To top
14 Jan

ประวัติ​แบรนด์​ Versace ราชวงศ์แห่งวงการแฟชั่น

ย้อนรอย ประวัติ​แบรนด์​ Versace (เวอร์ซาเช่) แบรนด์หรูสัญชาติอิตาลี ซึ่งเป็นที่สุดของแฟชั่นวินเทจที่ไม่เคยหลับไหล จุดเด่นอันเป็นเอกษณ์ของเวอร์ซาเช่คงหนีไม่พ้น ลายปริ้นท์สีทองสะดุดตาที่มีสไตล์เฉพาะตัว Versace มี DNA แบรนด์ ที่ชัดเจน ซึ่งเมื่อเห็นแล้ว ทำให้ใครหลายๆ คนต่างจินตนาการได้ถึงความฟู่ฟ่า หรูหรา ราคาแพง จนได้รับฉายา “ราชวงศ์แห่งวงการแฟชั่น”

 

ผู้ก่อตั้ง Versace (เวอร์ซาเช่)

ประวัติ​แบรนด์​ Versace เริ่มต้นจาก จานนี เวอร์ซาเช่ (Gianni Versace) เป็นผู้ก่อตั้ง เกิดเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม ค.ศ. 1946 เมืองเรจโจคาลาเบรีย ประเทศอิตาลี โดยเป็นบุตรของคุณแม่ ฟรานเชสกา เวอร์ซาเช่ (Francessca Versace) และคุณพ่อ อันโตนิโอ เวอร์ซาเช่ (Antonio Versace) โดยครอบครัวของเขามีพี่น้องทั้งหมด 3 คน ซึ่ง Gianne เป็นบุตรคนกลาง พี่ชายมีชื่อว่า ซานโต เวอร์ซาเช่ (Santo Versace) ส่วนน้องสาวมีชื่อว่า ดอนนาเทลลา เวอร์ซาเช่ (Donatella Versace)

จานนี เวอร์ซาเช่ (Gianni Versace)

จานนี เวอร์ซาเช่ (Gianni Versace)

จานนี (Gianne) ได้เข้าศึกษาที่ Liceo Classico Tommaso Campanella ซึ่งได้เรียนเกี่ยวกับภาษากรีกโบราณและภาษาละติน แต่ด้วยความที่เขามีความชอบส่วนตัวในเรื่องการตัดเย็บ และพรสวรรค์ทางด้านการออกแบบเสื้อผ้า จึงทำให้ Gianne ตัดสินใจออกจากสถาบันที่ตนเรียนอยู่ แล้วมุ่งเน้นศึกษาการออกแบบเสื้อผ้าด้วยตนเอง

Gianne ได้ตัดสินใจก้าวเดินไปในเส้นทางสายแฟชั่นที่ตนรัก เขามักจะชอบเดินทางไปทำงานกับคุณแม่ที่ห้องเสื้ออีกด้วย ซึ่ง Gianne จะชอบออกแบบและตัดเย็บเสื้อผ้าให้น้องสาวอยู่เสมอๆ โดยที่คุณแม่ของเขาก็เป็นผู้สนับสนุนอย่างเต็มกำลัง จนถึงเมื่อ Gianne อายุได้ประมาณ 26 ปี เขาก็ได้ย้ายไปที่มิลาน ได้ทำงานเป็นดีไซน์เนอร์สมัครเล่นให้แบรนด์ต่างๆ เพื่อแสวงหาความรู้ และประสบการณ์ก่อนจะตัดสินใจออกมาก่อตั้งแบรนด์ของตน

 

กว่าจะมาเป็น Versace

โลโก้ Versace ได้รับแรงบันดาลใจมาจากหัวของ เมดูซา (Medusa) และอิทธิพลของเทพนิยายจากกรีก ที่สะท้อนให้เห็นถึง ความงดงาม ทรงพลัง และอำนาจ Gianne ต้องการจะสื่อว่า “เมื่อใครเห็นเธอแล้ว จะต้องหลงรัก และไม่มีวันทอดทิ้งเธอไป” ซึ่งเป็นสิ่งที่ Gianne อยากให้ผู้คนได้รู้สึกกับเสื้อผ้าของเขา แต่ถ้าหากพินิจ สังเกตเมดูซาที่นำมาเป็นสัญลักษณ์นั้น ยังคงมีความอ่อนโยนฉบับผู้หญิง และไม่ได้รู้สึกถึงความเกรี้ยวกราดแต่อย่างใด

