To top
1 Nov

Rolls Royce Phantom ที่สุดของสถาปัตยกรรมแห่งความงาม

Rolls Royce Phantom (แฟนท่อม) เป็นยานยนต์สุดหรูยอดนิยม ที่ได้รับการยอมรับจากเหล่ามหาเศรษฐีทั้งสุภาพบุรษและสุภาพสตรีทั่วโลกมาโดยตลอด นับตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกเมื่อ ปี ค.ศ. 1925 ผลงานการสร้างสรรค์ของสถาปัตยกรรมแห่งความงาม และขุมพลังที่เป็นเลิศ โดยในปัจจุบัน ผลิตออกมาเป็นรุ่นที่ 8 แล้ว ซึ่งในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับสุดยอดผลงานชิ้นเอกจาก Rolls Royce ผลงานที่เป็นสัญลักษณ์อันแสดงออกถึงความมั่งคั่งและความสำเร็จที่หล่อหลอมรวมกันไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

Rolls Royce Phantom (แฟนท่อม)

The Architecture of Luxury

Rolls Royce (โรลส์-รอยซ์) ได้รับการขนานนามว่าเป็น สถาปัตยกรรมแห่งความหรูหรา หรือ The Architecture of Luxury ถูกยกย่องในเรื่องของการพัฒนาทางด้านยานยนต์ ทั้งเทคโนโลยีรวมถึงการผลิตอันยอดเยี่ยม อีกทั้งยังคงความเป็นเอกลักษณ์และกลิ่นอายของความเป็นเมืองผู้ดีอังกฤษ ซึ่งมีประวัติศาสตร์อันยาวนานมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1904 ร่วมก่อตั้งโดย Charles Rolls และ Henry Royce  (ชาร์ล โรลส์ และ เฟดริก เฮนรี่ รอยซ์)

Charles Rolls และ Henry Royce

Charles Rolls และ Henry Royce

ชาร์ล โรลส์ (Charles Rolls) รู้จักกับ เฮนรี่ รอยซ์ (Henry Royce) โดยการแนะนำจาก เฮนรี่ เอ็ดมันด์ (Henry Edmunds) ซึ่งเป็นผู้อำนวยการของบริษัท Royce Ltd. ในขณะนั้น โดย เฮนรี่ เอ็ดมันด์ ได้แสดงผลงานรถยนต์ของ Royce และจัดการประชุมขึ้น ที่โรงแรม The Midland Hotel ในเมือง Manchester เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ปี ค.ศ. 1904 ซึ่ง โรลส์ ประทับใจรถยนต์ของ Royce มาก

ไม่นานนัก เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ในปีนั้นเอง ณ เมือง Manchester ทั้งคู่ก็ได้ทำข้อตกลงทางธุรกิจร่วมกัน พร้อมกำเนิดประวัติศาสตร์หน้าสำคัญของวงการรถยนต์ จนกระทั่งใน ปี ค.ศ. 1906 บริษัท Rolls-Royce Limited ถือกำเนิดขึ้น อย่างเป็นทางการ และได้รวมกิจการเข้ากับ C. S. Rolls & Co. กิจการของ Rolls แต่เดิมเข้าไว้ด้วยกันเป็นบริษัทเดียว เมื่อปี ค.ศ. 1907

 

Rolls Royce Phantom

หลังจากการก่อตั้งบริษัท Rolls-Royce Limited ขึ้นอย่างเป็นทางการ ในปีถัดมา ก็ได้ถือกำเนิดรถยนต์ที่ถือได้ว่าเป็นรุ่นในตำนานอย่าง “Silver Ghost” (ซิลเวอร์ โกสต์) รถยนต์รุ่นนี้ทำให้ Rolls Royce ได้รับการยกย่องว่าเป็นรถที่ดีที่สุดในโลก หรือ “The Best Car in the World”

