To top
26 May

Louis Vuitton Limited Edition – 9 ลายพิเศษที่นักสะสมต้องมี

Louis Vuitton Limited Edition เป็นลวดลายพิเศษ ที่สร้างสรรค์ขึ้น จากการร่วมมือกันระหว่างศิลปินผู้มีชื่อเสียงระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น Stephen Sprouse , Jeff Koons , Takashi Murakami ,Yayoi Kusama  กับแบรนด์ชั้นนำที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานอย่าง Louis Vuitton ก่อเกิดเป็นผลงานศิลปะอันงดงาม โดยกระเป๋าที่ถูกนำมาแต่งแต้มสีสันเหล่านี้ มักเป็นกระเป๋าที่สร้างชื่อเสียงให้กับแบรนด์ รวมทั้งมีการผลิตออกมาในจำนวนจำกัด ซึ่งนั่น เป็นการเพิ่มมูลค่าและคุณค่าให้กับแบรนด์ไปโดยปริยาย

ฤดูกาลแล้วฤดูกาลเล่า ที่ Louis Vuitton ยังคงจับมือกับศิลปินมากหน้าหลายตา สรรสร้างผลงานที่ดึงดูดนักสะสมและนักลงทุนได้เป็นอย่างดี โดยกระเป๋าเหล่านี้ ถือครองมูลค่าการขายปลีกในตลาดซื้อขายแบรนด์เนมมือ 2 ถึง 85% อีกทั้งมีแนวโน้มที่จะให้ผลตอบแทนดียิ่งขึ้นหากกระเป๋าอยู่ในสภาพดีเยี่ยม สำหรับบทความนี้ เรามาทำความรู้จักกับกระเป๋ารุ่น Limited ที่เปรียบเสมือนดังตำนาน ซึ่งยังคงเป็นที่กล่าวขานและตามหาของเหล่านักสะสมจนถึงปัจจุบัน แม้ว่าบางรุ่นจะยุติการผลิตไปแล้วก็ตาม จะมีรุ่นใดบ้างนั้น ติดตามไปพร้อมกัน

 

1. Louis Vuitton x Stephen Sprouse: Graffiti

เริ่มต้นด้วยคอลเล็กชั่น ซึ่งถือได้ว่าเป็นที่ตามหาของบรรดาเหล่านักสะสมมากที่สุด อีกทั้งราคาที่พุ่งสูงขึ้นด้วยความที่เป็นไอเท่มหายาก กับ Stephen Sprouse Graffiti Collection คอลเล็กชั่น ที่ได้รับความนิยมตลอดกาล มีการเปิดตัวถึง 2 ครั้งด้วยกัน โดยเปิดตัวครั้งแรกในปี ค.ศ. 2001 ในงานแฟชั่นโชว์ Spring/Summer 2001 และอีกครั้งในปี ค.ศ. 2009 เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อการจากไปของ Stephen Sprouse ซึ่งเสียชีวิตในปี ค.ศ. 2004

ความแตกต่างระหว่าง 2 คอลเล็กชั่นนี้ อยู่ที่ คอลเล็กชั่นแรก ลายพิมพ์กราฟฟิตี้ จะมีขนาดใหญ่ โดยวางจำหน่ายด้วยกันทั้งหมด 3 สีคือ สีเงิน (silver) , สีเขียวกากี (khaki) และสีเบจ (beige) สำหรับคอลเล็กชั่นที่เปิดตัวในปี 2009 ลายพิมพ์กราฟฟิตี้ จะมีขนาดเล็กลง มีจำหน่ายด้วยกันทั้งหมด 3 สีคือ สีส้มสะท้อนแสง (neon orange) , สีชมพูบานเย็น (fuchsia) และสีเขียว (vert) โดยราคาเปิดตัวอยู่ที่ $1,180 หรือประมาณ 35,600 บาท สำหรับราคาจำหน่ายมือ 2 อยู่ที่ $1,200 สำหรับรุ่น 2001 และ $1,110 สำหรับรุ่นปี 2009

Stephen Sprouse เป็นศิลปินและนักออกแบบแฟชั่นชาวอเมริกัน ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้บุกเบิกการผสมผสานศิลปะในยุค 80 เข้าไว้ด้วยกัน ความซับซ้อนของแฟชั่นสไตล์พังก์และป๊อป รวมถึงลวดลายกราฟฟิตี้ ที่สร้างชื่อเสียงอีกทั้งเอกลักษณ์ให้กับเขา Sprouse เสียชีวิต เมื่อวันที่ 4 มีนาคม ปี ค.ศ. 2004 ณ St. Luke’s-Roosevelt Hospital Center ในมหานครนิวยอร์ค ด้วยอาการหัวใจล้มเหลว หลังจากได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งปอด สิริรวมอายุได้ 50 ปี

