Gucci แบรนด์แฟชั่นยอดนิยมที่น้อยคนนักจะไม่รู้จัก ด้วยเอกลักษณ์ตัวอักษร GG อันเก๋ไก๋ที่ปรากฏบนเครื่องหนังและเครื่องแต่งกายมานานเกือบ 100 ปี (ประวัติแบรนด์ Gucci) แน่นอนว่าย่อมหลีกเลี่ยงการเลียนแบบจากสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ไม่ได้ และสินค้าเหล่านั้นถูกนำมาขายทอดตลาดทั้งออนไลน์รวมถึงวางขายตามหน้าร้านทั่วไป ดังนั้น เราจึงได้รวบรวมวิธีตรวจสอบกระเป๋า Gucci ของแท้ เพื่อเป็นส่วนช่วยให้คุณผู้หญิง ใช้เป็นเช็คลิสต์ตรวจสอบกระเป๋า Gucci ได้ด้วยตนเอง
1. Logo
โลโก้ที่ปรากฏที่ด้านนอกของกระเป๋า Gucci แต่ละใบอาจแตกต่างกันไปตามสไตล์ และรุ่นของกระเป๋า โลโก้ Gucci ที่โดดเด่นสะดุดตา และใช้เป็นมาตรฐาน คือ ตัวอักษร G สองตัว ที่เชื่อมต่อกันซึ่งมักจะวางไว้ที่ด้านหน้าหรือบนฝาปิดของกระเป๋า โดยจะจัดวางในตำแหน่งที่สมมาตรไม่มีเครื่องหมายใดๆ คั่นระหว่างตัวอักษร G และตัวอักษร G จะต้องโค้งกลมมนเหมือนกับตัว O
2. Interior
ซับด้านในของกระเป๋า Gucci สามารถมีได้ทั้ง 2 แบบ นั่นคือ ซับในรุ่นที่เป็นผ้า และซับในแบบหนัง ในส่วนของซับในรุ่นที่เป็นผ้า จะใช้วัสดุเป็นผ้าทอชั้นดี เส้นใยเรียงกันเป็นระเบียบเรียบร้อย จะสามารถแยกแยะและรู้สึกถึงความแตกต่างได้อย่างชัดเจน และสำหรับรุ่นที่ซับในเป็นหนัง เมื่อสัมผัสดูจะต้องรู้สึกไม่หยาบกระด้าง นุ่มมือ และที่สำคัญต้องมีความทนทาน
3. Material
ในส่วนของ Material ที่นำมาตัดเย็บนั้น สิ่งที่สามารถแยกแยะระหว่างของแท้และของปลอมได้ดีที่สุดคงไม่พ้นการที่ได้สัมผัสเนื้อของวัสดุโดยตรง จึงจะรู้สึกถึงความแตกต่างได้ง่ายกว่า ซึ่งวัสดุยอดนิยมที่นำมาตัดเย็บกระเป๋า Gucci ในหลายๆ รุ่นนั้น ก็คงไม่พ้นผ้าใบ canvas “GG monogram” ซึ่งในกระเป๋า Gucci แท้ ลาย GG จะต้องเชื่อมต่อกัน โดยที่ตัว G ทางซ้ายควรหันหน้าไปข้างหน้าและ G ทางขวาควรหันหลังและคว่ำ ตัว G ทั้ง 2 ตัวต้องมีขนาดรวมถึงระยะห่างที่เท่ากัน พร้อมทั้งลวดลายที่เสมอกันไม่มีความเหลื่อมล้ำ
Gucci Diamante สร้างขึ้นครั้งแรกในปี 1930 ลวดลาย Diamante ถูกถักทอด้วยป่านเป็นครั้งแรกและนำไปใช้กับกระเป๋าเดินทาง เป็นนวัตกรรมที่สร้างขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนหนังที่ใช้ในการตัดเย็บกระเป๋า จนได้กลายมาเป็น Iconic ของ Gucci
Gucci Vintage Web สรา้งขึ้นครั้งแรกในปี 1950 แรงบันดาลใจในการออกแบบได้มาจากเส้นรอบวงของอานม้า
Gucci Guccissima ออกแบบโดยครีเอทีฟ ไดเร็กเตอร์ Frida Giannini ในปี 2006 ซึ่งคำว่า Guccissima ในภาษาอิตาลีแปลว่า ‘Gucci ที่สุด’ นอกจากนี้ยังมีลาย Gucci Microguccissima ที่สร้างโดย Frida Giannini เช่นกัน
Gucci Flora แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากการร้องขอของ เกรซ เคลลี (Grace Kelly) ในปี 1996 ผ้าไหมลายพิมพ์ Flora ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดถูกสร้างขึ้นสำหรับเจ้าหญิงแห่งโมานาโกผู้นี้ และงานพิมพ์นี้ได้ถูกนำมาออกแบบใหม่อีกครั้งโดย Frida Giannini และได้ถูกนำมาใช้จนถึงปัจจุบัน
