หลาย ๆ คนอาจจะคุ้นเคยกับลวดลายตาราง Vintage Check เอกลักษณ์ของแบรนด์แฟชั่นหรูหรา อันเก่าแก่ของอังกฤษอย่าง Burberry ลวดลายตารางนี้ได้สร้างชื่อเสียงให้กับแบรนด์เป็นอย่างมาก และความนิยมของแบรนด์ก็ไม่ได้มีเพียงแค่ในประเทศอังกฤษเท่านั้น แต่ความโด่งดังนั้นยังข้ามน้ำข้ามทะเลมาไกลถึงประเทศญี่ปุ่นจนก่อให้เกิดสินค้าในไลน์ Blue Label ที่ถูกกล่าวถึงเป็นอย่างมาก ครานี้เราจะมา ไขข้อสงสัย อะไรคือ Blue Lable ใน Burberry และมีความพิเศษเฉพาะตัวอย่างไรบ้าง สามารถติดตามได้ผ่านบทความนี้

About Burberry

Burberry คือแฟชั่นเฮ้าส์สุดหรูที่เก่าแก่มากอีกแบรนด์หนึ่ง ซึ่งถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1856 โดย โทมัส เบอเบอรี่ (Thomas Burberry) ปัจจุบันแบรนด์ได้ทำการออกแบบและจำหน่ายสินค้าประเภทต่าง ๆ ไม่ว่าจะ เทรนช์โค้ต ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของแบรนด์ เสื้อผ้าพร้อมสวมใส่ (Ready to Wear) แจ็กเก็ต เครื่องประดับแฟชั่น น้ำหอม แว่นตากันแดด และเครื่องสำอาง ปัจจุบัน Burberry มีสำนักงานใหญ่ในกรุงลอนดอน มีสโตร์กว่า 500 สาขาใน 51 ประเทศทั่วโลก

Burberry Blue Label

หลังจากที่แบรนด์ Burberry ได้รับรางวัล Royal Warrant จาก สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ในปี ค.ศ. 1995 ในปีถัดมาแบรนด์ก็ได้พบว่ามีคนติดตามและชื่นชอบผลงานการออกแบบของ Burberry เป็นจำนวนมากในญี่ปุ่น ไม่เพียงเท่านั้น ในส่วนของวัฒนธรรมของญี่ปุ่นเองก็มีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้แบรนด์ได้เริ่มทำสินค้าในญี่ปุ่นโดยเฉพาะ และ Burberry Blue Label ก็เริ่มไลน์การผลิตขึ้นในปี ค.ศ. 1996

ในช่วงแรกสินค้าในไลน์ Burberry Blue Label บริษัท Sanyo Shokai Ltd. เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตการผลิตในญี่ปุ่น ซึ่งการออกแบบสินค้าจะเป็นไปตามกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะกลุ่มหญิงสาวและวัยรุ่น ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นที่นี่จะมีเอกลักษณ์เฉพาะ มีจำหน่ายเฉพาะในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น อีกทั้งยังมีราคาย่อมเยาว์ เพราะแบรนด์ได้คำนึงถึงกลุ่มเป้าหมายที่ไม่ได้มีรายได้หลักที่มากนัก

ต่อมาทางแบรนด์จึงได้เพิ่มการผลิตสินค้าสำหรับสุภาพบุรุษในไลน์ Burberry Blue Label เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังเพิ่มการผลิตเครื่องหนังขนาดเล็ก รองเท้า เข็มขัด และเครื่องประดับ ซึ่งสินค้าเหล่านี้สะท้อนถึงภาพลักษณ์ของกลุ่มลูกค้า ผู้บริโภค เช่น กระเป๋าถือสำหรับสุภาพสตรีมักจะมาในโทนสีฟ้าพาสเทล หรือ สีชมพู ซึ่งออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของหญิงสาววัยทำงานในญี่ปุ่น

 

only Available in Japan !

สิ่งสำคัญที่ต้องรู้คือ เป็นสินค้าเฉพาะรุ่นที่มีจำหน่ายในญี่ปุ่นเท่านั้น การออกแบบเสื้อผ้าจะมีขนาดพอดีตัวและขนาดที่เล็กกว่าขนาดปกติ เพื่อดึงดูดตลาดญี่ปุ่นโดยตรง นอกจากนี้ สินค้า Blue Label ไม่ได้รับอนุญาตให้จำหน่ายหรือจดทะเบียนในที่อื่นนอกประเทศญี่ปุ่น และยังมีช่วงราคาใกล้เคียงกับสินค้า Burberry London ปกติ อ่านถึงตรงนี้แล้ว ไขข้อสงสัย อะไรคือ Blue Lable ใน Burberry ได้บ้างหรือยัง ?

สินค้าที่ผลิตในญี่ปุ่นนั้นยังคงเอกลักษณ์ความเป็นแบรนด์ Burberry อยู่ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อเทร้นช์โค้ต หรือลวดลายตาราง Vintage Check ความพิเศษของสินค้า Burberry Blue Label นั้นมีจำหน่ายเฉพาะในร้านสโตร์ 7 แห่ง คือ ฮอกไกโดตอนใต้ (Hokkaido / Tohoku), คันโต (Kanto), โฮคุริคุ/ชินเอ็ทสุ (Hokuriku / Shinetsu), โทไก (Tokai), คันไซหรือภูมิภาคคิงกิ (Kinki), จูโงกุ/ชิโกกุ (Chugoku / Shikoku) และ คิวชู (Kyushu) ไม่มีนโยบายสำหรับการจำหน่ายในช่องทางออนไลน์

รัก
xoxo