To top
17 Jul

Chanel Bag กับกระเป๋าที่ควรค่าแก่การลงทุน

Chanel Bag กับกระเป๋าที่ควรค่าแก่การลงทุน

Chanel Bag กับกระเป๋าที่ควรค่าแก่การลงทุน ในโลกของแฟชั่นและความหรูหรา ชื่อ Chanel นับเป็นชื่อที่สะท้อนถึงความมีระดับ ความสง่างาม และความเป็นอมตะที่ยืนยาว โดยเฉพาะกระเป๋า Chanel รุ่นคลาสสิกที่ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องประดับที่สาว ๆ ทั่วโลกต้องการครอบครอง แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของสไตล์และคุณค่าที่ไม่มีวันเสื่อมคลาย

เมื่อต้นปีที่ผ่านมา Chanel ขึ้นราคากระเป๋าถือโดยเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การขายของแบรนด์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงเสน่ห์ที่ยั่งยืนและความน่าดึงดูดใจในการลงทุนของการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของ Chanel การลงทุนในกระเป๋า Chanel ไม่เพียงแต่เป็นการเพิ่มมูลค่าในทรัพย์สิน แต่ยังเป็นการครอบครองสินค้าที่มีความหรูหราและมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน KATEXOXO ขอแนะนำกระเป๋า 8 รุ่น ที่ควรค่าแก่การลงทุน จาก Chanel

 

Chanel Classic Flap

เป็นกระเป๋ารุ่นคลาสสิกที่โดดเด่นและเป็นที่ต้องการมากที่สุดในตระกูล Chanel กระเป๋ารุ่นนี้มีประวัติยาวนานและมีการพัฒนาออกแบบมาอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของความหรูหราและสไตล์ที่ไม่มีวันตกยุค

ประวัติความเป็นมา

  • เปิดตัวครั้งแรกในปี ค.ศ. 1955 โดย Gabrielle “Coco” Chanel ภายใต้ชื่อ 2.55 ซึ่งเป็นวันที่และเดือนที่กระเป๋ารุ่นนี้ถูกออกแบบ
  • ในปี ค.ศ. 1983 Karl Lagerfeld ได้นำกระเป๋ารุ่นนี้กลับมาออกแบบใหม่ เพิ่มการตกแต่งด้วยโลโก้ CC ที่ล็อกกระเป๋า และกลายเป็นที่รู้จักในนาม Classic Flap Bag

การออกแบบและลักษณะเด่น

  • วัสดุ: มีการใช้วัสดุหลากหลาย เช่น หนังแกะ (Lambskin), หนังคาเวียร์ (Caviar Leather), หนังจระเข้ (Crocodile), หนังงู (Python) และผ้า
  • ลายควิลต์ (Quilted Pattern): การเย็บแบบควิลต์ที่ละเอียดอ่อน ทำให้กระเป๋ามีความทนทานและคงรูปร่างได้ดี
  • สายโซ่และหนัง: สายสะพายโซ่ที่สามารถปรับความยาวได้ สามารถสวมใส่เป็นกระเป๋าสะพายข้างหรือกระเป๋าถือได้
  • ล็อกกระเป๋า: โดดเด่นด้วยล็อกแบบ CC (ตัว C สองตัวที่ไขว้กัน) ที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ Chanel
  • กระเป๋าด้านหลัง: มีช่องกระเป๋าด้านหลังเล็ก ๆ ซึ่งเป็นการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากกระเป๋าของผู้หญิงในยุคก่อน

ขนาดของกระเป๋า

Chanel Classic Flap Bag มีหลายขนาดให้เลือก เพื่อตอบสนองความต้องการและสไตล์ที่หลากหลาย:

  1. Mini:
    • ขนาด: 17 x 13 x 6 เซนติเมตร
  2. Small:
    • ขนาด: 23 x 14.5 x 6.5 เซนติเมตร
  3. Medium:
    • ขนาด: 25.5 x 16 x 7.5 เซนติเมตร
  4. Jumbo:
    • ขนาด: 30 x 20 x 10 เซนติเมตร
  5. Maxi:
    • ขนาด: 34 x 23 x 10 เซนติเมตร