การพัฒนา ยังคงมีอย่างต่อเนื่องไม่หยุดยั้ง จนกระทั่งใน ปี ค.ศ. 1925 ได้ถือกำเนิดรถยนต์อีกรุ่น ที่ถือว่าเป็นรุ่นที่สำคัญอีกรุ่นหนึ่งของแบรนด์นั่นก็คือ “Phantom” (แฟนท่อม) ซึ่งถูกผลิตขึ้นมาทดแทนรถยนต์ รุ่น Silver Ghost ในขณะนั้น  ด้วยเครื่องยนต์ที่มีขนาดใหญ่มากขึ้น และเปลี่ยนเครื่องยนต์จากระบบวาร์ลด้านข้าง มาเป็นวาล์วแบบ Overhead (กลไกการทำงานชนิดหนึ่ง)

Phantom มีการผลิตตั้งแต่รุ่นแรกจนถึงรุ่นปัจจุบัน รวมทั้งหมด 8 รุ่นด้วยกัน การแบ่งรุ่นของแฟนท่อม จะแตกต่างจากการแบ่งรุ่นรถแบบรถญี่ปุ่น ซึ่งใช้การพัฒนาแบบ Generation แต่จะเป็นการใช้ชื่อรุ่นที่แทนด้วยตัวเลขโรมัน ต่อท้ายชื่อ เช่น แฟนท่อม I, II, III เป็นต้น โดยมีพัฒนาการมาจากโมเดลรุ่นก่อน ๆ ดังนี้

 

โรลส์-รอยซ์ แฟนท่อม I

เป็นรถรุ่นแรกที่มีการผลิตตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1925-1931 มีจำหน่ายในสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา มีตัวถังแบบซีดาน 4 ประตู ใช้เครื่องยนต์ 7668 CC 6 สูบ มีระบบเกียร์ 2 แบบให้เลือก คือ แบบธรรมดา 3 สปีด และแบบ 4 สปีด (สมัยนั้นยังไม่มีเกียร์อัตโนมัติ) มียอดการผลิตทั้งหมด 3,512 คัน โดยรถยนต์ที่จำหน่ายในสหราชอาณาจักร จะมีฐานการผลิตอยู่ที่เมือง Derby และรถยนต์ที่จำหน่ายในสหรัฐอเมริกา จะผลิตที่โรงงานในเมืองสปริงฟีลด์ รัฐแมสซาชูเซตส์

โรลส์-รอยซ์ แฟนท่อม I

โรลส์-รอยซ์ แฟนท่อม I

โรลส์-รอยซ์ แฟนท่อม II 

เป็นรถยนต์รุ่นที่ 2 ผลิตระหว่าง ปี ค.ศ. 1929-1936 โดยใช้เครื่องยนต์แบบเดียวกันกับรุ่นแรก แต่มีการยกเลิกเกียร์ธรรมดาแบบ 3 สปีด คงเหลือไว้แต่เกียร์ธรรมดาแบบ 4 สปีด รุ่นนี้มียอดการผลิตรวมทั้งสิ้น 1,680 คัน อีกทั้งยังถูกนำไปเป็นส่วนหนึ่งเพื่อประกอบภาพยนต์เรื่อง Indiana Jones and the Last Crusade หรือชื่อไทย คือ ขุมทรัพย์สุดขอบฟ้า 3 ตอนศึกอภินิหารครูเสด

โรลส์-รอยซ์ แฟนท่อม II

โรลส์-รอยซ์ แฟนท่อม II

 

โรลส์-รอยซ์ แฟนท่อม II ในภาพยนต์เรื่อง Indiana Jones and The Last Crusade

โรลส์-รอยซ์ แฟนท่อม II ในภาพยนต์เรื่อง Indiana Jones and The Last Crusade

โรลส์-รอยซ์ แฟนท่อม III

 รถยนต์รุ่นที่ 3 ถูกผลิตขึ้นระหว่าง ปี ค.ศ. 1936-1939 ใช้เครื่องยนต์แบบ 7338 CC 12 สูบระบบเกียร์ธรรมดา 4 สปีด มียอดการผลิตรวมทั้งสิ้น 727 คัน ใน ปี ค.ศ. 1939 ได้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ทาง โรยส์ รอยซ์ ก็ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจโดยตรงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงทำให้ต้องหยุดชะงักการผลิตรถยนต์ทุกประเภทไว้ชั่วคราว

