กระเป๋าน่าลงทุน – Louis Vuitton Speedy Bag  เวลานี้คงไม่มีใครที่จะไม่รู้จักกระเป๋าทรงหมอนยอดนิยม และโดดเด่นที่สุดของแบรนด์ Louis Vuitton อย่าง Speedy แน่นอน กระเป๋าที่ขึ้นแท่นเป็น Iconic Bag มาทุกยุคทุกสมัย โดยไม่ต้องสาธยายให้มากความ กับดีไซน์ที่เรียบหรู ด้ามจับคู่โค้งมนรับกับตัวกระเป๋าอย่างลงตัว ซึ่งสามารถเป็นที่จดจำได้ทันที แม้คุณจะเป็นมือใหม่ในวงการแบรนด์เนมก็ตาม แต่คุณรู้หรือไม่ว่า? กระเป๋าใบนี้สามารถสร้างรายได้ และถือว่าเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่าได้ ซึ่งในบทความนี้ เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับกระเป๋ารุ่นนี้ให้มากขึ้น

The History

หัวใจสำคัญของแบรนด์ Louis Vuitton ในยุคเริ่มแรกก็คือการผลิตกระเป๋าเพื่อตอบสนอง และเป็น “เพื่อนเดินทาง” ให้กับผู้คนในสมัยนั้น ด้วยหลักการนี้ จึงก่อกำเนิดกระเป๋าหลากหลายรุ่นเพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าที่เกี่ยวเนื่องกับการเดินทาง โดย Speedy Bag เป็นหนึ่งในนั้น จุดกำเนิดของกระเป๋ารุ่นนี้

ย้อนกลับไปเมื่อปี ค.ศ. 1924 เมื่อกระเป๋ารุ่น “Keepall” โดยมีสมญานามว่า “The Tient-Tout (ใส่ทุกอย่างลงไปในนั้น)” ได้ถือกำเนิดขึ้น เพื่อรองรับวิวัฒนาการ การท่องเที่ยวที่มีการเปลี่ยนแปลงไป จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1930 มีการเปิดตัว Keepall ในขนาดที่เล็กลงมา เพื่อเป็นตัวเลือกสำหรับลูกค้า

นั่นเป็นการเพิ่มความสะดวกสบายในการพกพาระหว่างการเดินทาง โดยออกจำหน่ายในชื่อ “Express” ถูกวางจำหน่ายครั้งแรกด้วยขนาดกระเป๋า 30 เซนติเมตร (ตัวเลขที่ปรากฏด้านหลังชื่อรุ่นมีความหมายถึงขนาดความกว้างทางแผงด้านหน้าของกระเป๋า โดยมีหน่วยเป็นเซนติเมตร) ในขณะนั้นกระเป๋าถูกนำจำหน่ายในรูปแบบของผ้าใบเรียบ ไม่มีลวดลาย และมีเพียง 3 ขนาด คือ ขนาด 30, 35 และ 40 ในปีต่อมา จึงมีการนำเสนอ Speedy ภายใต้ ผืนผ้าใบ Monogram Canvas

จนมาถึงปี ค.ศ. 1959 ได้ถือกำเนิด “Speedy 25” หรือ ขนาด 25 cm. ขึ้นมา จากการรีเควสพิเศษของ ออดรีย์ เฮปเบิร์น (Audrey Hepburn) ดารานักแสดงชื่อดัง โดยชื่อของ Speedy มีที่มาจากการเปรียบเทียบให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงอันรวดเร็วของการเดินทางในยุคนั้น นั่นถือเป็นจุดกำเนิดของ Iconic Bag ในตำนานรุ่นนี้ 

ในปี ค.ศ. 2011 ได้ถือกำเนิด Louis Vuitton Speedy Bandouliere โดยคำว่า “Bandouliere” มีความหมายว่า สายสะพาย ดัดแปลงมาจากกระเป๋ารุ่น Speedy ดั้งเดิม โดยเพิ่มเติมสายสะพายหนังเข้ามา พร้อมทั้งอะไหล่ซิปคู่ เพิ่มความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น Speedy ทั้ง 2 แบบ มีขนาดมาตรฐานทั้งหมด 4 ขนาด (ไม่นับขนาด Nano และรุ่น Limited Edition) โดยมีชื่อเรียกเป็นตัวเลข ซึ่งแสดงถึงขนาดของกระเป๋าได้แก่ ขนาด 25, 30, 35 และ 40 โดยขนาดที่ได้รับความนิยม รวมถึงผู้คนให้ความสนใจในการลงทุนมากที่สุด คือ Speedy 30 หรือกระเป๋าขนาด 30 เซนติเมตรนั่นเอง

 

Is the Louis Vuitton “Speedy 30” a good investment?

ความนิยมใน Speedy ขนาด 30 เนื่องจากเป็นกระเป๋าที่มีขนาดกะทัดรัด ไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป เหมาะสำหรับใช้ในชีวิตประจำวันกุญแจสำคัญในการลงทุนกับกระเป๋าสักใบอยู่ที่ “อายุเฉลี่ยการใช้งาน” รวมถึงราคาที่เหมาะสม จากการศึกษา Timeline การเติบโตของตลาดซื้อขายกระเป๋ารุ่น Speedy โดยเริ่มจากราคาของกระเป๋ารุ่น “Vintage” ในช่วงปี ค.ศ. 2004 กระเป๋า Louis Vuitton Speedy ขนาด 30 ในวัสดุผ้าใบ Monogram ราคาขายในขณะนั้นอยู่ที่ $550 และราคาขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี ด้านล่างนี้คือตารางแสดงราคาของ Speedy 30 ในช่วงปี 2004-2018

