Goyard St.Louis Tote Bag หนึ่งในกระเป๋าทรง Tote จากแบรนด์ที่มีประวัติศาสตร์เก่าแก่ระดับโลก “โกยาร์” แบรนด์ที่ไม่เคยมีการโฆษณาตัวสินค้าผ่านสื่อใดๆ ไม่มีงานเปิดตัวสินค้าหรือแฟชั่นโชว์ ไม่มีแม้แต่การจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ แต่ St.Louis Bag กลับเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมอย่างสูง ขึ้นแท่นเป็น Iconic Bag ในเวลาอันรวดเร็ว ด้วยดีไซน์ที่ได้รับการออกแบบอย่างลงตัว ผสมผสานสไตล์และความเรียบง่ายบนผ้าใบเชฟรอน (Chevron Canvas) อันมีชื่อเสียง เราจะพาคุณไปร่วมเจาะลึกรายละเอียด Anatomy of Goyard St.Louis Tote Bag ว่าอะไรที่ทำให้กระเป๋า Tote รุ่นนี้ ได้รับความนิยมอย่างมาก จนถึงปัจจุบัน
Front and Back Design : ด้านหน้าและด้านหลังของกระเป๋า
- Material : วัสดุที่นำมาตัดเย็บกระเป๋าเป็นผ้าใบอันเลื่องชื่อที่มีชื่อว่า “Goyardine” ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างผ้าฝ้าย (Cotton) ผ้าลินิน (Linen) และผ้าป่าน (Hemp) เคลือบชั้นกระเป๋าด้วยเทคนิคพิเศษของโกยาร์เพื่อความแข็งแรงทนทานอีกทั้งยังสามารถกันน้ำได้ (Wateproof) ด้านหน้าและด้านหลังของกระเป๋ามีลักษณะเหมือนกัน
- Colors : มีสีคลาสสิคทั้งหมด 2 สี คือ Black/Black (ผ้าใบสีดำขอบสีดำ) และ Black/Tan (ผ้าใบสีดำขอบสีน้ำตาล) อีกทั้งยังมีสีพิเศษอีก 9 สี คือ White, Grey, Red, Orange, Yellow, Green, Light Blue, Navy และ Burgundy รวมถึงสี Limited Edition อย่างสี Pink ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี ค.ศ. 2008
- Stitching : ฝีเข็มเป็นระเบียบเรียบร้อยและสะอาดตา สำหรับกระเป๋ารุ่นสีดำ จะใช้ด้ายสีดำในการเย็บ ในขณะที่สีอื่นๆ จะเป็นด้ายสีขาว ตัดเย็บเป็นตะเข็บตามขอบโดยรอบทั้งด้านในและด้านนอก
- Shoulder Strap : สายสะพายไหล่คู่ โดยมีความยาวโดยประมาณ 8.5 นิ้ว ตัดเย็บโดยช่างฝีมือมากประสบการณ์ ใช้เทคนิคการวางหนังซ้อนกันแล้วตัดเย็บที่เรียกว่า “Stacked Leather” ทั้งนี้เพื่อเพิ่มความหนาและแข็งแรงให้กับสายสะพาย
- Detachable Pochette : กระเป๋าใบเล็ก มีสายหนังผูกห้อยไว้กับสายสะพายไหล่ ตรงปลายของสายที่เชื่อมระหว่างกระเป๋าเล็กกับกระเป๋าหลัก ปรากฏหมายเลข Serial Number ของกระเป๋า
Inside Design : ด้านในของกระเป๋า
- Interior : ด้านในบุด้วยผ้าแบบพิเศษ ที่มีลักษณะอ่อนนุ่มและเป็นมันเงา ความพิเศษของกระเป๋ารุ่นนี้คือ สามารถใช้ได้ 2 ด้านหรือที่เรียกว่า reversible
- Stitching : มีการเก็บตะเข็บขอบกระเป๋าที่สวยงาม โดยหนังที่เย็บขอบ จะเป็นสีดำหรือสีน้ำตาลในรุ่นคลาสสิค และเป็นสีเดียวกันกับสีของผ้าใบสำหรับรุ่นพิเศษ
- Leather Trim : ขอบกระเป๋าใช้วัสดุจากหนังลูกวัว (Calfskin)
- Open Top : ปากกระเป๋าขนาดกว้าง สะดวกในการหยิบสิ่งของเข้า-ออก ด้านในไม่มีช่องซิปใดๆ
Detachable Pochette มีส่วนประกอบดังนี้
