Chanel Price Increases 2022 คุณเคยสงสัยเกี่ยวกับราคาของกระเป๋า Chanel ที่มีการปรับขึ้นในปี 2022 หรือไ่ม่ ? โดยปกติแล้ว ราคาของสินค้าฟุ่มเฟือย จะมีการปรับราคาขึ้นทุกปี เพื่อให้ทันกับต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม การปรับราคาสินค้าของแบรนด์ Chanel นั้นแตกต่างจากแบรนด์อื่นเล็กน้อย ในบทความนี้ จะให้คำตอบคุณ ว่าเหตุใด Chanel จึงมีการปรับเพิ่มราคาสินค้าสูงขึ้นมากมายในทุก ๆ ปี และดูเหมือนว่าจะไม่มีวันลดลงได้เลย
Chanel Price Increases 2022
ในปีที่ผ่านมา กระเป๋าถือจากแบรนด์ Chanel มีการปรับราคาขึ้นถึง 4 ครั้ง โดยครั้งล่าสุดมีการปรับราคาเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2022 โดยราคาจำหน่ายที่ออกมาอย่างเป็นทางการ อยู่ที่ค่าเงิน US ดอลล่าร์สหรัฐ , เงินปอนด์ และเงินยูโร ($, £ และ €) ซึ่งเป็นเรื่องปกติของแบรนด์สินค้าลักชัวรี่ ที่จะมีการปรับราคาสินค้า เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจ โดยส่วนใหญ่ จะมีการปรับราคาในช่วงฤดูใบไม้ผลิ แต่ทว่า แบรนด์ Chanel มีการปรับราคาสูงอย่างต่อเนื่อง
ตัวอย่างเช่น กระเป๋ารุ่น Classic Chanel Medium Flap ได้มีการปรับราคาขึ้นถึง 60% ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 2019 ที่ผ่านมา ในเดือนมกราคม ปี 2021 กระเป๋า Chanel ได้มีการปรับราคาเพิ่มขึ้นอีก 4-7% โดยขึ้นอยู่กับรุ่น ในเดือนกรกฎาคม ปีเดียวกัน ราคาของกระเป๋ารุ่น Classic Medium Flap ได้เพิ่มขึ้นอีก 2 เท่าจากเดิม จนกระทั่งในปี พฤศจิกายน 2021 ราคาของมันก็เพิ่มขึ้นอีกครั้ง ซึ่งนับได้ว่าเป็นการปรับราคาขึ้นแบบมหาโหด ที่เกิดขึ้นถึง 3 ครั้ง ภายใน 1 ปีเท่านั้น
ซึ่งในปี 2019 ราคาของกระเป๋ารุ่น Chanel Classic Medium Flap Bag อยู่ที่ราว ๆ 211,000 บาท ส่วนในเดือนมกราคม 2021 ราคาเพิ่มขึ้นไปเป็น 220,000 บาท (คิดเป็น 4.6%) ต่อมาในเดือนกรกฎาคมก็ขึ้นราคาอีกครั้งเป็น 253,000 บาท (คิดเป็น 14.7%) ส่วนเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วราคาพุ่งขึ้นไปอยู่ที่ 286,000 บาท (คิดเป็น 12.9%) ซึ่งใกล้เคียงกับราคาเริ่มต้นของกระเป๋า Hermès Birkin เลยทีเดียว
หรืออีกหนึ่งรุ่นยอดนิยมอย่าง Chanel 2.55 จากเดิมราคาประมาณ 240,000 บาท ปรับขึ้นเป็น 308,000 บาทในเดือนมิถุนายนเมื่อปีที่แล้ว โดยทาง Chanel ระบุว่า ราคาที่เพิ่มขึ้นเกิดจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และต้องการจะปรับราคากระเป๋าให้ใกล้เคียงกันทั่วโลก
และครั้งล่าสุด Chanel ได้ทำการปรับราคาสินค้าอีกครั้ง เมื่อวันที่ 3 มีนาคม ปี 2022 ที่ผ่านมา นอกเหนือจากการปรับเพิ่มราคาสินค้าแล้ว ทาง Chanel ยังจำกัดการซื้อขายกระเป๋าในไลน์รุ่นคลาสสิกของแบรนด์อีกด้วย โดยจำกัดสิทธิ์การซื้อต่อปี เพียง 2 ใบเท่านั้น โดยจุดมุ่งหมายในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้คือ เพื่อเพิ่มมูลค่าของแบรนด์ให้มีความพิเศษและเป็นที่ต้องการมากขึ้น ตารางด้านล่างนี้ คือราคาของรุ่นกระเป๋าที่มีการปรับขึ้นล่าสุด ในค่าเงิน US ดอลล่าร์สหรัฐ เงินปอนด์ และเงินยูโร