 

2. Louis Vuitton x Stephen Sprouse: Roses

อีกหนึ่งผลงานการออกแบบของ Stephen Sprouse กับคอลเล็กชั่น Roses ซึ่งถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นหายากและได้รับความนิยมจากเหล่านักสะสมเป็นอย่างมาก โดดเด่นด้วยลวดลายดอกกุหลาบแนวกราฟฟิตี้ อันประกอบไปด้วยสี 3 สีด้วยกันคือ สีชมพู Day-Glo pink สีส้ม และสีเขียว ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากศิลปะในช่วงยุค 1980s แต่งแต้มสีสันและลวดลายปรากฏบนกระเป๋าถือ กระเป๋าสตางค์ รวมถึงผ้าพันคอ

สำหรับคอลเล็กชั่นนี้ เป็นหนึ่งในคอลเล็กชั่น ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อแสดงความเคารพต่อการเสียชีวิตของ Stephen Sprouse ผู้ซึ่งจากไป ด้วยโรคมะเร็งปอดเมื่อปี ค.ศ. 2004 โดยราคาเปิดตัวของคอลเล็กชั่นนี้ ในรุ่น Speedy อยู่ที่ $1,310 หรือประมาณ 39,500 บาท ราคาจำหน่ายมือ 2 ในปัจจุบัน อยู่ที่ $1,200 หรือเป็นเงินไทยประมาณ 37,000 บาท ซึ่งราคาจำหน่ายมือ 2 นี้ ขึ้นอยู่กับสภาพ รวมถึงรุ่นของกระเป๋า

 

3. Louis Vuitton x Richard Prince: Watercolor

สัญลักษณ์อันถือได้ว่าเป็น Iconic ของแบรนด์ ลวดลาย Monogram สุดคลาสสิก ถูกนำมาดัดแปลง สาดใส่ด้วยศิลปะสีน้ำเหลื่อมกันอันงดงาม ซึ่งถูกออกแบบโดย Richard Prince ศิลปินร่วมสมัยที่มีอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งของอเมริกา โดยคอลเล็กชั่นนี้ เป็นส่วนหนึ่งของ Spring/Summer collection ซึ่งเปิดตัวในปี ค.ศ. 2008 ร่วมมือกับ Marc Jacobs นักออกแบบฝ่ายศิลป์ของ Louis Vuitton ในขณะนั้น โดดเด่นด้วยลวดลายเอฟเฟกต์สีน้ำที่นุ่มนวลโดยใช้สีที่แตกต่างกันมากถึง 17 สี แต่งแต้มลงบนผ้าใบสีขาว และสีน้ำตาลแบบดั้งเดิม

ราคาจำหน่ายช่วงเปิดตัวของคอลเล็กชั่น Limited นี้ ในรุ่น Speedy อยู่ที่ $1,280 เป็นเงินไทยประมาณ 39,000 บาท ถือได้ว่า Louis Vuitton x Richard Prince: Watercolor เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่นักสะสมมองหาและต้องการมากที่สุด สำหรับราคาในตลาดซื้อขายแบรนด์เนมมือ 2 ในปัจจุบัน อยู่ที่ $2,000 หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 60,000 บาท (ราคาซื้อ-ขาย อาจเปลี่ยนแปลงไปตามภูมิประเทศ และค่าเงินของประเทศนั้น ๆ)

 

4. Louis Vuitton x Yayoi Kusama: Monogram Town

มาถึงคิวศิลปินจากทางฝั่งเอเชียของเราบ้าง กับ Yayoi Kusama (ยาโยอิ คุซามะ) ศิลปินร่วมสมัยชาวญี่ปุ่น ที่มีชื่อเสียงและรู้จักกันเป็นอย่างดีทั่วโลก กับฉายา The Princess of Polka Dots ซึ่งมาพร้อมกับภาพลักษณ์คุณป้าและหน้าม้าสีแดงสด ผู้หลงไหลในลวดลายจุดต่าง ๆ  โดยในปี ค.ศ. 2012  Kusama จับมือกับทาง Louis Vuitton ออกคอลเล็กชั่นพิเศษ ที่มีชื่อว่า “Louis Vuitton – Yayoi Kusama”

