To top
22 Oct

ประวัติ Rolls Royce ยนตรกรรมแห่งความหรูหราจากเมืองผู้ดี

ประวัติ Rolls Royce (โรลส์-รอยซ์) – เชื่อได้ว่าในปัจจุบัน ไม่มีใครที่จะไม่เคยได้ยินชื่อแบรนด์รถยนต์สุดหรู ที่ได้รับการขนานนามว่า เป็นสุดยอดสถาปัตยกรรมแห่งความหรูหรา เป็นที่สุดของความสมบูรณ์แบบ ยนตรกรรมที่ได้รับความไว้วางใจและครองใจเศรษฐีทั่วโลก บทความนี้จะพาท่านย้อนรอย  เปิดอาณาจักรโรลส์-รอยซ์ เมื่อครั้งทำการก่อตั้งแบรนด์ในปี ค.ศ. 1904 ศึกษาประวัติความเป็นมาอันยาวนาน เพราะเหตุใด รถยนต์สัญชาติผู้ดีอังกฤษแบรนด์นี้ ถึงได้รับการยกย่องว่าดีที่สุดในโลก

ประวัติ Rolls Royce

ประวัติ Rolls Royce

Praise 116 Years of Legend

Rolls Royce (โรลส์-รอยซ์) แบรนด์รถยนต์สัญชาติอังกฤษ ซึ่งมีประวัติศาสตร์อันยาวนานมากว่า 116 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1904 โดยชายชาวอังกฤษ 2 คน นามว่า Frederick Henry Royce (เฟดริก เฮนรี่ รอยซ์) และ Charles Rolls (ชาร์ล โรลส์)

ประวัติ Rolls Royce

Frederick Henry Royce (เฟดริก เฮนรี่ รอยซ์) วิศวกรชาวอังกฤษ ผู้มีชื่อเสียงในด้านการออกแบบรถยนต์และเครื่องบิน  เขาเกิดเมื่อวันที่ 27 มีนาคม ปี ค.ศ. 1863 ในครอบครัวที่มีฐานะค่อนข้างยากจน เป็นลูกคนสุดท้องในบรรดาพี่น้องทั้งหมด 5 คน ครอบครัวของเฮนรี่ทำกิจการโม่แป้งในเมืองเล็ก ๆ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ จนต้องล้มละลาย  ทำให้ครอบครัวต้องทำการอพยพมายังลอนดอนตั้งแต่เขายังเล็ก

จนในปี ค.ศ. 1872 เมื่อเขามีอายุได้ 9 ปี พ่อของเขาก็ได้เสียชีวิตลง นั่นเป็นจุดเปลี่ยนทำให้เขาต้องดิ้นรนทำงานหาเงินช่วยเหลือจุนเจือครอบครัว ด้วยการรับจ้างเป็นเด็กส่งหนังสือพิมพ์และโทรเลข ทำให้เขาต้องยุติชีวิตการเป็นนักเรียนของเขาลงหลังจากที่เข้ารับการศึกษาในโรงเรียนปกติเพียงแค่ 1 ปีเท่านั้น

ประวัติ Rolls Royce

ประวัติ Rolls Royce

ในปี ค.ศ. 1878 เขาได้เริ่มฝึกงานกับบริษัทต่างๆ ทั้งบริษัทรถไฟ บริษัทผลิตเครื่องมือ และบริษัทด้านพลังงานไฟฟ้า ตลอดเวลาที่ทำงาน เขาได้เก็บสะสมประสบการณ์ บ่มเพาะความรู้ที่มี จนกระทั่งปี ค.ศ. 1884 เฮนรี่ได้เปิดบริษัทผลิตเครื่องปั่นไฟเป็นของตนเอง โดยเป็นเจ้าของกิจการร่วม เมื่ออายุ 21 ปีเท่านั้น ด้วยเงินเก็บจำนวน 20 ปอนด์ เขาได้เข้าร่วมเป็นหุ้นส่วนกับเพื่อนของเขานามว่า เออร์เนสต์ แคลงมอง (Ernest Claremont) ผู้ลงหุ้นเป็นจำนวน 50 ปอนด์