Why Chanel Increase their Prices
Chanel แบรนด์สุดหรู ที่สาวกแฟชั่นทั่วโลกรู้จักกันเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของผู้นำแฟชั่นในด้านต่าง ๆ รวมไปถึงราคาสินค้าที่มีการปรับขึ้นทุกปี ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว กลไกการปรับราคาสินค้า คือการรักษามูลค่า อาจหมายความว่าสินค้าที่คุณซื้อเมื่อหลายปีก่อนอาจมีค่ามากกว่าที่คุณจ่ายไป กระเป๋าเหล่านี้มักถูกมองว่าเป็นชิ้นส่วนของการลงทุน ไม่ใช่แค่เสื้อผ้าแฟชั่นที่ใช้แล้วทิ้งซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปจะสูญเสียมูลค่า และนั่นเป็นส่วนหนึ่งของความน่าดึงดูดและเหตุผลสำหรับหลายๆ คนที่จะตัดสินใจซื้อ
ทั้งนี้ มีหลายเหตุผลด้วยกัน ที่เป็นข้อสันนิษฐานถึงสาเหตุที่ทางแบรนด์ มีการปรับราคาสินค้าอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากการสร้างมูลค่าของสินค้าแล้ว โดยแบ่งออกเป็นหัวข้อดังต่อไปนี้
– THE EFFECT OF THE PANDEMIC
ผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด 19 ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากแบรนด์ Chanel เป็นแบรนด์สุดหรูที่ไม่มีช่องทางการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ ซึ่งหมายความว่า ในช่วงที่เกิดวิกฤติการระบาด ร้านบูทีคไม่สามารถเปิดให้บริการได้ ยอดจำหน่ายกระเป๋าของแบรนด์ได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นักวิเคราะห์บางท่าน จึงคาดการณ์ว่า การปรับราคาสินค้าขึ้นของ Chanel อาจสืบเนื่องมาจากผลกระทบของวิกฤติดังกล่าว และเป็นหนทางหนึ่งในการนำเงินที่สูญเสียไปจากการระบาดใหญ่กลับคืนมา
ปัจจัยขับเคลื่อนหลักในช่วงการแพร่ระบาดก็คือวิกฤตด้านอุปทาน ซึ่งส่งผลให้บ้านสินค้าฟุ่มเฟือยต้องปิดโรงงานในช่วงล็อกดาวน์และปกป้องกำไรจากต้นทุนวัตถุดิบและการขนส่งที่เพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับผู้ผลิตทุกราย ชาแนลต้องสอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อทั่วโลก ด้วยขุมพลังของฝรั่งเศสที่จัดชุดทักษะทางช่างฝีมือผู้เชี่ยวชาญเพื่อประดิษฐ์กระเป๋าที่สมบูรณ์แบบได้อย่างง่ายดาย ด้วยเหตุนี้ ราคาของกระเป๋าคลาสสิกของ Chanel จึงสอดคล้องกับการปรับขึ้นอัตราเงินเฟ้อ
– RAW MATERIALS
เฉกเฉ่นเดียวกับแบรนด์หรูอื่น ๆ DIOR แบรนด์สุดหรูในเครือฝรั่งเศส กล่าวว่า การปรับขึ้นราคาของแบรนด์ เป็นผลมาจากราคาวัตถุดิบ และค่าขนส่งที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งปัญหาเดียวกันนี้ก็ส่งผลกระทบต่อ Chanel และสินค้าฟุ่มเฟือยด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ทาง Chanel ได้ตระหนักดีถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม พวกเขาทำงานอย่างหนักเพื่อให้เหล่าบรรดากระเป๋าสุดหรูมีคุณภาพสูงสุด รวมถึงการผลิตที่เป็นไปตามมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโรงฟอกหนังในฝรั่งเศส สเปน และอิตาลี ซึ่งพวกเขากำลังใช้วิธีการผลิตที่ไม่ต้องใช้น้ำมากขึ้น
