Speedmaster Moonphase Meteorite ตามติดดิถีดวงจันทร์บนข้อมือคุณ ในโลกของเรือนเวลาระดับตำนาน นาฬิกา Omega Speedmaster ยังคงครองใจนักสะสมและผู้หลงใหลในเรื่องราวบนข้อมืออย่างต่อเนื่อง และในปี 2025 นี้ Omega ได้เปิดตัวผลงานใหม่ล่าสุดที่เรียกเสียงฮือฮาในวงการอีกครั้ง กับรุ่น Speedmaster Moonphase Meteorite ซึ่งมาพร้อมดีไซน์สุดพิเศษที่ผสานความล้ำค่าและเรื่องราวจากนอกโลกไว้ในเรือนเดียว
เรือนเวลารุ่นใหม่นี้ไม่เพียงแต่งดงามในแง่ดีไซน์ แต่ยังอัดแน่นด้วยนวัตกรรมกลไกระดับสูง สมกับเป็นทายาทแห่งจักรวาลของ Speedmaster ที่ทุกคนรอคอย หากคุณคือผู้หลงใหลในเรื่องราวของดวงจันทร์และศิลปะของเวลา นี่คือเรือนเวลาที่ควรจับตามองเป็นพิเศษในปีนี้ และ KATEXOXO จะพาคุณไปทำความรู้จักนาฬิกาแห่งประวัติศาสตร์เรือนนี้ให้มากขึ้น
Speedmaster Moonphase : อุกกาบาตในสองรูปแบบ
นับตั้งแต่การลงจอดบนดวงจันทร์ในปี ค.ศ. 1969 OMEGA Speedmaster ยังคงรักษาสายสัมพันธ์อันเป็นนิรันดร์กับท้องฟ้าในยามค่ำคืน ในปัจจุบัน ตำนานนี้ได้ก้าวไปอีกขั้นด้วย Speedmaster Moonphase Meteorite ซึ่งนำเสนอในรุ่นสแตนเลสสตีลพิเศษขนาด 43 มม. ถึงสองรุ่นที่สามารถแสดงข้างขึ้นข้างแรมจากซีกโลกทั้งสอง
Speedmaster หนึ่งในนาฬิกาที่โด่งดังที่สุดของ OMEGA และได้เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจในการเดินทางไปยังดวงจันทร์ทั้ง 6 ภารกิจ นาฬิกา Moonphase ขนาด 43 มิลลิเมตร พร้อมดวงจันทร์สองดวงที่รังสรรค์จากอุกกาบาตดวงจันทร์ของแท้นี้เป็นที่ระลึกอันน่าประทับใจให้แก่ตำนานอันโดดเด่น
มาพร้อมกับหน้าปัด 2 แบบ คือ หน้าปัดทำจากแผ่นอุกกาบาตชุบกัลวานิกสีเทา มาพร้อมเข็มชั่วโมงและนาทีเคลือบสีน้ำเงินรวมถึงหลักชั่วโมงทำจากไวท์โกลด์ 18K เข็มนาฬิกาบนสองหน้าปัดย่อยถูกเคลือบด้วยสีน้ำเงินถูกผลิตจากไวท์โกลด์ 18K เช่นกัน
และหน้าปัดที่ทำจากแผ่นอุกกาบาตเคลือบ PVD สีดำนั้นมาพร้อมเข็มชั่วโมงและเข็มนาทีรวมถึงหลักชั่วโมงที่ผลิตจากไวท์โกลด์ 18K เข็มนาฬิกาบนสองหน้าปัดย่อยเคลือบสีดำก็ผลิตจากไวท์โกลด์ 18K ด้วยเช่นกัน
