เปิดประวัติ Off-White ความลงตัวของสตรีทแวร์และแฟชั่นชั้นสูง – Off-White เป็นแบรนด์ผู้ปลุกกระแสสตรีทแฟชั่นและไฮเอนด์แฟชั่น อันก่อเกิดการผสมผสานของแฟชั่นแบบใหม่ ที่เข้ากันได้อย่างลงตัว ความโดดเด่นและดีไซน์แปลกใหม่อันเป็นเอกลักษณ์ จนกลายมาเป็นแบรนด์ที่กำลังได้รับความนิยมและพูดถึงเป็นอย่างมากในเวลานี้ สำหรับในบทความนี้ พาชวนเจาะลึก เปิดประวัติ Off-White ทำความรู้จักกับแบรนด์แฟชั่นสตรีทนี้ให้มากขึ้น
Virgil Abloh – The Founder
เวอร์จิล แอบโลห์ (Virjil Abloh)
Virgil Abloh (เวอร์จิล แอบโลห์) เกิดเมื่อวันที่ 30 กันยายน ปี ค.ศ. 1980 และเติบโตในเมือง Rockford ใกล้ๆ ชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกา บิดานามว่า Nee Abloh ทำงานเป็นผู้จัดการร้านสี ส่วนมารดา Eunice Abloh เป็นช่างตัดเย็บเสื้อผ้า ทั้งคู่อพยพมาจากประเทศกานา โดยเขา มีพี่สาวอีกคนหนึ่ง ชื่อ Edwina Abloh
ช่วงชีวิตวัยเด็ก ในช่วงยุค 90s ของเขาถูกล้อมรอบไปด้วยวัฒนธรรมสเกตบอร์ด บทเพลงของวง Nirvana และวงฮิปฮอปอย่าง Wu-Tang Clan ซึ่งดีเอ็นเอเชิงความคิดและการแต่งตัวของวัยรุ่นในขณะนั้น ก็กลายมาเป็นสิ่งที่ติดตัวเขามาตลอด และเป็นเสาหลักในการผลิตผลงานของเขามาจนถึงทุกวันนี้
เวอร์จิล เรียนจบปริญญาตรี สาขาวิศกรรมโยธาจาก University of Wisconsin-Madison และปริญญาโทด้านสถาปัตยกรรมจาก Illinois Institute of Technology นอกจากเขาจะไม่ได้มีความรู้เรื่องแฟชั่นเท่าไหร่แล้ว เขายังเรียนจบในสายวิชาที่ เรียกได้ว่าแทบจะเป็นเรื่องคนละขั้วกับงานด้านศิลปะเลยทีเดียว แต่จุดเปลี่ยนก็เกิดขึ้น เมื่อเขาได้เรียนต่อปริญญาโทด้านสถาปัตยกรรมศาสตร์ จึงได้มีโอกาสเรียนรู้แนวคิดต่าง ๆ จากสถาปนิกชื่อดัง ซึ่งเหมือนเป็นประตูเปิดทางให้เขาหันมาสนใจด้านแฟชั่นมากขึ้น
เขาพยายามทำในสิ่งที่มันตรงกันข้ามกับสิ่งที่เขาเติบโตมามากที่สุดและทำในสิ่งที่เขาชอบ มันเหมือนกับว่าเขาต้องการแสดงตัวตนอีกด้านหนึ่งของเขาออกมาผ่านผลงาน เขาชอบแฟชั่น ชอบการแต่งตัว แต่เขาไม่ได้เติบโตมากับสิ่งเหล่านั้น
“มันก็เหมือนกับเหรียญสองด้าน ผมชอบงานกราฟฟิค แต่ผมก็ชอบใส่เสื้อยืดธรรมดาเรียบๆ ทั้งหมดนั่นก็คือสิ่งที่ผมต้องการแสดงออกผ่าน OFF-WHITE”
คานเย เวสต์ (Kanye West) และ เวอร์จิล แอบโลห์ (Virjil Abloh)
เวอร์จิล เป็นคนที่มีความสามารถทางด้านแฟชั่นที่หลากหลาย เขาเคยเป็นสไตลิสต์ให้กับ Fashion Icon ระดับโลกอย่าง Kanye West โดยคอยดูแลเรื่องของการแต่งตัว รวมไปถึงผลงานเพลงและอีกมากมาย จนเขาได้กลายมาเป็นเพื่อนสนิทของ Kanye ในเวลาถัดมา แต่สุดท้าย เวอร์จิล ชายผู้มากความสามารถก็ได้มองหาความท้าทายใหม่ ๆ ในวงการแฟชั่นที่เขาคลุกคลีมาอย่างยาวนาน