– THEIR POSITION IN THE LUXURY MARKET
เป็นข้อสันนิษฐานส่วนบุคคล ขาช้อปบางท่าน ได้แสดงความคิดเห็นถึงการปรับราคาของแบรนด์ Chanel ว่า เป็นวิธีหนึ่งที่ทางแบรนด์ต้องทำ เพื่อที่จะยกระดับตำแหน่งการแข่งขัน ในตลาดสินค้าแบรนด์เนมสุดหรู เพราะต้องการเป็นส่วนหนึ่งของโลกของ HERMES และเพื่อก้าวไปให้ไกล กว่าโลกแฟชั่นของ Gucci และ Louis Vuitton
– PRODUCTION COSTS
โฆษกของ Chanel ระบุว่า ส่วนหนึ่งของการปรับราคาขึ้นเหล่านี้ เกิดจาก ‘ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน’ เช่นเดียวกับการเปลี่ยนแปลงล่าสุดในต้นทุนการผลิตและโครงการปรับระดับที่ Chanel กำลังดำเนินการอยู่ นี่คือจุดที่พวกเขากำลังพยายามทำให้แน่ใจว่า กระเป๋าจากแบรนด์ Chanel จะราคาเท่ากันทุกที่ในโลก โดยความผันผวนเหล่านี้ จะไม่มีผลกระทบและเป็รอุปสรรคกับราคาของสินค้าของแบรนด์
– PRICE HARMONIZATION
“นโยบายการปรับราคาให้สอดคล้องกัน” หรือ “price harmonization policy” นี้เริ่มต้นขึ้นในปีค.ศ. 2015 และผลลัพธ์สุดท้ายคือราคาของกระเป๋าและกระเป๋าหรูหราไม่แตกต่างกันมากกว่า 10% ระหว่างแต่ละประเทศ Bruno Pavlovsky ประธานของ Chanel ได้อธิบายว่าราคาใหม่เหล่านี้เป็นเพราะพวกเขาต้องการให้ราคาของสินค้าให้ใกล้เคียงกันทั่วโลก
How often does Chanel increase their prices?
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Chanel ได้ทำการปรับราคาสินค้าขึ้น 2-3 ครั้งต่อปี การเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าบ่อยครั้งนั้น เกิดจากสภาวะปัจจัยทางเศรษฐกิจ ที่มีการเพิ่มขึ้นของต้นทุนการผลิต การผลิตสินค้า ที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด ทำให้อุปสงค์และอุปทานไม่สัมพันธ์กัน อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มมูลค่าของตัวสินค้า เป็นเหตุให้ทางแบรนด์ ต้องมีการปรับราคาอย่างสม่ำเสมอ เป็นกลไกหนึ่งทางการตลาด
Our Chanel Bag Top Picks
แม้ว่าแบรนด์ Chanel จะมีการปรับราคาสูงขึ้นทุกปี แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นอุปสรรคของเหล่าบรรดาแฟน ๆ ที่หลงไหลในความงามและเรื่องราวอันสุดแสนจะคลาสสิกของแบรนด์ อีกทั้งราคาขายต่อในตลาดซื้อขายแบรนด์เนมมือสองนั้น ก็เพิ่มมูลค่าด้วยเช่นกัน เราสามารถพบกระเป๋ารุ่นที่ยุติการผลิตไปแล้ว กระเป๋ารุ่นหายาก หรือแม้กระทั่งเหล่ากระเป๋า Limited Edition รุ่นต่าง ๆ ได้ในแหล่งตลาดซื้อขายมือสอง ซึ่งมีทั้งหน้าร้านและการจำหน่ายผ่านทางออนไลน์ และนี่คือกระเป๋าจาก Chanel รุ่นที่ทาง KATEXOXO ขอแนะนำ
1. CHANEL CAVIAR QUILTED MEDIUM CLASSIC FLAP
