ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า กระเป๋าเดินทาง คือสิ่งที่เคียงข้างและจำเป็นสำหรับนักเดินทางอย่างเราๆ มาเป็นเวลาช้านาน แต่หากจะกล่าวถึงกระเป๋าเดินทางที่มีดีไซน์โดดเด่น มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ไม่เหมือนใคร หลายคนคงคุ้นเคยอย่างดีกับ ริโมว่า (RIMOWA) แบรนด์กระเป๋าเดินทางเก่าแก่สัญชาติเยอรมัน หนึ่งในแบรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในปัจจุบัน ด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงามทันสมัย มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องน้ำหนักเบา และความแข็งแกร่งทนทาน วันนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับ ประวัติแบรนด์ RIMOWA แบรนด์กระเป๋าเดินทางคุณภาพเยี่ยมจากฝั่งยุโรปกันให้มากขึ้น

ประวัติแบรนด์ RIMOWA เริ่มต้นขึ้นใน ปี ค.ศ. 1898 บริษัทถูกก่อตั้งขึ้นโดย พอล โมร์เซ็ก (Paul Morszeck) ที่เมืองโคโลญจน (Cologne) ประเทศเยอรมันนี RIMOWA มีชื่อเสียงในฐานะแบรนด์ที่เชี่ยวชาญการผลิตกระเป๋าเดินทางที่ทำจากไม้และหนัง ใน ปี ค.ศ. 1930 เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เมื่อโรงงานผลิตกระเป๋าของพอลเกิดเพลิงไหม้ เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้กระเป๋าทั้งหมดถูกไฟเผาเป็นเถ้าถ่าน สิ่งเดียวที่เหลือรอดมาจากกองเพลิงนั้น คือ โลหะทนไฟและอลูมิเนียม

ในปี ค.ศ. 1937 ริชาร์ด โมร์เซ็ก (Richard Morszerk) ลูกชายของพอล ได้เกิดไอเดียในการนำอลูมิเนียมมาดีไซน์เป็นกระเป๋าเดินทางแบบหีบเป็นเจ้าแรกของโลก โดยวัสดุอลูมิเนียม ทำให้กระเป๋าเดินทางมีน้ำหนักเบา จากวิกฤติไฟไหม้ในครั้งนั้น นำมาสู่การเปลี่ยนแปลงนวัตกรรมในการผลิตกระเป๋า RIMOWA ไปตลอดกาล

RIMOWA มีการพัฒนากระเป๋าอลูมิเนียมอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปี ทั้งเรื่องของขนาด การออกแบบภายใน รูปแบบขอบมุม      ด้ามหูจับ และล้อของกระเป๋า เพื่อให้ตรงกับความต้องการ และความนิยมของลูกค้าในขณะนั้น ในปี ค.ศ. 1950 ได้นำวัสดุแบบใหม่ที่เรียกว่า Duraluminium ซึ่งเป็นทองแดงผสมกับอลูมิเนียมอัลลอยด์ มาใช้แทนที่วัสดุอลูมิเนียมธรรมดาแบบเดิม ทำให้กระเป๋ามีน้ำหนักเบาและทนทานมากขึ้น ก่อเกิดเป็นกระเป๋ารุ่นใหม่ที่มีชื่อรุ่นว่า Topas

กระเป๋ารุ่น Topas นี้ ได้แรงบันดาลใจมาจากเครื่องบินรุ่น JU52 (เครื่องบินขนส่งของเยอรมนี) ผิวกระเป๋าที่ถูกดีไซน์อย่างเป็นเอกลักษณ์มีชื่อว่า Groove Line ของ RIMOWA มีการจดสิทธิบัตรการออกแบบอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งสิ่งนี้ทำให้แบรนด์สามารถอยู่เหนือคู่แข่งได้ ด้วยการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างสรรค์กระเป๋าระดับพรีเมี่ยมที่แข็งแกร่งน้ำหนักเบา ง่ายต่อการใช้สอย และกลายเป็นสัญญลักษณ์ซึ่งบ่งบอกถึงรสนิยมของนักเดินทางในศตวรรษที่ 20 ได้ดีทีเดียว