จุดเด่นของกระเป๋าคอลเล็กชั่นนี้ อยู่ที่ลวดลายจุดหลายขนาดเล็กใหญ่มากมาย ซึ่งนอกเหนือไปจากผลิตภัณฑ์กระเป๋าและสินค้าเครื่องหนังขนาดเล็กแล้ว คุซามะคอลเล็กชั่น ยังประกอบไปด้วยเสื้อผ้าลวดลายจุดมากมายหลายแบบอีกด้วย ผลงานของเธอได้แก่ Monogram Vernis Wave (ลวดลายจุดบนหนัง Monogram Vernis) และลวดลาย Monogram Town ที่แต่งแต้มลายจุดลงบนผืนผ้าใบโมโนแกรมอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ Louis Vuitton

สำหรับราคาจำหน่ายช่วงเปิดตัวของกระเป๋าคอลเล็กชั่นนี้ ในรุ่น Speedy อยู่ที่ $1,220 คิดเป็นเงินไทยประมาณ 37,000 บาท เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยมและเป็นที่ตามหาของบรรดานักลงทุนรวมถึงนักสะสม ปัจจุบัน ราคาจำหน่ายในตลาดซื้อขายสินค้าแบรนด์เนมมือ 2 ของกระเป๋ารุ่นนี้ อยู่ที่ $1,300 หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 40,000 บาท

 

5. Louis Vuitton x Takashi Murakami: Multicolore Monogram

คอลเล็กชั่น “Monogram Multicolor” เป็นผลงานความร่วมมือระหว่าง Louis Vuitton และศิลปินชาวญี่ปุ่นนามว่า Takashi Murakami (ทาคาชิ มุราคามิ) ซึ่งเป็นศิลปินผู้เปิดโลกทัศน์งานศิลปะแบบสมัยใหม่ เกิดจากการผสมผสานศิลปะและแอนิเมชั่นสีสันสดใส โดยคอลเล็กชั่นนี้ เปิดตัวครั้งแรก บนรันเวย์แฟชั่นโชว์ Spring / Summer เมื่อปี ค.ศ. 2003 และอยู่ในไลน์การผลิตยาวนานถึง 12 ปี ก่อนที่จะยุติการผลิตลงเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี ค.ศ. 2015 ซึ่งถือได้ว่าเป็นการร่วมงานของศิลปินที่ยาวนานที่สุด ที่แบรนด์เคยมีมา

จุดเด่นของลวดลายนี้ คือการใช้เฉดสี มากถึง 33 เฉดสีด้วยกัน แต่งแต้มสีสันลวดลาย ลงบนลวดลายโมโนแกรมอันเลื่องชื่อ ระเบิดจินตนาการโดยใช้ฉากหลังเป็นผ้าใบเคลือบที่มีทั้งสีขาวและสีดำ สร้างสรรค์ภาพลายพิมพ์โมโนแกรมสีน้ำตาลคลาสสิกแบบดั้งเดิม ให้เต็มไปด้วยด้วยสีสันสดใส สนุกสนาน โดยตัวอักษร LV จะมีสีแตกต่างกันออกไปทั้งหมด 9 สี ส่วนสัญลักษณ์ดาว 4 แฉกและดอกไม้ในวงกลมนั้น จะมีสีที่แตกต่างกันออกไป 24 สี รวมทั้งหมดเป็น 33 สี

โดยสีสันที่ปรากฏบนผืนผ้าใบสีดำนั้น จะประกอบด้วยสีเรียงกันดังนี้ 1. fuschia (สีชมพูฟูเซีย) , white, green 2. dark yellow, dark pink, dark purple 3. dark blue, chartreuse (สีเขียวอมเหลือง), light blue ส่วนสีสันที่ปรากฏบนผืนผ้าใบสีขาว จะประกอบด้วยสีเรียงกันดังนี้ 1 fuschia, black, green 2. dark yellow, dark pink, dark purple 3. dark blue, chartreuse, light blue

ลวดลาย Monogram Multicolor ได้รับความนิยมอย่างสูงทันที นับตั้งแต่เปิดตัว กลายเป็นคอลเล็กชั่นที่เหล่าคนดังและเซเลบริตี้ ต่างต้องมี และเป็นที่ต้องการมากที่สุดในโลกไปโดยปริยาย ด้วยยอดขายกระเป๋าในปีแรก มากกว่า 70,000 ใบ ในจำนวนนั้นรวมถึงสินค้าจำพวกเครื่องหนังขนาดเล็กอย่างเช่นกระเป๋าสตางค์ จึงไม่แปลกใจ หากกระเป๋าจากคอลเล็กชั่นนี้ จะขึ้นแท่นเป็น IT-Bag แห่งยุคไปอย่างไร้ข้อกังหา

