To top
2 Mar

15 Bestselling Watches จัดอันดับนาฬิกาหรูขายดีทั่วโลก

15 Bestselling Watches – นาฬิกาข้อมือถือได้ว่าเป็นสินค้าชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมและมีการซื้อขายมากที่สุดของโลก สำหรับบางคน นาฬิกาข้อมือไม่ได้เป็นเพียงเครื่องบ่งบอกเวลาเท่านั้น แต่มันยังคงเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงความมั่งคั่งและรสนิยมของผู้ที่สวมใส่อีกด้วย เมื่อตลาดซื้อขายนาฬิกาเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ รวมถึงมีศักยภาพด้านการซื้อ-ขาย เหล่าบริษัทผู้ผลิตนาฬิกาจึงต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อทำการโปรโมตสินค้าของตน หนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ การใช้บุคคลมีชื่อเสียงในสังคม เป็นเสมือนตัวช่วยในการโฆษณา

จากรายงานยอดขายนาฬิกาทั่วโลกในปี ค.ศ. 2015 เราได้รวบรวมรายชื่อนาฬิกา ที่ขึ้นชื่อว่าขายดีที่สุด 15 อันดับแรกของโลก ซึ่งแน่นอนว่า ยังไม่มีรายงานยอดขายอย่างเป็นทางการจากทางผู้ผลิตนาฬิกา แต่ข้อมูลเหล่านี้ เราได้มาจากการประมาณโดยอิงตามสถิติการซื้อ-ขายของนาฬิกาแต่ละแบรนด์ รายได้และความนิยม โดยจะมีรุ่นอะไรบ้างนั้น ร่วมนับถอยหลังไปพร้อมกัน

 

อันดับที่ 15 Audemars Piguet Royal Oak Offshore Lady

เซเรน่า วิลเลียมส์ (Serena Williams) อาจจะสูญเสียตำแหน่งมือหนึ่งของโลก แต่ฟอร์มการเล่นเธอก็ยังคงอยู่ในอันดับต้น ๆ เสมอ อ้างอิงจากบทความนาฬิกาสุดหรูที่นักเทนนิสเลือกใส่ในการแข่งขัน ซึ่งทำให้เราได้รู้ว่าสนามแข่งขันเทนนิสนั้น เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ ที่เหมาะสมแก่การทำโฆษณาเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้น นาฬิกาแบรนด์หรูอย่าง Audemars Piguet (โอเดอมาร์ส ปิเก้ต์) จึงเลือกให้เธอเป็นหนึ่งใน Brand ambassadors  ของแบรนด์

ในการแข่งขันของเธอโดยส่วนใหญ่ เธอจะสวมใส่นาฬิกาข้อมือรุ่นพิเศษ ซึ่งมีชื่อรุ่นว่า  “Audemars Piguet Royal Oak Offshore Lady” นั่นเป็นการโปรโมทนาฬิกาอันชาญฉลาด ที่การโฆษณาเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่หยุดยั้งเป็นเวลา 1-4 ชั่วโมงตลอดการแข่งขัน

ต้องขอบคุณกลยุทธ์ด้านการตลาดนี้ Audemars Piguet ได้มีส่วนร่วม 1.7% ของส่วนแบ่งการตลาดทั่วโลกในบรรดาผู้ผลิตนาฬิกาทุกราย สมมติว่ายอดขายนาฬิกาทั่วโลกรวมอยู่ที่ 1.2 พันล้านชิ้นตามที่ StatsBrain.com รายงาน ก็เท่ากับว่า Audemars Piguet ขายนาฬิกาได้ประมาณ 20.5 ล้านเรือนในหนึ่งปีเลยทีเดียว

Audemars Piguet Royal Oak Offshore Lady

AUDEMARS PIGUET 67540OK-ZZ-A010CA-01 ROYAL OAK OFFSHORE LADY

Audemars Piguet Royal Oak Offshore Lady มีราคาขายอยู่ที่ $38,495 หรือประมาณ 1,198,000 บาท นาฬิกาโครโนกราฟอันซับซ้อนนี้ มีความสามารถในการกันน้ำได้ลึกสูงสุดถึง 50 เมตร มาพร้อมกับตัวเรือนที่ทำจากทองคำขาว 18K ขัดเงา นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับคุณสมบัติมากมายและความหรูหรา ยกตัวอย่างเช่น กรอบหน้าปัดที่ล้อมรอบไปด้วยเพชรคุณภาพสูงทั้งหมด 32 เม็ด น้ำหนักรวมทั้งหมด 1.25 กะรัต

