To top
23 Mar

ประวัติ Proenza Schouler แบรนด์ของคนยุคใหม่

ประวัติ Proenza Schouler - หากพูดถึงแบรนด์ของคนรุ่นใหม่ ดีไซน์มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และเพิ่งก่อตั้งได้ไม่นาน แน่นอนว่า โพรเอนซา สคูลเลอร์ (Proenza Schouler) ก็คงจะเป็นหนึ่งในนั้น ในบทความนี้จะเล่าถึงเรื่องราว และ ประวัติ Proenza Schouler ที่มีจุดเริ่มต้นการทำวิทยานิพนธ์ จนนำไปสู่การสร้างแบรนด์จนเป็นรู้จักไปทั่วโลก โดยเฉพาะกระเป๋ารูปทรงคลาสสิก ที่เต็มไปด้วยความหรูหรา ดูดีมีสไตล์ และบ่งบอกถึงความเป็นตัวคุณ ...
Continue reading
19 Mar

Little Black Dress จากความโศกเศร้า สู่แฟชั่นชั้นสูงระดับโลก

Little Black Dress หรือที่สาว ๆ รู้จักกันดี ภายใต้ตัวย่อภาษาอังกฤษ 3 ตัว "LBD" ไอเท่มเสื้อผ้า ที่กลายเป็น Must-have-item เป็นชุดเก่งที่สาว ๆ ต้องมีติดตู้แทบจะทุกคน ชุดกระโปรงสีดำที่เปรียบเสมือนยาสามัญประจำบ้าน ที่มีประวัติศาสตร์เดินทางข้ามผ่านเวลามาอย่างยาวนาน จากความหมายของสีดำ อันเป็นตัวแทนของการไว้ทุกข์ จนถึงปัจจุบัน เป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นถึงความหมายของแฟชั่น ที่มิใช่เป็นเพียงเรื่องของเสื้อผ้า แต่มันยังเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงที่มา เศรษฐกิจ และการเมือง จากวันแรกที่ ตำนานของโลกแฟชั่น อย่าง Coco Chanel ได้ปลดแอกเสรีภาพในการแต่งกายให้กับสุภาพสตรีทั่วโลก สะบัดโครงสร้างเครื่องแต่งกายของสตรีในยุควิกตอเรียอันแสนจะเทอะทะ ไปสู่เสื้อผ้าที่เรียบง่าย ทะมัดทแมงและสวมใส่สบาย ซึ่งนั่น นับเป็นจุดเริ่มต้นของความเป็น "คลาสสิกพีซ" ของ LBD ซึ่งในวันนี้ เราจะพาทุกคน ย้อนกลับไป ถึงต้นกำเนิดของแฟชั่นในตำนานนี้ ก่อนวิวัฒนาการมาเป็นส่วนหนึ่งในโลกของแฟชั่นชั้นสูง ดั่งเช่นในปัจจุบัน The Power of BLACK สีดำ สีที่สามารถสื่อความหมายได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของความลึกลับ ความปรารถนา หรือแม้กระทั่งเป็นตัวแทนของความเศร้าโศก ในช่วง Middle aged หรือในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 5-15 ยุโรป ได้ประกาศให้การสวมใส่ชุดสีดำ เป็นการแสดงออกถึงการไว้ทุกข์ ซึ่งถือได้ว่าเป็นชาติแรก ๆ ที่มีค่านิยมนี้ แต่ไม่ได้รับความนิยมในวงกว้างเท่าใดนัก ด้วยความที่ชุดไว้ทุกข์ของคนในยุคนั้น ส่วนใหญ่ตัดเย็บขึ้นมาจากวัสดุราคาแพง จึงจำกัดค่านิยมเหล่านี้ เฉพาะชนชั้นสูงหรือกลุ่มคนร่ำรวยเท่านั้น Queen Victoria's Mourning outfit ในช่วงต้นศตวรรษที่ 16 สีดำ ได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความมั่งคั่งในหมู่ขุนนางชาวสเปนและเหล่าพ่อค้าชาวดัตช์ เนื่องจากวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตสีดำในสมัยนั้น ได้มาจากผลแอปเปิ้ลโอ๊คนำเข้า...
Continue reading
25 Feb

