To top
20 Feb

Chanel Bag กับ 10 อันดับกระเป๋ายอดนิยมตลอดกาล

Chanel Bag ถือได้ว่าเป็นที่สุดของ ITEM ที่สาวๆ หลายคนปรารถนาอยากได้มาครอบครอง เมื่อกล่าวถึงแบรนด์คลาสสิคระดับโลกอย่าง Chanel แล้ว แน่นอนว่าคงเป็นแบรนด์อันดับต้นๆ ที่หลายๆ คนนึกถึง ด้วยดีไซน์กระเป๋าที่หรูหรามีระดับ รวมถึงชื่อเสียงที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน

นอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องความหรูหรา สวยงามแล้ว ยังคงเป็นของที่มีคุณค่า ที่เมื่อเก็บไว้นานวันยังสามารถเพิ่มมูลค่าในตัวได้อีก ในบทความนี้จะนำเสนอกระเป๋า 10 รุ่นยอดนิยมจาก Chanel ที่ขึ้นชื่อว่าหายากและได้รับความนิยมอย่างสูงจนติดอันดับกระเป๋ายอดฮิตตลอดกาล จะมีรุ่นไหนบ้างนั้น ตามมาเลยค่ะ                                                     

Chanel Classic Flap

Chanel Classic Flap Bag กระเป๋ารุ่นคลาสสิค ซึ่งเป็นที่หลงไหล และใฝ่ฝันของสาวๆ มาทุกยุคทุกสมัย กับดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ หรูหรา โดยได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากกระเป๋ารุ่น Chanel 2.55 ถูกนำมาดีไซน์ใหม่ในปี ค.ศ. 1983 โดย คาร์ล ลาเกอร์เฟล (Karl Lagerfeld) มีการดัดแปลงตัวล็อคแบบใหม่เป็นรูปตัว C ไขว้ หรือที่เรียกว่า CC turn-lock ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ อันเป็นเอกลักษณ์ที่ทั่วโลกยอมรับ

chanel classic flap bag

Classic Flap Bag มีการพัฒนาดีไซน์และรูปลักษณ์ใหม่ๆ ออกมาเป็น Seasonal ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวัสดุหนัง สีสีน อะไหล่ Hardwear ที่มีออกมาหลากหลาย การเปลี่ยนแปลงให้ทันยุคทันสมัยนี้ เป็นการสร้างความตื่นเต้นให้กับเหล่าสาวกแฟชั่นไม่น้อย ทำให้ Classic Flap ขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในกระเป๋ายอดฮิต ที่สาวๆ ใฝ่ฝันอยากได้มาครอบครองมากที่สุด ในปัจจุบัน Chanel Classic Flap มีด้วยกันทั้งหมด 4 ขนาด โดยมีขนาดดังต่อไปนี้

  • Small : 23 x 14 x 6.5 เซนติเมตร (9.3 x 5.7 x 2.6 นิ้ว) ราคาปัจจุบันอยู่ที่ US$3,500 หรือประมาณ 113,939 บาท
  • Medium : 25 x 18 x 7.5 เซนติเมตร (10 x 6.3 x 3 นิ้ว) ราคาปัจจุบันอยู่ที่ US$5,800 หรือประมาณ 188,814 บาท
  • Jumbo : 30 x 21 x 10 เซนติเมตร (11.8 x 7.9 x 3.9 นิ้ว) ราคาปัจจุบันอยู่ที่ US$6,400 หรือประมาณ 208,346 บาท
  • Maxi : 33 x 58 x 10 เซนติเมตร (13.4 x 9.1 x 3.9 นิ้ว) ราคาปัจจุบันอยู่ที่ US$6,900 หรือประมาณ 224,623 บาท

 

Chanel 2.55

อีกหนึ่งกระเป๋าระดับตำนาน ซึ่งหากเป็นผู้หลงไหลในประวัติศาสตร์และเป็นเหล่าสาวกชาแนลด้วยแล้วนั้น น้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก Chanel 2.55 กระเป๋ารุ่นนี้ได้รับการออกแบบครั้งแรก เมื่อปี ค.ศ. 1929 โดย กาเบรียล บอนเนอร์ ชาแนล (Gabrielle Bonheur Chanel) หรือ โคโค่ ชาแนล ผู้ก่อตั้งแบรนด์ ลักษณะเป็นกระเป๋าถือที่ทำจากหนัง มีลายข้าวหลามตัด