ในปี ค.ศ. 2012 เวอร์จิลก่อตั้งแบรนด์ Pyrex Vision และคอลเล็กชันที่ทำให้เขาเป็นที่จดจำ ก็คงจะเป็นการนำเสื้อเชิ้ต POLO Ralph Lauren ลายสก็อตที่ลดล้างสต็อก ราคาตัวละ 40 ดอลลาร์สหรัฐ มาสกรีนคำว่า “PYREX 23” ลงไปด้านหลัง แล้วนำไปขายใหม่ในราคา 550 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นที่ถูกอกถูกใจ เหล่าบรรดาคนที่ชื่นชอบเสื้อผ้าแนวสตรีทเป็นอย่างมาก แต่เหตุการณ์ดังกล่าวก็ทำให้เขาโดนวิจารณ์หนักมากเช่นกัน และแบรนด์ก็ปิดตัวลงในปีถัดมา ก่อนจะสร้างแบรนด์ใหม่เป็น Off-White เพื่อโลดแล่นในวงการสตรีทแฟชั่นอีกครั้ง
Pyrex Vision x POLO Ralph Lauren
” About OFF-WHITE “
Off-White เปิดตัวครั้งแรกในปี ค.ศ. 2013 เป็นแบรนด์ที่ได้รับแรงบันดาลใจที่ผสมผสานจากความเป็นสตรีทแวร์ (Streetwear) ซึ่งเป็นเครื่องแต่งกายในชีวิตประจำวันและความสุนทรีย์ของงานศิลปะแบบแฟชั่นระดับสูง (High-Fashion) โดยถ่ายทอดผ่านวัฒนธรรมวัยรุ่น (Youth Culture) ในยุคปัจจุบัน
เวอร์จิล ตั้งใจให้ Off-White เป็นแบรนด์ลักชัวรีแบรนด์แรก ที่ใช้พื้นที่โซเชียลมีเดีย ช่วยกันปลุกกระแสขึ้นมา ผสมผสานความดั้งเดิมในการทำงานของวงการแฟชั่นเข้ากับความทันสมัย ที่สร้างกฎเกณฑ์ใหม่ ๆ โดยมีแกนหลักสำคัญคือ การนำสินค้าเบสิกของสตรีทแวร์มาดีไซน์ใหม่ให้มีคุณภาพที่ดีสุดและใช้วัสดุเทียบเคียงกับแบรนด์ลักชัวรีอื่น ๆ
เวอร์จิล เลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพมากขึ้น และดีกว่าที่เขาเคยใช้กับ Pyrex Vision อีกทั้งเขายังเลือกใช้ฐานการผลิตที่เมือง Milan, Paris และ New York City เด้วยความตั้งใจที่จะให้ผลงานของเขา ถูกผลิตขึ้นในเมืองแห่งแฟชั่นเท่านั้น
เวอร์จิล สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเองว่า “คุณภาพและโครงสร้างการผลิต มันก็คล้ายกับเรื่องของสถาปัตยกรรม เสื้อผ้าคือสิ่งที่ถูกผลิตขึ้นมาเหมือนกับสิ่งก่อสร้าง เราอาจใช้วัสดุที่แตกต่างกันออกไป สุดท้ายมันก็ขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ที่ได้ ถ้าเราอยากให้ผลงานของเราออกมาดี เป็นที่ยอมรับของผู้คน เราก็ต้องใส่ใจกับสิ่งเหล่านี้เช่นกัน”
Off-White ถือเป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างสตรีทแฟชั่น และแฟชั่นระดับสูง เหมือนเป็นสีเทาที่ถูกผสมระหว่างสีขาวและสีดำ นอกจากเขาจะสร้างวัฒนธรรมใหม่ในวงการแฟชั่นแล้วนั้น เขายังคงใช้ความพยายามอย่างมากในการพัฒนา และปรับปรุง Off-White ให้สมบูรณ์แบบอยู่เสมอ
การออกแบบของ Off-White จะมีเอกลักษณ์ที่ลวดลายกราฟิก ลายม้าลาย ลายเส้นทแยงมุมขาวดำที่พิมพ์ลงบนสินค้าของแบรนด์ ถ่ายทอดผลงานผ่านคอลเล็กชั่นเสื้อผ้าทั้งชายและหญิง เป็นการนำเรื่องราวของเวอร์จิล ที่ไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง ศิลปะ ดนตรี และวัฒนธรรมกลับมาเล่าใหม่ผ่านดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์และน่าจดจำ