- Snap Closure : ตัวกระดุมโลหะสำหรับเปิด-ปิดกระเป๋า สลักเครื่องหมายการค้า Goyard
- Interior : ด้านในบุด้วยผ้าแบบเดียวกันกับกระเป๋าใบใหญ่
- Heat Stamp : ตัวปั๊มบนฝากระเป๋า ไม่มีสี ระบุคำว่า “GOYARD / PARIS / MADE IN FRANCE” โดยใช้ตัวอักษรตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมด
Side Design : ด้านข้างของกระเป๋า
- Stitching : การเย็บเพื่อประกบผ้าใบ 2 ผืนเข้าด้วยกัน โดยการเก็บตะเข็บไว้ด้านในของกระเป๋า
- Goyardine Canvas : ผ้าใบลาย Monogram อันมีชื่อเสียงของแบรนด์ Goyard ออกแบบโดย Edmond Goyard เมื่อปี ค.ศ. 1892
- The Shape : เนื่องจากผ้าใบ Canvas มีลักษณะเบาและอ่อนนุ่ม การทรงตัวเป็นรูปร่างของกระเป๋า St.Louis จึงเป็นไปค่อนข้างยาก (หากไม่ยัดวัสดุดันทรงด้านใน) เมื่อเทียบกับกระเป๋า Tote ของแบรนด์อื่นๆ
Bottom Design : ด้านล่างของกระเป๋า
- The Bottom : ฐานของกระเป๋าเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีลักษณะอ่อนนุ่ม ไม่มีรอยต่อใดๆ
- Goyardine Canvas : ลายเพ้นต์ที่เป็นจุดๆ บนผืนผ้าใบ ติดกันเรียงเป็นรูปตัว “Y” ซึ่งเป็นตัวอักษรที่อยู่ตรงกลางของชื่อตระกูล Goyard มีลักษณะคล้ายรูปท่อนซุง ซึ่งสะท้อนถึงอาชีพดั้งเดิมของตระกูลโกยาร์ที่เกี่ยวกับกิจการค้าไม้ ความพิเศษของลายอยู่ที่ตัว Y มีตัว Y หนึ่งตัว มีการเพ้นต์คำว่า E. Goyard ด้วยสีขาวตัดกัน และเพ้นต์ที่อยู่ของร้าน Honoré Paris เป็น 2 เฉดสี น้ำตาลอ่อนและน้ำตาลเข้ม
Size of St.Louis Tote Bag : ขนาดของกระเป๋า St.Louis Tote
- PM Everyday Bag : 33 x 25 x 12 เซนติเมตร (11 x 19 x 6 นิ้ว)
- GM Travel Bag / Beach Bag : 39 x 32 x 18 เซนติเมตร (13 x 23 x 7 นิ้ว)
ปัจจุบัน St.Louis Bag ได้เพิ่มขนาดของกระเป๋าออกมาอีก 1 ขนาด โดยมีชื่อเรียกว่า The Saint Louis XXL Tote ขนาดของกระเป๋า กว้าง 24 x สูง 16.5 นิ้ว สิ่งที่เพิ่มเติมจาก 2 รุ่นเดิมคือ ฝีเข็มที่หูกระเป๋ามีการเพิ่มเป็น 3 ชั้น จากแต่เดิมเพียง 2 ชั้น มาพร้อมกับ Detachable Pochette ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น มีทั้งหมด 4 สีด้วยกัน คือ Black/Black (ผ้าใบสีดำขอบสีดำ) และ Black/Tan (ผ้าใบสีดำขอบสีน้ำตาล) สี Navy และ สี Grey
กระเป๋า Goyard ผลิตและขึ้นรูปจาก Workshop ที่อยู่ทางใต้ของประเทศฝรั่งเศสเท่านั้น ความงามของกระเป๋าทุกใบเกิดจากงานฝีมือของช่างที่มากความสามารถของโกยาร์ แม้ว่าในปัจจุบันจะไม่มีการเพ้นท์ลายผ้าใบ Goyardine ด้วยมือแล้ว แต่ยังสามารถแจ้งความจำนงค์เป็นคำขอพิเศษได้ เอกลักษณ์ที่ถูกสานต่อมานานกว่า 200 ปี ทั้งในเรื่องน้ำหนักกระเป๋าที่เบาแต่มีความแข็งแรงและทนทาน อีกทั้งดีไซน์ที่ดูเรียบง่ายแต่แฝงไว้ซึ่งความหรูหรา ทำให้ St.Louis Bag เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับสาวๆ ที่ต้องการมีกระเป๋าใบเก่งสักใบคู่กาย