 

อันดับที่ 14 TAG Heuer Formula 1

อีกหนึ่ง Platform การโฆษณาที่ยอดเยี่ยมอีกแหล่งหนึ่งก็ คือ การแข่งขันกีฬาที่มีราคาแพงที่สุดในโลก อย่างการแข่งขันรถ Formula 1 Gran Prix โดย TAG Heuer (แทค ฮอยเออร์) ไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการให้กับนักแข่งรถ Formula 1 เท่านั้น แต่แบรนด์นาฬิกาสุดหรูนี้ ยังเป็นผู้สนับสนุนหลักให้กับหนึ่งในทีมแข่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดอย่างทีม “Red Bull Racing”

TAG Heuer Formula 1

TAG Heuer Formula 1

ไม่ต้องสืบให้มากความเลยว่าที่มาชื่อนาฬิกานั้น มาจากอะไร โดยส่วนมากนาฬิการุ่นพิเศษจะถูกตั้งตามชื่อของรายการกีฬานั้น ๆ รวมถึงรุ่น TAG Heuer Formula 1 นี้เช่นกัน อีกทั้งนาฬิการุ่นนี้ยังมีรุ่นที่ผลิตมาเพื่อคุณผู้หญิงโดยเฉพาะอีกด้วย ซึ่งได้ มาเรีย ชาราโปวา (Maria Sharapova) นักเทนนิสอาชีพหญิงผู้มีชื่อเสียงโด่งดังเป็น Brand Ambassadors มาพร้อมกับค่าตัวเริ่มต้นที่ $2,050 หรือประมาณ 63,000 บาท

TAG Heuer Formula 1 มาเรีย ชาราโปวา (Maria Sharapova)

สำหรับนาฬิการุ่นนี้ ได้รับการออกแบบมากถึง 52 สไตล์ แต่ละแบบได้รับการดีไซน์ ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ที่ชอบความเร็วอันแสนท้าทาย ทั้งในและนอกสนามแข่ง ถึงแม้ตัวเรือนจะถูกออกแบบให้มีความแข็งแรงและเหมาะกับนักกีฬามืออาชีพโดยเฉพาะ แต่ก็ให้ความสะดวกสบายผ่อนคลาย สำหรับใช้ในชีวิตประจำวันด้วยเช่นกัน พิสูจน์ได้จาก คริสเตียโน โรนัลโด (Cristiano Ronaldo) นักฟุตบอลผู้มีชื่อเสียง ไปจนถึง เดวิด ปิแอร์ เกตตา (David Guetta) โปรดิวเซอร์และดีเจ ชาวฝรั่งเศส ทุกคนล้วนแล้วแต่ ให้ความไว้วางใจ และพากันสวมใส่นาฬิการุ่นนี้

TAG Heuer อาจไม่ติด 10 อันดับนาฬิกาที่ทำยอดขายได้มากที่สุดในปี ค.ศ. 2015 แต่อย่างไรก็ตาม LVMH ก็ยังมีส่วนแบ่งให้ 4.7% ของส่วนแบ่งการตลาดทั่วโลก นั่นหมายถึงจะสามารถจำหน่ายนาฬิกาแบรนด์ TAG Heuer และ Bulgari ได้อย่างน้อย 56 ล้านเรือน ภายในระยะเวลาเพียง 1 ปี

 

อันดับที่ 13 Swatch Once Again

Swatch Once Again

อันดับที่ 13 ของเรา อาจไม่ใช่หนึ่งในแบรนด์ที่หรูหราที่สุดในโลก แต่นาฬิกาแบรนด์ Swatch (สว้อตช) รุ่น Once Again ถือได้ว่าเป็นนาฬิกาที่มีรูปแบบเรียบง่าย รวมถึงราคาที่ไม่แพงมากนัก ด้วยราคาขายที่ $40 หรือประมาณ 1,250 บาทเท่านั้น แต่ถึงแม้ว่ามันจะมีราคาถูก แต่หากพูดถึงเรื่องคุณภาพ Swatch ก็ไม่เป็นสองรองใคร จึงไม่แปลกใจเลยที่ แบรนด์ Swatch จะติดอันดับหนึ่งใน 15 Bestselling Watches ในครั้งนี้ไปด้วย