จนกระทั่งใน ปี ค.ศ. 1946 ภายหลังสงครามสิ้นสุด 1 ปี จึงได้เริ่มการผลิตขึ้นอีกครั้ง โดยรถรุ่นแรกที่ได้รับการผลิตหลังจากนั้นมีชื่อเรียกว่า โรลส์-รอยซ์ ซิลเวอร์ เวรธ (Rolls-Royce Silver Wraith) ซึ่งผลิตออกมาแทนที่แฟนท่อมอยู่ระยะหนึ่ง จนถึง ปี ค.ศ. 1950 แฟนท่อมรุ่นที่ 4 จึงถือกำเนิดขึ้น

โรลส์-รอยซ์ แฟนท่อม III

โรลส์-รอยซ์ แฟนท่อม III

 

โรลส์-รอยซ์ แฟนท่อม IV

 แฟนท่อมรุ่นที่ 4 นี้ ถูกผลิตขึ้นในช่วงระหว่าง ปี ค.ศ. 1950-1956 โดยในระยะเวลาทั้งหมด 6 ปี มีการผลิตรถยนต์ออกมาทั้งสิ้น 18 คัน (ปัจจุบันใช้การไม่ได้ 2 คัน เหลือเพียง 16 คัน) โดยบุคคลผู้เป็นเจ้าของรถรุ่นนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นบุคคลที่มีความสำคัญระดับประเทศ เช่น เชื้อพระวงศ์ นายทหารชั้นผู้ใหญ่ หรือประมุขของรัฐ 

แฟนท่อมรุ่นนี้ ยกเลิกการผลิตเกียร์ธรรมดาลงทั้งหมด โดยหันมาผลิตเป็นเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีดแทน ตัวเครื่องยนต์ใช้เครื่องยนต์แบบ 8 สูบ ขนาด 5700 CC ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่องานพิธีการโดยเฉพาะ สามารถวิ่งรถได้ตั้งแต่ความเร็วต่ำมากเป็นระยะไกล ๆ แต่มีอัตราเร่งและอัตราความเร็วสูงสุด ซึ่งใกล้เคียงกับรถสปอร์ตในยุคเดียวกัน

บุคคลสำคัญ ที่ได้เป็นเจ้าของแฟนท่อมรุ่นที่ 4 นี้ ยกตัวอย่างได้แก่  พระเจ้าชาห์ โมฮัมหมัด เรซา ปาห์ลาวี ประมุขแห่งอิหร่าน, สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักรเจ้าฟ้าหญิงมาร์กาเร็ต เคานท์เตสแห่งสโนว์ดอนจอมพลฟรันซิสโก ฟรังโกแห่งสเปน เป็นต้น อีกทั้งยังมีการนำรถรุ่นนี้ไปใช้เป็นรถสำหรับงานที่เป็นทางการ  (official state car) อีกด้วย

โรลส์-รอยซ์ แฟนท่อม IV

โรลส์-รอยซ์ แฟนท่อม IV

 

โรลส์-รอยซ์ แฟนท่อม V

รถยนต์แฟนท่อมรุ่นที่ 5 นี้ ถูกผลิตขึ้นระหว่าง ปี ค.ศ. 1956-1968 ใช้เครื่องยนต์แบบ 8 สูบ ขนาด 6230 CC ผลิตออกมาทั้งหมด 516 คัน โดยรุ่นนี้ได้ขยายกลุ่มลูกค้า มาถึงกลุ่มมหาเศรษฐีสามัญชนทั่วไป ตัวอย่างบุคคลผู้มีชื่อเสียงในวงการที่เป็นเจ้าของรถรุ่นนี้ คือ จอห์น เลนนอน (John Lennon) นักร้องนำแห่งวง The Beatles แต่ส่วนใหญ่ยังเน้นกลุ่มลูกค้าที่เป็นราชวงศ์อยู่ เช่น สมเด็จพระราชาโอลาฟที่ 5 แห่งนอร์เวย์, เอลิซาเบธ โบวส์-ลีออน

โรลส์-รอยซ์ แฟนท่อม V

โรลส์-รอยซ์ แฟนท่อม V

 

โรลส์-รอยซ์ แฟนท่อม V ของ จอห์น เลนนอน

โรลส์-รอยซ์ แฟนท่อม V ของ จอห์น เลนนอน

 