สีและการตกแต่ง

  • กระเป๋ารุ่นนี้มีสีสันหลากหลาย ตั้งแต่สีดำคลาสสิก สีเบจ สีขาว สีแดง สีฟ้า และสีอื่น ๆ ตามฤดูกาลและคอลเลกชั่นใหม่ ๆ
  • การตกแต่งด้วยฮาร์ดแวร์ (Hardware) ที่มีสีต่าง ๆ เช่น สีทอง สีเงิน และสีโรสโกลด์

ความคุ้มค่าและการลงทุน

  • กระเป๋า Chanel Classic Flap Bag เป็นหนึ่งในกระเป๋าที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามกาลเวลา เนื่องจากเป็นที่ต้องการของนักสะสมและผู้ที่รักแฟชั่นทั่วโลก
  • การดูแลรักษาที่ดีสามารถช่วยรักษามูลค่าและความสวยงามของกระเป๋าให้อยู่ในสภาพที่ดีได้ยาวนาน

ข้อมูลเพิ่มเติม

 

Chanel 2.55

เป็นกระเป๋ารุ่นคลาสสิกที่มีประวัติยาวนานและเป็นที่รู้จักในฐานะกระเป๋าที่เปลี่ยนแปลงวงการแฟชั่น กระเป๋ารุ่นนี้ถือเป็นผลงานชิ้นเอกที่สร้างโดย Gabrielle “Coco” Chanel ซึ่งได้นำเสนอแนวคิดที่แตกต่างและเน้นความสะดวกสบายในการใช้งาน

ประวัติความเป็นมา

  • เปิดตัวครั้งแรกในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1955 ซึ่งชื่อรุ่น “2.55” มาจากวันที่และเดือนของการเปิดตัว
  • การออกแบบของกระเป๋า 2.55 เป็นผลมาจากความต้องการของ Coco Chanel ที่ต้องการกระเป๋าที่สามารถสะพายไหล่ได้ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้หญิง

การออกแบบและลักษณะเด่น

  • วัสดุ: ใช้วัสดุคุณภาพสูง เช่น หนังแกะ (Lambskin), หนังคาเวียร์ (Caviar Leather), หนังจระเข้ (Crocodile) และผ้าซาติน ข้อแตกต่างระหว่าง Classic Flap และ 2.55 คือ โดยทั่วไปแล้ว 2.55 จะมีให้เลือกเฉพาะในหนังแกะที่มีรอยย่น แทนที่จะเป็นหนังแกะเรียบหรือลายคาเวียร์บน Classic Flap
  • ลายควิลต์ (Quilted Pattern): ลายควิลต์ที่มีการเย็บเป็นลายข้าวหลามตัด ทำให้กระเป๋ามีความทนทานและมีรูปทรงที่คงทน
  • สายโซ่: สายโซ่โลหะที่สามารถปรับความยาวได้ และสามารถสะพายแบบไขว้ไหล่หรือถือเป็นกระเป๋าสะพายไหล่ได้
  • ล็อกกระเป๋า: ล็อกแบบ Mademoiselle ซึ่งเป็นชื่อที่ตั้งตาม Coco Chanel เอง เนื่องจากเธอไม่เคยแต่งงาน
  • ช่องเก็บของภายใน: มีหลายช่องเพื่อการจัดเก็บที่เป็นระเบียบและสะดวกในการใช้งาน

ขนาดของกระเป๋า

Chanel 2.55 มีหลายขนาดให้เลือก ตามความต้องการและสไตล์การใช้งานที่หลากหลาย:

  1. Mini:
    • ขนาด: 17 x 12 x 7 เซนติเมตร
  2. Small:
    • ขนาด: 22 x 14 x 7 เซนติเมตร
  3. Medium:
    • ขนาด: 24 x 16 x 7 เซนติเมตร
  4. Large:
    • ขนาด: 28 x 19 x 7.5 เซนติเมตร
  5. Jumbo:
    • ขนาด: 30 x 20 x 10 เซนติเมตร