ซึ่งในปี 2004 ราคากระเป๋าคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ 17,100 บาท ปี 2009 ราคาอยู่ที่ 22,400 บาท (เพิ่มขึ้น 31%) ปี 2015 ราคาอยู่ที่ 24,000 บาท (เพิ่มขึ้น 7.14%) ปี 2016 ราคาอยู่ที่ 25,300 บาท (เพิ่มขึ้น 5.4%) ปี 2017 ราคาอยู่ที่ 26,700 บาท (เพิ่มขึ้น 5.5%) ในปี 2018 ราคาอยู่ที่ 28,000 บาท (เพิ่มขึ้น 4.8%)

จะสังเกตได้ว่าตั้งแต่ปี 2004-2018 ราคาของ Speedy Bag เพิ่มสูงถึง 63% เลยทีเดียว ในปี 2019 ราคาของกระเป๋าอยู่ที่ 34,600 บาท และล่าสุดในปี 2020 อยู่ที่ราคา 36,500 บาท ภายใน 1 ปี ราคาปรับขึ้น 5.49% ถือได้ว่าเป็นกระเป๋าที่คุ้มค่าแก่การลงทุนอย่างยิ่ง ตัวอย่างราคาข้างต้น เป็นราคาของกระเป๋า Speedy 30 วัสดุ Monogram Canvas โดยกระเป๋าที่ผลิตจากวัสดุอื่นๆ และ รุ่น Limited Edition ราคาอาจแตกต่างกันไป 

 

A Good Investment Handbag

มูลค่าการซื้อขายของกระเป๋า Speedy ในตลาดมือสอง ก็แสดงตัวเลขผลตอบแทนอันน่าทึ่งเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น หากคุณได้ทำการซื้อกระเป๋า Speedy 30 วัสดุ Monogram Canvas ปี 2014 ในราคา 22,444 บาท จะสามารถขายในตลาดมือ 2 ปัจจุบัน ได้ในราคาประมาณ 19,000-24,000 บาท ซึ่งนับว่าใกล้เคียงกับราคาตั้งต้นเป็นอย่างมาก

ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสภาพของกระเป๋าด้วย ด้วยรูปลักษณ์ของกระเป๋าที่ยังคงรูปแบบดั้งเดิม จึงให้กลิ่นอายของความเป็นหลุยส์ วิตตองอย่างเต็มเปี่ยม แม้จะมีการตัดเย็บออกมาด้วยวัสดุที่แตกต่างกันออกไปก็ตาม ทำให้ราคาของกระเป๋ารุ่นนี้ ในตลาดซื้อขายมือ 2 ไม่เสื่อมค่าไปเลยแม้แต่น้อย

โดยกระเป๋าบางใบที่ยังมีสภาพดีถึงดีมาก และพร้อมด้วยอุปกรณ์ที่มากับกระเป๋าอย่างครบครัน สามารถทำกำไรได้ถึง 3 เท่าจากราคาตั้งต้นเลยทีเดียว ความคลาสสิคของ Speedy มูลค่าในตลาดซื้อขายมือ 2 จึงค่อนข้างมีความเสถียรและคงที่ ความนิยมของ Speedy เป็นหลัก

สิ่งหล่านี้ช่วยให้มั่นใจว่ามูลค่าการกระเป๋ามือ 2 ในลาย Monogram และ Damier ที่ยังอยู่ในสภาพดี จะอยู่ในระดับราคาที่สูง กระเป๋าที่ได้รับการประทับตราชื่อย่อด้วยความร้อน (Heat Stamp) จะทำให้มูลค่าของกระเป๋าลดลง หากคุณวางแผนที่จะขายมันในอนาคต ควรหลีกเลี่ยงการประทับตราใดๆ ลงบนกระเป๋า

อย่างไรก็ตามสำหรับ Speedy ในรุ่น Limited Edition บางรุ่น เช่น The World Tour หรือ Monogram ouflage อาจมีมูลค่าขายคืนสูงหลังจากออกจำหน่ายเพียงแค่ 1 ปีเท่านั้น หรือ Speedy ที่ผลิตจากวัสดุหนังหายาก มูลค่าในตลาดมือ 2 ก็จะสูงขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย โดยมูลค่าของ Speedy ที่มีการขายในตลาดมือ 2 เริ่มต้นที่ $900-$2700 หรือ 27,914-83,743 บาท ราคาจะพิจารณาจากสภาพ วัสดุที่ใช้ ปีที่ผลิต อุปกรณ์ที่มากับกระเป๋า และรุ่น

Louis Vuitton Speedy กระเป๋าที่ขึ้นชื่อว่าเป็น Iconic ของแบรนด์ มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 90 ปี จุดเริ่มต้นจากกระเป๋าที่ใช้ในการเดินทางขนาดใหญ่ จนกลายมาเป็นกระเป๋า Everyday Bag ที่สามารถใช้ได้ในชีวิตประจำวัน ขึ้นแท่นเป็นกระเป๋าแบรนด์เนมใบแรกที่สาวๆ หลายคนต่างใฝ่ฝัน อีกทั้งมูลค่าของกระเป๋าที่เพิ่มสูงขึ้นทุกปี ไม่ว่าเวลาผ่านไปกี่ปี คุณค่าเหล่านั้นก็ไม่เสื่อมด้อยลงไปแม้แต่น้อย

นี่เป็นสิ่งที่สามารถการันตีได้ว่า Speedy Bag เป็นกระเป๋าที่มีความครบเครื่องครบครัน ทั้งในเรื่องของรูปทรงอันเป็นเอกลักษณ์ ความแข็งแรง คงทน รวมทั้งความสามารถในการบรรจุของได้อย่างหลากหลาย ราคาที่สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ไม่ยากนัก คงภาพลักษณ์ของความหรูหรา สง่างาม อีกทั้งยังคุ้มค่าแก่การลงทุนอีกด้วย