สินค้า Outlet คืออะไร หลายคนอาจจะคุ้นหูกันเป็นอย่างดี กับคำว่า “Outlet” ซึ่งในความเข้าใจของคนส่วนใหญ่ สินค้าที่ถูกจำหน่ายในร้านค้า Outlet ส่วนมาก มักจะเป็นสินค้ามีตำหนิ หรือเป็นสินค้าที่หลุดซีซั่นนั้น ๆ ไปแล้ว ทำให้สามารถจำหน่ายในราคาที่ถูกกว่าร้านค้าปกติถึง 50-80% ในบทความนี้ KATE XOXO จะพาไปทำความรู้จักกับร้านค้าปลีก Outlet นี้ให้มากขึ้น
ที่มาของ Outlet
สินค้า Outlet คืออะไร ? Outlet คือ หนึ่งในธุรกิจประเภทร้านค้าปลีก โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากโรงงานผลิตเสื้อผ้า และรองเท้าแห่งหนึ่งในชายฝั่งตะวันออกของประเทศสหรัฐอเมริกา ในช่วงทศวรรษที่ 1930 โรงงานแห่งนี้ ได้มีการนำสินค้ามีตำหนิและสินค้าค้างสต๊อก ออกมาจำหน่ายให้กับพนักงานในราคาถูก หลังจากนั้นจึงขยับขยายไปจำหน่ายให้กับบุคคลภายนอก นับเป็นวิธีการระบายสินค้าออกจาก Stock ได้เป็นอย่างดี เพราะหากทิ้งไว้ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายในการดูแล และนี่คือจุดเริ่มต้นของการจำหน่ายสินค้า Outlet อย่างแท้จริง
ในปี ค.ศ. 1936 Anderson-Little แบรนด์เครื่องแต่งกายสุภาพบุรุษ เปิดร้านค้า Outlet ขึ้น ซึ่งแยกตัวออกมาจากโรงงานที่ผลิต จนถึงช่วงทศวรรษที่ 1970 โดยจุดประสงค์หลัก คือ เพื่อใช้เป็นสถานที่จัดจำหน่ายสินค้าที่ผลิตเกินความต้องการ หรือสินค้าที่มีตำหนิ หลังจากนั้นเป็นต้นมา ธุรกิจร้านค้า Outlet เติบโตอย่างรวดเร็วในสหรัฐอเมริกา ในปี ค.ศ. 2003 ร้านค้า Outlet ในสหรัฐอเมริกา สามารถสร้างรายได้ 15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จาก 260 ร้านค้าทั่วประเทศ
ปัจจุบัน มีสินค้าหลากหลายแบรนด์ เริ่มธุรกิจ Outlet มากมาย รวมถึงบรรดาเหล่าแบรนด์ลักชัวรี่หรูหรา ไม่ว่าจะเป็น Dior , Gucci , Saint Laurent , Balenciaga , Celine หรือแม้แต่ Bottega Veneta โดยมีจำหน่ายทั้งหน้าร้านและ Online
Outlet vs. Retail Function
ความแตกต่างหลักระหว่างร้านค้าหลักและร้าน Outlet อยู่ที่การให้บริการ Outlet ตอบสนองผู้บริโภค ด้วยราคาสินค้าที่ถูกกว่าสินค้าที่จำหน่ายในร้านค้าปกติ กว่า 50-80% รวมถึงโปรโมชั่นส่วนลดมากมาย ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาร้าน Outlet ได้กลายเป็นร้านค้าที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคสำหรับผลิตภัณฑ์แบรนด์ที่มีราคาไม่แพงและมีคุณภาพดี
ในทางตรงกันข้าม สำหรับร้านค้าปลีกปกติ จะเป็นการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพในราคาที่สูงกว่า ซึ่งหมายความว่ามีส่วนลดน้อยกว่า (หรืออาจไม่มีเลย) เว้นแต่จะมีรายการส่งเสริมการขายหรือกิจกรรมพิเศษ ร้านค้าปกติเหล่านี้ มีจุดประสงค์เพื่อให้ลูกค้าได้รับสินค้าและบริการด้วยคุณภาพสูงสุด