โรลส์-รอยซ์ แฟนท่อม VI

รถยนต์แฟนท่อมรุ่นที่ 6 มีการผลิตอยู่ในช่วง ปี ค.ศ. 1968-1991 มียอดการผลิตรวมทั้งสิ้น 374 คัน โดยเริ่มแรก ใช้เครื่องยนต์แบบ 8 สูบขนาด 6230 CC ต่อมาได้เปลี่ยนเป็นขนาด 6750 CC ในปี ค.ศ. 1982 แต่เดิม ใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1979 จึงมีการผลิตเกียร์อัตโนมัติ 3 สปีดออกจำหน่ายควบคู่กับเกียร์แบบ 4 สปีด การออกแบบมีความหรูหรามากขึ้นกว่าเดิม ทั้งนี้เพื่อยกระดับความหรูหราให้สูงขึ้นกว่ารุ่นก่อน ๆ ที่เคยมีการผลิตมา

Rolls Royce Phantom VI

สำหรับในประเทศไทย รถยนต์แฟนท่อมรุ่นที่ 6 นี้ ถูกนำมาใช้ในส่วนของรถยนต์พระที่นั่งของราชวงศ์ โดยจำแนกออกเป็นสังกัดดังนี้

สังกัดกองพระราชพาหนะในพระองค์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน

  • โรลส์รอยซ์ แฟนทอม VI หมายเลขทะเบียน ร.ย.ล.901 : เป็นรถยนต์พระที่นั่ง ที่ใช้ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
  • โรลส์รอยซ์ แฟนทอม VI หมายเลขทะเบียน ร.ย.ล.902 : เป็นรถยนต์พระที่นั่ง ที่ใช้ในราชการประจำของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ

สังกัดกองพระราชพาหนะในพระองค์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร วังสุโขทัย

  • โรลส์รอยซ์ แฟนทอม VI หมายเลขทะเบียน ร.ย.ล.904 : เป็นรถยนต์พระที่นั่ง ที่ใช้ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร

รถยนต์พระที่นั่งอย่างเป็นทางการของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9

  • โรลส์รอยซ์ แฟนทอม VI หมายเลขทะเบียน ร.ย.ล. 972 : ซึ่งมักจะพบเห็นในงานราชพิธีสำคัญต่าง ๆ เป็นราชพาหนะที่ในหลวงทรงงานมากที่สุดถึง 30 ปี
โรลส์รอยซ์ แฟนทอม VI หมายเลขทะเบียน ร.ย.ล. 972 - Rolls Royce Phantom VI - ในหลวง

โรลส์รอยซ์ แฟนทอม VI หมายเลขทะเบียน ร.ย.ล. 972

ในปี ค.ศ. 1980 บริษัท Rolls-Royce Limited ได้ถูกซื้อกิจการต่อโดย Vicker ผู้บริหาร บริษัท Volkswagen โดยได้จดทะเบียนและตั้งบริษัทใหม่ ภายใต้ชื่อ ROLLS-ROYCE MOTORS

 

โรลส์-รอยซ์ แฟนท่อม VII

ในช่วง ปี ค.ศ. 1991-2003 เป็นช่วงเวลาที่ไม่มีการผลิตรถยนต์รุ่นแฟนท่อม เนื่องจากอยู่ในระหว่างการเปลี่ยนมือธุรกิจ จากธุรกิจอิสระภายใต้ชื่อ Rolls-Royce Limited  มาเป็น ROLLS-ROYCE MOTORS  และเปลี่ยนมืออีกครั้ง ภายใต้การบริหารของกลุ่ม BMW GROUP เมื่อปี ค.ศ. 2003 ในชื่อ ROLLS-ROYCE MOTOR CARS LIMITED นับตั้งแต่นั้นจึงเริ่มการผลิตรถยนต์แฟนท่อมรุ่นที่ 7

สำหรับรถยนต์รุ่นที่ 7 นี้ มีการผลิตระหว่างช่วงปี ค.ศ. 2003-2016 จะไม่มีการนำเลขโรมันต่อท้ายเหมือนรุ่นก่อน ๆ  ใช้เครื่องยนต์ขนาด 6750 ซีซี ระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด มียอดขายรวมทั้งหมดถึงปี ค.ศ. 2016 อยู่ที่ 10,327 คัน

