To top
27 Apr

Louis Vuitton Neverfull – Anatomy of Bag

Louis Vuitton Neverfull กระเป๋าทรง Tote ที่สาวๆ หลายคนรู้จักและคุ้นตาเป็นอย่างดี Neverfull สามารถแปลอย่างตรงตัวได้ว่า “ไม่มีวันเต็ม” เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 2007 และขึ้นแท่นเป็นกระเป๋ายอดนิยมในทันที ด้วยดีไซน์การออกแบบที่เรียบง่าย แต่ดูดี เข้ากับทุกกระแสแฟชั่น เหมาะกับทุกโอกาส มาพร้อมกับประโยชน์ใช้สอยที่เต็มเปี่ยม โดยกระเป๋า 1 ใบจะใช้เวลาในการตัดเย็บนานถึง 45 ชั่วโมงเลยทีเดียว วันนี้เราจะมาชำแหละชิ้นส่วนของกระเป๋า เพื่อหาคำตอบว่าทำไมกระเป๋า Tote ธรรมดาๆ ถึงกลายเป็น Item สุดฮอตที่ใครๆ ต่างปรารถนา

Front and Back Design : ด้านหน้าและด้านหลังของกระเป๋า

  • Material : Neverfull จะใช้วัสดุผ้าใบ Canvas ในการผลิตกระเป๋า ร่วมกับหนัง Cowhide โดยผ้าใบจะเป็นตัวกระเป๋า ส่วนของหนังจะเป็นวัสดุตกแต่งตัวกระเป๋า
  • Wide Opening : ปากกระเป๋าที่เปิดกว้าง สะดวกในการหยิบของเข้า-ออกจากกระเป๋า
  • Canvas : ผ้าใบลายที่นำมาตัดเย็บกระเป๋ามี 4 แบบ คือลาย Monogram , Damier Azur , Damier Ebene และ หนังลายไม้ Epi (มีเฉพาะในกระเป๋าขนาดกลาง MM เท่านั้น) อีกทั้งยังมีลายอื่นๆ ที่เป็น Limited Edition และ Seasonal อีกด้วย
  • Top Handles : สายสะพายคู่ขนาดเล็ก ทำจากหนังลูกวัว มีความแข็งแรง รองรับน้ำหนักได้มาก โดยในรุ่น GM สามารถรับน้ำหนักได้มากสุดถึง 200 ปอนด์ (90 กิโลกรัม) ด้วยการเย็บที่แน่นหนา ความยาวของสายสะพายสามารถใช้คล้องบ่า คล้องแขน หรือใช้มือถือตามแต่สะดวก
  • Patterned : ด้านหน้าและด้านหลังของกระเป๋ามีลักษณะแบบเดียวกัน แต่ไม่ได้ขึ้นรูปกระเป๋าด้วยผ้าใบผืนเดียว รอยต่อของกระเป๋าทั้ง 2 ด้าน ลายจะต้องบรรจบกันอย่างลงตัว ไม่บิดเบี้ยวหรือลายคลาดเคลื่อน

 

 

  • Leather Trim : การเย็บขอบใช้ฝีเย็บเดี่ยว ในรุ่น Monogram และ Damier Azur ขอบกระเป๋าจะใช้วัสดุหนัง Italian Leather เรียกว่า Vachetta (Cowhide) ส่วนในรุ่น Damier Ebene จะเป็นวัสดุ PVC เคลือบ Vachetta
  • Gold D-Ring Hardware : อะไหล่รูปตัว D สีทอง ด้านข้างทั้ง 2 ใช้คล้องสายหนังสำหรับขยายขนาดของกระเป๋า
  • Epi Leather (เฉพาะกระเป๋า Size MM เท่านั้น) : วัสดุภายนอกเป็นหนัง Cowhide ลายไม้ สีที่นิยมคือสีดำ Noir Electric และสีน้ำเงิน Indigo และยังมีสีอื่นๆที่เป็นรุ่น Seasonal หรือรุ่นเฉพาะที่มีจำหน่ายแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ
  • Adjustable Sides : สายหนังขนาดยาว พร้อมแผ่นหนังสำหรับเลื่อนขึ้น-ลง ใช้ปรับขนาดความแคบ-กว้างของกระเป๋า
Monogram , Damier Azur , Damier Ebene , Epi leather

