To top
2 Dec

รวม 10 แบรนด์ กับ Logo ที่โดดเด่นในตำนาน

เครื่องหมายการค้า หรือเรียกอีกอย่างว่าโลโก้ (Logo) มีบทบาทอย่างมากต่อการเติบโตและความก้าวหน้าของบริษัท ซึ่งในปัจจุบันผู้คนเริ่มตระหนักถึงสิ่งที่พวกเขาซื้อกันมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์หรือบริการ และนอกเหนือจากคุณภาพแล้วลูกค้ายังให้ความสำคัญกับแง่มุมอื่น ๆ ของธุรกิจอีกด้วย เช่น ความเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ซึ่งเป็นสิ่งแรกที่ผู้คนเริ่มจดจำ

โลโก้ (Logo) นับว่าเป็นสิ่งสำคัญเป็นอย่างมากในการก่อตั้งแบรนด์ เพราะโลโก้เปรียบเสมือนหน้าตาของแบรนด์ ที่สามารถทำให้ลูกค้าสามารถจดจำสัญลักษณ์นี้ได้ และโลโก้แบรนด์หรูระดับโลกต่างล้วนแล้วแต่ได้รับการออกแบบที่แฝงความเป็นตัวของตัวเองได้อย่างเด่นชัด และในวันนี้เราได้ทำการรวบ รวม 10 แบรนด์ กับ Logo ที่โดเด่นในตำนาน มาให้สาวกสายแฟชั่นได้รู้จักที่มาที่ไปกันค่ะ

 

1. Louis Vuitton

Louis Vuitton

หลุยส์ วิตตอง (Louis Vuitton) ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแบรนด์สุดหรูสัญชาติฝรั่งเศส ได้ก่อตั้งขึ้น เมื่อปี ค.ศ. 1854 โดย มองซิเออร์ หลุยส์ วิตตอง (Monsieur Louis Vuitton) เป็นผู้มีชื่อเสียงมาจากการผลิตหีบเดินทางให้กับราชินี ยูจีเนียร์ เดอ มอนติโจ (Eugénie de Montijo) ชายาในกษัตริย์นโปเลียนที่ 3

ในส่วนของโลโก้ของ Louis Vuitton ถูกออกแบบครั้งแรก ในปี ค.ศ. 1896 โดยอ้างอิงจากศิลปะยุควิกตอเรีย ซึ่งสไตล์การออกแบบมักจะเกี่ยวข้องกับการเป็นตัวแทนของครอบครัว หรือองค์กรระดับสูง ลายโมโนแกรมของ หลุยส์ วิตตองนั้น ประกอบด้วยสัญลักษณ์ 4 อย่าง คือ ตัวอักษร LV ที่เป็นตัวย่อของแบรนด์, รูปดอกไม้ 4 กลีบแบบทึบ, รูปดอกไม้ 4 กลีบแบบโปร่ง และสัญลักษณ์คล้ายมงกุฏ อันเป็นตัวแทนที่สะท้อนถึงความคลาสสิคและความหรูหราของแบรนด์ ได้เป็นอย่างดี

2. Hermès

Hermès

(Hermès) ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1837 โดย เทียร์รี่ แอร์เมส (Thierry Hermès) เป็นที่รู้จักในฐานะผู้ผลิตสินค้าหรูหราสัญชาติฝรั่งเศส แต่เดิมเน้นการผลิตเทียมม้าและบังเหียนสำหรับรถม้าของชนชั้นสูง ตลอดระยะเวลาการดำรงอยู่ของ บริษัท มีการเปลี่ยนแปลงขึ้น ๆ ลง ๆ ตามความต้องการของตลาดและรสนิยมของผู้บริโภค ปัจจุบัน Hermès เป็นแบรนด์ที่มีมูลค่ามากที่สุดอันดับที่ 35 ของนิตยสาร Forbes ด้วยมูลค่า 15.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โลโก้ของแบรนด์ถูกออกแบบขึ้น หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ในช่วงปี 1950s

ในปี ค.ศ. 1945 ตราโลโก้ของ Hermès ถือกำเนิดขึ้น สัญลักษณ์ประกอบด้วย รถม้า 4 ล้อกับผู้ติดตาม ออกแบบโดย Alfred de Dreux (อาเฟรด เดอ เทอ) โดยเป็นการสื่อว่า จุดเริ่มต้นที่สร้างชื่อเสียงให้กับ Hermès คือ “การผลิตอานม้า”  เนื่องจากแบรนด์ต้องการบอกเล่าเรื่องราวภายใต้การออกแบบเครื่องหมายการค้า ซึ่งมีม้าเป็นส่วนสำคัญอยู่เสมอ เพราะแบรนด์ยังคงตระหนักเสมอว่า ม้าคือลูกค้าคนแรกของเขา

