To top
17 Aug

กระเป๋าน่าลงทุน – Louis Vuitton Neverfull

กระเป๋าน่าลงทุน – Louis Vuitton Neverfull ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในกระเป๋าที่ประสบความสำเร็จที่สุดรุ่นหนึ่งจากแบรนด์ระดับโลกอย่าง Louis Vuitton เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 2007 และสามารถขึ้นแท่นเป็น “กระเป๋ายอดนิยม” โดยทันที ด้วยรูปทรงที่ถูกออกแบบมาอย่างสวยงาม ลงตัว เข้ากับทุกการแต่งตัว รวมถึงทันกระแสแฟชั่นทุกยุคทุกสมัย ความนิยมอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาของกระเป๋ารุ่นนี้มีการปรับสูงขึ้นเกือบทุกปี และราคาขายในตลาดมือ 2 ก็สูงถึง 65-80% เลยทีเดียว เพราะเหตุใด Neverfull จึงได้รับความนิยมอย่างสูง เรามีคำตอบให้คุณ

The Neverfull Bag - Louis Vuitton Neverfull

The Neverfull Bag

Neverfull ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรก เมื่อปี ค.ศ. 2007 ในฐานะกระเป๋าทรง Tote ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ไม่มีวันเต็ม” ตามชื่อของกระเป๋า ดีไซน์การออกแบบที่เรียบง่าย แต่พ่วงด้วยประโยชน์ใช้สอยที่เต็มเปี่ยม จึงกลายเป็นหนึ่งในกระเป๋าที่เป็นที่ใฝ่ฝันของคุณผู้หญิงไปโดยปริยาย

กระเป๋าหนึ่งใบ จะใช้เวลาในการตัดเย็บนานถึง 45 ชั่วโมง โดยช่างฝีมือผู้เชี่ยวชาญ ด้านนอกของกระเป๋า ตัดเย็บจากวัสดุผ้าใบ Canvas คุณภาพสูง ด้านในบุด้วยผ้าชั้นดี ซึ่งเราสามารถแบ่ง Neverfull ออกได้เป็น 2 รุ่นคือ รุ่นที่ผลิตในช่วงปี ค.ศ. 2007-2014 และรุ่นที่ผลิตในปี ค.ศ. 2014-ปัจจุบัน ซึ่งในรุ่นปี 2014 จะมาพร้อมกับกระเป๋าใบเล็ก (Pouch) โดยทั้ง 2 รุ่นมีรายละเอียดที่แตกต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

The Neverfull 2007 - 2014 - 2020 - The Neverfull Bag - Louis Vuitton Neverfull

กระเป๋าถูกออกแบบมาด้วยกันทั้งหมด 3 ขนาดด้วยกัน คือ ขนาดเล็กสุด PM (Petite Modele) ขนาดกลาง MM (Moyen Modele) และขนาดใหญ่ GM (Grand Modele) เป็นทางเลือกให้กับสาว ๆ ได้มีโอกาสเลือกกระเป๋าที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง โดยขนาดที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ ขนาด MM หรือ ขนาดกลาง ซึ่งเหมาะเป็นกระเป๋าคู่ใจ ที่ใช้ได้ในทุก ๆ วัน (ศึกษาชิ้นส่วนกระเป๋าเพิ่มเติมได้ที่ Anatomy of Louis Vuitton Neverfull)

The Neverfull Bag Size - The Neverfull Bag - Louis Vuitton Neverfull

ความพิเศษของกระเป๋ารุ่นนี้ ที่หลาย ๆ คนอาจไม่เคยรู้ คือ การเป็น Reversible Bag หรือกระเป๋าที่สามารถใช้ได้ทั้ง 2 ด้าน อีกทั้งกระเป๋าทุกใบ จะได้รับการทดสอบการรับน้ำหนัก และความคงทนของสายสะพายก่อนออกจำหน่าย โดยมีบันทึกว่า กระเป๋าขนาด GM หรือ ขนาดใหญ่ที่สุดนั้น สามารถรับน้ำหนักได้มากถึง 231 ปอนด์ หรือ ประมาณ 100 กิโลกรัมเลยทีเดียว!