หนึ่งในกระเป๋าคลาสสิกที่ได้รับความนิยมสูงสุดของแบรนด์ การเป็นเจ้าของ Chanel Classic Flap Bag สักใบ ถือเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่ากว่าการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์หรือตลาดทองคำเสียอีก หากคุณกำลังมองหากระเป๋ารุ่นนี้ ในตลาดมือสอง ควรเลือกซื้อกับตัวแทนจำหน่ายที่สามารถเชื่อถือและตรวจสอบได้ และมาพร้อมกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่จำเป็นไม่ว่าจะเป็นถุงผ้า การ์ด หรือแม้แต่ใบรับประกัน มูลค่าของมันในตลาดมือสองอยู่ที่ $6,595 หรือเป็นเงินไทยประมาณ 231,000 บาท (ราคาแตกต่างออกไปตามวัสดุ รุ่นและสี)
2. CHANEL CALFSKIN QUILTED SMALL BOY FLAP BAG
สุดยอด Iconic Bag ตลอดกาล จะเป็นรุ่นใดไปไม่ได้นอกจาก Chanel Boy ซึ่งมาพร้อมกับสายโซ่ ที่หนา ทนทานแข็งแรง อะไหล่ที่ดูคลาสสิค และตัวล็อคที่คล้ายตัวต่อเลโก้ สายสะพายนั้นมีความยืดหยุ่นสูงอีกทั้งยังสามารถปรับความสั้นยาวได้ตามต้องการ โดยสามารถใช้เป็นกระเป๋าสะพายข้างหรือเป็นกระเป๋า Crossbody ก็เก๋ไก๋ไม่แพ้กัน
เป็นกระเป๋าที่ผสมผสานทั้งความเป็นผู้ชายและผู้หญิงเข้าด้วยกันอย่างลงตัว อีกทั้งยังมีคอลเลกชั่นใหม่ๆ ออกมาตลอดทุกซีซั่น นี่คือคำตอบว่า ทำไม กระเป๋า Boy จึงเป็นกระเป๋าที่หลายต่อหลายคนใฝ่ฝันอยากมีไว้ในครอบครอง ราคาจำหน่ายของกระเป๋ารุ่นนี้อยู่ที่ประมาณ $4,040 หรือประมาณ 142,000 บาท และมูลค่าของมันในตลาดซื้อขายมือสองอยู่ที่ $3,460 หรือประมาณ 121,000 บาท (ราคาแตกต่างออกไปตามวัสดุ รุ่นและสี)
3. CHANEL CAVIAR QUILTED MINI COCO HANDLE BAG
เปิดตัวครั้งแรกในปี ค.ศ. 2015 ในงานแฟชั่นโชว์ Fall / Winter 2015 collection และขึ้นแท่นเป็น IT-Bag ของแบรนด์ในทันที ด้วยรูปทรงที่สะท้อนถึงความเป็นหญิงสาวที่มีความทันสมัย เข้าถึงง่ายและสง่างาม เป็นส่วนผสมที่ลงตัวที่ทำให้ Coco Handle Bag เป็นหนึ่งในผลงานอันทรงคุณค่า ที่แฟน ๆ Chanel ต่างพากันหมายปอง นั่นทำให้มูลค่าของกระเป๋ารุ่นนี้ ในตลาดซื้อขายมือสองอยู่ที่ $5,650 หรือเป็นเงินไทยประมาณ 199,000 บาท
การปรับราคาของ Chanel ถือได้ว่าเป็นกลยุทธ์ที่สร้างความเอ๊กคลูซีฟให้กับแบรนด์ แบบเดียวกับที่แบรนด์ Hermes ทำสำเร็จ โดยการผลิตจำนวนน้อย ในขณะที่ความต้องการของตลาดมีมาก ในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว Chanel เพิ่งออกกฎให้ลูกค้าซื้อกระเป๋ารุ่นยอดนิยมได้เพียง 1 ใบต่อปี เช่นรุ่น Classic Flap และ Coco Handle เพื่อป้องกันการนำไปขายต่อ หรือการซื้อไปเพื่อเก็งกำไร แต่กลับกลายเป็นว่ายิ่งทำให้ราคากระเป๋า Chanel ในตลาดกระเป๋ามือสองมีราคาสูงขึ้นและกลายเป็นที่ต้องการมากขึ้นไปอีก
กล่าวได้ว่า การได้เป็นเจ้าของกระเป๋า Chanel เปรียบเสมือนการได้เป็นเจ้าของสินทรัพย์อันมีค่า ซึ่งคุ้มค่าแก่การลงทุน ซึ่งนอกจากจะสามารถใช้งานได้ในชีวิตประจำวันแล้ว ยังเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าเพิ่มปีละ 8-12% อีกด้วย คาดการณ์ว่า การปรับราคาขึ้นของสินค้าจากแฟชั่นเฮ้าส์ Chanel Price Increases 2022 จะเกิดขึ้นอีกครั้งในเดือนกรกฎาคม ปี 2022 เหล่าบรรดาสาวกของแบรนด์ Chanel ต้องไม่พลาดที่จะจับตามองในการปรับราคาครั้งต่อไปของแบรนด์สุดยิ่งใหญ่แห่งโลกแฟชั่น แบรนด์นี้
รัก
xoxo