ซึ่งตลาดนาฬิการะดับโลกส่วนใหญ่ เห็นด้วยกับเรื่องนี้ ซึ่งได้รับการพิสูจน์ด้วยข้อเท็จจริงที่ว่า Swatch Group มีส่วนแบ่งการตลาดทั้งหมดถึง 18.3% และนั่นคือผลงานที่ยิ่งใหญ่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน โดยไม่อาจคัดค้านตัวเลขเปอร์เซ็นต์ดังกล่าวได้ หมายความว่า มีการจำหน่ายนาฬิกาจาก Swatch Group ได้เกือบ 220 ล้านเรือนภายในเวลา 1 ปี! ดังนั้น แม้ว่าผลิตภัณฑ์ของ Swatch Group จะมีราคาที่ไม่สูงมาก แต่แบรนด์ก็สามารถสร้างรายได้มากที่สุด เมื่อเทียบกับผู้ผลิตนาฬิการายอื่นแม้แต่ Rolex ถือเป็นรายได้เกือบ 9 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อปีเลยทีเดียว

 

อันดับที่ 12 Casio G-Shock

Casio G-Shock

พักเรื่องราวของนาฬิกาฝั่งสวิสสักพัก เพื่อมาดูความภาคภูมิใจของทางฝั่งเอเชียบ้านเรากันบ้าง Casio (คาสิโอ) แบรนด์นาฬิกาจากแดนอาทิตย์อุทัย ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในตลาดการซื้อ-ขายนาฬิกาในแถบเอเชีย โดยเฉพาะรุ่น G-Shock ซึ่งพนันได้เลยว่า ไม่มีใครที่ไม่เคยรู้จักนาฬิการุ่นนี้มาก่อนอย่างแน่นอน

จากข้อมูลพบว่า นาฬิกา G-Shock มีด้วยกันทั้งหมด 231 รุ่นด้วยกัน (ข้อมูลปี ค.ศ. 2016) แบ่งเป็นนาฬิกาสำหรับผู้ชาย 199 รุ่น และนาฬิกาสำหรับผู้หญิง 32 รุ่น ราคาขายปลีกเริ่มต้นตั้งแต่ $99 หรือประมาณ 3,000 บาท ไปจนถึง $950 หรือประมาณ 29,000 บาท รวมถึงรุ่นที่มีความโดดเด่นอย่าง Casio G-Shock G-Steel GSTS110D-1A9 ซึ่งมีราคาอยู่ที่ $350 หรือประมาณ 10,800 บาท ซึ่งความพิเศษของรุ่น G-Steel การออกแบบโครงสร้างตัวเรือนที่เรียกว่า Layer Guard ซึ่งมีความแข็งแกร่งเทียบเท่าโลหะเลยทีเดียว

ในแง่ของส่วนแบ่งทางการตลาดทั่วโลก Casio มีส่วนร่วม 2.1% ในบรรดาผู้ผลิตนาฬิกาทั้งหมด ซึ่งสูงเป็นอันดับที่ 9 ของโลก นั่นหมายความว่า ผู้ผลิตนาฬิกาสัญชาติญี่ปุ่นรายนี้ สามารถผลิตและขายนาฬิกาได้ประมาณ 25 ล้านเรือนในระยะเวลา 1 ปี เท่านั้น

 

อันดับที่ 11 Tissot T-Race

Tissot T-Race

Tissot (ทิสโซ่หรือทิสซอท) เป็นหนึ่งแบรนด์นาฬิกาที่อยู่ภายใต้การบริหารของกลุ่ม Swatch Group ซึ่งได้กล่าวกันไปข้างต้นแล้วว่า Swatch Group มีส่วนแบ่งการตลาดที่ใหญ่ที่สุดคือ 18.3% ตัวเลขนี้แปลเป็นยอดรวมของนาฬิกาที่สามารถจำหน่ายได้ 220 ล้านเรือน รวมถึงรายรับ 9,000 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี

นอกเหนือจากนั้น จากรายงานผลการจำหน่ายนาฬิกาทั่วโลกในปี ค.ศ. 2015 พบว่าแบรนด์ Tissot อยู่ในอันดับที่ 10 ของแบรนด์นาฬิกาที่ขายดีที่สุดในโลก ยอดขายส่วนใหญ่ จะมาจากจากรุ่น T-Race ซึ่งมีด้วยกันทั้งหมด 19 ไทป์ มีราคาอยู่ระหว่าง $575 หรือประมาณ 17,800 บาท ไปจนถึง $1,395 หรือประมาณ 43,400 บาท