สำหรับกระเป๋ารุ่น Multicolor Monogram Speedy กระเป๋าทรงขนมจีบ Petit Noe และ กระเป๋ารุ่น Alma ถือได้ว่าทั้ง 3 รุ่นนี้ เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุดในคอลเล็กชั่นนี้เลยก็ว่าได้ ทั้งนี้ราคาจำหน่ายในตลาดซื้อขายมือ 2 อาจมีการเปลี่ยนแปลงมากน้อย ขึ้นอยู่กับสภาพของกระเป๋าและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่มาพร้อมกับกระเป๋า ดังนั้นควรเลือกซื้อ-ขายกับตัวแทนจำหน่ายที่เชื่อถือได้ และมีการรับรองอย่างถูกต้องเท่านั้น สามารถเข้าชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ Katexoxo-Monogram Multicolor

6. Louis Vuitton x Takashi Murakami: Monogramouflage

การผสมผสานลายพิมพ์โมโนแกรมแบบคลาสสิก เข้ากับลายพรางของทหาร และศิลปะลวดลายแนวสตรีท อันลงตัว สร้างความกระฉับกระเฉง และดูเป็นผู้ชายมากยิ่งขึ้น อีกหนึ่งผลงานการออกแบบจาก Takashi Murakami เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 2008 ซึ่งคอลเล็คชั่น Monogram camouflage นี้ จัดแสดงอยู่ที่ พิพิธภัณฑ์บรู๊คลิน (Brooklyn Museum) ด้วยจุดประสงค์เพื่อเป็นการสร้างจุดเด่นให้กับผลงานแฟชั่น ให้กลายมาเป็นงานศิลปะชั้นสูง ซึ่งปัจจุบัน ยังมีไลน์การผลิต จัดจำหน่ายพร้อมกับคอลเล็กชั่นอื่น ๆ

คอลเล็กชั่น Monogramouflage collection นี้ มีวางจำหน่ายทั้ง กระเป๋าเดินทาง กระเป๋าถือ เครื่องหนัง เครื่องประดับ เครื่องแต่งกาย รวมถึงแฟชั่น Ready-to-wear (เสื้อผ้าสำเร็จรูป)

สำหรับกระเป๋ารุ่น Limited รุ่นนี้ ราคาเมื่อครั้งเปิดตัวออกจำหน่ายครั้งแรก สำหรับรุ่น Speedy อยู่ที่ $1,580 หรือคิดเป็นเงินไทยโดยประมาณ 48,000 บาท ในปัจจุบัน ราคาซื้อขายของกระเป๋ารุ่นนี้ ในตลาดซื้อขายแบรนด์เนมมือ 2 ราคาพุ่งทะยานไปกว่า $3,000 หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 90,000 กว่าบาท (ราคาจำหน่ายอาจแตกต่างกันออกไป จากสภาพ รุ่นของกระเป๋า และภูมิภาคที่จัดจำหน่าย)

 

7. Louis Vuitton x Takashi Murakami: Monogram Cerises

อีกหนึ่งผลงานจาก Takashi Murakami คอลเล็กชั่น Louis Vuitton Monogram Cerises นี้ เปิดตัวครั้งแรกในงานแฟชั่นโชว์ Spring/Summer ปี ค.ศ. 2005 โดยมุราคามิ ใช้เม็ดสีที่แตกต่างกัน 15 สีเพื่อให้ได้สีแดงสดของเชอร์รี่ ซึ่งใบหน้าของเชอร์รี่ มีการแสดงรอยยิ้มที่มีทั้งรูปลักษณะหัวเราะ รวมทั้งสีหน้าที่แสดงออกถึงความประหลาดใจสลับกันไป โดดเด่นอยู่ทั่วผืนผ้าใบโมโนแกรม มีวางจำหน่ายทั้ง กระเป๋าถือ เครื่องหนังขนาดเล็ก รวมทั้งผ้าพันคอ

สิ่งที่ตอกย้ำความเป็น Limited Edition ของกระเป๋าคอลเล็กชั่นนี้ คือ กระเป๋ารุ่น Speedy จะถูกผลิตออกมาเพียงแค่ขนาดเดียว คือ ขนาด 25 นิ้ว จากที่ปกติ จะมีถึง 4 ขนาดด้วยกัน โดยราคาเปิดตัวอยู่ที่ $975 คิดเป็นเงินไทยประมาณ 30,000 บาท ซึ่งปัจจุบัน ราคาซื้อขายในตลาดแบรนด์เนมมือ 2 จะอยู่ที่ $800 หรือคิดเป็นเงินไทยโดยประมาณ 25,000 บาท