พวกเขาได้เริ่มต้นทำธุรกิจเกี่ยวกับผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าและไดนาโม และได้ตั้งเป็นบริษัทจดทะเบียนจำกัดในปี ค.ศ. 1894 ชื่อ บริษัท F.H. Royce  ตั้งอยู่ที่ Cooke Street, Hulme, แมนเชสเตอร์ และเปลี่ยนชื่อใหม่ในปี ค.ศ. 1899 เป็น Royce Ltd. มีส่วนแบ่งการตลาดและมีการเปิดโรงงานเพิ่มเติมใน Trafford Park, Manchester

ประวัติ Rolls Royce

Cooke St Manchester – 1894

ในช่วงปี ค.ศ. 1901 เฮนรี่ ได้ซื้อรถยนต์มาใช้ส่วนตัว โดยมีการดัดแปลงปรับปรุงรถที่ใช้ด้วยตัวเอง อีกทั้งลงมือสร้างรถยนต์ของเขาขึ้นมาเองถึง 3 คันในปี 1904 อันเป็นเหตุให้เขาได้พบกับชายหนุ่ม ผู้ซึ่งจะมาเป็นผู้ร่วมสร้างตำนานบทใหม่ไปด้วยกัน ชายผู้นั้นมีนามว่า Charles Rolls ตัวแทนขายรถยนต์ผู้มาจากครอบครัวอันมีฐานะ

 

Charles Stewart Rolls

ชาร์ล โรลส์ (Charles Stewart Rolls) เป็นนักบุกเบิกด้านยานยนต์และการบินชาวอังกฤษ เขาเกิดเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม ปี ค.ศ. 1877 ที่ Berkeley Square กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เป็นบุตรคนที่ 3 ของ บารอน แลงกาชอง และ เลดี้ แลงกาชอง (1st Baron Llangattock และ Lady Llangattock) อันเป็นตระกูลที่มั่งคั่ง พรั่งพร้อมด้วยชื่อเสียงและเงินตรา เขาเริ่มฉายแววความสนใจในเรื่องเกี่ยวกับยานยนต์ตั้งแต่สมัยเขาศึกษาอยู่ที่ Eton College จนได้รับฉายาว่า “Dirty Rolls”

Charles Stewart Rolls

Charles Stewart Rolls

ในปี ค.ศ. 1894 เขาได้เข้าศึกษา ที่มหาวิทยาลัย Cambridge ภาควิชาวิทยาศาสตร์และเครื่องกลประยุกต์ จนเมื่ออายุครบ 18 ปี ต่อมาในปี ค.ศ. 1896 เขาได้เดินทางไปปารีส เพื่อซื้อรถยนต์คันแรกนั่นก็คือ Peugeot Phaeton ซึ่งถือเป็นนักศึกษาคนแรกที่ได้ขับรถยนต์ไปเรียน รวมถึงได้เข้าร่วมชมรมยานยนต์ของฝรั่งเศส ถือได้ว่าชีวิตของเขาโรยไว้ด้วยกลีบกุหลาบมาตลอด จนกระทั่งจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย Cambridge ในปี ค.ศ. 1898

ในเดือนมกราคม ปี ค.ศ. 1903 ด้วยความสามารถด้านเครื่องยนต์และวิศวกร ร่วมด้วยเงินทุนช่วยเหลือจากพ่อเป็นจำนวน 6,600 ปอนด์  ชาร์ล โรลส์ ได้เปิดบริษัทตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เป็นรายแรกของอังกฤษ โดยใช้ชื่อว่า C. S. Rolls & Co. ตั้งอยู่ที่ Lillie Hall, Fulham เป็นตัวแทนจัดจำหน่ายและนำเข้ายานยนต์แบรนด์ French Peugeot และ Belgian Minerva

 

