Gucci Diana กระเป๋าถือรูปทรงสี่เหลี่ยม มีหูจับไม้ไผ่ จากแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง Gucci ซึ่งทำการเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1991 ได้รับความนิยมอย่างสูงจากสาว ๆ ทั่วทุกมุมโลก แต่บุคคลที่ทำให้กระเป๋ารุ่นนี้เป็นที่รู้จัก จนกระทั่งได้รับตำแหน่ง It Bag แห่งยุคในขณะนั้น คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก เจ้าหญิงไดอาน่า เจ้าหญิงแห่งเวลส์ ผู้ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นไอคอนแฟชั่นระดับตำนาน ในช่วงยุค 90s ผู้ไม่ว่าหยิบจับหรือสวมใส่ไอเท่มอะไร ก็ล้วนแล้วแต่ได้รับความสนใจ รวมถึงถูกจับตามองจากเหล่าประชาชนและนักข่าวเป็นอย่างมาก

ล่าสุด ทาง Gucci ภายใต้การนำของ Alessandro Michele (อเลสซานโดร มิเคเล่) ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์คนปัจจุบันของแบรนด์ ได้นำกระเป๋าคู่กายองค์หญิงรุ่นนี้ มาทำการปัดฝุ่นอีกครั้ง มาตีความในรูปแบบอันร่วมสมัย เพื่อให้สอดคล้องกับแฟชั่นใน ปี 2021 เพื่อนำเสนอความงามในอดีต ให้คนรุ่นใหม่ได้ยลโฉม และปลุกมนต์ขลังเหล่านั้นขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งจะมีประวัติความเป็นมา จะมีการเปลี่ยนแปลงจากดีไซน์ดั้งเดิมแค่ไหน ติดตามได้จากบทความนี้

The House’s signature pieces

หลังจากกระแสความสำเร็จอย่างล้นหลาม ของกระเป๋ารุ่น Jackie ที่ถูกนำมารีบอร์นใหม่ อันมีแรงบันดาลใจมาจาก แจ็กเกอลีน เคเนดี้ อดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ทางแบรนด์ Gucci ก็ได้นำกระเป๋าอีกหนึ่งรุ่นในตำนาน ซึ่งสร้างชื่อเสียงและได้รับความนิยมอย่างมากในยุค 90 กระเป๋าหูหิ้วไม้ไผ่สุดโปรดของเจ้าหญิงแห่งเวลส์ มาทำการปัดฝุ่นอีกครั้ง โดยการนำของ Alessandro Michele (อเลสซานโดร มิเคเล่) ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ ในนาม “Gucci Diana”

มิเคเล่ เลือกกระเป๋าหูจับไม้ไผ่ ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกและเคยโด่งดังในช่วงปี ค.ศ. 1991 อันเป็นกระเป๋าที่เจ้าหญิงไดอาน่ามักจะพกพาติดตัวอยู่เสมอ ด้วยรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสของกระเป๋าที่กว้างขวาง  รายละเอียดการเดินเส้นที่สวยงาม ทำให้กระเป๋ารุ่นนี้ใช้งานได้จริงและมีสไตล์ สร้างสมดุลที่ละเอียดอ่อนระหว่างแฟชั่นที่ล้ำหน้าและเข้าถึงได้ง่าย อีกทั้งยังเป็นผลงานที่ไม่จำกัดทางเพศ ตามสไตล์ของมิเคเล่ ซึ่งตั้งใจออกแบบให้เป็นที่ชื่นชอบและเข้าถึงได้กับทุกตัวบุคคล

ตัวกระเป๋ายังคงดีไซน์ดั้งเดิมเอาไว้อย่างครบถ้วน รวมถึงหูจับไม้ไผ่อันเป็นเอกลักษณ์ มีการเพิ่มโลโก้ตัวปั๊ม GG สีทองด้านหน้า เพื่อบ่งบอกถึงความเป็นกุชชี่ ซึ่งถูกจินตนาการใหม่โดยมิเคเล่ในยุคปัจจุบัน โดดเด่นด้วยเข็มขัดหนังคาดหูกระเป๋าสีนีออนสะท้อนแสงหลากสี ซึ่งถูกจับคู่ในกระเป๋าแต่ละใบในเฉดสีที่ลงตัว ไม่ว่าจะเป็นสีเหลือง สีชมพู หรือสีส้มเรืองแสง อีกทั้งยังสามารถถอดออกได้ รวมถึงยังเลือกสลักตัวอักษรและสัญลักษณ์ต่าง ๆ บนกระเป๋าได้เพื่อเพิ่มความพิเศษเฉพาะตัวได้อีกด้วย