 

8. Louis Vuitton x Supreme

Louis Vuitton x Supreme เป็นคอลเล็กชั่นพิเศษ ที่เกิดจากการ Co-Branding ระหว่าง 2 แบรนด์ดังระดับโลก อย่าง Louis Vuitton จากฝั่งยุโรป กับแบรนด์สตรีทแวร์ชื่อดังจากทางฝั่งอเมริกาอย่าง Supreme (สุพรีม) เปิดตัวในคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ร่วง-ฤดูหนาว ประจำปี 2017 (Fall-Winter 2017) ภายใต้ชื่อ “Friends and Heroes” โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากวัฒนธรรมการใช้ชีวิตของชาวนิวยอร์ค ใยช่วงยุค 70’s – 90’s

ถือเป็นการผสมผสานความหรูหรากับความแฟชั่นสตรีทแวร์แบบกวน ๆ เข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว เป็นการปรับสไตล์การออกแบบ ให้เข้าถึงคนยุคใหม่ได้มากขึ้น เหมาะสำหรับผู้ซึ่งกำลังมองหาความหรูหราในแบบฉบับใหม่ ๆ ไม่จำเจ  ที่สามารถสร้างความตื่นเต้นรวมทั้งความสนุกสนานไปพร้อม ๆ กัน มีจำหน่ายทั้งรองเท้า ผ้าพันคอ เสื้อแจ็กเก็ต กระเป๋าทรงทรังก์ ยีนส์เดนิมเท่ๆ รวมถึงเคสโทรศัพท์ โดยมีราคาตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักแสนบาท นับว่าเป็นอีกหนึ่งคอลเล็กชั่นที่สาวก Louis Vuitton ไม่ควรพลาด

 

9. Louis Vuitton x Takashi Murakami: Cherry Blossoms

อีกหนึ่งผลงานที่ถูกสร้างสรรค์โดยศิลปินชาวญี่ปุ่นนาม Takashi Murakami ที่มอบความสดชื่นและสดใสให้กับลาย Monogram ของ Louis Vuitton มากมาย สำหรับคอลเล็กชั่น Cherry Blossom หรือลายดอกซากุระนั้น กลายเป็นจุดเด่นของผลงานซึ่งแสดงถึงมรดกทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่น ผสมผสานศิลปะการออกแบบแนว Kawaii-pop-art ที่เขาถนัด

สำหรับลวดลาย Cherry Blossom โดดเด่นด้วยการใช้พื้นหลังเป็นลาย Monogram ทั้งแบบดั้งเดิมสีน้ำตาล และสีชมพูอ่อนหวานสดใส ตกแต่งด้วยลวดลายดอกซากุระ โดยแต่ละดอก ปรากฏใบหน้ายิ้มเล็ก ๆ อย่างร่าเริงอยู่ตรงกลางของดอกไม้ทุกดอก สำหรับกระเป๋าคอลเล็กชั่นนี้ ไม่มีการผลิตกระเป๋าในรุ่น Speedy เพราะฉะนั้นหากพบเห็นกระเป๋ารุ่น Speedy ภายใต้ลวดลาย Cherry Blossom ให้ฟันธงได้เลยว่า เป็นสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์อย่างแน่นอน

ปัจจุบัน การร่วมมือกันระหว่างแบรนด์หรูกับศิลปินระดับโลก ก่อเกิดผลงาน Limited Edition ที่ผลิตออกมาจำนวนจำกัด เป็นสิ่งที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไป ในตลาดซื้อขายแบรนด์เนม ซึ่งถือได้ว่า Louis Vuitton เป็นแบรนด์แรก ๆ ที่เริ่มปลุกกระแสงาน Collaboration หรือการเชื้อเชิญศิลปินคนดังมาร่วมทำการออกแบบ Collection ฮอตฮิต ที่ประสบความสำเร็จ กวาดกำไรเข้ากระเป๋าเป็นกอบเป็นกำ นอกจากนี้ Louis Vuitton ยังมีผลงานคอลเล็กชั่นพิเศษที่จับมือกับแบรนด์อื่น ๆ อีกมากมาย สร้างมูลค่าและยังคงเป็นที่ตามหาของนักสะสม รวมถึงนักลงทุน อย่างไม่มีวันเสื่อมค่าลงแม้แต่น้อย

รัก
xoxo

 

KATE