Chanel 2.55 ออกจำหน่ายครั้งแรก เมื่อปี ค.ศ. 1955 เดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อรุ่น “2.55” ต่อมาในปี ค.ศ. 2005 ซึ่งเป็นปีที่กระเป๋ารุ่นนี้มีอายุครบรอบ 50 ปี คาร์ล ลาเกอร์เฟล (Karl Lagerfeld) ได้ทำการดัดแปลงรายละเอียดเล็กน้อยจากรุ่นดั้งเดิม โดยเพิ่มคำว่า “Reissue” เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองให้กับกระเป๋ารุ่นประวัติศาสตร์รุ่นนี้

Chanel 2.55

ปัจจุบัน กระเป๋ารุ่น Chanel 2.55 มีทั้งหมด 4 ขนาด โดยมีชื่อเรียกแต่ละรุ่นเป็นตัวเลข ซึ่งมีขนาดดังต่อไปนี้

  • Reissue224 : 20 x 14.5 x 7.5 เซนติเมตร (5.7 x 7.9 x 3 นิ้ว) ราคาปัจจุบันอยู่ที่ US$5,200 หรือประมาณ 169,280 บาท
  • Reissue225 : 20 x 14.5 x 7.5 เซนติเมตร (6.3 x 9.4 x 3 นิ้ว) ราคาปัจจุบันอยู่ที่ US$5,600 หรือประมาณ 182,296 บาท
  • Reissue226 : 28 x 19 x 6 เซนติเมตร (6.7 x 11 x 3.3 นิ้ว) ราคาปัจจุบันอยู่ที่ US$6,200 หรือประมาณ 201,827 บาท
  • Reissue227 : 31.5 x 20 x 10 เซนติเมตร (7.5 x 12.6 x 3.7 นิ้ว) ราคาปัจจุบันอยู่ที่ US$6,700 หรือประมาณ 218,104 บาท

Chanel 2.55 Reissue ได้กลายเป็นซิกเนเจอร์อีกชิ้นหนึ่งของแบรนด์ชาแนล ที่เหล่าบรรดาสาวๆ ทั่วโลกต่างก็อยากมีไว้กันในครอบครองแทบทั้งสิ้น เป็นกระเป๋าสุดหรู ที่รวบรวมทั้ง ความงาม คุณค่า แรงบันดาลใจ และยังคงชื่อเสียงไว้ มาจนถึงปัจจุบัน

 

Chanel Boy

Chanel Boy กระเป๋าที่กลายเป็น Iconic Bag และได้รับความสนใจจากโลกแฟชั่นในทันที หลังจากการเปิดตัวไม่นานนัก ในงานแฟชั่นโชว์ Fall/Winter Ready-To-Wear Collection ของ Chanel ในปี ค.ศ. 2011 ด้วยรูปทรงคลาสสิค สะกดทุกสายตาตั้งแต่แรกเห็น ดีไซน์โดย คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ (Karl Lagerfeld) ได้รับแรงบันดาลใจมาจากกระเป๋าใส่กระสุนปืนของนักล่าสัตว์ โดยใน 1 ปี ทาง Chanel จะนำเสนอกระเป๋า Chanel Boy ในรูปแบบใหม่ๆ ทั้งดีไซน์ สไตล์ และวัสดุที่ใช้ตัดเย็บกระเป๋า มากถึง 4 ครั้งด้วยกัน

Chanel Boy เป็นกระเป๋าสไตล์โมเดิร์นที่ฉีกออกจากกรอบความคลาสสิคของชาแนล ตัวกระเป๋าทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า สายสะพายโซ่ที่มีขนาดกว้าง ตัวอะไหล่ที่ออกแบบมาให้ดูแข็งแรง ตัวล็อคที่ออกแบบมาละม้ายคล้ายตัวต่อเลโก้ แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของ Chanel ในการถ่ายทอดความทันสมัย หรูหรา แต่แฝงไปด้วยความทะมัดทะแมง เป็นกระเป๋าที่ผสมผสานทั้งความเป็นผู้ชายและผู้หญิงเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ทำให้ Chanel Boy ขึ้นแท่นอันดับหนึ่งกระเป๋าแบรนด์เนมสุดฮิต ที่สาวๆ หลายคนหวังที่จะได้ครอบครอง

