Chanel J12-20 คือ นาฬิกาที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้น เพื่อเป็นเกียรติและเฉลิมฉลองนาฬิกาในตำนานอย่าง J12 ที่มีอายุครบรอบ 20 ปี ในปี ค.ศ. 2020 นี้ นาฬิกาที่มีการเปลี่ยนแปลง ให้เข้ากับยุคสมัยอยู่เสมอ โดยไม่เสียความเป็นตัวตน นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2000 เป็นต้นมา ถือได้ว่า J12 เป็นหนึ่งในรุ่นปฏิวัติโลกของการผลิตนาฬิกาสุดหรู และมีชื่อเสียงยาวนานคงทนเหมือนดั่งวัสดุเซรามิคชนิดพิเศษ ที่เป็นวัสดุหลักของนาฬิการุ่นนี้ ความพิเศษของนาฬิการุ่นนี้จะมีอะไรบ้าง เราจะพาคุณติดตามได้จากบทความนี้
Chanel J12-20 The Watch for 21 Century
J12 ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบ มาจากซิลลูเอตของเรือยอชต์ (Silhouettes of Racing Yachts) ที่ลงแข่งใน ดิ อเมริกาคัพ (The America’s Cup) นาฬิกาที่ถูกสร้างสรรค์ครั้งแรกเมื่อ 2 ทศวรรษก่อน เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ในการผลิตนาฬิกาของยุคศตวรรษที่ 21
จากจุดเริ่มต้นที่นาฬิการุ่น J12 ได้เปลี่ยน “วัสดุเซรามิค” ให้กลายเป็นวัสดุที่มีค่า เปลี่ยนประวัติศาสตร์หน้าใหม่แห่งวงการผลิตนาฬิกาสำหรับผู้หญิงที่มีมาร่วมกว่า 200 ปีไปอย่างสิ้นเชิง ซึ่ง J12 ได้กลายมาเป็นนาฬิกาที่ทำจากวัสดุเซรามิค ที่ได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักมากที่สุด อีกทั้งยังขายดีที่สุดในตลาดสินค้าหรูหราในฝรั่งเศสอีกด้วย
ในปีนี้ J12 ได้เผยโฉมนาฬิการุ่นล่าสุด ภายใต้ชื่อ “J12-20” ตัวเรือนผลิตจากวัสดุเซรามิกความทนทานสูงสีขาวและเหล็กสตีล ประดับแถบชุบโรเมียม มีจำหน่ายทั้งขนาดหน้าปัด 33 และ 38 มิลลิเมตร แต่ละขนาด ทำออกมาจำนวนจำกัดเพียงแค่ 2,020 เรือนเท่านั้น! โดยมีการสลักคำว่า “20 YEARS. LIMITED TO 2020” เอาไว้ ที่ด้านหลังของตัวเรือน ซึ่งผนึกด้วยวัสดุคริสตัลแซพไฟร์แบบใสสำหรับรุ่น 38 มิลลิเมตร และแบบผนึกด้วยสแตนเลส-สตีลแบบทึบ สำหรับรุ่น 33 มิลลิเมตร
หน้าปัดเป็นกรอบเหล็กที่สามารถหมุนได้ทิศทางเดียว สร้างสรรค์ลายบนหน้าปัดด้วยเส้นสีเงินจากแผ่นโรเดียม เป็นลวดลายบนหน้าปัดเคลือบสีขาว โดยลวดลายเหล่านี้ คล้ายลวดลายจากภาพวาดแบบ Doodle (ดู้ดเดิ้ล) คือ “การขีดเขียนลายเส้นโดยไม่ยกมือ” อันแสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์และตัวตนความเป็น CHANEL ไว้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น ขวดน้ำหอม N°5 อันเลื่องชื่อ ดอกคาร์มิเลีย กระเป๋ารุ่น 2.55 ในตำนาน หรือแม้กระทั่งเสื้อแจ็คเก็ตผ้าทวีต ซึ่งเป็น Code and Symbols อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ถึง 20 ชิ้นด้วยกัน หน้าปัดเคลือบแลคเกอร์สีขาวประดับเพชรทั้งหมด 12 เม็ด (~0.03 กะรัต)
ตัวเม็ดมะยมเหล็กแบบขันเกลียว ประดับด้วยเซรามิกความทนทานสูง สายรัดข้อมือก็ทำจากวัสดุเดียวกัน พร้อมด้วยหัวล็อคเหล็กแบบพับทบ 3 ชั้น สำหรับรุ่นหน้าปัดขนาด 33 มิลลิเมตร มาพร้อมกับระบบกลไกแบบควอตช์ (Quartz) ที่มีความแม่นยำสูง อีกทั้งคุณสมบัติกันน้ำได้ถึง 200 เมตร