Tissot T-Race

Tissot T-Race

T-Race เป็นนาฬิกาทรง Sport ที่ได้รับความนิยมสูงสุดของแบรนด์ โดยรุ่นที่มีชื่อเสียงอย่างมากคือรุ่น Tissot T-Race Automatic MotoGP ซึ่งเป็นรุ่น Limited Edition ที่ได้ทำการเปิดตัวไปเมื่อต้นปี ค.ศ. 2015 การออกแบบที่ลงตัวเปรียบเสมือนส่วนผสมที่เข้ากันระหว่างความแข็งแกร่งของการกีฬา กับความสวยงามของการออกแบบนาฬิกา

 

อันดับที่ 10 Longines HydroConquest

อีกหนึ่งรุ่นนาฬิกาจาก Swatch Group นามว่า Longines (ลอน-จิน) หนึ่งในเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนที่เก่าแก่ที่สุดในโลก นับตั้งแต่การก่อตั้งในปี ค.ศ. 1832 และได้ดำเนินธุรกิจมาเป็นระยะหนึ่ง โดย Longines ประสบความสำเร็จอย่างสูงในด้านความเป็นหนึ่งในผู้นำการคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ในการผลิตนาฬิกา

ย้อนกลับไปในอดีต นาฬิกาจับเวลายังไม่ได้รับการพัฒนามากนักและยังมีช่องโหว่ รวมถึงข้อผิดพลาดมากมายในการผลิต แต่ทาง Longines ได้ทำการเปิดตัวกลไกการจับเวลาออกมาเป็นครั้งแรก ซึ่งมีการจับเวลาแบบอัตโนมัติ โดยใช้กลไกจากสายไฟฟ้า ลองจินตนาการถึงโลกแห่งการกีฬาจะเป็นอย่างไร หากปราศจากนาฬิกาจับเวลา?

Longines พร้อมกับนาฬิกาแบรนด์อื่น ๆ ในกลุ่ม Swatch Group มีส่วนแบ่งการตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยตัวเลข 18.3% และนั่งอยู่ในอันดับ 10 ของแบรนด์นาฬิกาที่ขายดีที่สุดในโลก นำหน้า Tissot ซึ่งมาจากกลุ่มเดียวกัน

Longines HydroConquest

Longines HydroConquest

Longines HydroConquest เป็นนาฬิกาที่ได้รับความนิยมมากกว่ารุ่นอื่น ๆ สนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ $850 หรือประมาณ 18,300 บาท โดยมีการดีไซน์ออกมาในหลายรูปแบบ ดีไซน์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ รุ่นที่มีหน้าปัดสีดำ ตัวเรือนทำจาก Stainless Steel

 

อันดับที่ 9 Patek Philippe Complications Platinum 5961P

Patek Philippe Complications Platinum 5961P

Patek Philippe เป็นผู้ผลิตนาฬิกาอิสระรายล่าสุดในเจนีวา นี่อาจเป็นเหตุผลหลักที่อยู่เบื้องหลังอิสรภาพในการสร้างสิทธิบัตรนาฬิกาสุดหรูทั้ง 80 รุ่น ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1839 ผู้เชี่ยวชาญด้านนาฬิกาบางท่านกล่าวว่า นาฬิกาของ Patek Philippe นั้น ดีที่สุดในโลก ซึ่งผู้ที่ชื่นชอบนาฬิกาสุดหรูหลายต่อหลายคนก็เห็นด้วยกับข้อนี้

ในบรรดานาฬิกาทั้ง 80 รุ่น Patek Philippe รุ่น Complications Platinum 5961P ถือเป็นหนึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ในกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบนาฬิกา ด้วยกลไกการไขลานแบบอัตโนมัติ สามารถกันน้ำได้ มาพร้อมกับสายหนังจระเข้ที่ทำการเย็บด้วยมือ ตัวเรือนเป็น Sapphire-Crystal (คริสตัลแซฟไฟร์) ด้วยคุณสมบัติพิเศษทั้งหมดนี้ ทำให้ค่าตัวของเรือนนี้อยู่ที่ $130,000 หรือราว ๆ 4,060,000 บาท

Patek Philippe Complications Platinum 5961P

Patek Philippe Complications Platinum 5961P

Patek Philippe ครองตำแหน่งอันดับ 8 ในการจัดอันดับนาฬิกาที่ขายดีที่สุดในโลก ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาด 3% นั่นหมายความว่า มีนาฬิกา Patek Philippe วางจำหน่ายประมาณ 36 ล้านเรือนในเวลาเพียง 1 ปี และยังครองตำแหน่ง อันดับที่ 9 ของการจัดตำแหน่งนาฬิกาที่ขายดีที่สุด”  จากรายงานการจับอันดับทั่วโลก ประจำปี ค.ศ. 2015