 

การออกแบบที่โดดเด่น

อีกนวัตกรรมหนึ่งที่เกิดขึ้นใน ปี ค.ศ. 1976 คือการเปิดตัวกระเป๋า Topas รุ่นใหม่ ที่ออกแบบโดยทายาทรุ่นที่ 3 ดีเทอร์ โมร์เซ็ก (Dieter Morszeck) ซึ่งนับเป็นอีกก้าวสำคัญของการพัฒนาของแบรนด์ ริโมว่า เลยก็ว่าได้ กระเป๋ารุ่นใหม่นี้ ใช้วัสดุอลูมิเนียมที่สามารถกันน้ำและกันความชื้น ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมภาพยนต์หรือสื่อโทรทัศน์ เนื่องจากการออกกองถ่ายในแต่ละครั้ง ต้องเจอสภาวะอากาศที่แปรปรวน มีการทำงานนอกสถานที่ และขนย้ายอุปกรณ์ไปยังโลเคชั่นต่างๆ อยู่บ่อยครั้ง ทำให้กระเป๋ารุ่นนี้ตอบโจทย์อย่างมากในอุตสาหกรรมนี้

Topas รุ่นใหม่นี้ ผลิตออกมาหลายขนาดด้วยกัน เริ่มจากใบเล็กไว้สำหรับใช้เก็บเครื่องสำอางค์เรียกว่า Beauty Case นอกจากนี้ เวลาเดินทาง หากไม่ต้องการโหลดกระเป๋าลงใต้ท้องเครื่อง Topas ก็มีกระเป๋า Size Cabin ในขนาดพอเหมาะให้เลือกใช้ หรือจะเป็น กระเป๋าที่สามารถขนอุปกรณ์กีฬาขนาดใหญ่ได้ พร้อมกับล้อ Multiwheel ที่มีแกนหมุนรอบทิศทาง ทำให้เคลื่อนที่ได้ง่ายขึ้น และยังมีกระเป๋าคอลเลกชั่นพิเศษที่ชื่อว่า Gourmet เป็นกระเป๋าสำหรับใส่ไวน์ , ซิการ์ และแชมเปญโดยเฉพาะอีกด้วย

สำหรับกระเป๋ารุ่น Topas ใช้เวลาในการผลิตทั้งหมด 117 นาที ซึ่งถือว่ารวดเร็วมาก ประกอบไปด้วยชิ้นส่วนทั้งหมด 205 ชิ้น แต่ละชิ้นมีความทนทานสูง ผสมผสานกับความมันเงาและความแข็งแรงของวัสดุที่ใช้ โดยมีฐานการผลิตที่เมืองโคโลญจน์ (Cologne) บ้านเกิดของ RIMOWA นั่นเอง ผ่านกระบวนการผลิตถึง 90 ขั้นตอน จึงได้ผลลัพท์เป็นกระเป๋าเดินทางที่คงความเป็นเอกลักษณ์ดั้งเดิม แต่มีความแข็งแรงและทนทาน ส่งผลให้ RIMOWA กลายเป็นแบรนด์กระเป๋าเดินทางอันดับหนึ่งที่นักเดินทางทั่วโลก อยากจับจองเป็นเจ้าของ

 