​แบรนด์​ Versace ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1978 ณ กรุงมิลาน ประเทศอิตาลี Gianne ได้ตัดสินใจให้ Versace เป็นธุรกิจภายในครอบครัวโดยสมบูรณ์ทันที โดยที่ Gianne ได้เข้ามาดูแลธุรกิจทุกระเบียบนิ้ว นั่นหมายความว่า Gianne ทำหน้าที่ เป็นทั้งครีเอทีฟ    ไดเรกเตอร์ และดูแลด้านดีไซน์ไปด้วย พี่ชายของเขา ซานโต เวอร์ซาเช่ (Santo Versace) รับหน้าที่บริหารการเงิน ส่วนน้องสาว ดอนนาเทลลา เวอร์ซาเช่ (Donatella Versace) รับหน้าที่ด้านออกแบบศิลป์ Branding และ Marketing

ส่วนใหญ่แล้ว ในสมัยก่อนสุภาพสตรีมักจะถูกกีดกันในการใส่เสื้อผ้ามากกว่าสุภาพบุรุษ แต่ Gianne มีแนวคิดที่ต่างออกไป เขาไม่ได้มองแบบนั้นเลย Gianne มีความคิดที่ว่าสุภาพสตรีก็มีสิทธิ์ที่จะใส่เสื้อผ้าแบบโชว์เนื้อหนังมังสาได้เช่นกัน เพื่อความสวยงาม และอวดสัดส่วน รูปร่าง 

Versace จึงต้องการนำเสนอชุดสุภาพสตรีที่เมื่อใครก็ตามได้สวมใส่เสื้อผ้าของเขาแล้ว จะทำให้มีความรู้สึกปลดปล่อย เป็นตัวของตัวเอง Gianne จึงได้ออกแบบเสื้อผ้าออกมามีรูปทรงเซ็กซี่ เย้ายวน เพื่อสื่อถึงการเล่นกับความรู้สึกของผู้อื่น และยังสื่อเป็นนัยอีกว่า “ไม่ได้แคร์คนรอบข้างที่มองว่าชุดที่ใส่จะเป็นอย่างไร เพราะแคร์แต่ตัวเองเท่านั้น”

สำหรับคอลเลคชั่นของ Versace ที่เปิดตัวออกมานั้น ใช้ชื่อว่า Gianni Versace Donna เป็นการเผยเสน่ห์เสื้อผ้าของ Versace โดยเฉพาะ ซึ่งตลอด 40 ปีที่ผ่านมานั้น การออกแบบของ Versace ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ความสุดโต่งในลายปรินต์ ศิลปะสไตล์บาโรก หรือ สื่อความขัดแย้ง ความหรูหรา ความเฟื้องฟู และทุกๆ ITEM ที่ออกแบบมาจะเปรียบเหมือนการเล่าเรื่องราวชีวิตไปในตัว สร้างความโอ่อ่าให้แก่ผู้ใส่ ที่เวลาใครได้ส่วมใส่ชุดจะดูเหมือนมีพลัง ราวกับสวมเกราะกำบังให้ตนเอง

Gianni Versace Donna

Gianni Versace Donna

 

การขยายอาณาจักรของ Versace

เมื่อปี ค.ส. 1981 Versace ได้เปิดตัวน้ำหอมตัวแรก คือ Gianni Versace For Women ต่อมาปี ค.ศ. 1982 และยังได้เพิ่มผลิตภัณฑ์ เป็นหมวดของตกแต่งบ้าน และสินค้าเครื่องประดับต่างๆ เช่น สร้อย แหวน กำไลเเขน และที่มากไปกว่านั้น Versace ได้ออกแบบและผลิตเสื้อผ้าเด็กใช้ชื่อว่า Young Versace อีกด้วย