ความพิเศษยังไม่หยุดเพียงเท่านี้ สำหรับรุ่นหน้าปัดขนาด 38 มิลลิเมตร โดดเด่นด้วยระบบกลไกการทำงานที่เรียกว่า คาลิเบอร์ 12.1 (Calibre 12.1) อันเป็นกลไกไขลานอัตโนมัติ (Automatic) ซึ่งได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นอย่างเป็นพิเศษสำหรับ CHANEL โดยเฉพาะ มีพลังงานสำรองอยู่ที่ 70 ชั่วโมง
J12.20 Enamel
นอกจากรุ่นปกติแล้ว ยังมีรุ่นพิเศษที่เรียกว่า J12.20 Enamel ซึ่งมาพร้อมกับขนาดของหน้าปัดที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางอยู่ที่ 38 มิลลิเมตร ความพิเศษอยู่ที่ ผลิตออกมาเพียงแค่ 5 เรือนเท่านั้น! สิ่งที่แตกต่างไปจากรุ่นปกติ คือ ลวดลายเอกลักษณ์ของ CHANEL ที่กระจายอยู่โดยรอบทั้งภายในและภายนอกพื้นที่หน้าปัด ทั้งตัวเรือนรวมถึงหน้าปัด ทำจากวัสดุทองคำขาวเคลือบอีนาเมล (Enamel) ซึ่งถือว่าเป็นตัวแทนของการผลิตนาฬิกาชั้นสูง ผลิตออกมาทั้งสีดำและสีขาว แตกต่างจากรุ่น J12.20 ธรรมดา ซึ่งผลิตออกมาเพียงสีขาวเท่านั้น
หน้าปัดมีการประดับด้วยเพชรเจียระไนจำนวนทั้งสิ้น 20 เม็ด ตัวเม็ดมะยมประดับด้วยเพชรและทองคำขาวขนาด 18K และเช่นเดียวกับรุ่นปกติ สายข้อมือ ผลิตจากวัสดุเซรามิกที่มีความทนทานสูง แต่หัวล็อคเหล็กแบบพับทบ 3 ชั้นจะทำจากทองคำขาว 18K ความพิเศษอีกอย่างหนึ่งสำหรับนาฬิการุ่นนี้ คือ ใช้ระบบกลไกไขลานอัตโนมัติ คาลิเบอร์ 12.1 (Calibre 12.1) มีสีดำ วงแหวนล้อมรอบป้องกันการสั่นสะเทือน ประดับด้วยเพชรเจียระไน ถึง 34 เม็ดด้วยกัน ด้านหลังสลักคำว่า “20 YEARS . N° 1/5” ซึ่งมีความหมาย คือ เป็น 1 ใน 5 เรือนที่ผลิตออกมานั่นเอง
Jacques Helleu ผู้กำกับฝ่ายศิลป์ของ CHANEL ในขณะนั้น เป็นผู้สร้างสรรค์ผลงานชิ้นนี้ขึ้นมา เพื่อสนองความต้องการของเขาในด้านของการออกแบบ ซึ่งเขาต้องการนาฬิกาที่สวยและสมบูรณ์แบบ อีกทั้งไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน ซึ่งสิ่งที่เขาสร้างขึ้นมานั้น มันไม่ได้เป็นการสร้างนาฬิกาข้อมือธรรมดา ๆ เพียงอย่างเดียว แต่มันคือการสร้างตำนานบทใหม่ของนาฬิกาแห่งศตวรรษใหม่อีกด้วย สำหรับราคาจำหน่ายของนาฬิกาขนาด ขนาด 33 มิลลิเมตร มีจำหน่ายอยู่ที่ราคา 208,000 บาท และขนาด 38 มิลลิเมตร อยู่ที่ 259,000 บาท
CHANEL J12 ได้ถูกรับเลือกเข้าประกวดในหมวดหมู่นาฬิกาสำหรับสุภาพสตรี ในงาน Grand Prix d’Horlogerie de Genève ประจำปี ค.ศ. 2019 และสามารถคว้ารางวัลมาได้ เป็นเวลาสองทศวรรษแล้ว นับตั้งแต่นาฬิกา J12 ถือกำเนิดขึ้น โดยได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัยขึ้นแต่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของมันไว้ เพื่อให้ได้ภาพกราฟิกที่คมชัดยิ่งขึ้น ตัวเลขได้รับการออกแบบใหม่ ปุ่มหมุนที่ได้รับการปรับปรุงนั้นมีขนาดใหญ่กว่าเดิมขอบตัวเรือนและเม็ดมะยมที่ละเอียดยิ่งขึ้น อีกทั้งระบบกลไก Calibre 12.1 ซึ่งผลิตเพื่อ CHANEL โดยเฉพาะเท่านั้น
และทั้งหมดนี้คือ 20 ปี แห่งความสำเร็จ 20 ปี แห่งการเดินทางของนาฬิกา J12 การเดินทางเพื่อผลิตนาฬิกาสุดหรูหรา และไม่เหมือนใคร ซึ่งยากจะมีใครมาเทียบ 20 ปี ของการเป็นเพื่อนร่วมเดินทางในทุกวินาที ความพิเศษและหรูหราที่ไม่มีวันเสื่อมคลาย จาก CHANEL ตำนานที่ไม่มีวันตาย
รัก
xoxo