To top
22 May

Ferrari 296 GTB ม้าลำพองตัวใหม่ กับขุมพลัง Hybrid คันแรก

Ferrari 296 GTB SuperCar สานตำนานบทใหม่จากรุ่น F8 ม้าลำพองคันใหม่ที่มาพร้อมกับขุมพลัง V6 Plug-in Hybrid มิติใหม่ของขุมพลังไฟฟ้าในยุคปัจจุบัน ที่จะมาปฏิวัติประสบการณ์ในการขับขี่ ให้เร้าใจกว่าเดิม สืบทอดตำนานอันทรงพลังที่สุดของเฟอร์รารี่ สานตำนานความแรงแบบรถสปอร์ตเต็มพิกัด KATEXOXO จะพาคุณร่วมสัมผัสความแรงระดับตำนาน Road car รุ่นแรกภายใต้ตราสัญลักษณ์ม้าลำพอง

 

Ferrari 296 GTB

Ferrari 296 GTB

Ferrari 296 GTB

สานตำนานความแรงของรถ Super Car เต็มพิกัด Road Car รุ่นแรกภายใต้ตราสัญลักษณ์ม้าลำพอง Ferrari ซุปเปอร์คาร์สัญชาติอิตาลี ก่อกำเนิด Ferrari 296 GTB ซึ่งมาพร้อมเครื่องยนต์วางกลางด้านหลังรุ่นใหม่ ขุมพลัง V6 รูปแบบ Plug-in Hybrid  จากเฟอร์รารี่ ซึ่งถือเป็นการพลิกโฉมของแบรนด์อย่างแท้จริง คือ จุดเปลี่ยนแห่งยุคสำหรับมาราเนลโลผู้เปิดประตูไปสู่ยุคใหม่ของเครื่องยนต์ V6 ด้วยประสบการณ์มากกว่า 70 ปี ที่ไม่มีใครเทียบเคียงได้ในวงการมอเตอร์สปอร์ท

สำหรับที่มาของชื่อ 296 GTB (Type F171) มาจากการรวมตัวเลขความจุของกระบอกสูบ ซึ่งมีขนาด 2,992 ซีซี และจำนวนลูกสูบเข้าไว้ด้วยกัน ร่วมกับตัวอักษร GTB อันย่อมาจาก Gran Turismo Berlinetta รถสปอร์ตคูเป้หลังคาแข็ง ซึ่งเป็นการสืบทอดตำนานอันทรงพลังที่สุดจากเฟอร์รารี่ มีกำหนดวางจำหน่ายในปี 2022 นี้ โดยเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อ วันที่ 24 มิถุนายน ปี 2021

ดีไซน์ของรถยนต์รุ่นนี้  เป็นผลมาจากความปรารถนาของ Ferrari Styling Center ที่ต้องการนิยามเอกลักษณ์ของรถแบบ Berlinetta สองที่นั่ง โป่งล้อที่ดูแข็งแรงกำยำ เสาหลังคาแข็งแกร่ง กระจกหลังแนวตั้งแบบใหม่ ไฟหน้าได้แรงบันดาลใจจาก “ไฟทรงหยดน้ำ” ในอดีตมาใช้ มาในรูปแบบของ “Faired-in Teardrops” (หยดน้ำตาแบบแฟริ่ง) ที่วางอยู่ด้านหน้ารถราวกับอัญมณี พร้อมด้วยไฟส่องสว่างเวลากลางวันทำหน้าที่เป็นสัญลักษณ์ของตัวรถ เติมเต็มความสมบูรณ์แบบด้วย DRL ซึ่งทำหน้าที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญของด้านหน้ารถ

ร่วมด้วยช่องดักอากาศของระบบเบรก กระจังหน้าเดี่ยวตรงกลางได้รับการปรับโฉมใหม่โดยการลดความสูงของกระจังหน้าตรงกลางลงมาเล็กน้อย ผลที่ได้คือรูปทรงแบบบาร์เบลซึ่งบ่งบอกถึงการมีอยู่ของหม้อน้ำทั้ง 2 ตัว ในส่วนตรงกลางมีปีกขนาดกะทัดรัดซึ่งชวนให้นึกถึงปีกที่ใช้ในรถแข่ง F1

ดีไซน์ด้านท้าย ถูกออกแบบให้ดูแตกต่างจากรถยนต์คูเป้ดั้งเดิมของค่าย โดยใช้สถาปัตยกรรมที่ให้ภาพลักษณะเหมือนกับรถ Spider ซึ่งมีความไม่ต่อเนื่องระหว่างหลังคาและฝาครอบเครื่องยนต์ด้านหลัง ส่งผลให้ ม้าลำพองตัวใหม่นี้ มีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร และสามารถจดจำได้ทันทีตั้งแรกเห็น

 

The Engine

เครื่องยนต์ V6 ทำมุม 120 องศา ขนาด 663 แรงม้า จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้พลังเพิ่มเติมอีก 122 กิโลวัตต์ (167 แรงม้า) ทำให้ได้กำลังสูงสุดในระบบไฮบริด 830 แรงม้า ที่ 8000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 740 นิวตันเมตร ที่ 6250 รอบ/นาที ขับเคลื่อนด้วยเกียร์ 8 จังหวะ F1 DCT

