Chanel Grand Shopping Tote หรืออีกชื่อเรียกที่คุ้นหู “GST” ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้รุ่น Classic Flap Bag ชื่อเสียงของใบนี้เริ่มต้นจากประเทศสหรัฐอเมริกา แผ่กระจายจนมาถึงฝั่งยุโรป แอฟริกา จีน และญี่ปุ่น เป็นกระเป๋าที่แสดงออกถึงความเป็น Chanel อย่างเต็มเปี่ยม เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งกระเป๋าทรง Tote สุดฮอตที่หลายๆ คนฝันจะได้ครอบครองเป็นเจ้าของ วันนี้เราจะมาเจาะลึก Anatomy ของกระเป๋าที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งใน It-Bag อันขึ้นชื่อของชาแนล ว่าประกอบด้วยชิ้นส่วนสำคัญอะไรบ้าง

 

Front Design : ด้านหน้าของกระเป๋า

• Hardwear : อะไหล่ของกระเป๋ามีทั้งอะไหล่ทองและอะไหล่เงิน (Gold and Silver Hardwear)
• Material : วัสดุที่ใช้ตัดเย็บกระเป๋าที่ได้รับความนิยม คือ หนังแกะ (Lambskin) และ Caviar หรือ หนังลูกวัว (Grained Calfskin)
• Color : กระเป๋ารุ่นนี้มีสีให้เลือกหลากหลาย เช่น สีดำ (Classic Black), สีแดง (Quilted Red, สีเบจ (Beige, สีขาว (Chalk White, สีน้ำเงิน (Blue, สีเหลือง (Yellow) และ สีเทา (Gray)
• Leather Interwoven Chain : การร้อยสายหนังระหว่างข้อต่อของโซ่สายสะพาย มีที่รองบ่าทำจากวัสดุเดียวกับตัวกระเป๋า
• The Logo : สัญญลักษณ์ CC ไขว้ขนาดใหญ่ ที่ออกแบบโดย คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ (Karl Lagerfeld) ในปี ค.ศ. 1980

 

Inside Design : ด้านในของกระเป๋า

• The Bag Inside : ด้านในบุด้วยวัสดุผ้าซาติน (Satin) สีของผ้าบุภายในอาจมีสีคล้ายหรือแตกต่างจากกับวัสดุทำกระเป๋าด้านนอก ขึ้นอยู่กับรุ่น สี และประเทศที่จำหน่าย ภายในกระเป๋ามีช่องใส่ของขนาดใหญ่ 2 ช่อง และถูกคั่นกลางด้วยช่องซิปขนาดใหญ่ 1 ช่อง ในช่องใส่ของช่องที่ 1 จะมีช่องซิปขนาดเล็กเย็บติดอยู่ผนังกระเป๋า ช่องเก็บของช่องที่ 2 จะมีช่องแบบเปิดกว้างไม่มีซิป (ในรุ่น XL จะเพิ่มช่องสำหรับใส่โทรศัพท์เพิ่มอีก 1 ช่องข้างๆ กัน)
• Heat Stamp : ตราประทับ “CHANEL / MADE IN ITALY” ปั๊มอยู่บนแผ่นหนัง ซึ่งเย็บติดอยู่ด้านใต้ของช่องซิปขนาดเล็ก ภายในกระเป๋า
• Serial Number : รหัสของกระเป๋า Serial Number เป็นสติ๊กเกอร์ซึ่งติดอยู่บนแผ่นหนังเล็กๆ เย็บติดอยู่ช่วงก้นของกระเป๋าด้านใน
• The Zipperd : หัวซิปมีตราปั๊มด้านหนึ่งระบุว่า “CHANEL” อีกด้านหนึ่งเป็นอักษร CC ไขว้
• Strap with Key Hook : สายหนังที่ถูกเย็บติดไว้กับกระเป๋า ตรงส่วนปลายมีตะขอ ไว้สำหรับคล้องพวงกุญแจ หรือวัสดุอื่นๆเพื่อความสะดวกในการใช้งานซิป

 

Back Design : ด้านหลังของกระเป๋า

• Hardwear : อะไหล่วงกลม เป็นช่องสำหรับคล้องสายโซ่สะพายไหล่ สลักคำว่า “31 RUE CAMBON / PARIS / CHANEL” โดยมีทั้งอะไหล่ที่เป็นสีเงินและสีทอง (Silver or Gold Hardwear)
• Diamond-Patterned : การตัดเย็บเป็นลายข้าวหลามตัด รอยต่อของลายแต่ละลาย จะต้องบรรจบพอดีกันโดยตลอด
• The Back : ช่องเก็บเอกสารด้านหลังของกระเป๋า ออกแบบโดย Coco Chanel ได้แรงบันดาลใจจากรอยยิ้มของ โมนา ลิซ่า (Mona Lisa)

 

Side Design : ด้านข้างของกระเป๋า

• The Part of Side : ดีไซน์เรียบง่าย โครงสร้างด้านข้าง ความห่างที่มีระยะเท่ากัน เพิ่มความแข็งแรงและทรงตัวของรูปร่างกระเป๋า
• The Shape : รูปทรงของกระเป๋าจะต้องตั้งตรง ไม่บิดเบี้ยวหรือเอนไปด้านใดด้านหนึ่ง

 

Bottom Design : ด้านล่างของกระเป๋า

• The Bottom : ฐานของกระเป๋าเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ไม่มีลวดลายใดๆ (สำหรับกระเป๋ารุ่น XL จะมี Metal Feet หรือหมุดใต้กระเป๋าทั้งหมด 4 ด้าน)
• Stitching : รอยเย็บฐานกระเป๋า ซึ่งห่างจากขอบกระเป๋าประมาณ 1 นิ้ว เพื่อความแข็งแรงและเป็นหลักในการขึ้นทรงรูปร่างของกระเป๋า

 

Size of Chanel Grand Shopping Tote : ขนาดของกระเป๋า

• PST (Petit Shopping Tote) : 24 x 25.5 x 9 เซนติเมตร (9.25 x 9.5 x 3.25 นิ้ว)
• GST (Grand Shopping Tote) : 25.5 x 33 x 13.5 เซนติเมตร (10 x 13 x 5.25 นิ้ว)
• XL (Extra Large) : 26 x 40 x 15 เซนติเมตร (10.5 x 16 x 6 นิ้ว)

ปัจจุบัน แม้ว่า Chanel Grand Shopping Tote จะยกเลิกการผลิตกระเป๋าทุกขนาดมาตั้งแต่ ค.ศ. 2015 แล้วก็ตาม แต่ความนิยมในกระเป๋ารุ่นนี้ก็ยังคงไม่เสื่อมคลาย ทั้งยังคงเป็นที่ต้องการอย่างต่อเนื่องสำหรับนักสะสม ผู้หลงไหลในเสน่ห์ของแฟชั่นอมตะของแบรนด์ Chanel ซึ่งรักษาความสมดุลระหว่างแฟชั่นและการใช้งานที่เข้ากันได้อย่างลงตัว ความสวยงามที่คงไว้ซึ่งความคลาสสิคตลอดกาล ดั่งเพชรน้ำงามที่คุณค่าไม่เคยจางหายไปตามกาลเวลา

รัก
xoxo