สีและการตกแต่ง

  • กระเป๋ารุ่นนี้มีสีสันหลากหลายตามคอลเลกชั่นต่าง ๆ เช่น สีดำคลาสสิก สีเบจ สีขาว สีแดง สีเทา และสีฟ้า
  • การตกแต่งด้วยฮาร์ดแวร์ (Hardware) ที่มีสีทองและสีเงิน

ข้อมูลเพิ่มเติม 

 

Chanel Boy

เป็นหนึ่งในกระเป๋ารุ่นที่โดดเด่นและทันสมัยที่สุดของแบรนด์ Chanel โดยได้รับการออกแบบโดย Karl Lagerfeld เพื่อเป็นการระลึกถึง Boy Capel ซึ่งเป็นคนรักของ Coco Chanel กระเป๋ารุ่นนี้สะท้อนถึงความแข็งแกร่งและความเป็นเอกลักษณ์ที่เหมาะกับผู้หญิงยุคใหม่

ประวัติความเป็นมา

  • เปิดตัวครั้งแรกในปี 2011 โดย Karl Lagerfeld เป็นส่วนหนึ่งของคอลเล็กชั่น Fall/Winter 2011
  • ชื่อกระเป๋ามาจาก Boy Capel ผู้เป็นแรงบันดาลใจและความรักของ Coco Chanel

การออกแบบและลักษณะเด่น

  • วัสดุ: ใช้วัสดุคุณภาพสูง เช่น หนังแกะ (Lambskin), หนังคาเวียร์ (Caviar Leather), หนังจระเข้ (Crocodile), หนังงู (Python) และผ้า
  • ลายควิลต์ (Quilted Pattern): ลายควิลต์ที่มีการเย็บเป็นลายข้าวหลามตัดหรือแบบแนวตรง เพิ่มความทนทานและคงทนให้กับกระเป๋า
  • สายโซ่: สายโซ่โลหะที่แข็งแรงและมีขนาดใหญ่ สามารถปรับความยาวได้ และสามารถสะพายแบบไขว้ไหล่หรือถือเป็นกระเป๋าสะพายไหล่ได้
  • ล็อกกระเป๋า: ล็อกแบบ Boy ที่เป็นเอกลักษณ์ มีรูปทรงเหลี่ยมและมีโลโก้ CC ที่โดดเด่น
  • การตกแต่งภายใน: ภายในกระเป๋ามีการจัดระเบียบที่ดี มีช่องเก็บของหลายช่องเพื่อความสะดวกในการใช้งาน

ขนาดของกระเป๋า

Chanel Boy Bag มีหลายขนาดให้เลือก ตามความต้องการและสไตล์การใช้งานที่หลากหลาย:

  1. Small:
    • ขนาด: 20 x 12 x 8 เซนติเมตร
  2. Medium:
    • ขนาด: 25 x 15 x 9 เซนติเมตร
  3. Large:
    • ขนาด: 28 x 19 x 9 เซนติเมตร

สีและการตกแต่ง

  • กระเป๋ารุ่นนี้มีสีสันหลากหลายตามคอลเลกชั่นต่าง ๆ เช่น สีดำคลาสสิก สีเบจ สีขาว สีแดง สีเทา และสีฟ้า
  • การตกแต่งด้วยฮาร์ดแวร์ (Hardware) ที่มีสีทอง สีเงิน และสีโรสโกลด์

ข้อมูลเพิ่มเติม

 

Chanel 22

Chanel 22 เป็นกระเป๋ารุ่นใหม่จากแบรนด์ Chanel ที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2022 โดยการออกแบบของ Virginie Viard ซึ่งเป็นครีเอทีฟไดเรกเตอร์คนปัจจุบันของ Chanel กระเป๋ารุ่นนี้สะท้อนถึงความเรียบง่าย แต่ยังคงความหรูหราและใช้งานได้จริง

ประวัติความเป็นมา

  • เปิดตัวครั้งแรกในปี 2022 โดย Virginie Viard
  • ชื่อรุ่น “22” มาจากปีที่กระเป๋าถูกออกแบบและเปิดตัว