3. Gucci

Gucci

Gucci (กุชชี่) แบรนด์สัญชาติอิตาลี ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1921 โดย กุชชิโอ กุชชี่ (Guccio Gucci) ในช่วงชีวิตวัยเด็ก กุชชี่ เดินทางไปลอนดอน และทำงานที่โรงแรมซา-วอย (Savoy) เขาได้สังเกตเห็นกระเป๋าเดินทาง ที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกันออกไป นั่นเป็นแรงบันดาลใจให้กุชชี่กลับบ้านเกิดและสร้างแบรนด์ของเขาเอง

แม้ว่า Gucci จะทำการก่อตั้งแบรนด์เมื่อปี ค.ศ. 1921 แต่ยังไม่ปรากฏตราสัญลักษณ์หรือโลโก้เครื่องหมายการค้าใด ๆ จนกระทั่งเมื่อปี ค.ศ. 1933 ด้วยความช่วยเหลือจากลูกชายของเขา Aldo Gucci (อัลโด กุชชี่) ตราสัญลักษณ์ G คู่จึงถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนชื่อของ Guccio Gucci เพียงเท่านั้น ไม่ได้มีความหมายเป็นอย่างอื่นโดยเฉพาะ

 

4. Celine

Celine

Celine เกิดขึ้นในปี 1945 โดยมาดาม เซลีน วิเพียน่า (Ćeline Vipiana) เเละ ริชาร์พ (Richarp) สามีของเธอ ซึ่งในตอนนั้นยังเป็นร้านผลิตรองเท้าเล็กๆ สำหรับเด็ก ฝั่ง Left Bank ของกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส จากการดูเเลของ Ćeline ทำให้ เเบรนด์ประสบความสำเร็จ ได้รับความนิยม จนต้องขยายร้านเเละสาขาในปี 1948ล

งโลโก้ตัวนี้เป็นการปรับเปลี่ยนจากอันเดิม ซึ่งเคยถูกใช้ในปี 1960 สลับไปมาอยู่ตลอด ก่อนจะถูกนำกลับมาใช้อีกครั้งในปี 1970 เเต่ในปี 1990 Michael Kors ก็ได้ปรับโลโก้ใหม่ ให้โมเดิร์นขึ้น ด้วยการเว้นความห่างช่องไฟมากขึ้น และไม่ใช้เครื่องหมายกำกับออกเสียง

เหตุผลที่โลโก้ CÉLINE ถูกปรับนำสัญลักษณ์อักซอง (´) บนตัว E ออกไปและกลายเป็น CELINE ก็เพื่อระลึกถึงยุคทองของแบรนด์ช่วงปี 60s ซึ่งตัวอักซองยังไม่ค่อยนำมาใช้มากเท่าไหร่ และนอกจากการปรับข้างต้นก็ยังมีการลดระยะห่างระหว่างตัวอักษรแต่ละตัว เพื่อให้โลโก้ใหม่นี้ดูเรียบง่าย สมดุลย์ และให้ตัวอักษรกลับมาชิดกันมากขึ้น ฃ

 

 

5. Chanel

Chanel รวม 10 แบรนด์ กับ Logo ที่โดเด่นในตำนาน

ชาแนล (Chanel) แบรนด์ชั้นนำระดับโลกสัญชาติฝรั่งเศส แบรนด์สุดหรูที่เป็นความฝันสูงสุดของสาว ๆ ทั่วโลก ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1909 โดย กาเบรียล บอนเนอร์ ชาแนล (Gabrielle Bonheur Chanel) หรือที่รู้จักคุ้นเคยกันในชื่อ Coco Chanel

โลโก้ตัว C ไขว้ ได้รับการออกแบบครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1925 โดย Gabrielle Channel (กาเบรียล ชาแนล) ได้รับแรงบัลดาลใจมาจากกระจก เคยใช้ชีวิตที่นั่น บางสื่อก็กล่าวว่า ตัวอักษรย่อ CC อาจมาจากชื่อของเธอ คือ Coco Chanel แต่บางสื่อกลับให้ข้อมูลว่า แท้จริงแล้ว CC นั้น มาจากชื่อ Chanel กับ Capel คู่รักของเธอ