Monogram , Damier Azur , Damier Ebene , Epi leather

Inside Design : ด้านในของกระเป๋า

เนื่องจากตั้งแต่ ปี ค.ศ. 2014 เป็นต้นมา ทาง หลุยส์วิตตอง ได้ทำการปรับปรุงภายในของกระเป๋ารุ่น Neverfull จึงมีข้อแตกต่างเล็กน้อยระหว่างกระเป๋ารุ่นเก่าและรุ่นใหม่ดังนี้

  • Interior Zipped Pocket : ช่องซิปขนาดใหญ่ ตกแต่งริมขอบซิปด้วยหนัง Cowhide
  • Date Code : แผ่นหนังขนาดเล็กระบุ Date Code ของกระเป๋า เย็บซ่อนอยู่ทางด้านหลัง มุมบนขวามือของช่องซิป
  • Hook Closure, Clasp : ตะขอสำหรับคล้องเพื่อยึดปากกระเป๋าเข้าไว้ด้วยกัน
  • Heat Stamp : แผ่นหนังตรงขอบช่องซิปตรงกลาง พบ Heat Stamp ระบุคำว่า “LOUIS VUITTON / PARIS / made in ประเทศที่ผลิต”
  • Fabric Lining : สำหรับกระเป๋ารุ่นเก่าและรุ่นใหม่ จะมีลายของผ้าที่แตกต่างกัน ในรุ่นเก่าจะปรากฏลายเส้นเดี่ยวและเส้นคู่ ตัดกันระหว่างเครื่องหมายของหลุยส์วิตตอง (ดอกไม้ขอบแหลม และขอบมนที่มี 4 กลีบ – flowers and quatrefoils ซึ่งเป็นสัญญลักษณ์ของแบรนด์) ตัวอักษรที่ใช้ที่มีชื่อเรียกว่า “calligraphy-style”  ด้านใต้ของช่องซิปปรากฏ ตัวอักษร “ARTICLES DE VOYAGE / Louis Vuitton / 101 , CHAMPS ELYSEES PARIS” ซึ่งเป็นที่ตั้งของบูทิคหลุยส์ วิตตองในปัจจุบัน ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส สำหรับกระเป๋ารุ่นใหม่ ตัวอักษรจะเป็นแนวปัจจุบันมากกว่า มีข้อความว่า “LOUIS VUITTON / ARTICLES DE VOYAGE / Maison Fondée En 1854”
  • Fabric Lining Color : กระเป๋า Neverfull รุ่นดั้งเดิม (รุ่นที่ผลิตระหว่างปี ค.ศ. 2007 – 2014) ผ้าที่บุภายในจะมีเพียง 2 สีเท่านั้นคือ สีเนื้อ (Beige lining) ในรุ่น Monogram Canvas , Damier Azur และสีแดง (Red lining) ในรุ่น Damier Ebene สำหรับกระเป๋ารุ่นใหม่ จะเพิ่ม Rose Ballerine มาอีกสี และเปลี่ยนชื่อเรียกจาก สีแดง (Red Lining) มาเป็น Cherry ในรุ่น Damier Ebene ในรุ่น Monogram Canvas มีเพิ่มมา 2 สี คือ Cherry และสี Pivoine

 

  • Gold-Plated Hardware : อะไหล่โลหะวงกลมสีทอง พบทั้งภายนอกและภายในกระเป๋า สลักคำว่า “LOUIS VUITTON” จำนวน 8 ตำแหน่ง (ด้านใน 4 ด้านนอก 4)
  • D-Ring : อะไหล่รูปตัว D ด้านในกระเป๋า สำหรับคล้องพวงกุญแจหรือกระเป๋าคล้องมือขนาดเล็ก (Pochette)
  • Detachable Clutch : สำหรับกระเป๋ารุ่นใหม่หลังปี ค.ศ. 2014 เป็นต้นมา จะมาพร้อมกระเป๋าใบเล็กที่ตัดเย็บจากวัสดุเดียวกัน โดยสามารถถอดออกแยกมาเป็นกระเป๋าคลัชถือออกงานสวยๆ ก็เก๋ไม่น้อย
  • Stitching : การเย็บตะเข็บด้านข้างของกระเป๋า ใช้ผ้าขนาดความกว้าง 2 ซม. เย็บปิดทับรอยต่อระหว่างผ้าใบที่ขึ้นรูปเป็นกระเป๋าทั้ง 2 ด้าน เย็บเป็นคู่ขนานตลอดแนวตั้งแต่ปากกระเป๋าจนถึงก้นกระเป๋า
  • Epi Leather (เฉพาะกระเป๋า Size MM เท่านั้น) : สำหรับในรุ่น หนัง Epi วัสดุภายในจะเป็นหนังกลับสีเดียวกันกับวัสดุภายนอก (ยกเว้นรุ่นพิเศษที่มีจำหน่ายเฉพาะในบางพื้นที่) และไม่มีช่องซิปภายในกระเป๋า รวมถึงอะไหล่ทั้งหมดจะเป็นสีเงิน (Silver-Plated Hardware)
ซ้าย ภายในกระเป๋ารุ่นเก่า ขวา ภายในกระเป๋ารุ่นใหม่

