ชาแนลบอย (Chanel Boy) เป็นกระเป๋าที่ขึ้นชื่อว่าประสบความสำเร็จและได้รับความนิยมอย่างสูงหลังจากเปิดตัวเพียงไม่นานเมื่อปี ค.ศ. 2011 ในงานแฟชั่นโชว์ Ready-to-Wear ของชาแนลที่จัดขึ้นในปีนั้น สิ่งที่เลี่ยงไม่ได้เลยสำหรับกระเป๋าที่ได้รับความต้องการจากตลาดอย่างมากนั่นก็คือ กระเป๋าละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งปัจจุบันพบเห็นโดยทั่วไป อีกทั้งวิวัฒนาการและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้การแยกระหว่างของปลอมและของแท้เป็นไปโดยยากหากไม่มีประสบการณ์มากพอ ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำ 6 จุดสำคัญ ที่ช่วยในการสังเกตรวมทั้งแยกแยะกระเป๋า ชาแนลบอย ของแท้ และกระเป๋าละเมิดลิขสิทธิได้อย่างมืออาชีพ

 

 

1. Material

วัสดุที่นำมาตัดเย็บกระเป๋ามีความแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น ตั้งแต่รุ่นธรรมดา รุ่น Seasonal ไปจนถึงรุ่น Limited Edition หนังที่พบมากที่สุดคือหนัง Lambskin (หนังแกะ) และ Goatskin (หนังแพะ) อีกทั้งยังมีวัสดุที่ทำจากผ้าชั้นดี เช่น ผ้าทวีต (Tweed) หรือกำมะหยี่ (Velvet) รวมถึงวัสดุผ้าใบแคนวาส, ผ้ายีนส์, PVC ในส่วนของวัสดุหนัง จะมีกลิ่นเฉพาะของหนัง ซึ่งมีกลิ่นที่หอมแตกต่างจากหนังปลอมอย่างสิ้นเชิง โดยวัสดุหนังปลอมโดยส่วนใหญ่จะมีกลิ่นเหมือนสารเคมีหรือสารสังเคราะห์เคลือบ

สำหรับในรุ่นที่เป็นวัสดุหนังที่ทำมาจากหนังลูกวัวคาร์เวียร์ หรือ Calfskin ในส่วนของเม็ดคาร์เวียร์รวมถึงสีของอะไหล่ หากผลิตออกมาคนละ Collection หรือต่าง Season อาจพบว่าลายหนัง , สีของหนัง หรือสีของอะไหล่ อาจมีความแตกต่างกันได้ ทั้งนี้ควรพิจารณาถึงชิ้นส่วนอื่นๆประกอบไปด้วย

2. CC Logo (Boy Bag Lock)

สิ่งแรกที่เป็นจุดเด่นของกระเป๋าชาแนลบอย คือ ตัวล็อคที่คล้ายกับตัวต่อเลโก้ โดยตัวล็อคมีด้วยกัน 2 รุ่น คือตัวล็อครุ่นดั้งเดิม กับตัวล็อคที่พบเห็นทั่วไปในปัจจุบัน ในส่วนของตัวล็อคดั้งเดิมนั้น ตัวปุ่มที่สลักโลโก้ CC จะเป็นวงกลมขนาดใหญ่ ล้อมรอบด้วย วงกลมซ้อนอีกชั้นหนึ่ง ตัวปลดล็อคด้านข้างจะมีลักษณะโค้งมนเล็กน้อย สำหรับตัวล็อคที่ใช้ในปัจจุบัน ตัวปุ่นสลักโลโก้ CC จะมีขนาดเล็กลงมาและนูนกว่าของดั้งเดิมเล็กน้อย ล้อมรอบด้วย โลโก้ CC ขนาดใหญ่ทับอีกชั้นหนึ่ง ตัวปลดล็อคด้านข้างจะมีความเหลี่ยมกว่ารุ่นดั้งเดิม

อีกด้านของตัวล็อค จะพบกับอะไหล่ของตัวล็อคที่เป็นสกรูรูปดาว 6 เหลี่ยมทั้ง 4 ด้าน โดยอะไหล่เหล่านี้จะต้องมีลักษณะที่ไม่ลึกหรือตื้นจนเกินไป พื้นผิวของสกรูสะอาดเรียบร้อย สีของตัวล็อคทั้งด้านนอกด้านใน จะต้องเป็นสีเดียวกันกับอะไหล่ของกระเป๋าทั้งหมด

 

