To top
17 Aug

Rolls Royce Cullinan SUV อัครความหรูหราแห่งยานยนต์อเนกประสงค์

Rolls Royce Cullinan SUV เสรีภาพและอิสระแห่งการออกแบบ อัครยานยนต์อเนกประสงค์ SUV สุดหรูรุ่นแรกจากแบรนด์รถยนต์ขวัญใจมหาเศรษฐีจากเมืองผู้ดีอย่าง Rolls Royce พิชิตเส้นทางสมบุกสมบัน แบ่งปันการผจญภัยอันน่าจดจำ สู่ประสบการณ์ค้นพบโลกกว้าง พร้อมกับความหรูหราที่คุณสัมผัสได้และสร้างความเพลิดเพลินตลอดการเดินทาง

Cullinan คือ SUV ที่เหมาะสำหรับทุกสภาพภูมิประเทศ มอบความมั่นใจให้ผู้ขับขี่ด้วยระบบความปลอดภัยสูงสุด พร้อมความสามารถอันไร้ขีดจำกัด ความสะดวกสบายและความกว้างขวางของห้องโดยสาร ที่จะมอบประสบการณ์อันไม่รู้ลืมให้แก่ผู้ขับขี่รวมถึงผู้ร่วมทาง KATEXOXO ขอเชิญทุกคน ร่วมทำความรู้จัก อัครยานยนต์อเนกประสงค์สุดหรู รถครอสโอเวอร์ที่หรูหราที่สุดของโลกในขณะนี้ ไปพร้อมกัน

 

Rolls Royce Cullinan SUV

Cullinan (คัลลิแนน) คือ รถยนต์อเนกประสงค์ Ultimate Luxury SUV ของค่ายรถยนต์เมืองผู้ดี Rolls Royce โดยชื่อ Cullinan มาจากเพชรเม็ดใหญ่ที่สุดที่เคยมีการค้นพบมา ซึ่งต่อมาเพชรเม็ดนั้น ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่ง ที่ประดับอยู่บนมงกุฎ British Crown Jewel  เปิดตัวความหรูหรา เหนือธรรมดาครั้งแรก เมื่อปี 2018 นับว่าเป็น SUV รุ่นแรกในประวัติศาสตร์ของค่ายรถยนต์หรูนี้ และเป็นรุ่นที่สองที่ได้ใช้แพลตฟอร์อะลูมิเนียมน้ำหนักเบา “Architecture of Luxury” ต่อจาก Rolls-Royce Phantom VIII 

การตกแต่งดีไซน์ภายนอก ยังคงความเป็น Rolls Royce ยุคใหม่ ที่ยังเลือกใช้ตัวถังตั้งสูง แนวหลังคาไม่ลาดชัน เน้นความสง่างามเป็นหลัก มาพร้อมกับขุมพลังปรับปรุงใหม่ เครื่องยนต์ทวินเทอร์โบ V12 ขนาด 6.75 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุด 571 แรงม้า และแรงบิดมหาศาลที่ 627 นิวตัน-ฟุต (850 นิวตันเมตร ณ รอบต่ำสุด) 1,600 รอบ/นาที ระบบกันสะเทือนเป็นแบบสปริงลมปรับระดับได้ สามารถวิ่งผ่านทุกอุปสรรค์ได้นุ่มนวลราวกับพรมวิเศษและให้การทรงตัวดียามใช้ความเร็วสูง

ระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด จาก ZF และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ย 7.99 กิโลเมตร/ลิตร พร้อมระบบช่วงล่างหน้าดับเบิลวิชโบนและหลังแบบ 5 ลิงก์แบบใหม่ทำให้สามารถควบคุมแรงเฉี่อยในการเข้าโค้งได้อย่างนุ่มนวล ทำให้มีความคล่องตัวสูงและเกาะถนนอย่างดีเยี่ยม 

ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อมาพร้อมกับปุ่มที่เรียกว่า “Everywhere Button” ที่จะแปลงร่าง SUV สุดหรูคันงามนี้ พร้อมลุยไปทุกแห่งหนด้วยการส่งแรงบิดทั้งหมดแบบไม่มีการผ่อนแรง พร้อมทั้งความสามารถในการลุยน้ำลึกสุดอยู่ที่ 540 มิลลิเมตร อัดแน่นด้วยระบบรักษาความปลอดภัยที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นกล้องเรดาร์ สัญญาณเซนเซอร์รอบคัน แสดงภาพรอบทิศทางแบบ Panoramic รอบตัวรถ (Bird eye view) ระบบเบรคอัตโนมัติ ระบบควบคุมความเร็วอัจฉริยะ และระบบ Night Vision เรียกได้ว่าจบ ครบ สมบูรณ์แบบ

เครื่องยนต์ทวินเทอร์โบ V12

เครื่องยนต์ทวินเทอร์โบ V12

พื้นที่ห้องโดยสารขนาด 560 ลิตร ซึ่งผสมผสานความหรูหรา ถึงพร้อมด้วยประโยชน์ใช้สอยไว้อย่างลงตัว แผงหน้าปัดหุ้มด้วยหนังแท้สีดำชนิด Black Grain ที่พัฒนามาใหม่ล่าสุด ทนทาน มีตะเข็บกันน้ำคล้ายกันกับหนังที่ใช้ในประเป๋าเดินทางและกระเป๋าถือชั้นนำของอิตาลี เบาะหลังสามารถพับทำได้ตั้งแต่ 2/3 ถึง 1/3 ซึ่งทำได้อย่างง่ายดายโดยการกดปุ่มที่อยู่บริเวณพื้นที่เก็บของด้านหลังหรือช่องในประตูหลัง ด้วยการกดปุ่มเพียงครั้งเดียว

ในส่วนของประตูหลังรถ หรือส่วนหางของตัวรถ มีชื่อเรียกว่า “The Clasp” (ตะขอ) ถูกออกแบบขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับยุคสมัยที่สัมภาระถูกเก็บไว้ภายนอกตัวรถยนต์ เพื่อมิให้เกะกะภายในห้องผู้โดยสารระหว่างการเดินทาง โดยจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน รูปแบบ D-Back เพื่อจัดเก็บสัมภาระปริมาณมาก ๆ ขนที่นั่งปิคนิคและของอื่น ๆ ได้ถึงสองที่ The Clasp ทั้ง 2 ส่วนสามารถเปิดและปิดอัตโนมัติเพียงแค่สัมผัสปุ่มที่รีโมทกุญแจ 

The Clasp

The Clasp

แผงหน้าปัดแสดงผลแบบ virtual digital คอนโซลกลางของแดชบอร์ด หรือที่พักแขนติดประตู ทุกองค์ประกอบของการออกแบบภายในล้วนผสมผสานกันอย่างลงตัวด้วยเส้นสายแนวระนาบและแนวดิ่ง มีการห่อหุ้มด้วยหนัง ไม้ และโลหะที่ดีที่สุดคอนโซลกลางล้อมด้วยกรอบเสาโลหะขัดด้วยมือซึ่งเชื่อมต่อแผงหน้าปัดเข้ากับคอนโซลกลาง เบาะที่นั่งรุ่นใหม่มาพร้อมกับพนักพิงที่ทำมาจากหนังแท้คุณภาพสูงชิ้นเดียวและนำมาขึ้นรูปให้มีพื้นผิวที่เป็นลวดลายสามมิติ พิเศษด้วยที่นั่งมีอยู่สองรูปแบบ คือที่นั่งแบบเลาจน์และที่นั่งส่วนตัว

  • Lounge seat (ที่นั่งแบบเลาจน์) : จะมีลักษณะเป็นเบาะยาว พับด้วยไฟฟ้าได้แบบ 60:40 ความยาวสูงสุด 2,254 มิลลิเมตร ส่วนความจุเพิ่มจากพื้นที่เก็บของท้ายรถที่ 560 ลิตร เป็น 600 ลิตร เมื่อเอาที่กั้นออก และเพิ่มเป็น 1,930 ลิตร เมื่อพับเบาะลงทั้งหมด

