How To Spot Fake Hermes Clic H Bracelet แท้ปลอมดูอย่างไร Hermes แบรนด์หรูจากฝรั่งเศส สร้างชื่อให้กับตัวเองในโลกของสินค้าหรูหรา ไม่ว่าจะเป็นจิวเวอร์รี่ อันงดงามเหนือกาลเวลา กระเป๋าหนังสุดพิเศษ และเครื่องประดับอันหรูหรา กำไลข้อมือ HERMÈS Clic Clac เป็นอีกหนึ่งเครื่องประดับชิ้นสำคัญที่ได้รับความนิยมอย่างสูง โดดเด่นในโลกของนักออกแบบ เต็มเปี่ยมไปด้วยความหรูหราและความคลาสสิก
เนื่องจากมีชื่อเสียงและเป็นที่ต้องการของตลาดสูง จึงทำให้เกิดการปลอมแปลงกำไลข้อมือ HERMÈS Clic Clac เป็นจำนวนมาก นับไม่ถ้วนในตลาดซื้อขายแบรนด์เนมในปัจจุบัน คุณจะบอกได้อย่างไร ว่ากำไลข้อมือรุ่นดังที่คุณเป็นเจ้าของอยู่ เป็นของจริงหรือของลอกเลียนแบบ KATEXOXO เปิดคัมภีร์เปรียบเทียบของแท้และของปลอมจุดต่อจุด พร้อมวิธีสังเกตหากพบว่ามันเป็นของลอกเลียนแบบ
1. รูปทรงของสร้อยข้อมือ Hermès Clic Clac H
สร้อยข้อมือ Hermès Clic Clac H ดั้งเดิมจะมีรูปทรงวงรีเพื่อให้พอดีกับข้อมือได้สบาย แต่ของปลอมมักจะมีลักษณะเป็นทรงกลม Clic Clac H ปลอมไม่ว่ามันจะดูเหมือนของแท้แค่ไหน ก็ไม่มีวันได้รับแก่นแท้ของความสง่างาม ดังนั้น โปรดจำเคล็ดลับเหล่านี้เพื่อหลีกเลี่ยงการได้รับกำไลข้อมือ Hermès ของปลอม ตัวสลักคำว่า “HERMES” ควรสลักอยู่ด้านในของกำไล และควรปรากฏรหัสพิเศษบริเวณด้านข้างซึ่งตรงกับระบบรหัสของ Hermes
ขนาดของกำไลข้อมือรุ่น Hermès Clic Clac H ของแท้ มีจำหน่ายด้วยกันทั้งหมด 3 ขนาด คือ narrow ขนาดเล็ก (หรือเรียกว่า Clic H), wide ขนาดกลาง และ extra wide ขนาดใหญ่
2. ฮาร์ดแวร์ของสร้อยข้อมือ Hermès Clic Clac H
Hermès CLIC CLAC ใช้วัสดุอีนาเมล (enamel) ชิ้นเดียว ในการขึ้นรูปกำไล โดยกระบวนการนี้มีราคาแพงและใช้เวลานาน ซึ่งผู้ผลิตของปลอมแปลงจะไม่เลือกใช้ ตามที่กล่าวไปแล้ว ส่วนใหญ่ ของปลอมจะใช้วัสดุเรซินแทนเพื่อการผลิตที่รวดเร็ว สัญญาณของความคมหรือความไม่สม่ำเสมอในชิ้นงานอีนาเมลเคลือบ คือสัญญาณเตือนว่า กำไลของคุณอาจไม่ใช่ของแท้
กำไลข้อมือ Real Clic Clac H ผลิตจากวัสดุคุณภาพดีเยี่ยม มีการเคลือบเพื่อป้องกันรอยขีดข่วน ในขณะที่ของปลอมมักจะใช้พลาสติกหรือเรซินแทนซึ่งอาจเกิดรอยขีดข่วนได้ง่ายกว่า