Partnership Establishment

ชาร์ล โรลส์ (Charles Rolls) ได้รู้จักกับ เฮนรี่ รอยซ์ (Henry Royce) โดยการแนะนำจาก เฮนรี่ เอ็ดมันด์ (Henry Edmunds) ผู้ซึ่งเป็นผู้อำนวยการของบริษัท Royce Ltd. ในขณะนั้น โดย เฮนรี่ เอ็ดมันด์ ก็ยังเป็นเพื่อนกับ ชาร์ลส โรลส์ ไฮโซผู้ขายรถยนต์นำเข้าอีกด้วย  เขาได้แสดงผลงานรถยนต์ของ Royce และจัดการประชุมขึ้น ที่โรงแรม The Midland Hotel ในเมือง Manchester เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ปี ค.ศ. 1904 ซึ่ง โรลส์ซึ่งในขณะนั้นมีอายุเพียง 26 ปี ประทับใจรถยนต์ของ Royce มาก

ไม่นานนัก เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ในปีเดียวกัน ท่ามกลางลมหนาวของเมือง Manchester ทั้งคู่ก็ได้ถือบรรลุข้อตกลงทางธุรกิจร่วมกัน พร้อมกำเนิดประวัติศาสตร์หน้าสำคัญของวงการรถยนต์ โดยรถรุ่นแรกที่ผลิตสู่ท้องตลาดมีชื่อเรียกว่า “Rolls-Royce 10 hp” เป็นรถแบบ 2 สูบ 10 แรงม้า เปิดตัวในงาน Paris Salon ในปีนั้น จัดจำหน่ายภายใต้บริษัท C. S. Rolls & Co.

ในปี ค.ศ. 1906 โรลส์และรอยซ์ได้ร่วมมือกันอย่างเป็นทางการ ด้วยการสร้างบริษัท Rolls-Royce Limited อย่างเป็นทางการ โรลส์ว่าจ้างรอยซ์ เข้ารับตำแหน่งหัวหน้าวิศวกรและผู้อำนวยการ เสนอเงินเดือนประจำอยู่ที่ 1,250 ปอนด์ต่อปีบวก 4% ค่าคอมมิชชั่นหากทำกำไรได้เกิน 10,000 ปอนด์ อีกทั้งเขายังให้การสนับสนุนทางด้านเงินทุน และคำปรึกษาเกี่ยวกับการวางแผนอันเฉียบแหลมทางธุรกิจ เพื่อเสริมความรู้ความเชี่ยวชาญทางด้านเทคนิคเพิ่มเติมให้กับรอยซ์อีกด้วย

จนกระทั่งปี ค.ศ. 1907 บริษัท Rolls-Royce Limited ได้รวมกิจการเข้ากับ C. S. Rolls & Co.อย่างเป็นทางการ นอกจากการดำเนินธุรกิจในการผลิตรถแล้ว บริษัท Rolls-Royce Limited ยังผลิตเครื่องยนต์สำหรับเครื่องบินอีกด้วย โดยเครื่องยนต์แบบแรกที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า “The Rolls-Royce Eagle” ถูกนำมาใช้งานครั้งแรกในกิจการทหารอังกฤษ เมื่อปี ค.ศ. 1915 ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1

ปัจจุบันสายการผลิตเครื่องยนต์สำหรับอากาศยานนี้แยกออกมาเป็นอีกบริษัทในนาม Rolls-Royce Holding plc แต่ความสัมพันธ์ของโรลส์และรอยซ์ ในฐานะหุ้นส่วน ต้องเป็นอันจบลง กับเกิดเหตุการณ์ที่ Rolls ประสบอุบัติเหตุทางอากาศเสียชีวิต เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ปี ค.ศ. 1910 ในขณะที่เขาแสดงการบินอยู่เหนือ Southbourne, Bournemouth หางเครื่องบินของเขาเกิดขาด รวมอายุได้เพียง 32 ปีเท่านั้น นับว่าเป็นชาวอังกฤษคนแรกที่เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางอากาศ และนับเป็นรายที่ 11 ของโลก

 