 

6. Fendi

Fendi

Fendi แบรนด์สัญชาติอิตาลีที่ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1925 โดย Adele Fendi (อะเดล เฟนดิ) เธอและสามีได้เปิดร้านตัดเย็บในกรุงโรม ประเทศอิตาลี สำหรับผลิตกระเป๋าเเละเสื้อโค๊ตขนสัตว์ ด้วยฝีมือตลอดจนความปราณีต ส่งผลให้สินค้าได้รับความนิยม มีผู้ชื่นชอบมากขึ้น ทำให้แบรนด์ FENDI เริ่มขยายสาขา เป็นที่รู้จักไปสู่เมืองอื่นๆ

จนกระทั่งกลุ่ม LVMH (Most Henessy – Louis Vuitton) ธุรกิจแบรนด์หรูที่มีแบรนด์ดังในเครือกว่า 70 แบรนด์ ได้เข้ามาถือหุ้น FENDI ในปี 2000 และหลังจากนั้น 1 ปี ก็ได้กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของแบรนด์ ทำให้ FENDI เป็นเเบรนด์แฟชั่นหรูระดับแนวหน้า

ในปี 1965 แบรนด์ได้ร่วมมือกับ Karl Lagerfeld (คาร์ล ลาเกอร์เฟล) เขาได้คิดออกแบบโลโก้ของแบรนด์ FENDI ขึ้นมาอีกด้วย โดยใช้ FF ซึ่งสื่อความหมายถึง Fun Fur หรือให้มีความสุขสนุกสนานกับเฟอร์ ตัวอักษร F ทั้งสองเขียนด้วยตัวพิมพ์ใหญ่ในแบบอักษร Hevletica และตราสัญลักษณ์นี้ก็แสดงถึงความเป็นเลิศสง่างาม

 

7. Dior

Dior รวม 10 แบรนด์ กับ Logo ที่โดเด่นในตำนาน

แบรนด์ (Dior) ถูกก่อตั้งขึ้นมื่อปี ค.ศ. 1947 โดย คริสเตียน ดิออร์ (Christian Dior) เขาได้เปิดตัวแฟชั่นแนวใหม่ เรียกว่า “New Look” ซึ่งมีกระแสนิยม และการตอบรับที่ดี ด้วยลักษณะเสื้อแบบไหล่แคบที่มาพร้อมกับกระโปรงยาว การกำเนิดแฟชั่นในครั้งนี้เป็นการปฎิวัติวงการแฟชั่นพร้อมทั้งทำให้ปารีสกลายเป็นศูนย์กลางของวงการแฟชั่นได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้ดิออร์ได้รับการขนานนามว่า “เป็นผู้นำแฟชั่นในระดับสากล”

โก้ Dior ประกอบด้วยตัวอักษรธรรมดาที่เป็นชื่อแบรนด์โดยใช้อักษรแบบ Nicolas Cochin (นิโคลัส โคชิน) ** ชื่อฟอนต์ฟังจากแปลภาษา หากทราบการอ่านชื่อฟอนต์ที่จจริงอ่านยังไง สามารถเปลี่ยนได้เลย **  แม้จะดูเรียบง่ายและตรงไปตรงมา แต่ก็ยังได้รับการยอมรับว่าเป็นโลโก้แฟชั่นที่ได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักมากที่สุดในโลก และโลโก้ Dior มีความหมายเหมือนกันกับลักษณะบุคลิกภาพของแบรนด์ เช่น ความหรูหรา ความเย้ายวนใจ

 

8. Prada

Prada

(Prada) ในปี 1913 มาริโอ พราด้า (Mario Prada) ได้ก่อตั้งบริษัทนำเข้าเครื่องหนัง กระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ จากประเทศอังกฤษ  จากนั้นจึงเริ่มให้ มิวฉะ พราด้า (Miuccia Prada) ผู้เป็นหลานสาวของ Mario Prada เข้ามามีบทบาททางธุรกิจ