ในส่วนของกระเป๋าที่ทำจากวัสดุหนัง Gucci เลือกใช้เฉพาะวัสดุหนังคุณภาพดีเท่านั้น โดยจะมีตั้งแต่ หนังนิ่ม หนังฟอก หนัง Chevron หนังงูเหลือม Python และหนังนกกระจอกเทศ
4. Label Tag
ภายในกระเป๋าจะพบแผ่นหนังเล็กๆ ปั๊มตัวอักษร R ในวงกลม แสดงออกถึงสัญญลักษณ์เครื่องหมายการค้า บรรทัดถัดมาคือ คำว่า “GUCCI” โดยใช้ตัวอักษรตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมด (ตัว G และ C จะมีลักษณะกลมจนคล้ายกันตัว O) และบรรทัดต่อมา “made in italy” จะใช้ตัวอักษรตัวพิมพ์เล็กทั้งหมด ตัวอักษรทุกตัวต้องคมชัด ไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป ช่องไฟต้องวางห่างเท่ากันเป็นระเบียบสวยงาม ที่สำคัญไม่มีการกดตัวปั๊มมากเกินไปจนหนังเป็นรอยบุ๋ม
ในกรณีของกระเป๋า ที่วางจำหน่ายใน Outlet นั้น Label Tag จะมีลักษณะที่แตกต่างจากกระเป๋าที่วางขายทั่วไป โดยส่วนใหญ่จะมีตัว G ล้อมรอบด้วยวงกลม หรือมีการเจาะรูบนแผ่นหนังนั้น ซึ่งทาง Outlet มีกฏเข้มว่า สินค้าที่ซื้อไป จะไม่สามารถทำการเปลี่ยนหรือคืนได้ กระเป๋าที่วางขายใน Outlet ส่วนมากจะเป็นของแท้ แต่จะไม่ใช่ของมีตำหนิหรือผลิตเกินจำนวนเด็ดขาด (overruns) แบรนด์ Gucci ไม่เคยมีนโยบายเช่นนั้น หากมีใครแอบอ้างว่า เป็นสินค้ามีตำหนิหรือผลิตเกินจำนวนมาขายในราคาถูก สันนิษฐานก่อนเลยว่าอาจเป็นของปลอม
5. Serial Number
Serial Number หรือที่เรารู้จักคุ้นเคยกันในชื่อ Date Code นั้น จะระบุเป็นตัวเลขทั้งหมด 10 – 13 ตัว โดยแบ่งเป็น 2 แถว ประทับบนด้านหลังของ Label Tag ตัวเลขในแถวด้านบน เรียกว่า “Model Number” จะบ่งบอกถึงรุ่นของกระเป๋า ว่าเป็นกระเป๋ารุ่นไหนแบบไหน ในส่วนของเลขแถวบนนี้ อาจมีการซ้ำกันได้ ส่วนตัวเลขแถวล่าง “Serial Number” คือจะเป็นเลขเฉพาะของกระเป๋าใบนั้นๆ และจะซ้ำกันไม่ได้ ตัวเลขทั้ง 2 แถว จะต้องไม่มีความเหลื่อมล้ำในแถว ตัวเลขทั้งหมดเป็นระเบียบ
แต่สำหรับในกระเป๋ารุ่นใหม่ จะมี Code Tag อีกจุดหนึ่ง ระบุบนแผ่นผ้าใบเล็กๆ เย็บติดไว้ที่มุมด้านในของกระเป๋าด้านซ้าย มีลักษณะเป็นผ้าลื่นๆ สีดำขนาดเล็ก ระบุตัวเลขจำนวน 10 ตัวตามด้วย QR Code Tag ผ้านี้จะต้องไม่มีรอยเย็บตามขอบอย่างเด็ดขาด รวมถึงตัวเลข ตัวอักษร รวมถึง QR Code จะต้องมีความชัดเจน ตัวอักษรไม่เลอะเลือนหรือมีสีที่เกินออกมาดูเลอะเทอะ
6. Hardware
กระเป๋า Gucci ของแท้ จะมาพร้อมกับ Hardware คุณภาพสูงที่ทำจากทองคำหรือทำจากโลหะแข็ง (solid metal) ตัวซิปรวมทั้ง Hardware โลหะอื่น ๆ จะมีการแกะสลักเครื่องหมาย “Gucci” หรือ “GUCCI made in Italy” ในบางรุ่นอาจมีเครื่องหมายการค้า ® ประทับไว้ด้วยเช่นกัน แตกต่างไปแต่ละรุ่นของกระเป๋า โดยตัวอักษรจะต้องมีความคมชัด เว้นระยะห่างเท่ากัน ไม่มีความเหลื่อมล้ำออกมานอกแถว ไม่มีการปั๊มที่ลึกหรือบางเกินไป
ในส่วนของสกรู Gucci จะใช้สกรูแบบหัวลบ (-) จะไม่ใช้สกรูที่เป็นแบบหัวบวก (+) อย่างเด็ดขาด