อย่างลายที่ได้รับแรงบันดาลใจจากลวดลายบนท้องถนน ซึ่งเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี อย่างแถบเฉลียงที่เรียกว่า ลายครอส (Cross) และลายลูกศรไขว้เป็นกากบาท อย่างลายแอร์โรว์ (Arrow) ซึ่งผลงานทั้งหมดถูกออกแบบในสตูดิโอที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงมิลานประเทศอิตาลี เมืองที่เต็มไปด้วยเรื่องราวประวัติศาสตร์และงานฝีมือระดับโลก รวมไปถึงยังเป็นศูนย์กลางของเทรนด์และงานดีไซน์ที่เป็นสากล
ความเป็นมาและความหมายของชื่อแบรนด์ เวอร์จิลกล่าวว่า “มันเป็นการเล่นคำของผมเอง ผมต้องการใช้คำพูดสั้น ๆ ที่สามารถเรียกเป็นชื่อได้ และยังสามารถให้ความหมายเป็นประโยคได้อีกด้วย ผมได้ชื่อ Off-White หลังจากผมใช้ความคิดอย่างมากในการพยายามอธิบายความหมายของ ‘ผ้าใบที่ว่างเปล่า’ โดยไม่ใช้คำว่า Blank Canvas ผมจึงอธิบายมันด้วยสีของมัน ดังนั้นผมเลยเล่นคำว่า ‘Off-White’ ซึ่งความหมายของแบรนด์ก็คือผ้าใบที่ว่างเปล่า”
Off-White x Nike
ความน่าสนใจก็คือ เวอร์จิลใช้เวลาเพียง 7 ปี ทำให้ Off-White กลายเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลก และมีการร่วมมือกับหลากหลายแบรนด์แฟชั่น เช่น Nike, Jimmy Choo, IKEA และ Converse เป็นต้น ซึ่งเหตุผลที่ทำให้ Off-White ประสบความสำเร็จได้ ส่วนหนึ่งคือความกล้าคิด กล้าทำ กล้าแตกต่าง ซึ่งทำให้เห็นว่า แนวลักชัวรี กับแนวสตรีทนั้น สามารถไปด้วยกันได้ และตลาดของคนกลุ่มนี้ก็ใหญ่ไม่แพ้แนวแฟชั่นอื่น ๆ เลย
Off-White x Converse
ผลตอบรับของ Off-White ถือว่าดีเกินคาด โดยในปีที่ผ่านมา New Guards Group นั้น มีรายได้สูงถึง 10,724 ล้านบาท ซึ่ง Off-White เป็นแบรนด์หลักในบริษัทนี้ และในปี ค.ศ. 2019 New Guards Group ถูกซื้อโดย บริษัทแพลตฟอร์มออนไลน์ที่จำหน่ายสินค้าแบรนด์เนมชื่อดัง อย่าง FARFETCH ด้วยราคาถึง 20,448 ล้านบาท ซึ่งก็ถือเป็นการรวมตัวกันของแบรนด์แพลตฟอร์มจำหน่ายสินค้าแฟชั่นออนไลน์ระดับโลกกับแบรนด์แฟชั่นที่มาแรงที่สุดในเวลานี้
Off-White x IKEA
Off-White x Jimmy Choo
ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา LVMH ประกาศว่า เวอร์จิล จะมาร่วมงานกับแบรนด์ชั้นแนวหน้าจากฝรั่งเศสอย่าง Louis Vuitton ในตำแหน่ง อาร์ทิสติกไดเรกเตอร์ ในส่วนของเสื้อผ้าผู้ชาย ซึ่งเขาจะกลายเป็นดีไซเนอร์ผิวสีคนแรกของแบรนด์ตั้งแต่ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1854 นี่อาจเป็นการทลายกำแพงที่ว่า แบรนด์หรูอยู่สูงเกินไปสำหรับใครบางคน และดีไซเนอร์ผิวดำก็ยากจะขึ้นมาผงาดในวงการแฟชั่นชั้นสูงเลยก็ว่าได้
การแต่งตัวแบบสตรีทได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลายมากขึ้น เป็นสไตล์ที่สวมใส่ง่าย สบาย และไม่อึดอัด แถมยังได้ความเท่ห์ไปในตัว การแต่งตัวแนวสตรีทค่อนข้างกว้างและไม่มีถูกไม่มีผิด เน้นการแต่งแบบสบาย ๆ ชิล ๆ จึงไม่แปลกใจ หากจะเห็นความเฟื่องฟูของหลาย ๆ สตรีทแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยคอลเล็กชั่นใหม่ หรือแม้แต่การจับมือคอลแลปกับแบรนด์ดังต่าง ๆ มากมาย กระแสสตรีทแวร์จึงได้รับความนิยมไปทั่วโลกร่วมถึงในบ้านเราด้วยเช่นกัน
รัก
xoxo