ประวัติ Mouawad แบรนด์นาฬิกาหรูหราและเครื่องประดับชั้นสูง

ประวัติ Mouawad คือแบรนด์จิวเวลรี่ อันมีประวัติยาวนาน มากว่า 130 ปี ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก แบรนด์เป็นที่รู้จักในฐานะผู้ผลิตนาฬิกาหรูหราประดับอัญมณี รวมถึงการผลิตอัญมณีชั้นสูง ในบทความนี้จะมาเผยถึงเรื่องราว ประวัติ Mouawad ที่มีจุดเริ่มต้นจากการเรียนรู้ด้านการทำนาฬิกา และอัญมณี จนก้าวเข้าสู่การบุกเบิก ในการเป็นผู้นำด้านเครื่องประดับ แบรนด์นั้นถูกบริหารงานโดยคนในตระกูล และปัจจุบันธุรกิจ ก็ถูกสืบทอดมาจนถึงทายาทรุ่นที่สี่  The History of Mouawad  เรื่องราวที่ไม่ธรรมดาของแบรนด์ โมอาวาร์ด (Mouawad) ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อ David Mouawad ออกเดินทางจาก เลบานอน สถานที่ อันเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของเขา ในปี ค.ศ. 1890 เพื่อไปเรียนรู้งานฝีมือด้านช่างทำนาฬิกา ช่างทอง และช่างอัญมณี ที่นิวยอร์กและเม็กซิโก โดยเขาใช้เวลาในการเรียนรู้สิ่งเหล่านั้นเป็นเวลานานกว่าสองทศวรรษ ด้วยความตั้งใจที่จะเป็นผู้บุกเบิกด้านเครื่องประดับ เขาจึงเดินทางกลับไปเปิดเวิร์คช็อปแห่งแรกของ Mouawad ในปี ค.ศ. 1908 ณ บ้านเกิดของเขาเอง  ร้านแห่งแรกตั้งอยู่ในเมือง Beirut (เบรุต) เมืองหลวงของประเทศเลบานอน โดยประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการขายนาฬิกา การซ่อมแซมเครื่องประดับ ในทุก ๆ วัน เดวิด โมอาวาร์ด นั้นมีความหลงใหลในงานที่ตัวเองทำเพิ่มมากขึ้น บวกกับความชำนาญและประสบการณ์ที่เขาได้เก็บเกี่ยวสะสมมา ทำให้เขาเกิดแนวคิด ในการสร้างสรรค์นาฬิกาสำหรับลูกค้าที่ร่ำรวยของ Mouawad  ซึ่งนาฬิกาแต่ละเรือนนั้นเต็มไปด้วยความงดงาม ความซับซ้อน ซึ่งเป็นสไตล์ที่แตกต่าง ไม่เหมือนใคร  ต่อมาในปี ค.ศ. 1950 Fayez Mouawad ลูกชายของ David Mouawad ได้ขยายธุรกิจไปยังแถบตะวันออกกลาง และได้ย้ายสาขาไปอยู่ที่ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเขาเป็นนักอัญมณีรายแรก ๆ ที่เข้าไปค้าขายในแถบนี้ ผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้กับเขา นั่นก็คือ การนำเอาอัญมณีล้ำค่ามาประดับไว้บนนาฬิกา จากพรสวรรค์ข้อนี้ของเขาดึงดูดลูกค้าที่เป็นเหล่าบุคคลชั้นสูงของซาอุดิอาระเบีย และในไม่ช้าผลงานอันโดดเด่นของเขาก็เป็นที่นิยมอย่างเป็นวงกว้าง จนกลายมาเป็นเครือข่ายของกลุ่มลูกค้าที่ร่ำรวยไปในที่สุด มาถึงทายาทรุ่นที่สามของแบรนด์คือ Robert Mouawad ลูกชายของ Fayez Mouawad ได้นำแบรนด์ Mouawad เข้าสู่ตลาดยุโรปและขยายกิจการไปทั่วโลก ในตอนแรกนั้น Robert Mouawad เริ่มเข้ามามีบทบาทในองค์กร ด้วยการเป็นพนักงานขายให้กับแบรนด์ Mouawad เพื่อเรียนรู้ธุรกิจ จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1970 เขาได้เข้ารับตำแหน่งประธานต่อจากพ่อของเขา ซึ่ง Robert Mouawad ได้ทำการย้ายสำนักงานใหญ่ไปที่เจนีวาประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และเริ่มผลิตนาฬิกาในช่วงต้นทศวรรษ 1990 โดยใช้ชื่อว่า Robergé  ในปี ค.ศ. 2010 Robert Mouawad ออกจากบริษัท เพื่อมุ่งเน้นไปที่การบริหารงานกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ มูลนิธิ Robert Mouawad และรวมไปถึงพิพิธภัณฑ์ของเขาด้วย Robert Mouawad เกษียณอายุการทำงานอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 มกราคม ปี ค.ศ. 2010 และหลังจากนั้น บริษัท ก็ถูกกุมบังเหียนโดยลูกชายทั้งสามคนของเขา คือ  Fred Mouawad และ Pascal Mouawad และ Alain Mouawad ที่มาเข้าร่วมเป็นหัวหน้าแผนกนาฬิกาตั้งแต่เดือนมกราคม ปี ค.ศ. 2013 เป็นต้นมา อีกทั้งแบรนด์ได้รับเลือกให้เป็นผู้ออกแบบ Fantasy Bra ที่เป็นส่วนสำคัญสำหรับ Victoria’s Secret ซึ่งโชว์นี้เป็นที่รอคอยของผู้คนไปทั่วโลก นอกจากนี้ในปี ค.ศ. 2019 Mouawad ยังเป็นแบรนด์เครื่องประดับที่ได้รับเลือก ให้เป็นผู้สนับสนุนหลักในการประกวดมิสยูนิเวิร์ส โดยทางแบรนด์ได้ทำการออกแบบมงกุฏ “Power of Unity” ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นมงกุฏนางงามที่แพงที่สุดในโลก ซึ่งมีมูลค่ากว่า 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว ๆ 150 ล้านบาท  ลูกค้าของ Mouawad นั้นมีมากมายนับตั้งแต่เซเลบริตี้ ไปจนถึงชนชั้นราชวงศ์ แบรนด์มีฐานผลิตใหญ่อยู่สามแห่งคือ ประเทศซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอีกแห่งหนึ่งก็คือ ประเทศไทย นั่นเป็นเพราะไทยคือศูนย์กลางอุตสาหกรรมอัญมณีแห่งเอเชีย ด้วยความชำนาญ ความเชี่ยวชาญทางด้านการขึ้นแบบ การประกอบเครื่องประดับอัญมณี อีกทั้งประเทศไทยยังมีชื่อเสียงในด้านการเจียระไนพลอยที่เป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก ...
Continue reading
23 Feb