Silver Ghost and Phantom

หลังจากการก่อตั้งบริษัท Rolls-Royce Limited ขึ้นอย่างเป็นทางการ ในปี ค.ศ. 1906 นั่นเอง ในปีถัดมา ก็ได้ถือกำเนิดรถยนต์ที่ถือได้ว่าเป็นรุ่นในตำนานอย่าง “Silver Ghost” (ซิลเวอร์ โกสต์) รถยนต์รุ่นนี้ทำให้ Rolls Royce ได้รับการยกย่องว่าเป็นรถที่ดีที่สุดในโลก หรือ The Best Car in the World หลังจากการทดสอบวิ่งในเส้นทาง ลอนดอน-กลาสโกว มากถึง 27 เที่ยวโดยไม่หยุดพัก คิดเป็นระยะทางรวม 14,371 ไมล์ โดยเริ่มแรกถูกผลิตออกมาในชื่อ “40/50 h.p.” ด้วยรูปแบบของตัวรถที่มีสีเงินจากอลูมิเนียมรวมถึงป้ายทะเบียน จึงเป็นที่มาของชื่อรุ่น Silver Ghost

Silver Ghost (ซิลเวอร์ โกสต์) ใช้สีตัวถังเฉดเงินแบบอะลูมิเนียม อันเป็นของมีค่า และไม่เคยถูกใช้ในสีตัวถังรถรุ่นใดมาก่อน ผสมกับคำว่า โกสต์ ซึ่งเปรียบเปรยถึงความเงียบในการเคลื่อนที่เหมือนผี ด้วยแชสซีส์ขนาดใหญ่ ช่วงล่างแหนบ เครื่องเหล็กหล่อ ฯลฯ มันทำลายสถิติเครื่องยนต์ที่หมุนต่อเนื่องนานที่สุดโดยไม่หยุดพัก ช่วยสร้างชื่อเสียงโดยแทบไม่ต้องโฆษณา และกลายเป็นค่านิยมประจำแบรนด์ไปแล้ว

Silver Ghost

Silver Ghost

ต่อมาในปี ค.ศ. 1925 รถยนต์อีกรุ่นสำคัญก็ได้ถือกำเนิดขึ้น มีชื่อว่า “Phantom” (แฟนท่อม) โดยเป็นรถยนต์ที่ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อทดแทนรถรุ่น Silver Ghost ในขณะนั้น ด้วยเครื่องยนต์ที่มีขนาดใหญ่มากขึ้น และเปลี่ยนเครื่องยนต์จากระบบวาร์ลด้านข้าง มาเป็นวาร์ลแบบ Overhead โดยรุ่น Phantom VI  มีการผลิตออกมาเพียงแค่ 18 คันเท่านั้น มีการผลิตระหว่างปี ค.ศ. 1950-1956 ซึ่งจะทำการผลิตให้กับลูกค้าที่ทางแบรนด์เห็นสมควรจะผลิตให้เท่านั้น

Rolls-Royce Phantom IV

Phantom VI

Phantom กลายเป็นรุ่นที่มีความสำคัญกับแบรนด์ Rolls Royce เป็นอย่างมาก ดังเห็นได้ว่า ได้รับความไว้วางใจจากราชวงศ์อังกฤษ โดยถูกเลือกให้เป็นรถยนต์พระที่นั่งของราชวงศ์ รถยนต์รุ่น Phantom VI หลายรุ่นหลายคัน มีการสั่งผลิตเฉพาะ ตามความต้องการของลูกค้า สำหรับในประเทศไทยนั้น มีการนำ Phantom VI มาใช้เป็นรถยนต์พระที่นั่งอย่างเป็นทางการของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 หมายเลขทะเบียน ร.ย.ล. 972 ซึ่งมักจะพบเห็นในงานราชพิธีสำคัญต่าง ๆ เป็นราชพาหนะที่ในหลวงทรงงานมากที่สุดถึง 30 ปี ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็น Maybach 62

Phantom VI rama 9

 

The Spirit of Ecstasy

นอกเหนือจากอักษรตัว R ตัวใหญ่ 2 ตัว ล้อมรอบด้วยรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าลบมุม ด้านบนเป็นคำว่า “ROLLS” ด้านล่างเป็นคำว่า “ROYCE”  อันเปรียบเสมือนเป็นสัญลักษณ์ของรถยนต์นั่งสุดหรูและอัครฐานแบรนด์นี้แล้ว ยังมีอีกหนึ่งสัญลักษณ์ซึ่งเป็นที่คุ้นเคย รวมทั้งเป็นที่รู้จักกันดีทั่วโลก นั่นก็คือ “The Spirit of Ecstasy”  หรือเทพีนำโชค ที่อยู่หน้ากระโปรงรถของรถ Rolls Royce ทุกคัน อันมีความหมายว่า “จิตวิญญาณแห่งความปิติ”