7. Zipper
Gucci ใช้ซิปจากหลากหลายที่ แต่ที่นิยมมากที่สุดคือซิปจากบริษัท Lampo และ YKK ซึ่งในส่วนของซิปจะมีแบ่งออกเป็น 4 แบบ
- หัวซิปเป็นโลหะตัวซิปทำจากแท็กหนัง
- หัวซิปและตัวซิปทำจากโลหะ จะมีโลโก้ตัวอักษร GUCCI สลักอยู่บนตัวซิป
- หัวซิปเป็นโลหะตัวซิปเป็นโลหะที่มีลักษณะกลมๆคล้ายกับเหรียญ Medallion
- หัวซิปเป็นโลหะตัวซิปเป็นโลหะที่มี่โลโก้ Gucci Knight ซึ่งเป็นซิปที่เรียกว่า ซิปวินเทจ
8. Stitching
Gucci ให้ความสำคัญกับรายละเอียดเป็นอย่างมาก ดังนั้นกระเป๋าทุกใบจึงทำการเย็บด้วยมือที่มีคุณภาพสูงทั้งหมด รอยเย็บจะมีความปราณีต เป็นระเบียบ ไม่มีรอยเย็บที่หลุดรุ่ย ฝีเข็มที่เย็บรอบๆโลโก้ตัวอักษร G ไขว้กันก็เช่นกัน
ในส่วนของกระเป๋าที่ทำจากผ้าใบแคนวาส รอยเย็บจะต้องดูเรียบเนียน สม่ำเสมอ ไร้ที่ติ และสีด้ายที่ใช้ในการเย็บจะต้องเป็นสีเดียวกันกับหนังหรือวัสดุที่ใช้ทำกระเป๋า
9. Controllato Card
ในภาษาอิตาลี คำว่า “Controllato” มีความหมายว่า “ตรวจสอบแล้ว” กระเป๋า Gucci แท้ทุกใบ จะต้องมีการ์ดนี้ติดมากับกระเป๋าด้วยเสมอ เป็นเสมือนเครื่องการันตีว่ากระเป๋าใบนั้นๆ ได้ผ่านการตรวจสอบคุณภาพทุกขั้นตอนอย่างละเอียดเรียบร้อยแล้ว ลักษณะของการ์ดจะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดยาว สีขาว มีตัวอักษร “GUCCI” ตัวพิมพ์ใหญ่อยู่ตรงตำแหน่งกึ่งกลางของการ์ด บรรทัดถัดมา จะพิมพ์คำว่า “Controllato” และด้านล่างสุดจะเป็นตัวเลขทั้งหมด 10 ตัว (1234567890)
10. Dust Bag
กระเป๋า Gucci ทั้งหมดมาพร้อมกับถุงกันฝุ่น โดยที่ใช้ในปัจจุบันจะมี 3 แบบ
- ถุงผ้ากันฝุ่นสีน้ำตาล มีโลโก้ตัวอักษร GUCCI สีทอง พิมพ์อยู่ตรงกลางด้านหน้าของถุงผ้ากันฝุ่น
- ถุงผ้ากันฝุ่นสีดำ มีโลโก้ตัวอักษร GUCCI สีทอง พิมพ์อยู่ตรงกลางด้านหน้าของถุงผ้ากันฝุ่น
- ถุงผ้ากันฝุ่นสีขาว มีโลโก้ตัวอักษร GUCCI สีดำปักอยู่บนแท็กผ้าพื้นสีขาว ขอบสีดำ เย็บติดตรงกลางด้านหน้าของถุงผ้ากันฝุ่น
ถุงผ้ากันฝุ่นของ Gucci รุ่นที่เป็นวินเทจจะมีสีอ่อนคล้ายรังผึ้งหรือเป็นสีน้ำตาลเข้ม มีโลโก้ GUCCI พิมพ์ด้านหน้า
เป็นเรื่องที่น่าเศร้าของเหล่าคนรักกระเป๋า Gucci ที่สินค้าถูกละเมิดลิขสิทธิ์ แย่ไปกว่านั้นคือบางชิ้นเหมือนของแท้จนไม่สามารถแยกแยะออกได้ ซึ่งเป็นการยากสำหรับบางคนที่จะถอดรหัสความแตกต่างของกระเป๋าแต่ละใบ เนื่องจากเทคโนโลยีการผลิตกระเป๋าปลอมในปัจจุบันได้มีการพัฒนาอย่างมาก จนยากที่จะวิเคราะห์กระเป๋าสักใบ หากคุณมีความรู้และประสบการณ์ไม่เพียงพอ
เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า บทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับหลายๆ คนที่หลงไหลในแบรนด์ Gucci ซึ่งไม่เพียงแต่จะเพิ่มความมั่นใจของคุณผู้หญิงในการซื้อเท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณได้ใช้เงินทุกบาททุกสตางค์อย่างคุ้มค่าในการซื้อสินค้าของแท้อีกด้วย ก่อนที่คุณจะตัดสินใจเป็นเจ้าของกระเป๋า Gucci สักใบ
รัก
xoxo