ประวัติ David Yurman กับที่มาของกำไล Cable Classic

ประวัติ David Yurman แบรนด์เครื่องประดับสัญชาติอเมริกัน เป็นที่รู้จักในวงการเครื่องประดับระดับนานาชาติ โดยมีสินค้าที่เป็นที่นิยมและเป็นที่รู้จักมากที่สุด ก็คือ กำไล Cable Classic ในบทความนี้เราจะพาคุณย้อนไปศึกษา ถึงเรื่องราวของ David Yurman (เดวิด เยอร์แมน) ศิลปินมากความสามารถ ที่มีความหลงใหลในงานด้านการออกแบบ จนนำไปสู่การเป็นนักออกแบบเครื่องประดับยอดนิยมและเป็นที่รักของวงการแฟชั่นจนถึงปัจจุบัน The History of David Yurman เรื่องราวของแบรนด์ เดวิด เยอร์แมน (David Yurman) ก่อตั้งโดยนักออกแบบเครื่องประดับชาวอเมริกันนามว่า  เดวิด เยอร์แมน (David Yurman) เขาเกิดที่ Long Island เกาะที่มีประชากรอาศัยอยู่อย่างเหนียวแน่น ทางตะวันออกเฉียงใต้ของมหานคร New York เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ค.ศ. 1942 ในช่วงที่เขากำลังศึกษาในระดับมัธยมปลายเขา ได้ออกแบบผลงานประติมากรรม คือรูปปั้นขนาดเล็กออกมาวางขายในโรงอาหารที่โรงเรียน ความสนใจในงานศิลปะของเขาเปรียบเสมือนการจุดประกายของแบรนด์ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา สิ่งที่ช่วยเน้นย้ำ ให้ความสนใจทางด้านศิลปะของเขาเพิ่มมากขึ้น นั่นคือ การเดินทางไปยัง โพรวินซ์ทาวน์รัฐแมสซาชูเซตส์ (Provincetown, Massachusetts) ที่นั่นเขาได้พบกับ เออร์เนสโต กอนซาเลส (Ernesto Gonzales) ศิลปินชาวคิวบาที่มีฝีมือทางด้านงานปั้น และงานเชื่อม นามว่า เออร์เนสโต กอนซาเลส ซึ่งเขาได้สอนเทคนิคการเชื่อม การหลอมโลหะ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เดวิด เยอร์แมน จึงเริ่มทดลองออกแบบสร้างเครื่องประดับโลหะของตัวเองขึ้น หลังจากจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เดวิด เยอร์แมน ได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก (New York University) ในช่วงสั้น ๆ และได้ลาออก หลังจากนั้นเขาก็ได้เดินทางไปที่แคลิฟอร์เนีย...
Continue reading
28 Jan