ส่วนในปี ค.ศ. 1989 ทาง Gianni ได้สร้างไลน์เสื้อผ้าที่ 2 เพิ่ม หรือ Duffusion Line ที่มีชื่อว่า Versus Versace เพื่อมอบให้เป็นของขวัญแก่ ดอนนาเทลลา ที่เป็นน้องสาวแท้ๆ ของเขาเอง ซึ่งได้ให้เธอดูแลกิจการและออกแบบดีไซน์เองทั้งหมด เป็นไลน์การออกแบบเสื้อผ้า เพื่อตอบสนองวัยรุ่น และทำให้ห้องเสื้อ Versus Versace ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากกับกลุ่มคนรุ่นใหม่

Versus Versace

Versus Versace

ถ้าหากเปรียบเทียบไตล์ของ 2 ไลน์การผลิตนี้ คงเสมือนกับคุณแม่ที่ใส่ Versace และลูกสวมใส่ Versus Versace ทั้งนี้ดอนนาเทลลา มีแนวคิดที่อยากจะผลักดันแฟชั่นที่พี่ชายและตนเองคิดร่วมกัน จึงทำให้เธอได้แสวงหาบุคคลมาเป็นดีไซน์เนอร์หน้าใหม่ ไฟแรงมามาเป็นใบเบิกทางในการออกแบบงานด้วย อย่างดีไซน์เนอร์ไฟแรง แอนโทนี แว็กคาเรลโร (Anthony Vaccarello)

อีกทั้งยังเพิ่มไลน์กูตูร์ Atelier Versace ที่เรามักจะได้เห็นดารานักแสดงชื่อดัง ใส่เดินพรมแดงเป็นประจำ นอกจากนี้ ยังมีไลน์การผลิตแอ็กเซสเซอรี่ เช่น แว่นตา Versace Eyewear นาฬิกา Versace Wateh ซึ่งสามารถพูดได้เลยว่า Versace สามารถครอบคลุมเก็บทุกสัดส่วนของอุตสาหกรรมแฟชั่นได้หมด และทำให้ Versace นั้นสามารถครอบครองยอดขายที่พันล้านได้ในยุค 90 ซึ่งถือว่าสูงมากสำหรับแบรนด์ที่ได้ทำการก่อตั้งได้ไม่นานนัก

Atelier Versace

Atelier Versace

ในช่วงทศวรรษที่ 80 ไปจนถึง ปี 90 นั้น Versace ได้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ชื่อเสียงของแบรนด์ได้เป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็วและคุ้นหูมากขึ้น พร้อมกับได้ทำการขยายธุรกิจไปใน Luxury Brands ในประเทศอิตาลี จนธุรกิจหลายเจ้ากลายเป็น Mega Brand (ตัวแทนจำหน่าย) และมีสินค้าหลายประเภทให้เลือกสรร และกระจายสาขาเปิดร้านตามหัวเมืองใหญ่ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า และขยายฐานธุรกิจให้แข็งแรงขึ้น

 

การสูญเสียที่ไม่มีแม้แต่คำอำลา

เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ค.ศ. 1997 Gianne ได้จากไปด้วยวัยเพียง 51 ปี เนื่องจากถูก แอนดูรว์ คูนานัน (Andrew Cunanan) ฆาตกรต่อเนื่อง ลอบสังหาร ที่หน้าบ้านของ Gianne ที่ย่าน Ocean Drive ณ ชายหาดไมอามี ถือว่าคดีสะเทือนขวัญของวงการ ซึ่งก่อนหน้านี้แอนดูรว์ได้ก่อเหตุสะเทือนขวัญโดยได้ฆ่าคนไปแล้ว 4 ศพ ถือได้ว่าเป็นการสูญเสียครั้งสำคัญของวงการแฟชั่นที่น่าหดหู่ใจ

การเสียชีวิตของ Gianne นั้น เป็นการสูญเสียแบบกระทันหัน และไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น ไม่ทันแม้แต่ที่จะอำลาใดๆ ข่าวการเสียชีวิตของ Gianne โด่งดังไปทั่วโลก งานศพของเขาจัดที่เมืองมิลาน มีคนเข้าร่วมไว้อาลัยมากกว่า 2,000 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ เจ้าหญิงไดอาน่า