 

อันดับที่ 8 Seiko Orange Monster

รูปลักษณ์ของนาฬิการุ่น Seiko Orange Monster ก็เป็นดั่งชื่อรุ่น ด้วยหน้าปัดสีส้มสามารถมองเห็นได้ชัด กับตัวเรือนที่ดูดุดัน ซึ่งหมายถึงความแข็งแกร่งของนาฬิกา ที่สามารถทนแรงดันน้ำได้ลึกถึง 200 เมตร และถึงแม้ว่าไม่ได้รับการบำรุงรักษาใด ๆ มากนัก นาฬิการุ่นนี้ ก็ยังมีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ได้อย่างดีเยี่ยม รวมทั้งหน้าปัดเรืองแสง สามารถมองเห็นได้ชัดเจน แม้ในขณะที่คุณดำน้ำอยู่

Seiko Orange Monster

Seiko Orange Monster

Seiko ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 8 ทั้งในการจัดอันดับนาฬิกาที่ขายดีที่สุดในโลกและผู้ผลิตนาฬิการะดับโลกที่ใหญ่ที่สุด ผู้ผลิตนาฬิกาสัญชาติญี่ปุ่นมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 3.4% ทั่วโลก นับเป็นเปอร์เซ็นต์ เกือบ 2 เท่าของนาฬิกา Casio แบรนด์สัญชาติญี่ปุ่นด้วยกัน

 

อันดับที่ 7 Citizen Titanium Eco-Drive

ในการจัดอันดับโลก สำหรับผู้ผลิตนาฬิกาที่ใหญ่ที่สุด แบรนด์นาฬิกาจาก Citizen นั้น ถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 6  โดยมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 3.9%  จากการรายงานในปี ค.ศ. 2015 ซึ่งสูงที่สุดในบรรดาผู้ผลิตนาฬิกาของญี่ปุ่นที่เหลือรวมถึงอีกสองแบรนด์ยอดนิยมของญี่ปุ่น Seiko และ Casio

หนึ่งในนาฬิกาที่ได้รับความนิยมสูงสุดจาก Seiko คือ นาฬิการุ่น Citizen Titanium Eco-Drive โดยช่างทำนาฬิกาได้รับการพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ อยู่เสมอ รวมทั้งวัสดุที่นำมาผลิตได้แก่การนำ “ไทเทเนียม” มาเป็นส่วนประกอบหนึ่งของนาฬิกา ซึ่งไทเทเนียมได้รับการเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1970 ถือเป็นการเปิดตัวนาฬิกาไทเทเนียมครั้งแรกของ Seiko และครั้งแรกของโลกด้วย

Citizen Titanium Eco-Drive

Citizen Titanium Eco-Drive

สิ่งที่ทำให้นาฬิกาไทเทเนียมจาก Seiko มีความแตกต่าง นั่นก็คือน้ำหนักที่เบาและทนต่อการเกิดสนิม ซึ่งช่างทำนาฬิกาได้เรียกนวัตกรรมชิ้นนี้ว่า “Super Titanium™” ซึ่งนาฬิกาเรือนนี้มีราคาอยู่ที่ $400 หรือประมาณ 12,500 บาท

 

อันดับที่ 6 Richemont Cartier Calibre

และก็มาถึงอันดับที่ 6 ของเรา Cartier อยู่ภายใต้การบริหารงานของบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีชื่อว่า Richemont ในขณะที่แบรนด์นั่งอยู่ในอันดับ 6 แต่กลุ่มบริษัท Richemont อยู่ในอันดับ 2 ของโลกในแง่ของ “บริษัทผู้ผลิตนาฬิกาที่ใหญ่ที่สุดในโลก” โดยรั้งตำแหน่งตามเพียงแค่ Swatch Group เท่านั้น

Richemont มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 15.7% นั่นหมายความว่า บริษัทสามารถขายนาฬิกาได้ 190 ล้านเรือนในระยะเวลา 1 ปี นอกจากนั้นยังมีรายรับจากยอดขาย 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และหากรวมผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ทั้งหมดที่อยู่ภายใต้การบริหารงานของบริษัท ทั้งในส่วนของเครื่องประดับและเครื่องหนัง รายได้จะอยู่ที่ประมาณ 12 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว

นาฬิกา Cartier รุ่น Calibre ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในนาฬิกาที่มีราคาแพงที่สุด โดยมีราคาตั้งแต่ $5,000-500,000 (ประมาณ 156,000-15,600,000 บาท) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ผลิตนาฬิกา ทั้งตัวเรือน หน้าปัด และสายนาฬิกา

Calibre de Cartier Grande Complication Perpetual Calendar Platinum

Calibre de Cartier Grande Complication Perpetual Calendar Platinum

นาฬิการุ่น Calibre de Cartier Grande Complication Perpetual Calendar Platinum ถือได้ว่าเป็นรุ่นที่มีราคาแพงที่สุด ในบรรดานาฬิกาจากแบรนด์ Cartier ด้วยคุณสมบัติที่ประกอบขึ้นจากวัสดุที่ดีที่สุด หน้าปัดทำจากคริสตัลแซฟไฟร์ (Sapphire Crystal) ที่ทนต่อรอยขีดข่วน อีกทั้งยังสามารถกันน้ำได้ลึกถึง 30 เมตร สายหนังตัดเย็บจากวัสดุหนังจระเข้สีดำ และตัวเรือนที่ทำจาก แพลตตินั่มทองคำขาว

 

อันดับที่ 5 Omega Seamaster 007 James Bond

ตัวละคร เจมส์ บอนด์ (James Bond) จากภาพยนตร์ชื่อดัง “พยัคย์ร้าย 007” จะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีราคาแพงที่สุดเท่านั้น สินค้าบางตัวสามารถทำกำไร และมีชื่อเสียงดังเปรี้ยงปร้างทันทีหลังจากภาพยนตร์ 007 ได้นำไปเข้าฉาก  อาทิเช่น รถที่ เจมส์ บอนด์ ขับเป็นหนึ่งในรถยนต์จาก Aston Martin ที่แพงที่สุด ชุดที่เขาใส่เป็นชุดที่แพงที่สุดในโลก ดังนั้น ไม่น่าแปลกใจเลยที่นาฬิกาที่เค้าใช้สวมใส่ในการแสดงของเขานั้น จะแพงที่สุดในโลกเช่นกัน

Omega ได้กลายมาเป็นผู้สนับสนุนนาฬิกาสำหรับใส่เข้าฉากในการถ่ายทำภาพยนตร์ชุด James Bond 007 อย่างเป็นทางการ ในปี ค.ศ. 1955 เป็นต้นมา ปรากฏโฉมครั้งแรก ในภาคที่มีชื่อว่า “GoldenEye” เป็นนาฬิกา Omega รุ่น Seamaster หน้าปัดสีน้ำเงิน ที่สวมใส่โดย Pierce Brosnan ผู้รับบทเป็น James Bond โดยได้ถูกใส่อีกหลายภาคตามกันมา Tomorrow Never Dies รวมถึง Die Another Day

Omega รุ่น Seamaster 007 GoldenEye

Omega รุ่น Seamaster (007 GoldenEye)

เจมส์ บอนด์ คนถัดมานำแสดงโดย แดเนียล เคร็ก (Daniel Craig) ก็มาพร้อมกับ Omega James Bond รุ่นใหม่ ๆ รวมถึงรุ่นพิเศษ ที่จัดทำมาเพื่อภาพยนต์เรื่องนี้โดยเฉพาะ มีอักษร “007” ปรากฏอยู่บนหน้าปัด ราคาขายอยู่ที่ $8,500 หรือประมาณ 264,000 บาท

Omega James Bond 007

Omega เป็นแบรนด์นาฬิกายอดนิยมภายใต้การดูแลของกลุ่ม Swatch Group นั่งอยู่บนอันดับที่ 5 ของแบรนด์นาฬิกาที่ขายดีที่สุดในโลก เมื่อร่วมกับแบรนด์นาฬิกา Longines และ Tissot แล้ว ถือได้ว่ากลุ่ม Swatch เป็นกลุ่มที่มีความเข้มแข็งและมีอิทธิพลอย่างมากในวงการนาฬิกาทั่วโลก

 

อันดับที่ 4 Fossil Grant FS4735

Fossil เป็นแบรนด์นาฬิกาที่ขายดีที่สุดอันดับ 3 ของโลก ในแง่ของการเป็นผู้ผลิตนาฬิการะดับโลกที่ใหญ่ที่สุด โดยบริษัทแม่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาอยู่ในอันดับ 4 ด้วยส่วนแบ่งการตลาดที่ 5.2% จากตัวเลขดังกล่าว หมายความว่า Fossil ได้มีการจำหน่ายนาฬิกามากถึง 60 ล้านเรือนต่อ 1 ปี