ปัจจุบัน Chanel Boy มีจำหน่ายอยู่ 4 ขนาดด้วยกัน โดยมีขนาดดังต่อไปนี้

  • Small : 20 x 12 x 8 เซนติเมตร (7.9 x 4.7 x 3.1 นิ้ว) ราคาปัจจุบันอยู่ที่ US$4,600 หรือประมาณ 149,744 บาท
  • Medium : 25 x 15 x 9 เซนติเมตร (9.8 x 5.9 x 3.5 นิ้ว) ราคาปัจจุบันอยู่ที่ US$5,000 หรือประมาณ 162,765 บาท
  • New Medium : 28 x 18 x 9 เซนติเมตร (11 x 7 x 3.5 นิ้ว) ราคาปัจจุบันอยู่ที่ US$5,500 หรือประมาณ 179,042 บาท
  • Large : 30 x 21 x 10 เซนติเมตร (11.8 x 8.3 x 3.9 นิ้ว) ราคาปัจจุบันอยู่ที่ US$5,500 (ราคาอ้างอิงเมื่อปีค.ศ.2018) หรือประมาณ 179,042 บาท

 

Chanel Grand Shopping Tote

Chanel Grand Shopping Tote หรืออีกชื่อเรียกที่คุ้นหู “GST” ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้รุ่น Classic Flap ชื่อเสียงของใบนี้เริ่มต้นจากประเทศสหรัฐอเมริกา แผ่กระจายจนมาถึงฝั่งยุโรป แอฟริกา จีน และญี่ปุ่น เป็นกระเป๋าที่แสดงออกถึงความเป็น Chanel อย่างเต็มเปี่ยม เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งกระเป๋าทรง Tote สุดฮอตที่หลายๆ คนฝันจะได้ครอบครองเป็นเจ้าของ

Chanel Grand Shopping Tote

ดีไซน์กระเป๋ารูปทรงสี่เหลี่ยม พร้อมด้วยลาย Diamond Pattern หรือลายข้าวหลามตัดอันเป็นเอกลักณ์ มาพร้อมกับสายสะพายโซ่ ด้านในตัดเย็บจากวัสดุผ้าชั้นดี ภายในกว้างขวาง ด้านหลังของกระเป๋ามีช่องเล็กสำหรับใส่ของเพื่อความสะดวกสบายในการหยิบจับใช้สอย มีด้วยกัน 3 ขนาดคือ

  • ขนาดเล็ก PST (Petit Shopping Tote) : 24 x 25.5 x 9 เซนติเมตร (9.25 x 9.5 x 3.25 นิ้ว)
  • ขนาดกลาง GST (Grand Shopping Tote) : 25.5 x 33 x 13.5 เซนติเมตร (10 x 13 x 5.25 นิ้ว)
  • ขนาดใหญ่ XL (Extra Large) : 26 x 40 x 15 เซนติเมตร (10.5 x 16 x 6 นิ้ว)

ปัจจุบัน Chanel Grand Shopping Tote ยกเลิกการผลิตกระเป๋าทุกขนาดมาตั้งแต่ ค.ศ. 2015 ราคาของกระเป๋าแต่ละ Size ในตลาดซื้อขายมือ 2 จะแตกต่างกันออกไปโดยขึ้นอยู่กับสภาพของกระเป๋า แต่กระนั้นความนิยมในกระเป๋ารุ่นนี้ก็ยังคงไม่เสื่อมคลาย ทั้งยังคงเป็นที่ต้องการอย่างต่อเนื่องสำหรับนักสะสม ผู้หลงไหลในเสน่ห์ของแฟชั่นอมตะของแบรนด์ Chanel ซึ่งรักษาความสมดุลระหว่างแฟชั่นและการใช้งานที่เข้ากันได้อย่างลงตัว ความสวยงามที่คงไว้ซึ่งความคลาสสิคตลอดกาล

 