  • Individual seat (ที่นั่งส่วนตัว) : มีลักษณะเป็นเบาะแบบแยก กั้นกลางด้วยคอลโซล แบ่งตอนได้เป็นที่วางแก้วหรือตู้เย็น ส่วนตัวเบาะสามารถปรับด้วยไฟฟ้า รองรับการใช้งานเพื่อความสะดวกสบายในทุกอิริยาบทแห่งการเคลื่อนไหว

การออกแบบที่ยังคงเอกลักษณ์ความหรูหราให้กับห้องโดยสาร คือการแยกห้องโดยสารออกจากห้องสัมภาระ ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยให้ห้องโดยสารปราศจากเสียงรบกวนจากภายนอกแล้ว ยังช่วยคงอุณหภูมิในห้องโดยสาร ให้เหมาะสมในขณะที่ห้องเก็บสัมภาระถูกเปิดออกอีกด้วย พร้อมระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้าความละเอียดสูงขนาด 7x3 ระบบอินเตอร์เน็ตไร้สาย WiFi Hotspot และแน่นอนว่ามีระบบนำทางและระบบเครื่องเสียงและเอนเตอร์เทนเมนต์รุ่นล่าสุด

พวงมาลัยมีน้ำหนักเบากว่ารถในรุ่นอื่นจากค่ายเดียวกัน มีหน้าจออินโฟเทนเมนท์แสดงผลอยู่ตรงกลาง พร้อมด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ใหม่ล่าสุดและระบบรักษาความปลอดภัยต่างๆทั้งระบบ Night Vision Vision Assist ทั้งเวลากลางวันและกลางคืน และ การแจ้งเตือนคนเดินถนนข้างทางพร้อมกล้องสี่ตัว ไม่ว่าจะเป็นกล้องในมุมกว้าง กล้องมองรอบคัน และกล้องมุมสูง ทุกส่วนภายในห้องโดยสารยังปรับอุณหภูมิได้ ทั้งที่วางแขนแผงประตู, ฝาครอบคอลโซลหน้า, เสาหลังคา C-Pillar และที่วางแขนด้านหลัง

กระจังหน้ารถ เป็นแบบ pantheon grille (แพนธิออน) ทำจากสแตนเลสขัดเงาด้วยมือ โดดเด่นเป็นสง่าด้วย Spirit of Ecstasy เทพีสัญลักษณ์ประจำแบรนด์ ไฟ DRL ไฟสำหรับขับขี่ตอนกลางวัน ถูกออกแบบออกมาให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมือนกับคิ้ว ด้านข้างตกแต่งด้วยเส้นโลหะแบบ Saxon spear บริเวณชายล่างประตู สร้างความรู้สึกอันทรงพลังด้วยเส้นสายแนวตั้งและแนวระนาบ

ประตูรถเป็นแบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ ทั้งจากด้านนอกและด้านใน ปฏิบัติการด้วยระบบสัมผัส พร้อมลดความสูงลง 40 มิลลิเมตรเมื่อมีการเปิดประตู เพื่อให้ผู้โดยสาร ก้าวลงจากรถอย่างสง่าผ่าเผย  และยกสู่ระดับเดิม เมื่อมีการสตาร์ทเครื่องยนต์อีกครั้ง ชายล่างของขอบตัวถัง ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้โคลนหรือสิ่งสกปรกสาดกระเด็นมาถึงบริเวณธรณีประตู เพื่อป้องกันการเปรอะเปื้อนของผู้ขับขี่และผู้โดยสารในกรณีที่สวมใส่กางเกงหรือกระโปรงยาว

แน่นอนว่า ความเป็นเอกลักษณ์และความหรูหราที่อยู่เคียงข้างเหล่าบรรดาเศรษฐีทั่วโลก รายละเอียดภายในห้องโดยสารนั้น สามารถทำการปรับเปลี่ยนได้ หากเงินในกระเป๋าของคุณมีมากพอ โดยทาง Rolls Royce เปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถสั่งออกแบบภายในได้ แบบ Bespoke เพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคล และจุดประสงค์การใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งแน่นอนว่า ค่าใช้จ่ายเหล่านี้ เป็นจำนวนเงินที่สูงมากมิใช่น้อย สำหรับราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการเริ่มต้นที่ 32,900,000 บาท

 

KATE