Fossil Grant FS4735

Fossil Grant FS4735

เช่นเดียวกับนาฬิกาแบรนด์ Swatch นาฬิกาจากแบรนด์ Fossil อาจมีราคาที่ถูกกว่านาฬิกาขายดีรุ่นอื่น ๆ ในอันดับที่กล่าวมาข้างต้น ยกตัวอย่างเช่น นาฬิกา Fossil รุ่น Grant FS4735 มีราคาขายอยู่ที่ $115 หรือประมาณ 3,500 บาท เท่านั้น โดยนาฬิการุ่นนี้ ได้แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์มาจากนาฬิการุ่นวินเทจ นั่นคือคำตอบของรูปร่างอันแสนจะคลาสสิคของมัน หน้าปัดถูกออกแบบให้มีตัวเลขแบบโรมันซึ่งเป็นการสะท้อนความคลาสสิคของการเคลื่อนไหวกลไกแบบโครโนกราฟ (Hronograph Movement)

 

อันดับที่ 3 Apple Watch

ในปี ค.ศ. 2013 ยอดขายนาฬิกาอัจฉริยะหรือที่เรียกว่า Smart Watch นั้น พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ตามสถิติของอุตสาหกรรมนาฬิกา ในปี ค.ศ. 2014 ยอดขาย Smart Watch มีเพียง 7 ล้านเรือนเท่านั้น จนเพิ่มจำนวนยอดขายขึ้นเป็น 36 ล้านเรือน ในปี ค.ศ. 2015 โดยใช้เวลาเพียงแค่ 1 ปี และแบรนด์ที่เป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยีโทรศัพท์และนาฬิกาอัจฉริยะชั้นนำ จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก “Apple”

Apple รั้งอันดับที่ 2 ในการจัดอันดับแบรนด์นาฬิกาที่ขายดีที่สุดในโลก ไม่ว่าพวกเขาจะสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์อะไรออกมา ก็ประสบความสำเร็จ ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งสิ้น ตีตลาดในด้านส่วนแบ่งทางการตลาดของผู้ผลิตนาฬิกาของสวิสเซอร์แลนด์ไปอย่างขาดลอย

Apple Watch Series 5

Apple Watch Series 5

สำหรับบางคนอาจโต้แย้งว่า Smart Watch ไม่สามารถเรียกว่าเป็นนาฬิกาได้ แต่สำหรับบางคนนั้นกลับเห็นว่า นี่คือการพัฒนารูปลักษณ์ของนาฬิกาในรูปแบบใหม่ ที่ผสมผสานดีไซน์สมัยใหม่ ความหรูหราเข้ากับเทคโนโลยีได้อย่างลงตัว

Apple Watch ราคาขายเริ่มต้นอยู่ที่ $269 หรือประมาณ 8,300 บาท ผู้เชี่ยวชาญทางด้านตลาดซื้อขายนาฬิกายอมรับว่า นับตั้งแต่วันที่เปิดตัวจำหน่ายครั้งแรก Apple สามารถสร้างยอดขาย Smart Watch ได้มากถึง 10 ล้านเรือนทั่วโลก โดยในปี ค.ศ. 2015 เพียงปีเดียว สามารถทำยอดขายได้มากถึง 8 ล้านเรือนเลยทีเดียว

อันดับที่ 2 Rolex Daytona

Rolex Daytona

ผู้ผลิตนาฬิกาคลาสสิคเพียงรายเดียวที่ทาง Apple ไม่อาจแย่งชิงความเป็นหนึ่งได้ แบรนด์สุดหรูที่ทั่วโลกรู้จักกันดี ในนาม “Rolex” หากคุณยังไม่เชื่อ ลองศึกษาประวัติของแบรนด์ และคุณจะทราบว่าทำไมผู้คนจึงยินดีที่จะจ่ายเงินจำนวนมาก เพื่อให้ได้เป็นเจ้าของ นาฬิกา Rolex สักเรือนในชีวิต

Rolex Daytona เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ในกลุ่มผู้รักและสะสมนาฬิกา ตั้งแต่ทำการเปิดตัวครั้งแรกในปี ค.ศ. 1963 ปัจจุบัน Daytona มีด้วยกันทั้งหมด 33 รุ่น โดยแต่ละรุ่นมีจุดเด่น และความแตกต่างในด้านการใช้วัสดุในการผลิต เช่น หน้าปัด ตัวเรือน หรือสายรัดข้อมือ