อุกกาบาตในสองรูปแบบถูกนำมาผสานเข้ากับส่วนแสดงข้างขึ้นข้างแรมแบบสองซีกโลกรุ่นแรกของ OMEGA การออกแบบของหน้าปัดแผ่นอุกกาบาต อุกกาบาตชนิดเหล็ก ทำให้หน้าปัดของนาฬิกาแต่ละเรือนดูมีเอกลักษณ์ และเผยให้เห็นลายคล้ายริบบิ้นที่โดดเด่น โดยแต่ละลวดลายไม่สามารถทำซ้ำได้ ทำให้นาฬิกาแต่ละเรือน มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เปรียบเสมือนได้ครอบครองประวัติศาสตร์ทางอวกาศนี้เพียงคนเดียว
มีช่องแสดงดิถีของดวงจันทร์ที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา พร้อมตัวระบุซีกโลกเหนือและซีกโลกใต้ ซึ่งประกอบด้วยดวงจันทร์สองดวงที่รังสรรค์จากอุกกาบาตจากดวงจันทร์ที่ตกลงมาบนโลกหลังผ่านการตกแต่งเป็นทรงโดมและขัดเงา
ตัวเรือนทำจากสแตนเลสสตีลขัดเงาสลับด้านถูกเสริมความโดดเด่นด้วยวงขอบตัวเรือนเซรามิกสีดำพร้อมสเกลทาคีมิเตอร์อีนาเมลสีขาว และเติมเต็มนาฬิกา Moonphase ด้วยสายนาฬิกาสแตนเลสสตีลขัดเงาสลับด้าน พร้อมระบบปรับสายแสนสะดวกที่ได้รับการจดสิทธิบัตรแบบเดียวกับที่ใช้ใน Speedmaster อันโด่งดัง
นาฬิการุ่นนี้ขับเคลื่อนด้วยกลไก OMEGA Co-Axial Master Chronometer 9914 กลไกโครโนกราฟแบบไขลาน ซึ่งได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจาก METAS ส่วนแสดงข้างขึ้นข้างแรม อุกกาบาตคู่ทรงโคบาชงบนส่วนแสดงข้างขึ้นข้างแรมของทั้งสองซีกโลก ตั้งอยู่ตรงข้ามตำแหน่งดาวในคืนประวัติศาสตร์ของ Apollo 11
ฝาหลังตัวเรือนแบบโปร่งใส กลไกทุกเครื่องได้รับการตกแต่งอย่างพิถีพิถัน ซึ่งสามารถมองเห็นได้ ผ่านฝาหลังตัวเรือน ซึ่งติดตั้งด้วยกระจกแซฟไฟร์ ที่ทำหน้าที่แทนหน้าต่าง ที่เผยถึงความเที่ยงตรงระดับตำนานของ Omega สามารถสำรองพลังงานได้ 60 ชั่วโมง กลไกไขลานด้วยมือ กันน้ำได้ 50 เมตร (165 ฟุต)
นาฬิกา Speedmaster ที่ล้ำสมัยเหล่านี้ถูกขับเคลื่อนด้วย calibre 9914 ที่มีการติดตั้งเป็นครั้งแรก กลไกแบบไขลาน ที่มาพร้อมการตกแต่งแบบพิเศษทำให้สามารถมองเห็นได้ผ่านกระจกแซฟไฟร์ทรงแบนบนฝาหลัง สามารถต้านสนามแม่เหล็กได้ถึง 15,000 เกาส์ และรับประกันด้วยมาตรฐานที่ดีที่สุดของ OMEGA ด้านความเที่ยงตรงและประสิทธิภาพทางโครโนเมตริก ตามที่กำหนดโดยอุตสาหกรรมจากสถาบันมาตรวิทยาแห่งสหพันธ์สวิส (METAS)
คุณสมบัติ
- ดิถีของดวงจันทร์ : นาฬิกา Moonphase ใช้ฟังก์ชั่นที่จะคอยเคลื่อนตามดิถีของดวงจันทร์ ปรากฏการณ์ข้างขึ้น-ข้างแรมของดวงจันทร์ ซึ่ง 1 รอบ มีระยะเวลา 29 วัน 12 ชั่วโมง 44 นาที และ 2.8 วินาที อีกทั้งยังประกอบไปด้วย 4 ช่วง คือ ช่วงคืนเดือนมืด , ช่วงจันทร์ครึ่งดวงครั้งแรก , ช่วงจันทร์เต็มดวง และช่วงจันทร์ครึ่งดวงครั้งสุดท้าย