โรลส์-รอยซ์ แฟนท่อม VII

โรลส์-รอยซ์ แฟนท่อม VII

ในประเทศไทย รุ่นที่ได้รับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรก คือ รุ่น Series II เปิดตัวเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน ค.ศ. 2012 และเปิดวางจำหน่าย 2 รุ่นคือ

  • Rolls-Royce Phantom Series II (แฟนธอม ซีรี่ส์ 2) ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 39,500,000 บาท ใช้เครื่องยนต์ขนาด 6,749 ซีซี 460 แรงม้า 12 สูบ ระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด
Rolls-Royce Phantom Series II

Rolls-Royce Phantom Series II

  • Rolls-Royce Phantom Series II Extended Wheelbase (แฟนธอม เอ็กซ์เทนเดด วีลล์เบส) หรือรุ่นฐานล้อยาว ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 42,500,000 บาท
Rolls-Royce Phantom Series II Extended Wheelbase

Rolls-Royce Phantom Series II Extended Wheelbase

ในประเทศสหรัฐอเมริกา รถยนต์รุ่นแฟนท่อม 7 นี้ ถูกจำหน่ายในราคา $300,000 หรือประมาณ 10 ล้านบาท โดยหากนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย ราคาเมื่อรวมภาษีแล้วจะตกอยู่ประมาณ 20-30 ล้านบาท โดยในประเทศไทยรถยนต์รุ่นนี้ถูกนำมาใช้เป็นรถยนต์พระที่นั่งส่วนพระองค์ด้วยเช่นกัน โดยถูกนำมาใช้เป็นรถยนต์ในสังกัดกองพระราชพาหนะในพระองค์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร วังสุโขทัย หมายเลขทะเบียน 1ด-9004 เป็นรถยนต์พระที่นั่งในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร

 

โรลส์-รอยซ์ แฟนท่อม VIII

รถยนต์แฟนท่อมรุ่นที่ 8 เป็นรุ่นล่าสุดที่ยังมีการผลิตอยู่ โดยเริ่มตั้งแต่ ปี ค.ศ. 2018 จนถึงปัจจุบัน ใช้เครื่องยนต์ขนาด 6750 CC V12 ซึ่งได้รับการพัฒนาประสิทธิภาพใหม่อย่างสมบูรณ์แบบ กำลังขับเคลื่อนสูงสุด 569 แรงม้า ทำให้สามารถวิ่งได้เงียบ แม้ในระดับความเร็วต่ำ ระบบกระปุกเกียร์ 8 สปีดรุ่น ZF8 ทำให้ Rolls Royce Phantom เจนใหม่ คือ สุดยอดยานยนต์อัจฉริยะที่เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงที่ดีที่สุดเท่าที่เคยสร้างมาเพื่อเอกสิทธิ์แห่งความหรูหรา

โรลส์-รอยซ์ แฟนท่อม VIII - Rolls-Royce Phantom VIII

โรลส์-รอยซ์ แฟนท่อม VIII

โครงสร้าง Spaceframe อลูมิเนียมแบบใหม่ล่าสุด ทำให้ตัวถังรถมีความแข็งแกร่งขั้นสูงสุด เพื่อสมรรถนะการขับขี่ที่ดีที่สุดในรถยนต์ระดับเดียวกัน แต่มีน้ำหนักที่เบากว่ารุ่นก่อน ๆ ถึง 30% รวมถึงมีการติดตั้งกล้องสเตอริโอไว้กับกระจกหน้ารถ เพื่อการมองเห็นถนนข้างหน้าในระยะไกลขึ้น พร้อมติดตั้งไฟวงแหวนสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน และระบบไฟเลเซอร์ที่ทันสมัย ซึ่งสามารถส่องสว่างบนท้องถนนในเวลากลางคืนได้ไกลถึง 600 เมตร

