Gucci Leather Material – แบรนด์ดังสัญชาติอิตาลีอย่าง Gucci มีต้นกำเนิดโดยเริ่มต้นจากการผลิตและจำหน่ายสินค้าจำพวกเครื่องหนังต่างๆ จนกลายมาเป็นอาณาจักรสินค้าหรูภายใต้ชื่อ กุชชี่ (Gucci) เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายจนถึงทุกวันนี้ เรียกได้ว่า ปัจจุบันยังสามารถครองใจใครต่อใครหลายคนอยู่อย่างต่อเนื่อง
และถ้าหากคุณเป็นสาวกของแบรนด์มาอย่างยาวนานแล้วนั้น จะสังเกตได้ว่ากระเป๋าจากแบรนด์ Gucci มีหลากหลาย Material ให้เลือกสรร ทั้งหนังปกติ (Leather) , หนังสัตว์หายาก (Exotic) , หนังแกะ (Lambskin) และอีกมากมาย เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับสาวก Gucci วันนี้เราได้ทำการรวบรวมมาให้คุณได้ศึกษากัน ส่วน Material ไหนจะน่าสนใจ หรือมีที่มาที่ไปยังไรบ้าง ติดตามไปพร้อมกันเลยค่ะ
ประเภทหนังลูกวัว
หนังมันเงา (Shiny) : คือ หนังลูกวัว (Calfskin) เคลือบเงา และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สวยงาม ด้วยลักษณะของหนังที่มันเงาอย่างเห็นได้ชัด โดยการทำหนังในลักษณะนี้เพื่อให้หนังมีความทนทานต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น เรียกได้ว่า หนังชนิดนี้มีลวดลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะแบรนด์
หนังปั๊มลาย GG (GG Embossed) : หนังปั๊มลายคือหนังวัวแท้ที่ถูกนำไปปั๊มลาย (Emboss) ให้พื้นผิวมีลวดลาย GG ที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ลงบนหนัง เรียกได้ว่า เป็นจุดเด่นเลยก็ว่าได้ และหนังมีความคุณสมบัติที่ทนทานต่อการใช้งาน อีกทั้งยังเป็นหนังที่ได้รับความนิยมในหมู่สาวกแบรนด์ Gucci อีกด้วย
ขนลูกวัวพิมพ์ลายม้าลาย (Zebra Print Calf Hair) : วัสดุชนิดนี้จัดได้ว่าเป็นชนิดหนังที่รวมองค์ประกอบที่โดดเด่นที่สุด ด้วยความละเมียดละไมในกระบวนการผลิตหนังชนิดนี้ จึงทำให้ผลงานออกมาดูสวยสะดุดตาเป็นอย่างมาก ไม่ใช่แค่ความสวยเท่านั้น แต่ยังมีคุณสมบัติที่ทนทานต่อการใช้งานอีกด้วย
เชฟรอน (Chevron) : Chevron คือ คำเรียกลวดลายของหนัง ที่มีการเย็บลวดลายลักษณะคล้ายตัว V ซึ่งนิยมใช้หนังลูกวัว (Calfskin) ด้วยความที่เป็นวัสดุหนังที่สามารถแปรรูปและทำลวดลายได้ง่าย อีกทั้งยังมีคุณสมบัติที่ทนทานต่อการใช้งานเป็นอย่างมาก จึงเป็นหนังอีกหนึ่งชนิด ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก
หนังลายนูน (Matelassé) : คือ ลักษณะการเย็บเพื่อทำให้หนังนูนขึ้นมาเป็นลวดลายที่สวยงาม โดยหนังที่นำมาเย็บลายนูนนั้นเป็นหนังลูกวัว (Caifskin) มีคุณสมบัติที่ทนทานต่อการใช้งานเป็นอย่างมาก
หนังเม็ดเล็ก (Grainy) : หนังชนิดนี้มีลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์เด่นชัด คือ ลายหนังจะนูนเด่นขึ้นมา มีลักษณะเป็นเม็ดเล็ก จึงค่อนข้างเป็นที่นิยม เนื่องจาก เมื่อใช้งานนานไปแล้วลายของหนังยิ่งเด่นชัดขึ้น อีกทั้งยังทนทานต่อการใช้งานอีกด้วย