ประวัติ Van Cleef & Arpels อัญมณีของสุภาพสตรีชั้นสูง

vancleef-&-arpels
ประวัติ Van Cleef & Arpels - ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เพชรและอัญมณี คือสิ่งที่อยู่คู่กับผู้หญิงมาในทุกยุคทุกสมัย เครื่องประดับอัญมณีที่มีชื่อเสียง และเป็นที่รู้จักในหมู่สุภาพสตรี ชนชั้นสูงมายาวนานนับศตวรรษ คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก แวน คลีฟ แอนด์ อาร์เปลส์ (Van Cleef & Arpels) แบรนด์เครื่องประดับเก่าแก่ ที่มีอายุกว่า 124 ปี เรื่องราวของ Van Cleef & Arpels นั้นเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความรักและโรแมนติก ในวันนี้ เราจะพาทุกท่าน ย้อนเวลากลับไปสัมผัสกับกลิ่นอายความคลาสสิก เรื่องราวของอัญมณีชั้นสูงจากฝรั่งเศส แบรนด์นี้ไปพร้อม ๆ กัน The History of Van Cleef & Arpels  อัลเฟรด แวน คลีฟ (Alfred Van Cleef) และ เอสเทล อาร์เปลส (Estelle Arpels) แวน คลีฟ แอนด์ อาร์เปลส์ Van Cleef & Arpels เป็นบริษัทเครื่องประดับหรูหรา นาฬิกา และน้ำหอม ของฝรั่งเศส ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1896 เรื่องราวของแบรนด์เริ่มต้นขึ้นจากความรักของคู่หนุ่มสาว นามว่า เอสเทล อาร์เปลส (Estelle Arpels) ลูกสาวของพ่อค้าอัญมณี ซาโลมอน อาร์เปลส (Salomon Arpels) ซึ่งได้แต่งงานกับ อัลเฟรด แวน คลีฟ (Alfred Van Cleef) ลูกชายช่างทำเครื่องประดับ  ความหลงใหลในการทำเครื่องประดับของทั้งสองครอบครัว เป็นจุดเริ่มต้นของการเปิดร้านที่ Place Vendôme สถานที่อันมีชื่อเสียงในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดย แวน คลีฟ แอนด์ อาร์เปลส มีความเชี่ยวชาญในด้านการจัดหาอัญมณีที่หายาก ไปจนถึงการทำเครื่องประดับ และนาฬิกา ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักในตลาดสินค้าหรูหรา โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่มีชื่อเสียง  ในปี ค.ศ. 1954 ทางแบรนด์ ได้ทำการเปิดตัวคอลเล็กชั่นเครื่องประดับรูปสัตว์ต่าง ๆ โดยใช้ชื่อว่า La Boutique โดยผลงานที่เป็นที่ชื่นชอบและถูกกล่าวถึงมากที่สุดมีด้วยกันสองชิ้น คือ เครื่องประดับรูปสุนัขนั่งที่ทำจากลวดทองขัดเงา มาพร้อมดวงตาสีเขียวนิล และจมูกสีดำนิล และเครื่องประดับรูปกระต่าย ที่ถูกสร้างขึ้นจากทองคำ 18 K อันมีดวงตาสีมรกตประดับด้วยเพชรเม็ดเดี่ยวทรงกลม พร้อมทั้งจมูกที่ทำจากทับทิม   เครื่องประดับส่วนใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1957 จะมีรูปทรงเป็นดอกไม้ โดยเฉพาะดอก Camellia (คาร์มิเลีย) อันเป็นชิ้นงานสุดแสนโรแมนติกของ Van Cleef & Arpels ซึ่งประกอบไปด้วยเพชรเจียระไนทรงกลมเรียงสลับกันกับแซฟไฟร์ เครื่องประดับชุดดอก Camellia นี้ประกอบไปด้วยเข็มกลัด และต่างหู ที่เข้ากันได้ดี โดยตัวเข็มกลัดนั้นมีน้ำหนักเพชรรวมแล้วประมาณ 10 กะรัต ซึ่งด้านหลังนั้นมีสัญลักษณ์ Van Cleef & Arpels N.Y. 40223 ปรากฏอยู่    Van Cleef &...
Continue reading
16 Jan