พร้อมด้วยระบบ eDrive ซึ่งขับเคลื่อนล้อหลังด้วยไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว เมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็มรถสามารถวิ่งได้ไกล 25 กิโลเมตร ที่ความเร็วสูงสุด 135 กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่เมื่อรีนกำลังสูงสุด จะทำอัตราเร่ง 0-100 ได้ใน 2.9 วินาที และ 0-200 ได้ใน 7.3 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้มากกว่า 330 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ฟังก์ชั่นเลือกโหมดในการขับ หรือ eManettino เลือกโหมดในการขับได้ระหว่าง (1) eDrive: ไฟฟ้าล้วน (2) Hybrid: โหมดนี้จะถูกใช้งานเป็นค่าเริ่มต้นเมื่อใช้รถ (3) Performance: เครื่องยนต์ทำงานตลอดเวลา เหมาะสำหรับการใช้แบบสปอร์ต และ (4) Qualify: รีดประสิทธิภาพรถสูงสุด และมีการชาร์จไฟกลับเข้าไปยังแบตเตอรี่ในระดับต่ำกว่าปกติ

เทคโนโลยีใหม่ใน 296 GTB มีอาทิ ระบบ Transition Manager Actuator ควบคุมและตัดการทำงานระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า, ระบบ Brake-by-wire ผสานการทำงานของระบบไฮดรอลิคและไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่องในทุกโหมดการทำงาน

รวมถึงชุดระบบเบรค ABS, ระบบ ABS evo ใหม่ ช่วยลดระยะของแป้นเบรคให้สั้นลง ใช้ความสามารถของ Brake-by-wire และโมดูลควบคุมระบบเบรค ABS แบบใหม่ ซึ่งอาศัยข้อมูลจากแพคเกจเซ็นเซอร์ 6w-CDS sensor (6-way Chassis Dynamic Sensor) เพิ่มเสถียรภาพในการยึดเกาะของตัวรถ เช่น ในการเข้าโค้ง หรือมีการเบรคอย่างรุนแรงในบางจังหวะ

ภายในห้องโดยสาร

ห้องโดยสารออกแบบการจัดวางอุปกรณ์ทั้งหมด โดยยึดผู้ขับขี่เป็นหลัก เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังอิตาเลียนสุดพิเศษ ทุกชิ้นส่วนถูกผลิตขึ้นด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง เมื่อทำการสัมผัสปุ่ม “Start Engine” แผงการควบคุมทั้งหมดจะเริ่มทำงาน โดยจะค่อย ๆ เปล่งประกายเผยให้เห็นอินเตอร์เฟสอันทันสมัย พร้อมระบบดิจิทัลเต็มรูปแบบ หน้าจอหลักติดตั้งลึกลงไปในกรอบบนแดชบอร์ด โดดเด่นด้วยพื้นผิวที่จงใจให้ดูเรียบง่ายและสะอาดตา

นอกจากนี้ เมื่อเครื่องยนต์ดับลง หน้าจอภายในห้องโดยสารทั้งหมดจะมืดสนิท ช่วยเสริมภาพลักษณ์ที่เรียบง่ายแต่ดูดุดันให้กับห้องโดยสาร มีส่วนของผู้โดยสารในลักษณะ Co-Driver ส่วนสำคัญที่โดดเด่นในห้องโดยสารได้แก่ มาตรวัดฟูลดิจิทัลใช้แสดงผลข้อมูลทั้งหมด รุ่นพื้นฐานในตลาดโลกมากับเบาะทรงบัคเก็ทหุ้มหนังอิตาเลียน และสามารถลือกออปชั่นได้อีก 4 แบบ ตั้งแต่แบบใช้งานในชีวิตประจำวันจนถึงเบาะคาร์บอนไฟเบอร์แบบรถแข่ง

Ferrari 296 GTB เปิดราคาวางจำหน่ายที่ฝั่งยุโรป เริ่มต้นที่ 269,000 ยูโร หรือประมาณ 10.2 ล้านบาท ส่วนชุดแต่ง ASSETTO FIORANO ราคาเริ่มต้นที่ 302,000 ยูโร หรือประมาณ 11.45 ล้านบาท พร้อมส่งมอบได้ช่วงไตรมาสแรกของปี 2022

สำหรับราคาจำหน่ายในประเทศไทย คาวาลลิโน มอเตอร์ ตัวแทนจำหน่ายเฟอร์รารี่อย่างเป็นทางการในไทย ได้เคาะราคาออกมา เริ่มต้นที่ 21,900,000 บาท พร้อมรับประกันยาวนานถึง 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และสามารถต่ออายุได้สูงสุดถึง 15 ปี พร้อมรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 5 ปี การดูแลบำรุงรักษาฟรี 7 ปี และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง

296 GTB คือวิวัฒนาการแนวคิดรถยนต์สปอร์ต berlinetta สองที่นั่งวางกลางจากเฟอร์รารี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการปฏิวัติของบริษัท เพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าที่ต้องการรักษาประสิทธิภาพ และความเป็นเลิศ อันเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์ทุกคันที่สร้างขึ้นจากโรงงานในมาราเนลโล ประเทศอิตาลี นิยามแห่งความสนุกในการขับขี่ที่รับประกันความเร้าใจอย่างแท้จริง ไม่เพียงแต่ในการไล่ตามประสิทธิภาพสูงสุดเท่านั้น แต่ยังรวมถึงในการขับขี่ทุกวันด้วย กับขุมพลัง V6 ปลั๊ก-อิน ไฮบริด คันแรกจากเฟอร์รารี่

 

KATE