หนังลามิเนต (Lamé) : เป็นการนำหนังมาทำการ เคลือบพิมพ์เป็นลาย โดยการเคลือบในลักษณะแบบลามิเนตจะมี 2 ชนิดด้วยกัน คือแบบเงา (Glossy) และ แบบด้าน (Matte) ด้วยลวดลายที่สวยงามแปลกตา จึงเป็นที่นิยมจากทางแบรนด์เช่นเดียวกัน
หนังอ่อนนุ่มลาย GG Supreme (Soft GG Supreme) : นำหนังอ่อนนุ่มมาทำการสกรีนลาย GG Supreme พร้อมกับลายเสือที่เป็นเอกลักษณ์ของคอลเล็กชั่นนี้ ด้วยคุณสมบัติผ้าใบมีความหนา แข็งแรง แต่ไม่แข็งกระด้างจึงสามารถนำมาสกรีนลวดลายได้ง่าย
หนัง (Textured) : ในส่วนของหนังชนิดนี้ นั้นเป็นหนังรุ่นพื้นฐานจากทางแบรนด์ ด้วยลายหนังเม็ดเล็ก และมีคุณสมบัติที่ทนทานต่อการใช้งานเป็นอย่างมาก ลายของหนังที่เรียบ ไม่มีลวดลายหวือหวาเท่าไหร่ ซึ่งหนังชนิดนี้ ได้รับความนิยม ในการนำมาตัดเย็บกระเป๋ารุ่นคลาสสิกของแบรนด์
หนังอ่อนนุ่ม (Soft) : หนังชนิดนี้มีลักษณะเป็นหนังนิ่ม เรียกได้ว่าเมื่อสัมผัสจะให้ความรู้สึกที่นุ่มมือ แต่ยังคงความทนทาน เมื่อใช้งานนานไปก็ยังคงลวดลายที่สวยงามเอาไว้ได้ จึงเป็นที่นิยมนำมาทำกระเป๋า ด้วยคุณสมบัติอ่อนนุ่มพิเศษซึ่งแตกต่างจากหนังชนิดอื่น
หนังทอ (Woven Leather) : ด้วยวัสดุหลักๆ คือ หนัง (Leather) ที่ได้ทำการนำมาถักทอ เป็นลวดลายที่สวยงาม ทำให้เพิ่ม Texture ให้กับกระเป๋าได้อย่างลงตัว สามารถสร้างความแตกต่างได้อย่างน่าเหลือเชื่อ อีกทั้งยังเพิ่มความทนทานในขณะใช้งานอีกด้วย
เคลือบเงา (Plexiglas) : เป็นวัสดุเคลือบเงา คุณสมบัติที่เด่นชัด คือ มีความแข็งแกร่ง ทนความชื้น สารที่ใช้เคลือบมีความใสมากกว่ากระจก สามารถมองเห็นแสงได้อย่างชัดเจน การเคลือบเงานั้น ทำขึ้นเพื่อเพิ่มความแข็งแรงทนทานให้กับวัสดุที่นำมาผลิตกระเป๋าเพิ่มมากขึ้น
ประเภทหนังแกะ
หนังแกะ (Lamb) : หนังแกะ ผิวของวัสดุจะมีความเรียบ สัมผัสจะนุ่มมือ มีความยืดหยุ่นในตัว และมีน้ำหนักเบา หนังแต่ละช่องจะฟูอย่างเห็นได้ชัด มีลักษณะเรียบมัน แต่มีข้อเสียคือเป็นรอยขีดข่วนง่าย ในส่วนช่องฟูของหนังยุบตัวง่ายเมื่อผ่านการใช้งานไปสักระยะ แต่เป็นหนังที่ได้รับความนิยมอย่างสูงเนื่องจากผิวสัมผัสที่อ่อนนุ่ม
ประเภทพลาสติก
พลาสติก (plastic) : เป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติเด่น คือ มีความเหนียว ยืดหยุ่นได้ดี ทนต่อการกรอบ และแตก แต่ยังคงมีความนิ่มในตัว สามารถทำความสะอาดได้ง่าย จึงเป็นอีกหนึ่งวัสดุที่นิยมนำมาทำกระเป๋า โดยจะถูกนำมาใช้ในแต่ละคอลเล็กชั่นที่แตกต่างกันออกไป
ไวนิลโปร่งใส (Transparent Vinyl) : วัสดุไวนิลโปร่งใส ซึ่งพบเห็นโดยทั่วไป จากการเป็นส่วนประกอบหนึ่ง ที่นิยมนำมาใช้ในการผลิตกระเป๋า ด้วยคุณสมบัติเหนียว ทนทานต่อการใช้งาน และสามารถทำความสะอาดได้ง่ายอีกด้วย โดยจะถูกนำมาใช้ ในส่วนต่าง ๆ ของกระเป๋า แตกต่างกันออกไปในแต่ละคอลเล็กชั่น
ประเภทผ้าใบ Canvas