ตัวอย่างเช่นร้านค้า Nike ในห้างสรรพสินค้าอาจจำหน่ายรองเท้าบาสเก็ตบอล Air Jordan 50 คู่ ในราคา $ 300 อย่างไรก็ตามร้าน Outlet อาจมีรองเท้าแบบเดียวกันจำหน่าย ในจำนวน 300 คู่ที่มีอยู่ในสต๊อก โดยตั้งราคาจำหน่ายอยู่ที่ $ 90 ซึ่งนั่นเป็นจุดเด่นของร้าน Outlet ในการใช้เรื่องของราคามาเป็นแรงจูงใจนั่นเอง
Outlet vs. Retail Quality
ความแตกต่างอีกหนึ่งข้อ ระหว่างร้านค้าปลีกปกติ และร้าน Outlet นั้นเกี่ยวข้องกับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่จำหน่าย ผู้ค้าปลีกรายใหญ่หลายราย ใช้ร้าน Outlet เป็นแหล่งระบายสินค้าล้นสต๊อก สินค้านอกซีซั่น ในราคาที่ถูกกว่าร้านค้าปกติ ซึ่งเป็นการรับประกันได้ว่าสินค้าเหล่านั้น มีคุณภาพดี แต่ผู้ค้าปลีกหลายราย อยากระบายสินค้าที่ผลิตออกมามากเกินความต้องการ อย่างไรก็ตามสินค้าบางแบรนด์ อาจใช้วัสดุคุณภาพต่ำกว่า ในผลิตภัณฑ์ที่ถูกกำหนดให้วางจำหน่ายในร้าน Outlet
Outlet vs. Retail Locations
ร้าน Outlet ส่วนใหญ่ จะเลือกทำเลที่อยู่นอกตัวเมืองออกไป ด้วยเหตุผลในเรื่องของราคาอสังหาริมทรัพย์และค่าเช่ามีราคาถูกกว่าพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นหรือในตัวเมือง ในทางกลับกัน ร้านค้าปลีกปกติส่วนมาก จะตั้งอยู่ในย่านชุมชน เมืองหลวง ใจกลางเมืองใหญ่ หรือในห้างสรรพสินค้า อีกสิ่งที่ต้องพิจารณาคือผู้ค้าปลีกต้องการรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยระหว่างสินค้าค้าปลีกราคาปกติและสินค้าเดียวกันที่ร้าน Outlet ซึ่งมีราคาถูกกว่า
บทสรุปของร้านค้า Outlet
- สินค้าที่จำหน่ายในร้านค้า Outlet ส่วนใหญ่ เป็นสินค้าตกซีซั่น ซึ่งอาจหมายความว่า มีการลดราคามาแล้ว 20-30% ในร้านค้าปกติ พอหมดช่วงลดราคา จึงมีการผลักสินค้าออกมาจำหน่ายในร้าน Outlet เพื่อเคลียร์พื้นที่ของร้านค้าปกติให้กับสินค้าซีซั่นใหม่วางจำหน่าย
- สินค้า Outlet ที่มีตำหนิ ส่วนใหญ่ไม่ใช่ตำหนิที่เกิดจากการผลิต เนื่องจากสินค้าที่มีตำหนิจากการผลิตเหล่านั้นจะถูกเรียกคืนเพื่อนำไปทำลาย ส่วนมากแล้วตำหนิเหล่านี้เกิดจากการเวียนขายสินค้าเพื่อแสดงโชว์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสีตก รอยเลอะ สีเฟดเนื่องจากแสงไฟ ร่องรอยตำหนิเหล่านี้ เกิดขี้นระหว่างการจัดจำหน่ายในร้านค้าปกติ สินค้าเหล่านี้จะจัดจำหน่ายแบบราคาเดียว เพื่อเน้นความเร็วในการเคลียร์สินค้าออก และทำให้ง่ายต่อการตัดสินใจ