Gianni Versace จากไปด้วยวัยเพียง 51 ปี

ซึ่งแน่นอนว่าการสูญเสียในครั้งนี้ เป็นเรื่องที่น่าเสียใจเป็นอย่างมาก แต่ด้วยมูลเหตุในการฆาตกรรมในครั้งนี้ยังไม่แน่ชัด เพราะไม่กี่วันต่อมา แอนดูรว์ก็ได้ปลิดชีพตัวเองลง ด้วยปืนกระบอกเดียวที่ใช้ยิง Gianne ทำให้ไม่มีใครทราบมูลเหตุที่แท้จริงในการกระทำของแอนดูรว์ แต่ที่รู้แน่ชัด คือ เขาได้พรากดีไซน์เนอร์ระดับโลกของยุค 90 ไปอย่างไม่มีวันหวนคืน

ในส่วนของธุรกิจ Versace นั้น ได้ ดอนนาเทลลา ที่เป็นน้องสาวแท้ๆ ของ Gianne ได้เข้ามาสานความฝันต่อ และได้รับตำแหน่งเป็น Artistic Director ของแบรนด์ ในส่วนของพินัยกรรม Gianne ได้ยกหุ้นส่วน 50% ของบริษัทที่มีมูลค่าราวๆ 500 ล้านเหรียญ ให้แก่อัลเลกรา เวอร์ซาเช่ (Allegra Versace) ซึ่งเป็นหลานสาวของ Gianne และเป็นลูกของดอนนาเทลลานั้น ซึ่งเธอจะได้รับมกรดกนี้ เมื่อเธออายุครบ 18 ปี บริบูรณ์

การสูญเสียราชาแห่งวงการแฟชั่นไปอย่างไม่มีวันหวนกลับนั้น ได้มีการนำเอาเรื่องราวชีวิตที่เกิดขึ้นของ Gianni Versace มาถ่ายทอดให้ผู้คนได้รู้จัก ซึ่งได้กลายมาเป็นภาพยนต์ เรื่อง The Assassination Of Gianni Versace

ภาพยนต์เรื่อง The Assassination Of Gianni Versace 

ภาพยนต์เรื่อง The Assassination Of Gianni Versace

ในปี ค.ศ. 2000 นั้น Versace ได้ก้าวหน้าขึ้นไปอีกขั้น โดยได้เป็นแบรนด์ระดับ Luxury เจ้าแรกที่มีโรงแรมขนาดใหญ่และหรูหรา      ชื่อ Palazzo Versace ทางฝั่ง Gold Coast ในประเทศออสเตรเลีย ซึ่งในโรงแรมประกอบไปด้วย 200 ห้องนอน 75 อพาร์ตเมนต์ และมีสถานที่สามารถซื้อของกินได้ ทั้งบาร์และร้านอาหาร Versace ได้ตกแต่งโรงแรมสไตล์บารอก มีจุดเด่นเป็น สีทองอร่ามตาม DNA ของแบรนด์

ในปี ค.ศ. 2015 Versace ก็ได้ขยายสาขาอีกสาขาโรงแรม Palazzo Versace ที่ดูไบ และที่มาเก๊า ซึ่งหมายความว่า Versace ได้มีการแตกไลน์ขยายชื่อแบรนด์ไปเป็นอีกธุรกิจหนึ่ง คือ ธุรกิจเกี่ยวโรงแรม ถึงแม้ว่าไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจปัจจุบันเลยแม้แต่น้อย แต่ผลตอบรับของธุรกิจโรงแรมถือว่ายอดเยี่ยม เนื่องด้วยชื่อเสียงของแบรนด์ Versace ที่ได้สั่งสมมาก่อนหน้านี้

โรงแรม Palazzo Versace

โรงแรม Palazzo Versace

ในปัจจุบัน Versace ถูกแบรนด์สัญชาติอเมริกันอย่าง Michael Kors เทคโอเวอร์ด้วยมูลค่าราวๆ 21,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (คิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 68,000 ล้านบาท) โดย Michael Kors มีแผนจะขยายสาขาร้าน Versace ออกไปอีกจาก 200 สาขาเป็น 300 สาขา โดยดีลการซื้อขายในครั้งนี้ ถือเป็นความสำเร็จของบริษัทใหญ่จากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่สามารถเป็นเจ้าของแบรนด์หรูจากฝั่งยุโรปได้สำเร็จ

รัก
xoxo

KATE