ซ้าย ภายในกระเป๋ารุ่นเก่า ขวา ภายในกระเป๋ารุ่นใหม่

 

Heat Stamp และ Date Code

Heat Stamp และ Date Code

Side Design : ด้านข้างของกระเป๋า

  • Gold D-Ring Hardware : อะไหล่วงกลมสีทองรูปตัว D ด้านข้างทั้ง 2 ใช้คล้องสายหนังสำหรับขยายขนาดของกระเป๋า
  • Adjustable Sides : สายหนังขนาดยาว พร้อมแผ่นหนังสำหรับรูดขึ้น-ลง ใช้ปรับขนาดความแคบ ความกว้างของกระเป๋า โดยดึงขอบกระเป๋าทั้ง 2 ข้างพับเข้าด้านใน และยังสามารถเปลี่ยนรูปแบบของกระเป๋าได้
  • Top Handles : สายสะพายคู่ขนาดเล็ก แต่แข็งแรง รองรับน้ำหนักได้มาก ความยาวของสายสะพายสามารถใช้คล้องบ่า คล้องแขน หรือใช้มือถือตามแต่สะดวก (ความยาวของสายสะพาย ในรุ่น PM 6.5 นิ้ว , MM และ GM 8.5 นิ้ว)
  • The Side Stitching : การเย็บคู่ขนานประกบผ้าใบ 2 ผืนเข้าด้วยกัน โดยที่ลายของผ้าใบ Canvas ทั้ง 2 ผืนจะต้องตรงกัน ไม่มีความเหลื่อมล้ำ
รูปแบบกระเป๋าเมื่อมีการรูดสายด้านข้าง

รูปแบบกระเป๋าเมื่อมีการรูดสายด้านข้าง

 

Bottom Design : ด้านล่างของกระเป๋า

  • Stitching and Corners : การเย็บแบบกุ๊นขอบตามขอบกระเป๋าโดยรอบ เพื่อความแข็งแรง
  • The Bottom : พื้นกระเป๋าทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีความแข็งแรง รับน้ำหนักได้มาก แต่ไม่คงรูปเมื่อมีการบรรจุสิ่งของที่มีน้ำหนัก

 

Size of Neverfull Bag : ขนาดของ Neverfull Bag

Louis Vuitton Neverfull bag - anatomy of bag

 

  • PM (Petite Modele) ขนาดเล็ก : 29 x 21 x 12 ซม. (11.4 x 8.7 x 5.7 นิ้ว)
  • MM (Moyen Modele) ขนาดกลาง : 31 x 28.5 x 17 ซม. (12.6 x 11.4 x 6.7 นิ้ว)
  • GM (Grand Modele) ขนาดใหญ่ : 39 x 32 x 19 ซม. (15.7 x 13 x 7.9 นิ้ว)

นับตั้งแต่วันที่ Louis Vuitton Neverfull เปิดตัววันแรกจนถึงปัจจุบัน รวมระยะเวลาเพียง 13 ปีเท่านั้น แต่ได้กระแสตอบรับที่ดีอย่างท่วมท้นและต่อเนื่อง จนทำให้กระเป๋าทรง Tote รุ่นนี้ ได้ติดอันดับหนึ่งในกระเป๋าของหลุยส์วิตตอง ที่ประสบความสำเร็จรวมถึงมียอดขายสูงสุด เป็นกระเป๋าที่ถูกศิลปินชื่อดังนำมาออกแบบเป็นรุ่น Limited Edition มากมาย ขึ้นแท่นเป็นกระเป๋าคลาสสิคตลอดกาลที่บรรดาสาวๆต่างหมายปองอยากจับจองเป็นเจ้าของ อีกทั้งราคาที่สมเหตุสมผล เป็นอีกตัวเลือกสำหรับใครที่กำลังมองหากระเป๋าแบรนด์เนมดี ๆ สักใบมาไว้ข้างกาย

รัก
xoxo

 

 

KATE