ประวัติ Piaget กว่า 140 ปี ความงามของเครื่องบอกเวลาชั้นสูง

ประวัติ piaget
ประวัติ Piaget - หากกล่าวถึงนาฬิกาที่ได้รับการนิยมในระดับสากล ก็คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากนาฬิกาสัญชาติสวิส ซึ่งนาฬิกาที่ประทับตรา Swiss Made นั้นเป็นเครื่องการันตีถึงคุณภาพที่ทั้งโลกให้การยอมรับ Piaget แบรนด์ที่ขึ้นชื่อในเรื่องความสง่างามของอัญมณีชั้นสูง ทั้งยังมีชื่อเสียงในด้านการออกแบบนาฬิกาหรูหราที่มีรูปลักษณ์เพรียวบาง โดดเด่นด้วยกลไกที่บางเฉียบ และเรื่องราวความน่าสนใจ รวมถึง ประวัติ Piaget ที่มีอายุยาวนานกว่า 140 ปี จะถูกเปิดเผยในบทความนี้   The History of Piaget จุดเริ่มต้นของนาฬิกา Piaget (เพียเจต์) เกิดขึ้นที่หมู่บ้านเล็ก ๆ ใน La Côte-aux-Fées บนเทือกเขา Jura ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ จอร์ช - เอดูอาร์ด เพียเจต์ (Georges-Édouard Piaget) ผู้หลงใหลในการผลิตนาฬิกาตั้งแต่วัยเยาว์ ได้จัดตั้งเวิร์กชอปการผลิตนาฬิกาขึ้นในฟาร์มของครอบครัวในปี ค.ศ. 1874 ในขณะที่มีอายุเพียง 19 ปีเท่านั้น เขาได้ทุ่มเทให้กับการสร้างกลไกนาฬิกาที่มีความแม่นยำสูง โดยเขามีคติที่ใช้ผลักดันการทำงานของตัวเองว่า "Always do better than necessary" หรือมีความหมายว่า ทำให้ดีกว่าเสมอ ในปี ค.ศ. 1910 ธุรกิจของครอบครัวกำลังเฟื่องฟูโดยทุกคนได้ทำงานร่วมกันเพื่อสืบสานมรดกตกทอดของ จอร์ช - เอดูอาร์ด เพียเจต์ และลูกชายของเขา ทิโมธี เพียเจต์ (Timothée Piaget) บุคคลสำคัญที่เป็นแรงขับเคลื่อนให้ธุรกิจพัฒนา จากการเป็นผู้ผลิตกลไกนาฬิกา กลายมาเป็นผู้ผลิตนาฬิกาพกและนาฬิกาข้อมือหรูหรา จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1943 เพียเจต์ ได้รับการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า และได้มีการขยายไลน์การผลิตที่ใหญ่ขึ้นใหม่ที่ La Côte-aux-Fées ทายาทรุ่นที่สามของตระกูล Gérald...
Continue reading
14 Jan

KAWS คือ ศิลปะกราฟฟิตี้ที่ก้าวเข้าสู่แฟชั่นแนวสตรีท

KAWS คือ ตัวการ์ตูนคาแรกเตอร์ประหลาด ๆ ที่มีความโดดเด่นตรงสัญลักษณ์กากบาท (X X) ที่ดวงตา และส่วนหัวที่เป็นรูปกะโหลก แน่นอนว่ามองปราดเดียวก็รู้ได้ว่า มันคือผลงานการออกแบบของ ควอส์  (Kaws) ซึ่งเป็นนามแฝงของศิลปินและดีไซเนอร์ชาวอเมริกัน ไบรอัน โดเนลลี (Brian Donnelly) ซึ่งผลงานของเขามีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเป็นศิลปะสไตล์ Street Art และการออกแบบสไตล์ Street Fashion ที่ดึงดูดความสนใจจากผู้คนไปทั่วโลก ...
Continue reading
12 Jan

Tory Burch อ่านว่า อย่างไร ? ถึงจะไม่โป๊ะ

แบรนด์แฟชั่นส่วนใหญ่ที่มาจากต่างประเทศนั้นมักจะถูกอ่านชื่อแบรนด์ผิด หรือออกเสียงไม่ตรงตามต้นฉบับของภาษานั้น ๆ และ Tory Burch เองก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่คนส่วนใหญ่ มักจะออกเสียงชื่อแบรนด์ไม่ถูกต้อง การอ่านออกเสียงที่ถูกต้องจริง ๆ แล้ว คือ Tory Burch อ่านว่า ทอรี่ – เบิร์ซ และในบทความนี้เราจะกล่าวถึงประวัติของ Tory Burch ที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในนิวยอร์ก ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 2004 เพื่อทำความรู้จักกับแบรนด์แฟชั่นสัญชาติอเมริกันแบรนด์นี้ มากยิ่งขึ้น...
Continue reading
9 Jan