โลโก้ Prada เริ่มต้นในปี 1919 เมื่อ บริษัท ได้รับการประกาศให้เป็นซัพพลายเออร์อย่างเป็นทางการของราชวงศ์ในอิตาลี ด้วยเหตุนี้แบรนด์จึงได้รับสิทธิ์ในการใช้ตราประจำตระกูล House of Savoy ไว้ในตราสัญลักษณ์ Prada และในช่วงเวลาหนึ่งแฟชั่นเฮาส์ได้นำองค์ประกอบการออกแบบที่เชื่อมโยงกับสถาบันกษัตริย์ของอิตาลีออกไป เหลือเพียงตัวอักษร Prada

 

 

9. Balenciaga

Balenciaga รวม 10 แบรนด์ กับ Logo ที่โดเด่นในตำนาน

บาเลนเซียก้า (Balenciaga) มีประวัติมายาวนานกว่า 100 ปี ซึ่งก่อตั้งโดย คริสโตบัล บาเลนซิเอก้า (Cristobal Balenciaga) นักออกแบบแฟชั่นกูตูริเยร์ในตำนาน ที่มีฝีมือการออกแบบเป็นเอกลักษณ์ ทุกผลงานของเขานั้นสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้พบเห็นอยู่เสมอ และชื่อเสียงของแบรนด์เป็นที่รู้จักในวงการแฟชั่นชั้นสูง

โลโก้แรกของ Balenciaga เปิดตัวในปี ค.ศ. 1917 ประกอบตัวอักษรตัวพิมพ์ใหญ่ที่สง่างาม อยู่ใต้สัญลักษณ์ตัวอักษร B ที่เชื่อมต่อด้วยเส้นสามเส้นซึ่งแสดงถึงการเย็บ และทิศทางแฟชั่นของแบรนด์โลโก้ถูกเขียนด้วยแบบอักษร sans-serif (แซน เซริฟ) ** ชื่อฟอนต์ฟังจากแปลภาษา หากทราบการอ่านชื่อฟอนต์ที่จจริงอ่านยังไง สามารถเปลี่ยนได้เลย **

10. Saint Laurent

Saint Laurent

แบรนด์ YSL (Saint Laurent) มีต้นกำเนิดมาจาก Yves Henri Donat Mathieu-Saint-Laurent (อีฟว์ อ็องรี ดอนา มาตีเยอ-แซ็ง-โลร็อง) เกิดเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ค.ศ. 1936 ณ เมืองออราน ประเทศแอลจีเรีย เป็นคนสัญชาติแอลจีเรียโดยกำเนิด คุณพ่อของโลร็องสืบสายเลือดมาจากบารอน มาตีเยอ เดอ โมเวียร์ คุณเเม่เป็นลูกสาววิศวกรชาวเบลเยี่ยมและภรรยาชาวสเปน โดยโลร็องเป็นลูกชายคนโตของบ้าน และมีน้องสาวอีกสองคน ซึ่งคุณแม่เป็นผู้ถ่ายทอดสายเลือดทางแฟชั่นให้แก่โลร็อง

โลโก้ถูกออกแบบครั้งแรกในปี 1961 โดย Cassandre ก่อนจะได้รับการออกแบบอีกครั้งในปี 2000 โดย Stefano Pilati ต่อมาในปี 2012 เมื่อ Hedi Slimane เข้าควบคุมกิจการ เขาก็ได้เปลี่ยนชื่อ และโลโก้ใหม่เป็น Saint Laurent Paris ก่อนที่โลโก้เก่า อย่างตัวอักษร YSL ในแนวตั้งจะถูกนำกลับมาใช้ใหม่อีกครั้งด้วยเช่นกัน

 

 

รวม 10 แบรนด์ กับ Logo ที่โดเด่นในตำนาน

จะเห็นได้เลยว่า โลโก้มีความสำคัญกับแบรนด์เป็นอย่างมาก และสามารถบ่งบอกได้เลยว่าปัจจุบันการออกแบบโลโก้ควรใช้เวลาคิด วิเคราะห์ข้อมูลหลาย ๆ อย่าง เพื่อให้โลโก้ที่ออกแบบมานั้นตอบโจทย์กับบริษัทที่กำลังจะก่อตั้งขึ้นมา และเพื่อบ่งบอกถึงสินค้า สามารถสะท้อนถึงภาพลักษณ์ที่ต้องการออกไปสู่คนภายนอกได้อย่างถูกต้องตามที่คาดหวังไว้ ดังเช่น รวม 10 แบรนด์ กับ Logo ที่โดเด่นในตำนาน ที่แต่ละแบรนด์สามารถบ่งบอกความเป็นตัวของตัวเองได้อย่างน่าจดจำ

รัก
xoxo

KATE