3. Interior

การตกแต่งภายในกระเป๋า เน้นความเรียบง่าย โดยใช้วัสดุผ้า Fabric ซึ่งนั่นเป็นเคล็ดลับที่ทำให้กระเป๋ามีน้ำหนักเบา สีของผ้าจะเป็นสีที่เหมือนหรือใกล้เคียงกับวัสดุภายนอก หรืออาจเป็นสีพิเศษในรุ่น Limited Edition และรุ่น Seasonal เป็นที่ทราบกันดีว่า กระเป๋า Chanel Boy จะมีการออกแบบคอลเลกชั่นใหม่ๆ อยู่เสมอทุกซีซั่น ซึ่งแต่ละรุ่นจะมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ในบางรุ่นอาจมีช่องซิปด้านใน 1 ช่อง โดยตัวซิปจะต้องมีสีเดียวกับอะไหล่ชิ้นอื่นบนกระเป๋า ด้านหลังของซิปปรากฏคำว่า “Lampo”

ด้านใต้ของช่องซิป หรือช่องเก็บของ จะปรากฏแผ่นหนังรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าซึ่งมีสีเดียวกับตัวกระเป๋า มีชื่อเรียกว่า “Brand Tag” หรือ “Brand Label” ปั๊มตัวอักษร “CHANEL MADE IN ITALY” ตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมด โดยที่สีของตัวปั๊ม จะต้องเป็นสีเดียวกันกับอะไหล่ของกระเป๋า ตัวอักษรที่ปรากฏจะต้องมีความสะอาด คมชัด ไม่มีการเลอะเลือนของสี ระยะห่างของช่องไฟระหว่างตัวอักษรจะต้องเท่ากัน

กระเป๋า Chanel Boy มีฐานการผลิตทั้งที่ประเทศอิตาลี (MADE IN ITALY) และประเทศฝรั่งเศส (MADE IN FRANCE) จะไม่มีตัวปั๊มที่ปรากฏคำว่า “MADE IN PARIS” อย่างเด็ดขาด ฉะนั้นการพิจารณากระเป๋าจะต้องสังเกตอย่างถี่ถ้วนแม้ในส่วนรายละเอียดเพียงเล็กน้อย

 

4. Hardwear

อะไหล่ของกระเป๋า จะต้องมีน้ำหนักและมีความแข็งแรง ด้านข้างของกระเป๋าทั้ง 2 ด้าน จะพบกับชิ้นส่วนอะไหล่รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า สลักโลโก้ “CHANEL” เป็นส่วนที่ยึดสายสะพายเข้ากับตัวของกระเป๋า ตัวอักษรจะต้องเป็นระเบียบ มีความคมชัด ไม่ปั๊มหนาหรือบางจนเกินไป ในส่วนของสายสะพาย ในรุ่นที่เป็นอะไหล่สีทอง จะใช้วัสดุจากทองคำ 24K และ Ruthenium (รูธีเนียม) ในรุ่นสายโซ่สีเงิน ตัวอะไหล่จะต้องอยู่ในลักษณะตั้งตรง ไม่บิดเบี้ยวหรือเอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง

 

5. Serial Number

กระเป๋า Chanel Boy ใน “รุ่นแรก” ของไลน์การผลิต ตัวเลขด้านหน้าของ Serial Number “จะต้องขึ้นต้นด้วยเลข 15” ซึ่งหมายถึงกระเป๋าผลิตในปี ค.ศ. 2011 ซึ่งเป็นปีที่กระเป๋ารุ่นนี้เปิดตัวเป็นครั้งแรก และมีการนำออกจำหน่ายเมื่อปี ค.ศ. 2012 หากกระเป๋าของคุณ ปรากฏ Serial Number ที่มีตัวเลขด้านหน้า “ต่ำกว่า 15” อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่า กระเป๋าที่คุณเป็นเจ้าของอยู่นั้น อาจเป็นสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ฉะนั้นสิ่งสำคัญที่สุด ควรตรวจสอบหมายเลขเหล่านี้อย่างละเอียดถี่ถ้วน