กระเป๋า กุชชี่ไดอาน่า มีวางจำหน่ายด้วยกันทั้งหมด 3 ขนาด คือ ขนาด Mini ในราคา £2,080 (ประมาณ 80,600 บาท) ขนาด Small ในราคา £2,430 (ประมาณ 94,200 บาท) และขนาด Medium ในราคา £2,960 (ประมาณ 115,000 บาท) มาพร้อมกับเฉดสีสุดคลาสสิก ไม่ว่าจะเป็น สีดำ , สีขาว , สีน้ำตาล , สีชมพู Powder Pink และสีฟ้า Pastel Blue

รวมทั้งเข็มขัดหนังคาดหู ซึ่งเป็นไอเท่มใหม่ ที่ทำให้กระเป๋ารุ่นนี้ มีความแตกต่างจากรุ่นออริจินัล อันเป็นตัวชูโรง เพิ่มความมีชีวิตชีวาซึ่งโอบล้อมหูจับไม้ไผ่อันแสนคลาสสิก เป็นการผสมผสานแฟชั่นดั้งเดิม กับแฟชั่นปัจจุบันเข้ากันไว้ได้อย่างลงตัว

เป็นกระเป๋าที่ตอบโจทย์ทั้งแฟชั่นและการใช้งาน ด้านในของกระเป๋าขนาดใหญ่ขึ้นมีกระเป๋าซิปคั่นตรงกลาง ซึ่งแบ่งกระเป๋าออกเป็นสองส่วน ด้านหน้ามีช่องเปิดขนาดใหญ่พร้อมช่องซิป ด้านหลังมีพื้นที่กว้างพอ ๆ กับช่องเปิดโล่ง เพื่อป้องกันไม่ให้มองเห็นสิ่งของในกระเป๋า จึงมีแผ่นปิดแม่เหล็กที่ปิดปากกระเป๋าอย่างดี นอกจากนี้ยังมีสายสะพายไหล่ที่ถอดออกและปรับได้ ซึ่งทำให้กระเป๋ารุ่นนี้พกพาสะดวกเช่นกัน และถึงแม้ว่ากระเป๋าจะตัดเย็บขึ้นมาจากหนัง แต่โดยรวมแล้วน้ำหนักของตัวกระเป๋าค่อนข้างเบา ซึ่งเป็นข้อดีอย่างมากเช่นกัน

นับตั้งแต่เปิดตัวอีกครั้ง ในปี ค.ศ. 2021 นี้ Gucci Diana ก็ได้รับการตอบรับจากเซเลบริตี้ชื่อดังอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็น Elle Fanning, Sienna Miller ไปจนถึง Jodie Turner-Smith จากฝั่งฮอลิวูด หรือจะเป็น ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่ และตามด้วยแฟชั่นนิสต้าฝั่งไทยอย่าง ซาร่า เล็กจ์, อิน สาริน, กัปตัน ชลธร และคิด-คณชัย กระเป๋าที่เกิดจากไอเดียการสำรวจวัฒนธรรมที่เกิดขึ้นในอดีต รวมถึงบุคคลผู้ทรงอิทธิพลในแต่ละยุคสมัยที่ยังคงส่งต่อแนวคิดและความเชื่อมาจนถึงปัจจุบัน

จะเห็นได้ว่ากระเป๋าที่มีการตั้งชื่อตามเหล่าคนดังหรือคนสำคัญที่มีชื่อเสียงในสังคมนั้น ไม่ได้เป็นเพียงสัญลักษณ์ของความสำเร็จอันเป็นที่ต้องการแล้ว ยังเป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนอันมีคุณค่าอีกด้วย ตามรายงานของ Knight Frank Luxury Investment Index ปี ค.ศ. 2019 การลงทุนกับกระเป๋า ให้ผลตอบแทน มีชัยเหนือกว่า แสตมป์ นาฬิกา และแม้แต่งานศิลปะ เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.4 และนั่นจึงเป็นที่มาของการขุดค้นไอเท็มฮอตในอดีต และนำกลิ่นอายเหล่านั้นกลับมานำเสนอให้กับคนรุ่นใหม่อีกครั้ง

รัก
xoxo