Coach Thailand ร้านบูติกของแบรนด์สัญชาติอเมริกัน

coach
Coach Thailand - หากพูดถึงกระเป๋าสำหรับสุภาพสตรี ที่มีราคาตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหมื่นต้น ๆ แน่นอนว่า จะต้องมีกระเป๋าจากแบรนด์ Coach (โค้ช) อยู่ในลิสต์อย่างแน่นอน ในปัจจุบันโค้ชนั้นมีช่องทางการจำหน่ายสินค้าหลากหลายช่องทางไม่ว่าจะเป็นแบบออนไลน์ หรือจำหน่ายในร้านบูติก และสำหรับประเทศไทยนั้นมีร้าน Coach Thailand อยู่ด้วยกันถึง 21 สาขา  ในบทความนี้ เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จัก กับเรื่องราวประวัติของแบรนด์ที่ยืนหยัดมานานกว่า 79 ปี จากธุรกิจเล็ก ๆ สู่แบรนด์ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก The History of Coach โค้ช (Coach) ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1941 ที่ Manhattan ในมหานครนิวยอร์ก ซึ่งเริ่มแรกนั้นเป็นเพียงธุรกิจครอบครัวที่ทำสินค้าเกี่ยวกับเครื่องหนัง ภายใต้ชื่อ "Gail Manufacturing Company" โดยมีช่างฝีมือเครื่องหนังเพียงหกคนเท่านั้น ซึ่งสินค้าแต่ละชิ้นนั้นทำขึ้นด้วยมือทั้งหมด ต่อมา ไมล์ส คาห์น (Miles Cahn) เจ้าของโรงงานผลิตเครื่องหนังแห่งหนึ่ง ต้องการเอากระเป๋าสตางค์ไปซ่อม เขาจึงเดินทางไปหาพ่อซึ่งทำงานเป็นช่างเครื่องหนังให้กับแบรนด์โค้ช ซึ่งนั่นทำให้เขามีโอกาสมาเยือนโรงงานแห่งนี้เป็นประจำ และรู้สึกผูกพันกับสถานที่แห่งนี้ จนในที่สุด ไมล์ส คาห์น ก็ตัดสินใจเข้ามาทำงานที่โค้ชเมื่อปี ค.ศ. 1946 พร้อมกับภรรยาของเขา ลิลเลียน คาห์น (Lillian Cahn) เมื่อเข้ามาทำงานที่โค้ช ไมล์ส คาห์น ได้สังเกตเห็นคุณสมบัติที่โดดเด่นของหนังที่ใช้ทำถุงมือเบสบอล ที่ผ่านการใช้งานจนสึกหรอจะทำให้หนังนั้นนุ่มขึ้น เขาจึงพยายามจะเลียนแบบกระบวนการสึกหรอของหนังชนิดนี้ โดยใช้วิธีการแปรรูปหนังเพื่อให้หนังมีความแข็งแรงและยืดหยุ่นมากขึ้น ไมล์ส คาห์น จึงเริ่มผลิตกระเป๋าถือสำหรับผู้หญิง ซึ่งได้รับความนิยมในทันที ไม่นานหลังจากที่เขามาทำงานที่โค้ชและเริ่มเชี่ยวชาญในเรื่องของเครื่องหนัง เขาและภรรยาก็ได้ตัดสินใจซื้อกิจการเป็นของตัวเองในปี ค.ศ. 1961 ในปีเดียวกันนั้นเอง โค้ชได้ว่าจ้างนักออกแบบชาวอเมริกัน...
Continue reading
21 Dec

ประวัติ Paul Smith – แบรนด์แฟชั่นคลาสสิกจากอังกฤษ

หากจะกล่าวถึงแฟชั่นเครื่องแต่งกายสำหรับสุภาพบุรษ หลาย ๆ คนอาจจะนึกถึงแบรนด์ Paul Smith (พอล สมิธ) ดีไซน์เนอร์คนดังจากเมืองผู้ดีอังกฤษ ที่มีชื่อเสียงในวงการออกแบบแฟชั่นเสื้อผ้าสำหรับผู้ชาย ผสมผสานสีสัน ความทันสมัย โดยเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของแบรนด์นี้คือ เส้นลายทางหลากสี อันเป็นตัวแทนของความสนุกสนาน ซึ่งถูกแฝงไว้ในการตัดเย็บอันคงความคลาสสิก เราได้รวบรวมเอาเรื่องราวที่น่าสนใจ และ ประวัติ Paul Smith แบรนด์แฟชั่นระดับโลกที่มีอายุกว่า 5 ทศวรรษ   The History of Paul Smith ประวัติ Paul Smith (พอล สมิธ) แบรนด์ถูกก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1970 โดย เซอร์ พอล ไบรเออร์ลีย์ สมิธ (Sir Paul Brierley Smith CH CBE RDI) หรือที่รู้จักกันในชื่อ พอล สมิธ เขาเกิดเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ปี ค.ศ. 1946 ที่เมืองน็อตติงแฮม ประเทศอังกฤษ เมื่ออายุได้ 15 ปี เขาได้ไปทำงานในโกดังเสื้อผ้าในน็อตติงแฮม ความใฝ่ฝันของเขาในขณะนั้นคือการเป็นนักปั่นจักรยาน โดยเขาเดินทางไปทำงานและกลับบ้านด้วยจักรยานในทุกวัน แต่เส้นทางความฝันเขาก็ต้องเปลี่ยนไป เมื่อเขาได้รับประสบอุบัติเหตุจากการขี่จักรยานตอนอายุได้ 17 ปี  หลังจากที่ พอล สมิธ ประสบอุบัติเหตุเขาได้พักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลนานกว่า 6 เดือน ซึ่งตลอดช่วงระยะเวลานั้น พอลลีน (Pauline) เพื่อนของเขาได้กลายมาเป็นแรงบันดาลใจให้ พอล สมิธ ก้าวเข้าสู่โลกของศิลปะและแฟชั่น...
Continue reading
23 Nov