นวัตกรรมอันล้ำสมัย

ในปี ค.ศ. 2007 ริโมว่าได้นำวัสดุพิเศษที่เรียกว่า โพลี คาร์บอเนต คุณภาพสูงมาผลิตกระเป๋าเดินทาง โดยมีคุณสมบัติพิเศษคือยืดหยุ่นและมีความทนทานสูง ภายในออกแบบให้เหมาะสมกับการใช้งานที่หลากหลาย ที่สำคัญ กระเป๋าเดินทางทุกใบของแบรนด์นี้ ผลิตด้วยมือทั้งหมด  ซึ่งแบรนด์ RIMOWA ได้รับรางวัลต่างๆ มากมาย เป็นเครื่องการันตีคุณภาพสินค้า โดยในปี 2019 ได้รับรางวัล ชนะเลิศ The Best New Luggage of The Year จากนิตยสาร Surface USA

นอกจากจุดเด่นของกระเป๋าในเรื่องของดีไซน์ รูปลักษณ์ และความคงทนแล้ว เรื่องเทคโนโลยี RIMOWA ก็ไม่เป็นสองรองใคร โดยความพิเศษ คือ กระเป๋าแต่ละใบจะมีรหัสเป็นของตัวเองซึ่งจะไม่ซ้ำกัน และนวัตกรรมล่าสุดอย่าง Electronic Tag กระเป๋าเดินทางรูปแบบใหม่ ที่มีแถบชิปแม่เหล็กฝังบนกระเป๋า ช่วยให้การเดินทางของคุณง่ายและรวดเร็วมากขึ้น โดยสามารถทำการเช็คอินกระเป๋าผ่านทาง แอพลิเคชั่นของสายการบินในมือถือได้เลย

นอกจากนี้ RIMOWA ยังได้ร่วมมือกับแบรนด์ชื่อดังต่างๆ ที่เป็นที่รู้จักกันดี ผลิตกระเป๋าคอลเลกชั่นพิเศษ เช่น Lufthansa ในปี ค.ศ. 1998 คอลเลกชั่นครบรอบ 100 ปี ร่วมกับ Porsche ในปี ค.ศ. 1999 และล่าสุด ปี 2020 กับคอลเลกชั่นพิเศษร่วมกับ Dior “A Capsule Collection” ในงาน แฟชั่นโชว์ Dior’s Men’s Summer 2020 ที่ปารีส

อีกทั้งได้บริษัทยักษ์ใหญ่แห่งวงการแฟชั่นอย่าง LVMH เข้ามาถือหุ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 2017  RIMOWA จึงเป็นบริษัทสัญชาติเยอรมันแห่งแรกที่เข้าร่วมกลุ่มนี้ ภายใต้การบริหารงานของ อเล็กแซนเดอร์ ออร์เนล (Alexandre Arnault) โดย LVMH ถือหุ้น 80% เป็นเงิน 640 ล้านยูโร หรือ 22,300 ล้านบาท

 

ทำไมต้องเป็น RIMOWA

ด้วยคุณสมบัติเด่นที่มีมากมาย RIMOWA จึงเป็นที่ยอมรับของนักเดินทางทั่วโลก ในปัจจุบัน RIMOWA มีสาขา 65 สาขาทั่วโลก และยังมีการพัฒนาที่ไม่หยุดยั้ง ไม่น่าเชื่อว่าจากเศษซากอลูมิเนียม และโลหะที่หลงเหลือจากการถูกไฟไหม้ จะเป็นแรงบันดาลใจที่นำมาสู่การเป็นแบรนด์กระเป๋าเดินทางอันดับ 1 ของโลก และมีมูลค่าทางการตลาดเกือบ 30,000 ล้านบาท

ไม่เพียงแค่วัสดุที่ทำให้กระเป๋าของริโมว่าทุกใบ แข็งแรงและทนทานเท่านั้น แต่การดีไซน์ทั้งภายนอกและภายในยังดูโฉบเฉี่ยวสวยงามหรูหรา รวมทั้งมีการรับประกันหลังการขายถึง 5 ปี หากต้องการจะลงทุนซื้อกระเป๋าเดินทางสักใบ RIMOWA ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่คุ้มค่า และจะไม่ทำให้คุณต้องผิดหวังอย่างแน่นอน

รัก
xoxo