การออกแบบและลักษณะเด่น

  • วัสดุ: ใช้วัสดุคุณภาพสูง เช่น หนังแกะ (Lambskin) และหนังคาเวียร์ (Caviar Leather)
  • ลายควิลต์ (Quilted Pattern): ลายควิลต์ที่มีการเย็บแบบแนวตรง ทำให้กระเป๋ามีความทนทานและดูเรียบหรู
  • สายสะพาย: สายสะพายที่สามารถปรับความยาวได้ ทำให้สามารถสะพายแบบไขว้ไหล่หรือสะพายข้างได้
  • ดีเทลตกแต่ง: ตกแต่งด้วยโลโก้ CC ที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ และฮาร์ดแวร์สีทองหรือสีเงิน
  • การปิดกระเป๋า: ใช้ระบบแม่เหล็กและสายรูดที่สะดวกสบายในการใช้งาน

ขนาดของกระเป๋า

Chanel 22 มีหลายขนาดให้เลือก ตามความต้องการและสไตล์การใช้งานที่หลากหลาย:

  1. Small:
    • ขนาด: ประมาณ 39 x 36 x 8 เซนติเมตร
  2. Medium:
    • ขนาด: ประมาณ 42 x 39 x 9 เซนติเมตร
  3. Large:
    • ขนาด: ประมาณ 48 x 42 x 10 เซนติเมตร

สีและการตกแต่ง

  • กระเป๋ารุ่นนี้มีสีสันหลากหลาย เช่น สีดำคลาสสิก สีขาว สีเบจ สีฟ้า และสีชมพู
  • การตกแต่งด้วยฮาร์ดแวร์ (Hardware) ที่มีสีทองและสีเงิน

ข้อมูลเพิ่มเติม

 

Chanel 19

กระเป๋า Chanel 19 มีความสำคัญอย่างยิ่งในหมู่นักสะสมเนื่องจากเป็นกระเป๋าใบสุดท้ายที่ออกแบบโดย Karl Lagerfeld ออกแบบร่วมกับ Virginie Viard  ในฐานะครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ของแบรนด์แฟชั่นชื่อดังแห่งนี้ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตในปี 2019 และ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองและระลึกถึงการออกแบบของ Coco Chanel กระเป๋ารุ่นนี้มีการผสมผสานระหว่างความคลาสสิกและความทันสมัยได้อย่างลงตัว

ประวัติความเป็นมา

  • เปิดตัวครั้งแรกในปี 2019
  • ชื่อรุ่น “19” มาจากปีที่กระเป๋าถูกออกแบบและเปิดตัว

การออกแบบและลักษณะเด่น

  • วัสดุ: ใช้วัสดุคุณภาพสูง เช่น หนังแกะ (Lambskin), หนังคาเวียร์ (Caviar Leather), ผ้าทวีด (Tweed), และวัสดุอื่น ๆ ที่มีความคงทนและสวยงาม
  • ลายควิลต์ (Quilted Pattern): ลายควิลต์ที่โดดเด่นมีขนาดใหญ่ ทำให้กระเป๋ามีความนุ่มและดูหรูหรา
  • สายสะพาย: สายสะพายที่สามารถปรับความยาวได้ ทำจากโซ่โลหะที่มีการผสมผสานกับหนัง ทำให้สามารถสะพายได้หลายแบบ ทั้งสะพายข้างและสะพายไหล่
  • ดีเทลตกแต่ง: ตกแต่งด้วยโลโก้ CC ขนาดใหญ่ที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ และฮาร์ดแวร์สีทองและสีเงินที่มีความเงางาม
  • การปิดกระเป๋า: ใช้ระบบล็อกแบบหมุนที่มีโลโก้ CC

ขนาดของกระเป๋า

Chanel 19 มีหลายขนาดให้เลือก ตามความต้องการและสไตล์การใช้งานที่หลากหลาย:

  1. Small:
    • ขนาด: ประมาณ 26 x 16 x 9 เซนติเมตร
  2. Large:
    • ขนาด: ประมาณ 30 x 20 x 10 เซนติเมตร
  3. Maxi:
    • ขนาด: ประมาณ 36 x 25 x 10 เซนติเมตร

สีและการตกแต่ง

  • กระเป๋ารุ่นนี้มีสีสันหลากหลาย เช่น สีดำคลาสสิก สีขาว สีเบจ สีฟ้า สีชมพู และสีแดง
  • การตกแต่งด้วยฮาร์ดแวร์ (Hardware) ที่มีสีทองและสีเงิน รวมถึงการใช้โลหะสีดำเพื่อเพิ่มความทันสมัย

ข้อมูลเพิ่มเติม

 

Chanel Wallet On Chain (WOC)

เป็นหนึ่งในกระเป๋ารุ่นยอดนิยมของแบรนด์ Chanel ที่มีขนาดกะทัดรัดและออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่หลากหลาย กระเป๋ารุ่นนี้สามารถใช้เป็นทั้งกระเป๋าสตางค์และกระเป๋าสะพาย ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและในโอกาสพิเศษ

ประวัติความเป็นมา

  • Wallet on Chain (WOC) ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วหลังจากที่เปิดตัวเนื่องจากความอเนกประสงค์และดีไซน์ที่หรูหรา

การออกแบบและลักษณะเด่น

  • วัสดุ: ใช้วัสดุคุณภาพสูง เช่น หนังแกะ (Lambskin), หนังคาเวียร์ (Caviar Leather), หนังแพะ (Goatskin) และวัสดุอื่น ๆ ที่มีความคงทนและสวยงาม
  • ลายควิลต์ (Quilted Pattern): ลายควิลต์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Chanel มีให้เลือกทั้งลายข้าวหลามตัดและลายแบบคลาสสิก
  • สายสะพาย: สายโซ่โลหะที่สามารถปรับความยาวได้ ผสมผสานกับหนัง ทำให้สามารถสะพายแบบไขว้ไหล่หรือสะพายข้างได้
  • ดีเทลตกแต่ง: ตกแต่งด้วยโลโก้ CC ที่เป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ และฮาร์ดแวร์ที่มีความเงางามในสีทองหรือสีเงิน
  • การปิดกระเป๋า: ใช้ระบบล็อกแบบสแน็ป (Snap Closure) เพื่อความสะดวกสบายในการเปิดปิดกระเป๋า

ขนาดของกระเป๋า

Chanel Wallet on Chain มีขนาดเดียวที่ออกแบบมาให้เหมาะสมกับการใช้งานหลายรูปแบบ:

  • ขนาด:
    • ประมาณ 19.2 x 12.3 x 3.5 เซนติเมตร (7.5 x 4.8 x 1.4 นิ้ว)

การจัดเก็บภายใน

  • ช่องหลักที่กว้างขวาง สามารถใส่ของจำเป็นได้มาก
  • ช่องซิปสำหรับเก็บเหรียญหรือของมีค่า
  • ช่องสำหรับการ์ด 6 ช่อง
  • ช่องเปิดสำหรับเก็บธนบัตร
  • ช่องด้านนอกที่สะดวกสำหรับใส่ของที่ต้องการใช้งานบ่อย

สีและการตกแต่ง

  • กระเป๋ารุ่นนี้มีสีสันหลากหลาย เช่น สีดำคลาสสิก สีเบจ สีขาว สีแดง สีชมพู และสีฟ้า
  • การตกแต่งด้วยฮาร์ดแวร์ (Hardware) ที่มีสีทองและสีเงิน

ข้อมูลเพิ่มเติม

 

Chanel Coco Top Handle

Chanel Coco Top Handle หรือชื่อเรียกสั้นๆ ว่า “Coco Handle” เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 2015 ในงานแฟชั่นโชว์ Pre Fall-Winter 2015 collection และได้รับความนิยมจากเหล่าแฟชั่นนิสต้ารวมถึงเหล่าสาวกชาแนลในทันที ความสวยงามอันเป็นเอกลักษณ์ ทำให้ Handle Bag ขึ้นแท่นเป็น IT-Bag ไปอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งชื่อของกระเป๋านั้น ตั้งตามเจ้าแม่แฟชั่นตลอดกาลอย่าง Gabrielle Coco Chanel