ประวัติ MCM แบรนด์ยอดฮิตของคนเอเชีย

ถ้าหากพูดถึงแบรนด์กระเป๋า และเครื่องหนังยอดฮิตที่ดาราเกาหลีนิยมใช้ หลาย ๆ คนก็คงนึกถึงแบรนด์ MCM อย่างแน่นอน และคนส่วนใหญ่มักจะคิดว่า MCM เป็นแบรนด์ที่ก่อตั้งโดยคนเกาหลี แต่จริง ๆ แล้ว ประวัติ MCM เริ่มขึ้นที่มิวนิก ประเทศเยอรมนีเมื่อกว่า 40 ปีที่แล้ว ด้วยเฉดสีคอนยัค (Cognac) ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร และลวดลายโมโนแกรม Visetos (วิเซโต้) ทำให้แบรนด์กลายเป็นที่จดจำจนได้รับความนิยมจากคนทั่วทั้งเอเชียละยุโรป!   The History of MCM ประวัติ MCM นั้นเริ่มจากแบรนด์เครื่องหนังหรูหราสัญชาติเยอรมัน MCM ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1977 ที่มิวนิกในเยอรมนี ผู้ก่อตั้งแบรนด์คือ ไมเคิล โครเมอร์ (Michael Cromer) เขาเกิดเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ค.ศ. 1939 ที่เมืองเครเฟลด์ ประเทศเยอรมนี โดย ไมเคิล โครเมอร์ และภรรยาของเขาได้ร่วมกันเปิดร้านเสริมสวยโดยใช้ชื่อว่า  Modern Coiffeur München ด้วยความที่เขาเป็นดาราทำให้เพื่อน ๆ ในวงการแวะเวียนมาใช้บริการร้านเสริมสวยอยู่เป็นประจำ ในปี ค.ศ. 1975 เขาและภรรยาได้สร้างชุดกระเป๋าเครื่องสำอางสีขาวที่มีโลโก้ MCM ไว้มอบให้สำหรับลูกค้าที่มาใช้บริการร้านเสริมสวย ซึ่งในปีเดียวกันนั้นเองที่ ไมเคิล โครเมอร์ ได้ไปถ่ายทำภาพยนต์ที่อิตาลี เขาสังเกตเห็นว่าพนักงานบริการของโรงแรมจะดูแลลูกค้าที่ใช้กระเป๋าเดินทางจากแบรนด์ Louis Vuitton เป็นพิเศษ นั่นทำให้เขามีความคิดที่จะสร้างกระเป๋าเดินทางของภายใต้แบรนด์ตัวเองขึ้นมา ไมเคิล โครเมอร์ ร่วมมือกับผู้ผลิตกระเป๋าเดินทาง เพื่อออกแบบและสร้างกระเป๋าเดินทางสีคอนยัค (Cognac) ซึ่งเขาเรียกว่า Visetos มาพร้อมกับโลโก้ MCM...
Continue reading
21 Sep