- สินค้า Outlet เป็นสินค้าที่ผลิตไม่ได้มาตรฐานของแบรนด์นั้น ๆ หรือผลิตเกิน Order หรือมีตำหนิเกิน 1 จุดขึ้นไป โดยราคาจำหน่ายจะถูกกว่าร้านค้าปกติ 50-80%
- สินค้า Outlet สร้างแรงจูงใจในการเคลียร์ของใน Stock อย่างรวดเร็ว ด้วยการเอาเรื่องของราคาที่ถูก มาเป็นแรงจูงใจหลัก ซึ่งราคาของสินค้า มีผลโดยตรงต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค
- โดยส่วนมาก สินค้าที่ถูกจำหน่ายในร้าน Outlet จะมีคุณภาพและมีการใช้วัสดุ ที่คุณภาพรองมาจากสินค้าที่ทำการจำหน่ายในร้านปกติ แต่มั่นใจได้ว่าเป็นสินค้าถูกต้องตามลิขสิทธิ์อย่างแน่นอน ทั้งนี้ ควรเลือกซื้อ-ขายสินค้ากับตัวแทนจำหน่ายที่ถูกต้อง และสามารถตรวจสอบได้ เพื่อป้องกันสินค้าปลอมแปลง หรือป้องกันเหล่ามิจฉาชีพ ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมในการป้องกันตัวจากเหล่ามิฉาชีพออนไลน์ได้ที่ “เปิด 4 กลโกงมิจฉาชีพ สร้างภูมิคุ้มกันก่อนการซื้อขายแบรนด์เนม”
- นโยบายการคืนสินค้าอันเข้มงวด โดยทั่วไปแล้ว สินค้าที่ซื้อจากร้านค้า Outlet จะระบุอย่างชัดเจนว่า “ไม่สามารถเปลี่ยนหรือคืนได้” หลังการซื้อขายสิ้นสุด
- ปัจจุบัน สินค้าที่จำหน่ายในร้านค้า Outlet ไม่จำกัดแค่สินค้าตกรุ่นหรือสินค้ามีตำหนิอีกต่อไป แต่เป็นสินค้าที่ถูกผลิตขึ้นมา เพื่อจัดจำหน่ายในร้าน Outlet โดยเฉพาะ ซึ่งวัสดุที่ใช้ในการผลิต จะมีคุณภาพรองลงมากว่าสินค้าที่ผลิตเพื่อจำหน่ายในร้านปกติทั่วไป ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมสินค้าที่จำหน่ายในร้าน Outlet จึงมีราคาถูกมาก
ร้านค้า Outlet เป็นธุรกิจร้านค้าปลีกที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ในยุคที่ข้าวยากหมากแพง แน่นอนว่า การตัดสินใจซื้อสินค้าราคาสูงสักชิ้นหนึ่ง จำเป็นต้องพิจารณาในเรื่องของ “ราคา” เป็นหลักสำคัญ เนื่องจากปัจจุบัน กลุ่มผู้ซื้อสินค้า Outlet นั้นเปลี่ยนไป เหล่าแบรนด์ดังหลายแบรนด์จึงตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคด้วยการผลิตงานสำหรับขายในร้านค้า Outlet โดยเฉพาะเท่านั้น
กลุ่มผู้ซื้อ ที่ไม่มีกำลังพอที่จะซื้อสินค้าจากร้านบูทีคปกติ Outlet จึงถือเป็นทางเลือกที่ดีทางหนึ่ง ซึ่งสินค้าที่จำหน่ายในร้านค้า Outlet เป็นสินค้าแท้ถูกต้องลิขสิทธิ์ โดยบางรุ่นอาจไม่มีจำหน่ายในบูทีค และวัสดุที่ใช้ในการผลิตอาจมีความแตกต่างเพียงเล็กน้อย ดังนั้นเทรนด์แฟชั่นอาจไม่สำคัญเท่าความคุ้มค่า หากผู้ซื้อไม่ติดใจกับสินค้าที่มีตำหนิเล็กน้อย หรือคุณภาพรองจากร้านบูทีคปกติแล้ว สินค้าจากร้าน Outlet ถือได้ว่าเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าทีเดียว
รัก
xoxo