Serial Number จะปรากฏในรูปของสติ๊กเกอร์ ระบุตัวเลขจำนวน 8 หลัก ปิดทับด้วยสติ๊กเกอร์ใส ซึ่งมีชื่อเรียกว่า “Hologram Sticker” โดยสติ๊กเกอร์มีความแน่นหนาเป็นอย่างมาก มีรอยกรีดตัว X คาดทับบนสติ๊กเกอร์ จากมุมทั้ง 4 ด้าน ป้องกันการแกะลอกของสติ๊กเกอร์ ในกระเป๋าชาแนลบอย สติ๊กเกอร์นี้จะแปะอยู่บนแผ่นหนังสี่เหลี่ยมจัตุรัส เย็บติดอยู่ที่มุมข้างล่างด้านซ้ายของกระเป๋าด้านใน ตัวเลขบนสติ๊กเกอร์ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ซึ่งของละเมิดลิขสิทธิ์ส่วนใหญ่ยากจะทำเลียนแบบได้เหมือน

กระเป๋าของ Chanel ทุกใบ จะมาพร้อมกับ Authenticity Card เป็นการ์ดขนาดเท่าบัตรเครดิต มีสีดำ ขอบสีทอง แต่ไม่ใช่ว่ากระเป๋าทุกใบที่มีการ์ดใบนี้จะถือว่าเป็นกระเป๋าของแท้ จุดสังเกตของการ์ดสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ 9 วิธีตรวจสอบกระเป๋าชาแนลของแท้ ตัวเลข Serial Number จะต้องตรงกับตัวเลขบนการ์ด

ในแต่ละซีซั่น ชาแนลจะเปิดตัวกระเป๋า Boy Bag โฉมใหม่ พร้อมการตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์ ตัวอย่างเช่นกระเป๋า Tartan Boy จาก Paris/Edinburgh collection ควรมี Serial Number เริ่มต้นที่ 18 ซึ่งบ่งบอกว่ามันถูกตัดเย็บขึ้นในปี ค.ศ. 2013 เพื่อเปิดตัวในงาน Pre-Fall Métiers d’Art 2013 โดยใน 1 ปี ทางชาแนลจะนำเสนอกระเป๋า ชาแนลบอย ในรูปแบบใหม่ๆ ทั้งดีไซน์ สไตล์ และวัสดุที่ใช้ตัดเย็บกระเป๋า มากถึง 4 ครั้งด้วยกัน

6. Stitching

ขอบมุมของกระเป๋า ที่ได้รับการตัดเย็บเป็นฝีเข็มยาวรอบกระเป๋า ซึ่งมีชื่อเรียกว่า “Boarder” ซึ่งเป็นการเย็บเป็นเส้นขนานกันตรงขอบกระเป๋า 3 ชั้น ขอบมุมเหล่านี้จะไม่นูนมากจนเกินไป ขอบของกระเป๋ามีลักษณะโค้งมน ฝีเย็บเท่ากันทั้งหมดและจะต้องไม่บิดเบี้ยว ฝากระเป๋าด้านใน ตรงขอบมุม กระเป๋าของแท้จะมีการเย็บด้ายแบบ 2 ทบ อย่างเห็นได้ชัด

ในส่วนของการเย็บลายข้าวหลามตัด (Diamond-Patterned) หรือลายวีเชฟร่อน (Chevron) บนตัวกระเป๋า ซึ่งเป็นลายยอดนิยมและสามารถพบเห็นโดยทั่วไป ฝีเข็มจะเท่ากันทั้งหมด แต่จะไม่ทำการเย็บลึกจนเกินไป จุดสังเกตง่ายๆ ในฝีเย็บของกระเป๋าปลอมคือรอยเย็บที่ทำการเย็บลึกลงไปบนชั้นหนัง ทำให้ลายของกระเป๋ามีความนูนออกมามากจนเกินไป (สามารถชมรายละเอียดส่วนต่างๆ ของกระเป๋าเพิ่มเติมได้ที่นี่ Anatomy of Chanel Boy Bag)

ความสวยงามและโดดเด่นของ Chanel Boy แท้ ความคลาสสิก ความหรูหรา ซึ่งปรับเปลี่ยนรูปแบบไปตามยุคตามสมัย เหนือคำนิยามใดๆ แม้ว่า ชาแนลบอย จะมีการนำเสนอกระเป๋ารูปแบบใหม่ออกมาอยู่เสมอเป็น Seasonal แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงไว้นั่นก็คือรายละเอียดอันเป็นเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็นสายโซ่สะพายขนาดใหญ่ ตัวล็อคที่คล้ายกับตัวต่อเลโก้ หรือรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าของกระเป๋า ความใส่ใจในแต่ละรายละเอียดของกระเป๋าเหล่านี้ ทำให้เป็นการยากนักที่ของละเมิดลิขสิทธิ์จะลอกเลียนแบบความงามเหล่านี้ไปได้อย่างสมบูรณ์แบบ

รัก
xoxo