Boyy แบรนด์หรูฝีมือคนไทยที่ดังไกลระดับโลก

วงการแฟชั่นของเมืองไทยเฟื่องฟูมาอย่างต่อเนื่อง แต่มีเพียงไม่กี่แบรนด์จากประเทศไทยที่ก้าวสู่แบรนด์แฟชั่นชั้นนำระดับโลกได้อย่าง Boyy (บอย) แบรนด์ฝีมือคนไทยได้เป็นที่รู้จัก และเป็นที่นิยมไปทั่วโลกจนสามารถเทียบกับแบรนด์ชั้นนำอื่น ๆ ได้ แม้ว่าแบรนด์จะเพิ่งก่อตั้งได้ไม่นานนัก แต่ด้วยดีไซน์สไตล์สตรีทที่โดดเด่นและเติบโตมาท่ามกลางกระแสที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ได้รับความนิยมมากที่สุดเท่าที่ดีไซเนอร์ของเมืองไทยเคยทำมา The History of Boyy  บอย (Boyy) ก่อตั้งขึ้นใน ปี ค.ศ. 2006 โดย คุณบอย วรรณศิริ คงมั่น (Wannasiri Kongman) และเจสซี่ ดอร์ซีย์ (Jesse Dorsey) ซึ่งตัวเธอเองเธอเป็นคนไทยที่ไปใช้ชีวิตที่นิวยอร์ก โดยไปเรียนภาษาและทำงานในร้านอาหาร จุดเริ่มต้นของการสร้างแบรนด์ คือ ความรัก ความชื่นชอบ และความหลงใหลในกระเป๋า เธอเป็นคนที่รอบรู้เรื่องกระเป๋า และเธอยังชอบมองดูพฤติกรรมของผู้คนที่เดินบนถนน เพื่อดูว่าแต่ละคนจะสะพายกระเป๋าแบบใดอีกด้วย นอกจากจะทำงานแล้ว เธอยังไปเรียนภาคค่ำที่สถาบัน FIT (Fashion Institute of Technology) ในขณะที่คุณบอยกำลังศึกษาอยู่นั้น เธอก็ได้พบกับ เจสซี่ ดอร์ซีย์ (Jesse Dorsey) ซึ่งต่อมาได้กลายมาเป็นคู่ชีวิตของเธอ ต่อมาเขาก็ได้เป็นหุ้นส่วนคนสำคัญของคุณบอย ซึ่งคุณรู้หรือไม่ว่า ที่ผ่านมาคุณบอยได้ทำกระเป๋าขึ้นมาใช้เอง เพราะกระเป๋าแบรนด์ดังในท้องตลาดมีราคาแพงมาก เจสซี่ ดอร์ซีย์จึงได้ผลักดันให้เธอออกมาทำกระเป๋าเป็นของตัวเอง! เรื่องราวของความสำเร็จของคุณบอย คือ "การสร้างสรรค์ที่เกิดจากความหลงใหล" ซึ่งเริ่มขึ้นในนิวยอร์กสู่กรุงเทพมหานคร การขับเคลื่อนอย่างไม่หยุดหย่อน และความมุ่งมั่นของทั้งคู่ ทำให้กระเป๋าคอลเล็กชั่นแรกได้เกิดขึ้น ซึ่งเป็นกระเป๋าแบบเดียวที่มีสองขนาด และมีทั้งหมดสามสี ทั้งหมดนี้ถูกแสดงอยู่ที่ห้องครัวในอพาร์ทเมนต์ของ เจสซี่ ดอร์ซีย์ ในใจกลางเมืองนิวยอร์ก โดยมีผู้ซื้อ และผู้จัดจำหน่ายค้าส่งจากญี่ปุ่นได้ไปเยี่ยมชม ซึ่งทั้งคู่ยังได้นำเสนอกระเป๋าไปยังร้านค้า ๆ ในเมืองแบบ door-to-door อีกด้วย ทั้งบอยและเจสซี่ ได้รับโอกาสในการแสดงผลงานออกแบบให้กับบรรณาธิการของนิตยาสาร Visionaire Magazine นอกจากนี้ การออกแบบของ บอย ยังสะดุดตาผู้ก่อตั้งและครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ของ Colette Concept Store นั่นก็คือ ซาราห์ แอนเดลแมน (Sarah Andelmen) ซึ่งสั่งซื้อสินค้าในช่วงแรก ๆ หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็ได้เซ็นสัญญากับ สตีเวน อลัน (Steven Alan) นักออกแบบแฟชั่นชาวอเมริกัน นั่นทำให้กระเป๋าของพวกเขาถูกนำแสดงในโชว์รูมที่แมนฮัตตัน บอยและเจสซี่ ได้จัดหาวัสดุ และฮาร์ดแวร์จากโรงงานในอิตาลี การย้ายไปมิลานดูเหมือนจะเป็นก้าวไปในทิศทางที่ถูกต้อง ทั้งสองคนยังเชิญ พอล ปารวัฒน์ วราทิพย์ มาเป็นกรรมการผู้จัดการคนใหม่ ซึ่งจะทำหน้าที่ดูแลการดำเนินงานทั้งหมดในขณะที่ทั้งสองมุ่งเน้นไปที่การขยายธุรกิจ ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับการเจาะลึกไปที่แว่นตารวมถึงเครื่องประดับ และสินค้าอื่น ๆ ทั้งคู่ยังมีแผนที่จะเปิดร้านบูติกในฮ่องกงและตะวันออกกลางอีกด้วย นับว่าเป็นความสำเร็จที่น่าทึ่งของดีไซเนอร์ชาวไทยอย่าง วรรณศิริ คงมั่น ที่เริ่มต้นการสร้างสรรผลงานการออกแบบด้วยความหลงใหล และเธอเองก็มีความรู้ในเรื่องของกระเป๋า ด้วยความมุ่งมั่นบวกกับมีแรงผลักดัน ทำให้เธอได้สร้างกระเป๋า Boyy...
Continue reading