louis vuitton neverfull Limited Edition - The Neverfull Bag - Louis Vuitton Neverfull

 

 

Neverfull เป็นกระเป๋าอีกหนึ่งรุ่นของ หลุยส์ วิตตอง ที่ถูกศิลปินชื่อดังหลายท่าน ออกแบบแต่งแต้มลวดลายลงบนกระเป๋า ก่อเกิดกระเป๋ารุ่น Limited Edition มากมาย ซึ่งหาซื้อไม่ได้โดยทั่วไปในเว็บไซต์ของ หลุยส์ วิตตอง หากต้องการเป็นเจ้าของกระเป๋าเหล่านี้ สถานที่แรกที่ควรมองหา คือ ตลาดซื้อขายแบรนด์เนมมือ 2

Neverfull Price Increases - The Neverfull Bag - Louis Vuitton Neverfull

Neverfull Price Increases

นับว่า Neverfull เป็นกระเป๋าในฝันสำหรับแฟน ๆ ของ หลุยส์ วิตตอง หลายท่าน ด้วยเหตุผลในเรื่องดีไซน์ ราคาที่สามารถเป็นเจ้าของได้ไม่ยากนัก อีกทั้งราคาขายต่อก็ไม่ตกมากจากราคาที่ซื้อมาเริ่มแรก โดยลายที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ ลาย Damier Ebene หรือ ลายตารางหมากรุกที่คุ้นหูคุ้นตา ซึ่งราคาสามารถทำราคาขายในตลาดมือ 2 ได้สูงถึง $899-999 หรือราว ๆ 27,900-30,900 บาทเลยทีเดียว สำหรับกระเป๋ารุ่นเก่าและมือ 2  มีราคาเริ่มต้นที่ $500 หรือ 17,000 บาท เป็นต้นไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพของกระเป๋า

กระเป๋าที่ผลิตหลังจาก ปี ค.ศ.  2014 เป็นต้นมา จะมาพร้อมกับกระเป๋าใบเล็ก ซึ่งกระเป๋าใบเล็กนี้ ได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดมือ 2 จุดเด่นของมัน คือ หากคุณไม่ต้องการมัน คุณก็สามารถนำมาแยกขายได้อีก ราคาซื้อขายจะอยู่ที่ประมาณ $250-300 หรือราว ๆ 7,800-9,300 บาท/ใบ โดยเจ้ากระเป๋าใบเล็กนี้ มี 2 ขนาดด้วยกัน คือ ขนาด 19.3 x 12 เซนติเมตร (7.6 x 4.75 นิ้ว) มาพร้อมกับกระเป๋าขนาด PM และขนาด 24.7 x 15.2 เซนติเมตร (9.75 x 6 นิ้ว) มาพร้อมกับกระเป๋าขนาด MM และ GM

Neverfull Price Increases

Neverfull ออกจำหน่ายครั้งแรก ในราคา $700 หรือเป็นเงินไทยราว ๆ 21,800 บาท หลังจากนั้นราคาก็เพิ่มขึ้นโดยลำดับ โดยแต่ละประเทศ ราคาจะแตกต่างกันออกไป ยกตัวอย่างเช่น ในปี ค.ศ. 2013 มีการขึ้นราคา 10% ในกระเป๋ารุ่น Speedy และ Neverfull ในโซน Europe, UK และ USA แต่ใน Asia กลับเพิ่มขึ้นเพียง 5-10% เท่านั้น สำหรับกระเป๋ารุ่นเดียวกัน ซึ่งราคาที่แตกต่างกันไปนี้จะขึ้นอยู่กับความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราในช่วงเวลานั้น ๆ ด้วย

Louis Vuitton "Neverfull" Price History - Louis Vuitton Neverfull - neverfull ราคา