เป็นกระเป๋ารุ่นคลาสสิกที่ผสมผสานความหรูหราและความสะดวกสบายในการใช้งาน กระเป๋ารุ่นนี้มีดีไซน์ที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยหูหิ้วด้านบนที่เพิ่มความหรูหราและความอเนกประสงค์ในการใช้งาน

ประวัติความเป็นมา

  • กระเป๋า Chanel Coco Top Handle ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ตอบสนองความต้องการของผู้หญิงยุคใหม่ ที่ต้องการทั้งความสวยงามและความสะดวกสบายในการใช้งาน

การออกแบบและลักษณะเด่น

  • วัสดุ: ใช้วัสดุคุณภาพสูง เช่น หนังแกะ (Lambskin), หนังคาเวียร์ (Caviar Leather), หนังลูกวัว (Calfskin) และวัสดุอื่น ๆ ที่มีความคงทนและสวยงาม
  • ลายควิลต์ (Quilted Pattern): ลายควิลต์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Chanel มีให้เลือกทั้งลายข้าวหลามตัดและลายแบบคลาสสิก
  • หูหิ้วด้านบน: หูหิ้วทำจากหนังที่มีความทนทานและหรูหรา เพิ่มความสะดวกสบายในการถือ
  • สายสะพาย: สายโซ่โลหะที่สามารถถอดออกหรือปรับความยาวได้ ผสมผสานกับหนัง ทำให้สามารถสะพายแบบไขว้ไหล่หรือสะพายข้างได้
  • ดีเทลตกแต่ง: ตกแต่งด้วยโลโก้ CC ที่เป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ และฮาร์ดแวร์ที่มีความเงางามในสีทองหรือสีเงิน
  • การปิดกระเป๋า: ใช้ระบบล็อกแบบหมุนที่มีโลโก้ CC เพื่อความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการใช้งาน

ขนาดของกระเป๋า

Chanel Coco Top Handle มีหลายขนาดให้เลือก ตามความต้องการและสไตล์การใช้งานที่หลากหลาย:

  1. Mini:
    • ขนาด: ประมาณ 20 x 15 x 8 เซนติเมตร
  2. Small:
    • ขนาด: ประมาณ 26 x 21 x 10 เซนติเมตร
  3. Medium:
    • ขนาด: ประมาณ 30 x 23 x 12 เซนติเมตร
  4. Large:
    • ขนาด: ประมาณ 36 x 28 x 14 เซนติเมตร

สีและการตกแต่ง

  • กระเป๋ารุ่นนี้มีสีสันหลากหลาย เช่น สีดำคลาสสิก สีเบจ สีขาว สีแดง สีชมพู และสีฟ้า
  • การตกแต่งด้วยฮาร์ดแวร์ (Hardware) ที่มีสีทองและสีเงิน

ข้อมูลเพิ่มเติม

Chanel Gabrielle

Chanel Gabrielle Bag เป็นกระเป๋าที่ถูกออกแบบโดย Karl Lagerfeld เพื่อเป็นการยกย่องและระลึกถึงผู้ก่อตั้งแบรนด์ Chanel อย่าง Gabrielle “Coco” Chanel กระเป๋ารุ่นนี้มีดีไซน์ที่โดดเด่นและทันสมัย เป็นที่นิยมในหมู่แฟชั่นนิสต้าทั่วโลก