Clic Clac H ของแท้มีส่วนประกอบที่เป็นโลหะและอีนาเมลเคลือบ ซึ่งสร้างแยกกันและติดในภายหลัง โดยอีนาเมลเคลือบจะมีปลายโค้งมนที่ไม่ติดกับโลหะ อีกวิธีในการเปรียบเทียบของแท้และของปลอมคือ น้ำหนักของกำไล ซึ่งกำไลของแท้ผลิตจากวัสดุมีคุณภาพ ทำให้ตัวกำไลมีน้ำหนัก ซึ่งแสดงถึงความแข็งแรง ในขณะที่ของปลอม จะมีน้ำหนักเบากว่า เพราะใช้วัสดุที่ถูกกว่าเช่นเรซินหรือพลาสติก โดยส่วนใหญ่ กำไลของปลอม จะผลิตออกมาไม่ได้สัดส่วนที่เป็นมาตรฐาน และมีขนาดเล็กกว่ากำไลของแท้
3. The “H” of Hermès Clic Clac H Bracelet
สัญญาณอีกอย่างหนึ่งที่บอกได้เมื่อพยายามตรวจสอบความเป็นของแท้ของกำไลข้อมือชื่อดังนี้ คือรูปทรงที่แท้จริงของตัว H อันเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของกำไลข้อมือรุ่นนี้ ตัว H บนกำไลของปลอมนั้น มีมุมที่หนาและมีลักษณะโดยรวมที่หนากว่าเมื่อเทียบกับของแท้ ซึ่งของแท้โดยรวมแล้วดูโฉบเฉี่ยวและละเอียดอ่อนกว่า และแถบที่อยู่ตรงกลางของตัว H ก็บางกว่าเช่นกัน
สัญญาณอีกประการหนึ่งในการระบุ Clic Clac H ของปลอมคือช่องว่างระหว่าง ‘H’ และอีนาเมลเคลือบ หากขาอีกข้างของตัว ‘H’ สามารถใส่เข้าไปในช่องว่างได้ ก็มีแนวโน้มว่ากำไลนั้น จะของปลอม ผู้ผลิตสินค้าปลอมแปลงมักทำผิดพลาดอยู่ตลอดเวลา เราจึงควรสังเกตข้อแตกต่างที่เกิดขึ้น แม้เพียงจะเป็นจุดเล็กน้อย
4. The Logo Hermès Engravings
กำไลข้อมือ ที่ผลิตขึ้นหลังจากปี ค.ศ. 2010 เป็นต้นมา ควรมีคำว่า ‘MADE IN FRANCE’ อยู่ที่ด้านหนึ่งของบานพับ ในอีกด้านหนึ่ง ควรมีสลักคำว่า ‘Hermès’ ไว้ด้วยตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมด และมีอักษรตัวใหญ่หรือสัญลักษณ์ตัวเดียวอยู่ข้างใต้ซึ่งระบุปีที่ถูกสร้างขึ้น
หลังจากปี ค.ศ. 2015 เป็นต้นมา Hermès ได้ใช้เครื่องหมายรูปแบบใหม่ การแกะสลักของ Hermes นั้นชัดเจนและคมชัดกว่ามากบนกำไลข้อมือของแท้ ซึ่งการแกะสลักบนกำไลของปลอม จะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน ในเรื่องของความคมชัด และช่องไฟที่ไม่ได้มาตรฐาน
5. Hermes Date Codes
เช่นเดียวกับกระเป๋า Hermes เครื่องประดับ Hermes ทั้งหมดมีตราประทับเฉพาะเจาะจงซึ่งระบุวันที่ผลิตของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ตั้งแต่ปี 1946 ถึง 2015 Hermes ระบุรหัสตัวอักษรตัวเดียวเพื่อระบุปีที่ผลิตเครื่องประดับชิ้นนั้น ดังนี้
- ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตตั้งแต่ปี ค.ศ. 1946 ถึง 1970 มีตัวอักษรตรงกับปีที่ผลิต
- ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตตั้งแต่ปี ค.ศ. 1971 ถึง 1996 จะแสดงตัวอักษรภายในสัญลักษณ์วงกลม
- สินค้าที่ผลิตตั้งแต่ปี ค.ศ. 1997 เป็นต้นไป จะมีตัวอักษรอยู่ภายในสัญลักษณ์สี่เหลี่ยมจัตุรัส
นอกจากนี้ ภายในเครื่องประดับอีนาเมลเคลือบ อาจมีการระบุคำว่า “Made in Austria” หากผลิตก่อนปี ค.ศ. 2010 หรือ “Made in France” หากผลิตหลังจากปีนั้น ดังนั้นหากสินค้าที่ระบุว่าเป็นของวินเทจแต่ประทับตราว่า “Made in France” ก็มีแนวโน้มว่าเป็นของปลอม
6. Screw & Secure Closures
ข้อพับของกำไลข้อมือ ได้รับการออกแบบให้ใช้งานโดยมีความตึงเล็กน้อย หมายความว่าควรเปิดปิดได้ง่ายแต่ต้องไม่รู้สึกหลวม เพื่อช่วยหมุนตัว “H” Hermès ใช้สกรูหัวแบน (-) สำหรับสายข้อมือแคบและกว้าง ควรเปิดออกได้อย่างราบรื่นและสะอาดตา หากคุณออกแรงตึงเป็นพิเศษเพื่องัดเปิดหรือปลดตัวล็อค อาจมีความเป็นไปได้ว่าไม่ใช่กำไล Hermès ของแท้
Hermès ใช้สกรูหัวแบนสำหรับกำไลขนาด Narrow (ขนาดเล็ก) และ Wide (ขนาดกลาง) และสกรูรูปดาวสำหรับกำไลขนาดใหญ่พิเศษ Extra Wide เพื่อช่วยให้ตัว ‘H’ หมุนได้
7. The Hermès Packaging Box
สีส้มของ Hermès ที่แพร่หลายอาจดูเหมือนเป็นสีที่แตกต่างออกไป สำหรับการเปรียบเทียบ ค่าที่ใกล้เคียงที่สุดกับ Hermès Orange คือ Pantone 165C แต่คำแนะนำทันทีคือกล่องปลอมดูเป็นสีน้ำตาลเกินไป (เช่นสีส้มหม่น) หรือสีสดใสเกินไป นอกจากนี้ โลโก้ควรตรงและตรงกลางบรรจุภัณฑ์ และควรพิมพ์ด้วยสีน้ำตาลช็อกโกแลต ไม่ใช่สีดำ กล่อง HERMES ของแท้มีขนาดเล็กกว่าและมีสีส้มสว่างกว่าของปลอม
ถุงผ้าจะตัดเย็บขึ้นจากกำมะหยี่ โดยมีฝีเย็บที่เรียบร้อย ซึ่งแตกต่างจากของปลอม ซึ่งไม่มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย และที่สำคัญ Hermes Clic Clac ไม่เคยมาพร้อมกับบัตร Authenticity Card เฉกเช่นกับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของ Hermes ดังนั้น หากคุณพบเห็นมัน สามารถฟันธงได้เลยว่า มันคือของปลอมแปลง
Clic Clac H ไม่ใช่หนังเหมือนกำไล Hermes ส่วนใหญ่; แต่สร้างจากโลหะเคลือบทองหรือแพลเลเดียมพร้อมเน้นการลงยา คุณสามารถเป็นเจ้าของกำไล Hermes Clic Clac ที่ผ่านการรับรองความเป็นของแท้ได้จากที่ไหน หากคุณสงสัยในทักษะการตรวจความเป็นของแท้ และยังคงต้องการให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยเหลือคุณ KATEXOXO พร้อมช่วยเหลือคุณ
รัก
xoxo