ผ้าใบแคนวาสลาย GG (GG canvas) : ลาย GG ถือว่าเป็นลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ Gucci ซึ่งมีการสกรีนลายลงในผ้าใบแคนวาส ส่วนของผ้าใบมีความหนา แข็งแรง และทนทาน ไม่แข็งกระด้าง ทำให้ไม่ต้องได้รับการดูแลรักษาเป็นพิเศษ ด้วยตัวของเนื้อผ้าเองสามารถกันน้ำได้ระดับหนึ่งแต่ไม่ 100%
ผ้าใบแคนวาสลาย GG Supreme (GG Supreme canvas) : เป็นการสกรีนลาย GG Supreme ตามคอลเล็กชั่นจากทางแบรนด์ลงในผ้าใบแคนวาส แปลกตาด้วยสกรีนรูปดาวสีขาว ตัวผ้าใบมีทวามทานต่อการใช้งาน ไม่แข็งกระด้าง นิยมนำมาตัดเย็บเป็นกระเป๋ารุ่นคลาสสิกในคอลเล็กชั่นนั้น ๆ
ผ้าใบแคนวาสโฮโลแกรม GG Supreme (GG Psychedelic Supreme Canvas) : ลวดลายโฮโลแกรม ดาวหลากสี โดดเด่นด้วยโลโก้ GG โดยรับแรงบันดาลใจได้มาจากความระยิบระยับจากไฟดิสโก้ เป็นการเล่นสีสันได้อย่างน่าดึงดูดตากันเลยทีเดียว
ผ้าใบแคนวาส (Canvas) : ผ้าใบแคนวาสมีความหนา แข็งแรง และทนทานมาก ผิวสัมผัสไม่แข็งกระด้าง ด้วยตัวของเนื้อผ้าเองสามารถกันน้ำได้ระดับหนึ่งแต่ไม่ 100% จึงทำให้เป็นอีกหนึ่งวัสดุที่เป็นทีนิยมในการนำมาผลิตกระเป๋าเป็นอย่างมาก
ประเภทหนังสัตว์เลื้อยคลาน
หนังงู (Snakeskin) : หนังงูเป็นหนังที่ได้รับความนิยมที่สุด ในบรรดาหนัง Exotic เพราะเป็นหนังที่มีลวดลายเฉพาะตัว สวยงามแตกต่างจากลักษณะของผิวของสัตว์เลื้อยคลานชนิดอื่น ลักษณะของพื้นผิวเป็นเกล็ดขนาดเล็ก เรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบ สำหรับหนังหายากชนิดนี้ ต้องได้รับการดูแลรักษาเป็นพิเศษ และไม่ควรที่จะให้วัสดุหนัง มีการสัมผัสกับน้ำ รวมถึงความชื้นใด ๆ อย่างเด็ดขาด เพื่อหลีกเลี่ยงการเสื่อมสภาพ
หนังงูเหลือม (Python) : ลักษณะพิเศษของหนังงูเหลือม คือ ลายของเกล็ดที่มีขนาดใหญ่ และเด่นชัดกว่างูขนาดธรรมดาทั่วไป สามารถแยกกับหนังงูธรรมดาได้อย่างชัดเจน โดยหนังของงูเหลือม จะมีลักษณะของลายเป็นริ้ว ๆ มีการเล่นสีที่สวยงามตามธรรมชาติเป็นเอกลักษณ์
หนังจระเข้ (Crocodile) : หนังจระเข้เป็นหนึ่งในหนังที่ได้รับความนิยมอย่างสูง มีความทนทานค่อนข้างสูง ซึ่งหนังจระเข้ ลักษณะของลายเกล็ดจะมีความชัดเจนมากกว่าหนังอัลลิเก
หนังตะกวด (Lizard) : มาพร้อมความเรียบ สัมผัสที่ลื่นมือ สื่อถึงความหรูหรา เป็นหนังที่มีความละเอียดอ่อนในตัวมาก นับเป็นอีกหนึ่งชนิดของหนังที่กลุ่มแฟน ๆ Exotic Skin นิยมสะสมอีกด้วย มีลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และเด่นชัด
หนังสัตว์ชนิดอื่นๆ
หนังกลับ (Suede) : วัสดุหนังที่ทำมาจากหนังสัตว์ เช่น โค แกะ และแพะ มักจะใช้หนังช่วงหน้าท้องในการทำหนังกลับ มีลักษณะเป็นขนฟู มีความนุ่ม และไม่มีผิวหน้าของหนัง ทำให้การดูแลรักษายากกว่าหนังประเภทอื่น ๆ วิธีดูแลรักษาคือ หากมีฝุ่นเกาะบนพื้นผิว ให้ใช้แปรงสำหรับทำความสะอาดหนังกลับโดยเฉพาะ โดยค่อย ๆ แปรงปัดฝุ่นออกไปทางขอบอย่างเบามือ
