์ชนิดนี้จะถูกพบบ่อยมากในกระเป๋าของ Chanel โดยลวดลายเกรนจะมีขนาดเล็กกว่าหนังคาเวียร์แบบ Chanel Rigid Caviar อีกทั้งยังสะท้อนแสงเป็นประกายได้ดีกว่าอีกด้วย
  • Chanel Soft Caviar : หนังคาเวียร์ชนิดนี้จะมีความนุ่มกว่า แต่มีความทนทานน้อยกว่าหนังคาเวียร์แบบ Chanel Rigid Caviar รวมถึงมีลวดลายเกรนที่เล็กกว่าชนิด Chanel Iridescent Caviar ทำให้สะท้อนแสงเป็นประกายได้มากกว่า หนังคาเวียร์ Chanel Soft Caviar มักถูกนำมาใช้ทำกระเป๋ารุ่น Chanel Boy

 

เปิดที่มา Chanel Caviar

  • Chanel Suede Caviar : เป็นการเอาหนังนิ่ม (Suede) มาผ่านกรรมวิธีพิเศษของแบรนด์ Chanel เพื่อให้ได้ลวดลายเกรนเป็นเม็ด ๆ ผิวสัมผัสของ Chanel Suede Caviar จะนิ่มกว่าหนังคาเวียร์ชนิดอื่น ๆ
  • Chanel Crumpled Caviar : เป็นหนังคาเวียร์ที่มีลวดลายเกรนขนาดใกล้เคียงกับแบบ Chanel Rigid Caviar แต่หนังจะมีความยับยู่ยี่อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากหนังคาเวียร์ชนิดอื่น ๆ
  • Chanel Metallic Caviar : หนังคาเวียร์ชนิดนี้จะมีลวดลายเกรนขนาดเล็กพอ ๆ กับแบบ Chanel Soft Caviar ความพิเศษของหนังชนิดนี้คือมาในโทนสีเมทัลลิก

 

เปิดที่มา Chanel Caviar

  • Chanel Washed Caviar : หนังคาเวียร์ชนิดนี้จะมีผิวสัมผัสอ่อนนุ่ม มีลวดลายเกรนนาดใหญ่พอ ๆ กับหนังคาเวียร์แบบ Chanel Rigid Caviar
  • Chanel Glazed Caviar : เป็นหนังคาเวียร์ที่มีความยับยู่ยี่ที่มากกว่าและลวดลายเกรนที่ใหญ่กว่าหนังคาเวียร์ชนิด Chanel Crumpled Caviar แต่มีการเคลือบเพื่อให้สะท้อนประกายแสงได้เหมือนหนัง Chanel Rigid Caviar

Durability of Chanel Caviar Leather

Chanel Caviar Leather คือชนิดของหนังที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความทนทานต่อการเกิดรอยขีดข่วน และคงทนมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน แม้คุณจะใช้งานแบบไม่ทะนุถนอมก็ตาม คุณสมบัติอีกอย่างของ Chanel Caviar Leather ก็คือมีผิวสัมผัสที่แข็งกระด้าง และมีน้ำหนักมากกว่า Calfskin (หนังลูกวัว) ชนิดอื่น รวมไปถึง Lambskin (หนังแกะ)

How to care the Chanel Caviar Leather

การดูแลรักษาหนัง Chanel Caviar Leather นั้นมีขั้นตอนที่ง่าย ไม่ยุ่งยากวุ่นวาย ถ้าหากคุณพบฝุ่น หรือเศษผงระหว่างลวดลายเกรนบนหนังคาเวียร์ คุณสามารถทำความสะอาดได้โดยการใช้แปรงที่อ่อนนุ่มปัดฝุ่นออกได้อย่างง่ายดาย และกระเป๋าก็ไม่เกิดรอยขีดข่วนแต่อย่างใด และคุณสามารถดูแลรักษากระเป๋าที่ทำจากหนังคาเวียร์เพื่อยืดอายุการใช้งานได้ดังนี้

  1. ทำความสะอาดด้วยผ้าแห้ง ขจัดฝุ่นและสิ่งสกปรกออก หลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์ควรใช้ครีม Leather Conditioner เพื่อรักษากระเป๋าหนังให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ เพราะเมื่อหนังแห้งเกินไป กระเป๋ามักจะสูญเสียความแวววาว และในบางกรณี หนังจะแห้งและเปราะ
  2. เก็บกระเป๋าในถุงเก็บฝุ่น พร้อมกับใส่ทิชชู่ไว้ในกระเป๋า เพื่อให้คงรูปทรงของกระเป๋า แต่อย่าใส่มากเกินไปในกระเป๋า เพราะจะทำให้กระเป๋าถือของคุณรูปทรงเปลี่ยนไป และสิ่งสำคัญคือต้องมีแผ่นรองในกระเป๋าทุกครั้งเมื่อทำการจัดเก็บ
  3. ห้ามทิ้งกระเป๋าถือไว้ในที่โล่งแจ้ง ถ้าหากคุณไม่ได้ใช้งานเป็นเวลานาน เพราะแสงแดดจะทำให้สีของหนังซีดจางลง
  4. เก็บสายโซ่เข้าไปในกระเป๋า เพราะโซ่เมื่อกดทับกับกระเป๋านาน ๆ อาจจะทำให้เกิดรอยยับถาวรที่บริเวณหนังด้านนอกกระเป๋าได้

 

เราไม่อาจบอกได้ว่าวัสดุที่ใช้ทำกระเป๋า Chanel นั้นชนิดไหนดีที่สุด เพราะวัสดุแต่ละชนิด ไม่ว่าจะเป็น Lambskin (หนังแกะ), Goatskin (หนังแพะ), Calfskin (หนังลูกวัว), Caviar Leather (หนังคาเวียร์) และ Tweed (ผ้าทวีด) ต่างก็ถูกออกแบบมาตามความต้องการของผู้บริโภค และความเหมาะสมตามการใช้งาน ถ้าหากคุณต้องการความหรูหราก็ต้องเลือกกระเป๋าที่ทำจาก Lambskin (หนังแกะ) แต่ถ้าหากต้องการกระเป๋าที่มีความทนทานก็ต้องเลือกกระเป๋าที่ทำจาก Caviar Leather (หนังคาเวียร์) และ Tweed (ผ้าทวีด) เลือกใช้กระเป๋าให้เหมาะกับตัวตนของคุณ

รัก
xoxo

khwanchanok