โรลส์-รอยซ์ แฟนท่อม VIII - Rolls-Royce Phantom VIII

แถมยังสร้างสรรค์ให้เป็น “รถยนต์ที่เงียบที่สุดในโลก” ซึ่งรวมถึงการปิดกระจกขนาด 6 มม. สองชั้นทั่วทั้งตัวรถ การใช้ฉนวนกันเสียงที่มีน้ำหนักมากกว่า 130 กก. การใช้ข้อต่ออลูมิเนียมหล่อที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในการประกอบโครงรถที่แนบสนิทเพื่อการป้องกันเสียงที่ดียิ่งขึ้น และการใช้วัสดุดูดซับเสียงประสิทธิภาพสูงเสริมประสิทธิภาพโดยการใช้วัสดุอัลลอยแบบผิวสองชั้นกับบริเวณพื้นและผนังของโครงแบบ Spaceframe ยังป้องกันเสียงรบกวนด้วยการใช้โฟมอัดแน่นและผ้าสักหลาดหลายชั้นระหว่างชั้นอัลลอย

ในประเทศไทย บริษัท Rolls-Royce Motor Car Bangkok เป็นบริษัทผู้แทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียว สำหรับรถยนต์รุ่นล่าสุด New Phantom นี้ ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน Bangkok International Motorshow 2018 เมื่อวันที่ 12 มีนาคม โดยมีเพียง 3 คันในประเทศไทยเท่านั้น เปิดวางจำหน่ายเพียง 2 รุ่นคือ รุ่นฐานล้อมาตรฐาน (Standard Wheelbase) ราคา 53,500,000 บาท และ รุ่นฐานล้อยาว (Extended Wheelbase) ราคา 59,500,000 บาท

โรลส์-รอยซ์ แฟนท่อม VIII - Rolls-Royce Phantom VIII

รถยนต์ของ Rolls Royce  ทำการประกอบด้วยมือทุกขั้นตอน จากโรงงาน Rolls-Royce Goodwood Plant ที่เมืองชิชิสเตอร์ (Chichester) ประเทศอังกฤษ ดังนั้น รถทุกคัน จึงเปรียบเสมือนผลงานศิลปะที่ถูกรังสรรค์ออกมาอย่างตั้งใจ และมีความปราณีตเป็นอย่างมาก จากปรัชญาของผู้ก่อตั้งที่กล่าวไว้ว่า “Take the best that exists and make it better” จนอาจกล่าวได้ว่า ไม่มีรถยนต์ Rolls Royce คันไหนในโลกที่เหมือนกัน 100% ทุกวัสดุที่ถูกคัดสรรมาอย่างใส่ใจ ทุกรายละเอียด ทุกขั้นตอนการผลิต

โรลส์ รอยซ์ แฟนท่อม ได้ทำหน้าที่รับใช้สุภาพบุรุษและสุภาพสตรี ผู้ทรงอำนาจสูงสุดระดับโลกหลายคนในโอกาสสำคัญมากมาย มาตลอดระยะเวลา 95 ปี ที่ผ่านมา การออกแบบที่ยอดเยี่ยม นวัตกรรมยานยนต์ที่ล้ำสมัย ผนวกกับงานศิลปะขั้นสูงที่ได้ถูกถ่ายทอดและผสมผสานกันอย่างลงตัว จึงไม่แปลกใจเลย หากรถยนต์รุ่นนี้จะได้ชื่อว่า เป็นรถยนต์ที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งได้รับการยกย่องในหมู่ผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์

โรลส์-รอยซ์ แฟนท่อม VIII - Rolls-Royce Phantom VIII

ปัจจุบัน โรลส์ รอยซ์ แฟนท่อม ได้กลายเป็นสถาปัตยกรรมแห่งความหรูหรา เปรียบเสมือนสัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่งและความสำเร็จแห่งชีวิตที่ยิ่งใหญ่ สุดยอดยานยนต์ อันเป็นสัญลักษณ์แห่งมาตรฐานขั้นสูง เป็นผลงานศิลป์ชิ้นเอก ที่หล่อหลอม รวมความปรารถนาส่วนตัวของผู้ที่ชื่นชอบและหลงไหลใน โรลส์ รอยซ์ ไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ นี่คือสุดยอดยานยนต์อัจฉริยะอันเพียบพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงที่ดีที่สุดเท่าที่เคยสร้างมา เพื่อเอกสิทธิ์ความหรูหราอันเป็นหนึ่งเดียว

 

KATE