ประวัติความเป็นมา

  • เปิดตัวครั้งแรกในคอลเลกชั่น Spring/Summer 2017 โดย Karl Lagerfeld
  • ได้รับการตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่ Gabrielle “Coco” Chanel
  • ปัจจุบัน กระเป๋ารุ่นนี้ได้ยุติการผลิตแล้ว ตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นมา เหตุผลหลักที่ทำให้กระเป๋ารุ่นนี้ถูกยกเลิกการผลิตเนื่องจากความนิยมที่ลดลง กระเป๋า Gabrielle เปิดตัวครั้งแรกในคอลเลกชั่น Spring/Summer 2017 และออกแบบโดย Karl Lagerfeld เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่อายุน้อยกว่า กระเป๋ารุ่นนี้เคยเป็นที่นิยมอย่างมากเมื่อเปิดตัว แต่ความนิยมลดลงเรื่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไป
  • หลังการยกเลิกการผลิต ทำให้กระเป๋ารุ่นนี้ กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง เป็นผลให้ราคาในตลาดซื้อขายแบรนด์เนมมือสองหรือตลาดสะสมพุ่งสูงขึ้น

การออกแบบและลักษณะเด่น

  • วัสดุ: ใช้วัสดุคุณภาพสูง เช่น หนังแกะ (Lambskin), หนังคาเวียร์ (Caviar Leather), และหนังลูกวัว (Calfskin)
  • ลายควิลต์ (Quilted Pattern): บางรุ่นมีลายควิลต์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Chanel
  • สายสะพาย: สายโซ่โลหะที่สามารถปรับความยาวได้ ผสมผสานกับหนัง ทำให้สามารถสะพายแบบไขว้ไหล่, สะพายข้าง หรือสะพายแบบคาดลำตัวได้
  • ดีเทลตกแต่ง: ตกแต่งด้วยโลโก้ CC ที่เป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ และฮาร์ดแวร์ที่มีความเงางามในสีทองและสีเงิน
  • การปิดกระเป๋า: ใช้ระบบซิปเพื่อความปลอดภัยในการเก็บของ

ขนาดของกระเป๋า

Chanel Gabrielle Bag มีหลายขนาดให้เลือก ตามความต้องการและสไตล์การใช้งานที่หลากหลาย:

  1. Small Hobo:
    • ขนาด: ประมาณ 20 x 15 x 8 เซนติเมตร (7.9 x 5.9 x 3.1 นิ้ว)
  2. Medium Hobo:
    • ขนาด: ประมาณ 28 x 21 x 10 เซนติเมตร (11 x 8.3 x 3.9 นิ้ว)
  3. Large Hobo:
    • ขนาด: ประมาณ 31 x 25 x 10 เซนติเมตร (12.2 x 9.8 x 3.9 นิ้ว)
  4. Backpack:
    • ขนาด: ประมาณ 24 x 24 x 11 เซนติเมตร (9.4 x 9.4 x 4.3 นิ้ว)

การจัดเก็บภายใน

  • ช่องหลักที่กว้างขวาง สามารถใส่ของจำเป็นได้มาก
  • ช่องซิปสำหรับเก็บเหรียญหรือของมีค่า
  • ช่องเปิดสำหรับเก็บโทรศัพท์มือถือและสิ่งของที่ต้องการหยิบใช้งานบ่อย

สีและการตกแต่ง

  • กระเป๋ารุ่นนี้มีสีสันหลากหลาย เช่น สีดำคลาสสิก สีขาว สีเบจ สีแดง สีฟ้า สีชมพู และสีเทา
  • การตกแต่งด้วยฮาร์ดแวร์ (Hardware) ที่มีสีทองและสีเงิน

ข้อมูลเพิ่มเติม

 

Safe investments

หากคุณ เพิ่งเริ่มต้นเป็นนักลงทุนกับกระเป๋า Chanel เราขอแนะนำให้คุณเริ่มลงทุนกับกระเป๋ารุ่นคลาสสิก ในสไตล์ที่เป็นที่ยอมรับและสีที่เป็นกลางจะคงคุณค่าไว้และขายได้ง่ายต่อไปอีกหลายปี มองหา CLASSIC FLAP, 2.55 REISSUE หรือ WALLET ON CHAIN ​​(WOC) ซึ่งแสดงให้เห็นจุดเด่นของ Chanel แบบดั้งเดิมอย่างเต็มประสิทธิภาพ (สายโซ่ โลโก้ CC หรืองานตัดเย็บลวดลายข้าวหลามตัด อันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งได้แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากเสื้อของนักขี่ม้า) เลือกเฉดสี CLASSIC เช่น สีดำ สีแทน หรือสีงาช้าง (Ivory)

