To top
2 Jun

รวม 10 รถคลาสสิกที่แพงที่สุดในโลก

รถคลาสสิกที่แพงที่สุดในโลก 10 อันดับ – รถยนต์รุ่นเก่าหลายต่อหลายรุ่น ถือได้ว่า มีความคลาสสิค ทั้งในเรื่องของรูปลักษณ์รวมถึงสมรรถนะ ที่สำคัญไม่มีการผลิตแล้วในปัจจุบัน เป็นเหตุผลให้ บรรดารถคลาสสิคสวย ๆ หายากเหล่านี้ เป็นที่หมายปองของเหล่าบรรดานักสะสม

ที่มีราคาสูงขึ้นเรื่อย ๆ เราจึงรวบรวมเอา 10 อันดับรถที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกมาฝากกัน โดยจัดอันดับจากการจัดประมูลของสถานบันจัดการประมูลชื่อดังทั่วโลก มาลองทายดูเล่น ๆ ว่า รถคลาสสิกที่แพงที่สุดในโลก นั้น จะไต่ระดับราคาขึ้นไปได้ถึงแค่ไหนกัน

รวม 10 รถคลาสสิกที่แพงที่สุดในโลก

อันดับ 10  Alfa Romeo 8C 2900B Lungo Spider

รถสปอร์ตเปิดประทุนสมรรถนะสูง หรูหราขนาดใหญ่ สายพันธุ์สนามแข่ง เครื่องยนต์ 8 สูบ วางเครื่องยนต์ด้านหน้าตามแนวยาว ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 220 กม./ชั่วโมง

เป็น 1 ใน 12 รถตระกูล Touring Spider รุ่นปี 1935 ที่ยังหลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน เคยครองแชมป์รถรุ่นก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่มีมูลค่าการประมูลสูงที่สุดในโลก แต่ก็ถูกทำลายสถิติได้ในเวลาต่อมา มูลค่า 9.8 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ หรือ 658 ล้านบาท

 

อันดับ 9  Aston Martin DP215

รถคลาสสิคสัญชาติอังกฤษ แบรนด์รถสปอร์ตเก่าแก่ที่มีความหรูหราและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวเป็นอย่างมาก ถือเป็นรถพิเศษที่มีเพียงหนึ่งเดียวของ Aston Martin เพื่อใช้ลงแข่งที่ เลอม็อง (Le Mans) สนามแข่งรถเก่าแก่ในฝรั่งเศส ในปี 1963 ทำสถิติความเร็วสูงสุดไว้ที่ 198.6 ไมล์ หรือเกือบ 320 กม./ชั่วโมง และมีการนำมาซ่อมแซมใหม่ให้ยังคงโฉบเฉี่ยวไฉไลอย่างที่เห็นกัน มูลค่า 21.4 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ หรือ 707 ล้านบาท

 

รวม 10 รถคลาสสิกที่แพงที่สุดในโลก

อันดับ 8  Jaguar D-Type 1955

หนึ่งในรถที่สำคัญและมีค่าที่สุดของ Jaguar เป็นรถแข่งตำนานมอเตอร์สปอร์ตสุดเท่แห่งยุค 50’s ได้รับอิทธิพลมาจากเทคโนโลยีการบิน จึงไม่น่าแปลกใจที่จะมีรูปทรง และวัสดุคล้ายกับเครื่องบิน รถคันนี้ ได้รับชัยชนะมาแล้วในหลายสนาม

ผลิตขึ้นมาในปี 1956 เพียง 75 คันเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ทาง Jaguar ตั้งใจจะปลุกให้รถ D-Type ฟื้นคืนชีพอีกครั้งด้วยการผลิตขึ้นมาใหม่ในปี 2018 เพียง 25 คัน มูลค่า 21.78 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ หรือ 724 ล้านบาท

 

รวม 10 รถคลาสสิกที่แพงที่สุดในโลก

อันดับ 7  Duesenberg SSJ 1935

รถคลาสสิคเก่าแก่คันนี้เคยเป็นของนักแสดงในตำนานอย่าง แกรี่ คูเปอร์ (Gary Cooper) ส่วนอีกคันเคยเป็นของ คลาร์ก เกเบิล (Clark Gable) เจ้าของฉายา “The King of Hollywood”

เครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ 8 สูบ 400 แรงม้า รุ่นปี 1935 ทำความเร็วสูงสุดได้ 225 กม./ชั่วโมง ทำให้มันเป็นหนึ่งในรถยนต์รุ่นที่เร็วที่สุดในยุคนั้น และปัจจุบันครองตำแหน่งรถสัญชาติอเมริกันที่มีมูลค่าการประมูลสูงที่สุดอีกด้วย มูลค่า 22 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ หรือ 725 ล้านบาท

 

อันดับ 6  Aston Martin DBR1

รถคันนี้เกิดมาเพื่อเป็นรถแข่งโดยเฉพาะ และมีเพื่อนร่วมรุ่นเพียง 5 คันเท่านั้น ผลิตขึ้นในปี 1956 อีกทั้ง Aston Martin คันนี้ยังเป็นเจ้าของสถิติรถยนต์สัญชาติอังกฤษ ที่มีราคาประมูลสูงที่สุด

ความน่าสนใจของมันอยู่ตรงที่มีนักแข่งรถระดับตำนานหลายคน เคยขับขี่รถคันนี้คว้าชัยชนะในสนามสำคัญ ๆ มาก่อน อย่าง เซอร์ สเตอร์ลิง มอสส์ (Sir Stirling Moss) และ แจ็ค แฟร์แมน (Jack Fairman) มูลค่า 22.55 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ หรือ 743 ล้านบาท

 

รวม 10 รถคลาสสิกที่แพงที่สุดในโลก

อันดับ 5  Ferrari 275 GTB/4 NART Spider 1967

หนึ่งในรถที่หายากที่สุดของ Ferrari โดยผลิตออกมาเพียงแค่ 10 คันเท่านั้น ในรุ่นปี 1967 เพื่อขายให้กับ ลุยจิ ซิเนตติ (Luigi Chinetti) ผู้นำเข้า Ferrari ในสหรัฐอเมริกา จึงทำให้รถรุ่นนี้เป็นที่ต้องการอย่างมากในตลาด

และหลายคนยังเห็นตรงกันด้วยว่า เป็นหนึ่งในรถที่สวยที่สุดเท่าที่เคยมีการผลิตมา โดยรถคันนี้เป็นสมบัติตกทอดมาในครอบครัว และมีการขายเปลี่ยนมือกันเพียงแค่ 1 ครั้งเท่านั้น มูลค่า 27.5 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ หรือ 914 ล้านบาท

 

อันดับ 4  1956 Ferrari 290 MM

เป็นรถสปอร์ตสำหรับแข่งแบบคลาสสิคในตำนาน รุ่นปี 1956 ได้รับการออกแบบมาใช้ในแรลลี่ทางไกล มิลล์ หมิค เหลี่ย (Mille Miglia) ของอิตาลี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันชิงแชมป์รถสปอร์ตของโลก และเป็นที่มาของตัวย่อ MM ในชื่อรุ่นของรถ ที่ผลิตขึ้นมาเพียงแค่ 4 คันเท่านั้น ที่สำคัญรถคันนี้ไม่เคยประสบอุบัติเหตุถูกชนในสนามแข่งขันมาก่อน มูลค่า 28.05 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ หรือ 933 ล้านบาท

 

อันดับ 3  Mercedes-Benz w196 1954

รถฟอร์มูล่าวัน (F1) สูตรหนึ่ง ในตำนาน ที่สร้างชื่อให้กับ Mercedes-Benz เป็นอย่างมาก รุ่นปี 1954 ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ในช่วงปี 1954-1955 ครองแชมป์ความเร็วสูงสุดได้ถึง 9 ครั้ง และนำชัยชนะมาได้ถึง 8 ใน 12 รายการกรังปรีช์ รวมไปถึงตำแหน่งแชมป์โลกสองสมัยให้กับ มานูเอล ฟานจิโอ้ (Manuel Fangio) นักแข่งชาวอาร์เจนตินา มูลค่า 29.6 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ หรือ 984 ล้านบาท

 