จากตารางด้านบนจะเห็นได้ว่า ราคาของกระเป๋าจากปีที่เริ่มเปิดตัว คือ ปี ค.ศ. 2007 จนถึง ปี ค.ศ. 2018 มีอัตราเพิ่มสูงขึ้นถึง 41.5% โดยในช่วงปี ค.ศ. 2014 เป็นปีที่ราคาของ Neverfull พุ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เมื่อมีการเพิ่มเติมกระเป๋าใบเล็กมาด้วย จนถึงช่วงปี ค.ศ. 2019 ราคาของกระเป๋าอยู่ที่ 47,500 บาท และล่าสุดในปี ค.ศ. 2020 ราคาอยู่ที่ 49,800 บาท คิดเป็นอัตราเพิ่มสูงขึ้น 3.1% โดยราคาที่นำมายกตัวอย่างนี้ เป็นราคาของกระเป๋า Neverfull ขนาด MM สำหรับกระเป๋ารุ่น Limited Edition ราคาซื้อขายในตลาดมือ 2 จะเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าเลยทีเดียว

โดยปกติแล้ว ทาง Louis Vuitton จะขึ้นราคากระเป๋าปีละ 2 ครั้งด้วยกัน ราว ๆ ช่วงเดือน กุมภาพันธ์และเดือนตุลาคม โดยราคาของกระเป๋าจะมีการเพิ่มสูงขึ้นทุกปี ที่สำคัญ คือ จะไม่มีโปรโมชั่นลดราคา หรือสินค้าเลหลังกระเป๋าอย่างเด็ดขาด

Louis Vuitton Neverfull - Louis Vuitton Neverfull - neverfull ราคา

Why Louis Vuitton Keep Increasing prices?

  • Everything’s become more expensive เนื่องจากมูลค่าแบรนด์ที่เพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งปัจจัยรอบข้างต่าง ๆ ความยากในการเฟ้นหาวัตถุดิบหลักในการผลิตกระเป๋า รวมถึงต้นทุนแรงงานที่มีราคาสูงขึ้น อีกทั้งการขยายตัว และสภาพทางเศรษฐกิจ ความต้องการสินค้าในตลาดที่ยังคงสูงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาของสินค้าเพิ่มขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย
  • Premium brand has to stay premium เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า แบรนด์ Louis Vuitton เป็นแบรนด์สุดหรูระดับโลกที่ใคร ๆ ต่างก็อยากเป็นเจ้าของ ไม่มีการลดราคาสินค้า ไม่มีการขายสินค้าที่ตัดเย็บไม่ได้มาตรฐาน การรักษาคุณค่าของแบรนด์นับเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งทำให้แบรนด์ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง
  • Sense of urgency and investment opportunity การขึ้นราคาเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สินค้าเกิดคุณค่า และถือว่าเป็นการตลาดอย่างหนึ่งก็ว่าได้ หากคุณไม่ตัดสินใจซื้อ Neverfull ในปี ค.ศ. 2019 คุณจะต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้น 4.63% เพื่อเป็นเจ้าของมันในปี ค.ศ. 2020 ราคาที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ตัวกระเป๋าเกิดคุณค่า และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการซื้อเก็บไว้ สำหรับเก็งกำไร รวมถึงการลงทุนในอนาคตข้างหน้า
Neverfull Bag - Louis Vuitton Neverfull - neverfull ราคา

กระเป๋าน่าลงทุน – Louis Vuitton Neverfull

ปัจจุบัน กระแสความนิยมของ Neverfull ไม่เคยถดถอยลงแม้แต่น้อย นับตั้งแต่วันที่เปิดตัวครั้งแรก ถือได้ว่าเป็นกระเป๋าที่ประสบความสำเร็จอย่างมากรุ่นหนึ่งจาก Louis Vuitton ได้กระแสตอบรับที่ดีอย่างท่วมท้นและต่อเนื่อง ประสบความสำเร็จรวมถึงมียอดขายสูงสุด ด้วยดีไซน์การออกแบบที่เรียบหรูคลาสสิค บรรจุของได้มากมายสมชื่อรุ่น อีกทั้งราคาที่สมเหตุสมผล ซื้อใช้ก็คุ้ม ขายก็กำไร นับเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งสำหรับใครที่กำลังมองหากระเป๋าคู่กาย หรือกำลังเริ่มมองหาการลงทุนกับกระเป๋าแบรนด์เนม ที่ให้ผลตอบแทนดี ๆ สักใบ

รัก
xoxo

 

KATE