เรื่องราวของประติมากรรมชิ้นนี้ ต้องทำการย้อนกลับไปเมื่อปี ค.ศ. 1909 ซึ่งในขณะนั้น ทาง Rolls Royce ยังไม่ได้มีการผลิตตัวสัญลักษณ์ หรือมาสคอตหน้ารถแต่อย่างใด จนเมื่อ จอห์น ดักราส สก็อต มอนทากิว (John Douglas-Scott-Montagu)  บรรณาธิการนิตยสาร The Car Illustrated ได้มอบหมายให้เพื่อนนักประติมากรรม นามว่า ชาร์ลส์ โรบินสัน ไซค์ส์ (Charles Robinson Sykes) ช่วยออกแบบตัวมาสคอตประจำหน้ารถให้กับ Rolls Royce รุ่น Sliver Ghost ให้กับเขา

ในปี ค.ศ. 1910 แฟชั่นการประดับประดาหน้ารถด้วยรูปปั้น กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่คนร่ำรวย หนึ่งในนั้นคือลูกค้าของแบรนด์ท่านหนึ่ง ซึ่งออเดอร์ให้ออกแบบรูปปั้นหญิงสาวอันเป็นที่รัก เจ้าของรถคนนี้ยังมีอิทธิพลในสมาคมยานยนต์อังกฤษอย่างมาก ดังนั้นทางบริษัท Rolls-Royce จึงจ้างศิลปินคนเดียวกับที่ได้สร้างสรรค์รูปปั้นกล่าว มาสรรค์สร้างหุ่นประดับหน้ารถอย่างถาวร

Sykes ได้ทำการออกแบบ โดยได้แรงบันดาลใจมาจาก หญิงสาวนามว่าอีลินอ แวลาโซ (Eleanor Velasco Thornton) ซึ่งเป็นเลขาของ Montagu และให้ชื่อผลงานชิ้นนั้นว่า “The Whisper” มีลักษณะเป็นรูปหญิงสาวมาพร้อมกับเสื้อที่ปลิวออกมา และมีนิ้วชี้ของมือข้างซ้ายแตะไว้ที่ริมฝีปาก อันมีความหมายถึงความรักลับๆ ระหว่าง Thornton และ Montagu ซึ่งทั้งคู่ มีความรู้สึกดีๆต่อกัน แต่ด้วยฐานะที่แตกต่างกันมากเกินไป ทำให้ไม่สามารถครองรักกันได้

Eleanor Velasco Thornton หญิงผู้เป็นต้นแบบของ Spirit of Ecstasy

Eleanor Velasco Thornton หญิงผู้เป็นต้นแบบของ Spirit of Ecstasy

จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1910 ทาง Rolls Royce ต้องการทำการออกแบบสัญลักษณ์มาสคอตประจำแบรนด์ จึงได้ทำการติดต่อมายัง Sykes เพื่อให้ทำการออกแบบให้ โดยให้นิยามแนวทางของตัวมาสคอตที่ต้องการเอาไว้ว่า “The spirit of the Rolls-Royce, namely, speed with silence, absence of vibration, the mysterious harnessing of great energy and a beautiful living organism of superb grace…” ซึ่งมีความหมายคร่าว ๆ ว่า รวมทุกนิยามของพลังและความเร็วเอาไว้ภายใต้รูปลักษณ์อันอ่อนหวานและสวยงาม

ดังนั้น Sykes จึงได้เริ่มทำการออกแบบ โดยใช้ต้นแบบมาจากงาน The The Whisper ก่อนหน้านั้น จินตนาการถึงนางฟ้าองค์น้อยที่หลงไหลการเดินทางโดยรถยนต์ และได้บินลงมาประทับบนหน้ารถของ Rolls Royce เพื่อเริงรื่นกับอากาศอันบริสุทธิ์