รวม 10 รถคลาสสิกที่แพงที่สุดในโลก

อันดับ 2  1957 Ferrari 335S

รถยนต์รุ่นนี้ ผลิตขึ้นมาเพียง 4 คันในโลกเท่านั้น ถูกผลิตขึ้นในปี 1957 ดัดแปลงตัวถังโดยโค้ชบิลเดอร์ชื่อดังของอิตาลีอย่าง สกาเลียตติ (Carrozzaria Scaglietti) ในปี 1957 เพื่อให้มันเป็นรถแข่งโดยสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น และใช้เครื่องยนต์ Tipo 140 แบบ V12 สูบ ทวินแคม ขนาด 3.8 ลิตร ให้กำลัง 360 แรงม้า สำหรับใช้ในสนามแข่งขัน

ผ่านมือนักแข่งชื่อก้องโลกมาหลายสนาม ทั้งยังมีการซื้อขายเปลี่ยนมือในหมู่คนรักรถอย่างต่อเนื่อง และแน่นอนว่าทุกครั้งที่มีการซื้อขายออกไปก็จะต้องมีราคาสูงขึ้น โดยรถคันนี้ยังเป็นเจ้าของสถิติรถที่มีมูลค่าการประมูลสูงที่สุดในยุโรปอีกด้วย มูลค่า 35.71 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ หรือ 1,200 ล้านบาท

 

อันดับ 1  Ferrari 250 GTO

รถคลาสสิคระดับตำนาน อันเป็นที่ต้องการและสำคัญที่สุดในโลก ด้วยเกร็ดประวัติอันยาวนาน นักแข่งดังหลายคนได้เคยขับรถคันนี้คว้าแชมป์มาก่อน และคันนี้ รุ่นปี 1962 เป็นคันที่ 3 ของจำนวนการผลิตทั้งหมดที่มีเพียง 36 คันในโลก เคยชนะรางวัลการแข่งขันมาหลากหลายสนาม ก่อนจะกลายมาเป็นคอลเลคชั่นของนักสะสมในเวลาต่อมา

การก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งรถที่มีราคาแพงที่สุดในโลกนี้ เกิดขึ้นในเวลาเพียงแค่ 10 นาที เมื่อเจ้าของเดิมคือ ผู้บริหารบริษัทซอร์ฟแวร์ ซึ่งรักรถคลาสสิคและครอบครองรถคันนี้มานานถึง 16 ปี ตัดสินใจนำออกมาประมูลในที่สาธารณะในปี 2018 และมีผู้เคาะประมูลแข่งราคากันเพียง 3 รายเท่านั้น มูลค่า 48.40 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ หรือ 1,596 ล้านบาท

 

รวม 10 รถคลาสสิกที่แพงที่สุดในโลก

ในวงการรถยนต์นั้น รถยนต์รุ่นเก่าบางรุ่น นอกเหนือจากความคลาสสิคและความสวยงาม ที่ข้ามผ่านกาลเวลาแล้ว ยังถือว่ามีคุณค่าทางจิตใจ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบในกลิ่นอายของประวัติศาสตร์และหลงไหลในความงามของรถยนต์รุ่นคลาสสิคเหล่านั้น ปัจจุบัน กระแสของรถยนต์เหล่านี้ ก็ยังเป็นที่นิยมอย่างมาก และนี้คือ รวม 10 รถคลาสสิกที่แพงที่สุดในโลก

รถยนต์รุ่นคลาสสิค นับเป็นของสะสม ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้รถรุ่นใหม่เลยทีเดียว รวมทั้งราคาขายในบางรุ่นถือได้ว่าแพงกว่าออกรถมือหนึ่งในปัจจุบันเสียอีกด้วยซ้ำ บางคนซื้อเก็บเป็นรถยนต์สะสม ถือเป็นงานอดิเรกในการสะสมสิ่งของที่รัก ที่ชอบ ความสนใจของแต่ละคนอาจแตกต่างกันออกไป  แล้วแต่รสนิยมและกำลังทรัพย์ ขอเพียงได้รับความสุขใจในการได้ศึกษาข้อมูล หรือเป็นเจ้าของสิ่งที่เราหลงใหล ก็นับเป็นความสุขที่แต่ละคนสามารถเลือกสรรได้ แล้วคุณล่ะ สะสมอะไรบ้างหรือเปล่า

 

KATE