- ต้านทานสนามแม่เหล็ก : ทั้งนี้ กลไก จะไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ จากสนามแม่เหล็กที่เข้มข้น แม้กระทั่งสนามแม่เหล็กที่มีค่าสูงกว่า 1.5 เทสลา (15,000 เกาส์) ก็ตาม
- ผ่านการรับรองระดับ Master Chronometer : การรับประกันถึงมาตรฐานความเที่ยงตรง และความสามารถในการทนต่อสนามแม่เหล็กในระดับสูงของอุตสาหกรรมสวิส ตามที่กำหนดไว้ โดยสถานบันมาตรวิทยาแห่งสหพันธ์สวิส (METAS)
- ฝาหลังแบบเปลือย : ฝาหลังตัวเรือนแบบเปลือย มักจะผลิตขึ้นจากกระจกแซฟไฟร์ ซึ่งทำให้สามารถชมกลไกภายในนาฬิกาได้
- วันที่ : วันของเดือนที่ปรากฏอยู่ในหน้าต่างบนหน้าปัดนาฬิกาที่ตำแหน่ง 3 หรือ 6 นาฬิกา หรือภายในหน้าปัดย่อยที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกา
- เข็มแสดงวินาทีขนาดเล็ก : เข็มหน้าปัดย่อยที่แสดงเวลาวินาที โดยทั่วไปจะหมุนครบรอบในระยะเวลาหนึ่งนาที
- โครโนกราฟ : ฟังก์ชั่นโครโนกราฟ เป็นกลไกในการบอกแต่ละช่วงเวลา ด้วยเหตุนี้เอง นาฬิกาโครโนกราฟ จึงสามารถจับเวลาของเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้ ในขณะที่แสดงเวลาได้เหมือนนาฬิกาทั่วไป
- โครโนมิเตอร์ : เครื่องหมายที่มอบให้กับนาฬิกาที่ผ่านการทดสอบความเที่ยงตรง และได้รับใบรับรองจากหน่วยงานอย่างเป็นทางการ (COSC)
Omega Speedmaster Moonphase Meteorite ไม่ใช่เพียงแค่นาฬิกาหรูสำหรับบอกเวลา แต่คือเรือนแห่งเรื่องราวที่สะท้อนทั้งประวัติศาสตร์ วิศวกรรมชั้นสูง และความฝันของมนุษย์ที่มองไปยังดวงจันทร์ ด้วยหน้าปัดที่ทำจาก อุกกาบาตแท้ เคลือบ PVD ซึ่งไม่เหมือนใครในโลกนี้แต่ละเรือนคือผลงานศิลปะที่ไม่ซ้ำกัน พร้อมผสานกับฟังก์ชัน Moonphase อันแม่นยำและกลไก Co-Axial Master Chronometer ที่ทรงพลัง รุ่นนี้จึงเป็นการรวมกันของจักรวาลและนวัตกรรมไว้อย่างลงตัว
สำหรับนักสะสมหรือผู้ที่หลงใหลใน Speedmaster นี่คือหนึ่งในรุ่นหายากและน่าจับตามองที่สุดของปี 2025 ที่ควรค่าแก่การครอบครอง ทั้งในฐานะเรือนเวลาแห่งอนาคต และของสะสมที่เชื่อมโยงถึงอดีตอันยิ่งใหญ่ของมนุษย์ในห้วงอวกาศ สำหรับราคาจำหน่ายนาฬิการุ่นนี้ อยู่ที่ 24,850 สิงคโปร์ดอลล่าร์ หรือประมาณ 633,300 บาท
รัก
xoxo