แม้ว่าสีสันตามฤดูกาลที่สดใสอาจดูเย้ายวน แต่ในห้าปีข้างหน้าอาจดูไม่เป็นเช่นนั้น จัดลำดับความสำคัญของกระเป๋าที่เป็นที่รู้จักในระดับสากลมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อเพิ่มกลุ่มเป้าหมายในตลาดในอนาคต ดังนั้นหากคุณเพิ่งเริ่มต้นลงทุน เราไม่แนะนำให้คุณเลือกกระเป๋ารุ่น Seasonal หรือกระเป๋าหลากสีสีน ให้เลือกกระเป๋าที่เป็นหนังแกะหรือหนังคาเวียร์ แน่นอนว่าคุณภาพของกระเป๋า ก็เป็นสิ่งที่จะตัดสินมูลค่าของกระเป๋าเช่นกัน ยิ่งคุณดูแลรักษากระเป๋าให้อยู่ในสภาพดีมากเท่าไหร่ ก็สามารถคงคุณค่าของกระเป๋าได้เท่านั้น

นอกเหนือจากกระเป๋าสไตล์คลาสสิกแล้ว ยังมีกระเป๋า Chanel อีกหลายรุ่น ที่มีศักยภาพในการเติบโตในด้านของคุณภาพในตลาดสินค้าแบรนด์เนมมือสอง สินค้าเหล่านี้มีการเปลี่ยนแปลงบ่อยกว่า โดยมีอุปสงค์และราคาที่ตอบสนองต่อแนวโน้มในปัจจุบัน จับตาดูรันเวย์และทำการบ้านดูว่า กระเป๋ารุ่นใดที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนั้น เพื่อวางแผนการลงทุนระยะยาวในอนาคต

กระเป๋า Chanel รุ่นคลาสสิก คือนิยามถึงความหรูหราและความเป็นอมตะที่ไม่มีวันเสื่อมคลาย ด้วยการออกแบบที่โดดเด่น วัสดุคุณภาพสูง และประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน กระเป๋า Chanel รุ่นคลาสสิกจึงเป็นสิ่งที่ทุกคนหมายปอง และควรค่าแก่การมีไว้ในครอบครอง เพราะไม่เพียงแต่เพื่อการเสริมสร้างสไตล์และบุคลิกภาพแล้ว มันยังเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในอนาคตอีกด้วย

Chanel รุ่นคลาสสิกไม่เพียงแต่เป็นเครื่องประดับที่งดงาม แต่ยังเป็นการลงทุนที่มีคุณค่า เนื่องจากมูลค่าของกระเป๋า Chanel มักจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามกาลเวลา ทำให้เป็นที่ต้องการของนักสะสมและผู้ที่รักแฟชั่น การลงทุนในกระเป๋า Chanel จึงเป็นการรักษาความมั่งคั่งในระยะยาว การออกแบบอันคลาสสิกและเป็นที่ต้องการอย่างต่อเนื่อง การลงทุนในกระเป๋า Chanel ไม่เพียงแต่เป็นการเพิ่มมูลค่าในทรัพย์สิน แต่ยังเป็นการครอบครองสินค้าที่มีความหรูหราและมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ที่สามารถส่งต่อรุ่นต่อรุ่นสืบไป

นับตั้งแต่ก่อตั้ง Chanel ในปี ค.ศ. 1910 แฟชั่นเฮาส์แห่งนี้ก็สามารถก้าวหน้า และยังคงรักษาตัวเองให้มีความเกี่ยวข้องในฐานะแบรนด์ที่เป็นที่ต้องการในอุตสาหกรรมแฟชั่น ชาแนลเป็นสัญลักษณ์ของพลัง และกระเป๋าของชาแนลก็เก๋ไก๋อย่างไม่น่าเชื่อและเข้าได้กับทุกชุด ไม่เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์ของความสวยงามเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นอิสระอีกด้วย

รัก
xoxo

KATE