หนังฟอกฝาด (Tanned) : เป็นวัสดุหนัง ที่ได้มาจากการนำเอาหนังควาย (Buffalo leather) หรือ หนังวัว (Caifskin) มาฟอกด้วยสาร ที่มีชื่อเรียกว่า “แทนนิน” โดยแทนนินนี้จะสกัดได้จาก เปลือกไม้ เช่น ต้นควีบราโค ต้นยูคาลิปตัส เพิ่มความทนทาน และลวดลายที่สวยงามให้แก่กระเป๋า
เส้นใยชนิดต่างๆ
เครื่องจักสาน (Wicker) : ในส่วนของวัตถุดิบที่นำมาสานนั้น จะมีจำพวก ไม้ไผ่, หรือหวาย เป็นต้น เนื่องจากมีลักษณะอ่อนตัว สามารถดัดเพื่อสานได้อย่างคล่องตัวและสวยงาม อีกทั้งยังมีคุณสมบัติทนทานต่อการใช้งานอีกด้วย
ฟางถักทอ (Straw Effect Fabric) : เป็นการนำวัสดุท้องถิ่นมาเพิ่มคุณค่า ซึ่งข้อดีของฟาง คือมีคุณสมบัติที่ค่อนข้างเหนียว และสามารถนำมาแปรรูปได้ง่าย โดยมานำมาเคลือบเพื่อเพิ่มความแข็งแรง ทนทาน แล้วถักทอให้เป็นลวดลายที่สวยงาม
ปาล์มสานลายเชฟรอน (Chevron Raffia) : ปาล์ม มีคุณสมบัติ คือ เหนียวนุ่ม ทนทานต่อการใช้งาน วัสดุปาล์มสามารถนำมาแปรรูปได้ง่าย นำไปสานนั้นเป็นลายเชฟรอนอย่างสวยงาม เรียกได้ว่าเป็นวัสดุที่เข้ากับเทรนรักษ์โลกในตอนนี้
เส้นใยไม้ (Ebony GG Wool) : เป็นวัสดุที่มาจากเส้นใยของไม้ สามารถแปรรูปได้ง่ายพอสมควร อีกทั้งยังมีความทนทานต่อการใช้งาน มีการสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวโดยการเพิ่มสัญลักษณ์ GG ลงบนพื้นผิวของวัสดุเป็นลวดลายที่สวยงาม
ผ้าสักหลาดชนิดหนานุ่ม (Tweed) : ผ้าสักหลาดเป็นผ้าที่สานขึ้นจากขนสัตว์ มีความยืดหยุ่นและ ให้ผิวสัมผัสที่ดี สีสันสวยสดใส โดยมีสีให้เลือกหลากหลายเฉดสี เมื่อสัมผัสจะให้ความรู้สึกผิวหยาบ เป็นลักษณะของพื้นผิววัสดุที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นอย่างเห็นได้ชัด
กำมะหยี่ลาย GG (GG Velvet) : เป็นอีกหนึ่งวัสดุที่ได้รับความนิยมของแบรนด์ ด้วยคุณสมบัติที่มีความเหนียว และทนทานสูง มีการเพิ่มเติมเอกลักษณ์ที่น่าสนใจ โดยการนำลวดลาย GG สัญลักษณ์ของแบรนด์ มาตกแต่งลงบนพื้นผิว เพิ่มความสวยงามและแปลกตาให้กับพื้นผิววัสดุชนิดนี้เป็นอย่างมาก
กำมะหยี่ (Velvet) : วัสดุที่เราคุ้นเคยเป็นอย่างดีและอยู่คู่กับอุตสาหกรรมผลิตกระเป๋ามาเป็นเวลาช้านาน ด้วยผิวสัมผัสที่นุ่มและสบายมือ มีความเหนียว และทนทานสูง รวมทั้งระบายอากาศได้ดี มีคุณสมบัติที่สามารถกันน้ำได้ในระดับหนึ่ง การทำความสะอาด จึงได้รับความนิยมนำมาตัดเย็บกระเป๋า ทั้งในส่วนของพื้นผิวกระเป๋าด้านนอก รวมถึงเป็นวัสดุบุด้านในกระเป๋า
จบกันไปแล้ว กับตัวอย่างวัสดุที่นำมาตัดเย็บกระเป๋า จะเห็นได้ว่า ในแต่ละ Material นั้น ทางแบรนด์ ได้คัดสรรวัตถุดิบที่ได้มาตรฐาน พรั่งพร้อมด้วยคุณภาพและคุณสมบัติที่คับคั่ง สมกับการเป็นแบรนด์หรูอันดับต้น ๆ ของโลกจริง ๆ ค่ะ สำหรับสาวก Gucci ที่ได้ทราบข้อมูลเพิ่มเติม และกำลังมองหากระเป๋าคู่ใจใบใหม่อยู่นั้น หวังว่าข้อมูลที่ได้รวบรวมมาให้นี้ จะเป็นเสมือนคู่มือ ช่วยเพิ่มการตัดสินใจ ในการเลือกกระเป๋าคู่กาย ให้ถูกใจได้ง่ายขึ้นนะคะ
รัก
xoxo