The Spirit of Ecstasy

The Spirit of Ecstasy

ทาง Rolls Royce ได้ทำการติดตั้งนางฟ้าตัวน้อยนี้ ลงบนรถทุกคันที่ผลิตตั้งแต่ปี ค.ศ. 1911 เป็นต้นมา โดยแรกเริ่มวัสดุที่ใช้ผลิตจะทำจากเงิน แต่ต่อมาในปี ค.ศ. 1914  ได้เปลี่ยนวัสดุมาเป็นนิเกิลและโครเมี่ยม จนกระทั่งปัจจุบันได้เปลี่ยนมาใช้วัสดุสแตนเลส แต่ยังสามารถสั่งทำสัญลักษณ์นี้จากวัสดุพิเศษ ตามความต้องการของลูกค้าได้ ไม่ว่าจะเป็น ทองคำ 24 เค หรือคริสตัล รวมถึงดัดแปลงจากรูปปั้นหญิงสาวท่ายืนของเดิม เป็นท่ากางแขนและมีผ้าพลิ้วไหวล้อไปกับสายลมเวลาวิ่ง ตามชื่อ Spirit of Speed ในตอนแรก ก่อนจะเปลี่ยนเป็น Spirit of Ecstasy ในเวลาต่อมาจนถึงปัจจุบัน

ประวัติ Rolls Royce

ปัจจุบัน แบรนด์ Rolls Royce เป็นบริษัทรถยนต์นั่งจากอังกฤษ อยู่ภายใต้การบริหารของกลุ่ม BMW GROUP ซึ่งได้เข้าซื้อกิจการตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1998 โดยได้จดทะเบียนและตั้งบริษัทใหม่ ภายใต้ชื่อ ROLLS-ROYCE MOTOR CARS LIMITED ได้สิทธิ์ในแบรนด์รถยนต์ Rolls Royce ทั้งหมด รวมถึงมาสคอต The Spirit of Ecstasy และสิทธิบัตรต่าง ๆ มีรถยนต์หรูที่ยังอยู่ในสายการผลิตทั้งหมด 4 รุ่นด้วยกัน โดยรถยนต์ทุกรุ่นทำการประกอบด้วยมือทั้งสิ้น สามารถผลิตได้ไม่เกินวันละ 10 คันเท่านั้น

อีกทั้งทาง BMW Group ได้สร้างโรงงานขึ้นเพื่อผลิตและประกอบรถยนต์ ROLLS ROYCE โดยเฉพาะ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 เป็นต้นมา เพื่อหวังยกระดับแบรนด์ให้เป็นระดับ SUPER LUXURYมีชื่อโรงงานว่า ROLLS – ROYCE GOODWOOD PLANTตั้งอยู่ที่เมือง CHICHESTER ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศอังกฤษ ซึ่งนอกจากเป็นโรงงานผลิต ROLLS ROYCE แห่งเดียวในโลกแล้ว ยังเป็นสำนักงานใหญ่ ของ ROLLS-ROYCE MOTOR CARS LIMITED อีกด้วย

ประวัติ Rolls Royce

ประวัติ Rolls Royce

ตำนานการบุกเบิกและการสร้างสรรค์ ที่ยังคงครองใจอันดับหนึ่ง สำหรับกลุ่มมหาเศรษฐีทั่วโลก เป็นยนตรกรรมหรูหราที่มีมูลค่าสูงที่สุด ซึ่งต้องยอมรับว่า จากประวัติ ROLLS ROYCE  ทั้งหมดทั้งมวลนี้ เกิดจากความร่วมมือกัน ของชายชาวอังกฤษ 2 คน CHARLES ROLLS และ HENRY ROYCE ซึ่งต่างที่มา แต่มีความหลงไหลในสิ่งเดียวกัน ผนึกกำลังรังสรรค์ผลงานอันทรงคุณค่า ที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์เอาไว้มาตลอด เป็นเวลากว่า 116 ปี ภายใต้เครื่องหมายการค้า ROLLS-ROYCE (โรลส์รอยซ์)

 

KATE