Paul Newman’s Rolex Daytona

Paul Newman’s Rolex Daytona

นาฬิกา Rolex Daytona ที่นักแสดงชายชื่อดัง พอล นิวแมน (Paul Newman) สวมใส่ กลายเป็นที่นิยมมาก และถูกบันทึกว่าเป็น Rolex Daytona รุ่นที่แพงที่สุด ซึ่งมีการนำออกมาประมูลขายได้ในราคา 17.8 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 579 ล้านบาท ซึ่งถือว่ามีราคาสูงมากเมื่อเทียบกับนาฬิกา รุ่น Rolex Daytona Exotic Dial เมื่อครั้งออกวางจำหน่าย ราคาอยู่ที่ $20,000-50,000 หรือประมาณ 623,000-1,558,000 บาท

นอกจากจะเป็นแบรนด์นาฬิกาที่ขายดีที่สุดในโลกแล้ว Rolex ยังอยู่ในอันดับที่ 3 ของผู้ผลิตนาฬิกาชั้นนำระดับโลก ด้วยส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 11.8% นั่นแปลว่า มีการจำหน่ายนาฬิกา Rolex มากกว่า 140 ล้านเรือนต่อปี ไม่แปลกใจเลยที่ทางบริษัท จะมีรายรับประมาณ 4.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในปี ค.ศ. 2015 เพียงปีเดียว

 

อันดับที่ 1 Rolex Datejust

มาที่อันดับหนึ่งใน 15 Bestselling Watches ได้แก่ Rolex Datejust เป็นนาฬิกาจากแบรนด์ Rolex ที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลก เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรก เมื่อปี ค.ศ. 1945 Datejust เป็นนาฬิกาไขลานอัตโนมัติเรือนแรกที่แสดงวันที่ ในรูรับแสงบนหน้าปัดนาฬิกา

Rolex Datejust เป็นแบบฉบับของนาฬิกาที่ทันสมัย ที่คงไว้ซึ่งความคลาสสิก ผสมผสานกับความสวยงามและฟังก์ชั่นที่ก้าวข้ามการเปลี่ยนแปลงของแฟชั่น โดย Datejust ได้ข้ามผ่านวันเวลามาหลายยุค ซึ่งยังคงเสน่ห์ดั้งเดิมเอาไว้ไม่เปลี่ยนแปลง ความคลาสสิคนั้น ทำให้มันยังคงเป็นที่นิยม และเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง มาจนถึงปัจจุบัน

Rolex Datejust Ladies White Gold Diamond Pave Watch

Rolex Datejust Ladies White Gold Diamond Pave Watch

ปัจจุบัน Datejust มีวางจำหน่ายในท้องตลาดมากกว่า 445 รุ่นด้วยกัน โดยราคาขายเริ่มต้นตั้งแต่ $5,000 หรือประมาณ 155,800 บาท ไปจนถึงรุ่นที่มีราคาแพงที่สุด Rolex Datejust Ladies White Gold Diamond Pave Watch ซึ่งรังสรรค์จากวัสดุทองคำขาว ตกแต่งด้วยเพชรถึง 150 เม็ดรอบหน้าปัด นาฬิกา Rolex รุ่น Datejust ที่ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษนี้ มีราคาสูงถึง $100,000 หรือประมาณ 3,100,000 บาท เลยทีเดียว

15 Bestselling Watches จัดอันดับนาฬิกาหรูขายดีทั่วโลก

ถือได้ว่า “นาฬิกาข้อมือ” เปรียบเสมือนเครื่องประดับร่างกายชิ้นสำคัญ ที่ขาดไม่ได้ไปเสียแล้วในยุคปัจจุบัน เพราะมัน ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นเพียงเครื่องบอกเวลาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป การพัฒนาทางด้านเทคโนโลยี ทำให้นาฬิกาข้อมือได้รับการพัฒนาให้มีความก้าวหน้ามากขึ้น เหมาะสมตามยุคสมัย จุดเด่นของนาฬิกาบางรุ่นได้รับพัฒนาจนได้รับความนิยมอย่างสูง แต่ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ความคลาสสิคดั้งเดิมที่ได้รับการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น และทั้งหมดนี้คือ 15 Bestselling Watches จัดอันดับนาฬิกาขายดีที่สุดในโลก!

 

KATE