Chanel Gabrielle

Chanel Gabreille เปิดตัวครั้งแรกช่วง Spring/Summer ในปี ค.ศ. 2017 เป็นอีกหนึ่ง It Bag ที่เป็นที่นิยมของเหล่าเซเลปบริตี้ไม่น้อย ชื่อของกระเป๋ามีที่มาจากชื่อของผู้ก่อตั้งแบรนด์ “Gabreille Chanel” จุดเด่นของกระเป๋ารุ่นนี้ คือความสวยงาม โดดเด่นของสายสะพายหนังที่มีการประดับโซ่โลหะคู่ในเฉดสีทองและสีเงิน การตัดเย็บลวดลายบนหนังเป็นรูปข้าวหลามตัดอันถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ อีกทั้งยังเพิ่มการห้อยอะไหล่ตัวอักษร CC ขนาดเล็กไว้ตรงซิป ที่สื่อถึงความหรูหราและความน่ารักในเวลาเดียวกัน

Chanel Gabreille

การตกแต่งอันปราณีต ดีไซน์เป็นกระเป๋าถือแบบรูดซิปด้านบน สายสะพายมีโลโก้ CHANEL อันสะดุดตา รูปทรงที่เพรียวบาง บนฐานที่มั่นคง ด้วยดีไซน์ที่สะท้อนถึงความขบทและความแตกต่างที่เป็นดั่งจิตวัญญาณของ Gabreille Chanel ตัวกระเป๋ามีความยืดหยุ่นสูง สามารถใช้งานได้ง่าย และปรับเปลี่ยนการสะพายได้หลายรูปแบบ จึงกลายเป็นกระเป๋าใบเด่นที่ความนิยมไม่ได้จำกัดแค่กลุ่มผู้หญิงเท่านั้น แต่ความต้องการที่มียังคงแรงต่อเนื่องไปยังกลุ่มผู้ชายด้วยเช่นกัน

สำหรับกระเป๋ารุ่น Gabrielle นั้น แบ่งออกเป็น 3 ขนาดด้วยกัน ดังนี้

  • Small Hobo : 15 x 20 x 8 เซนติเมตร (5.9 x 7.8 x 3.1 นิ้ว) ราคาปัจจุบันอยู่ที่ US$3,900 หรือประมาณ 126,956 บาท
  • Hobo Bag : 20 x 27 x 8 เซนติเมตร (7.8 x 10.6 x 3.1 นิ้ว) ราคาปัจจุบันอยู่ที่ US$4,500 หรือประมาณ 146,487 บาท
  • Large Hobo : 21 x 38 x 10 เซนติเมตร (8.2 x 14.9 x 3.9 นิ้ว) ราคาปัจจุบันอยู่ที่ US$4,800 หรือประมาณ 156,353 บาท

 

Chanel Wallet on Chain

Chanel Wallet on Chain หรือ ชื่อเรียก Chanel WOC ที่คุ้นหู มาในรูปแบบของกระเป๋าสตางค์ที่มีสายสะพาย อีกหนึ่งกระเป๋ารุ่นยอดนิยมที่สาวกชาแนลไม่ควรพลาด ด้วยขนาดกระทัดรัดแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยประโยชน์ใช้สอย มีการดีไซน์ออกมาในหลายๆ รุ่นด้วยกัน ทั้งรุ่น Classic รุ่น Boy รุ่นในตำนานอย่าง 2.55 หรือแม้กระทั่ง It Bag รุ่นล่าสุด Chanel 19 ด้วยวัสดุและสีสันที่หลากหลาย

นอกเหนือจากการออกแบบที่เน้นความสะดวกสบายแล้ว Chanel Wallet on Chain ยังเปรียบเสมือนเครื่องประดับอีกด้วย โดยสายสะพายที่สามารถปรับใช้ได้หลายลุค เป็นกระเป๋าสตางค์เก๋ๆ ใช้ในชีวิตประจำวัน เก็บสายทั้งหมดเพื่อเป็นคลัชเอาไว้ออกงานก็หรูหราไม่น้อย สะพายสายคู่ขึ้นบ่า หรือเวลาอยากเท่ก็สะพายเป็น Crossbody ก็ดูทะมัดทะแมง ขนาดเล็กกระทัดรัด ภายในมีช่องจัดระเบียบของอย่างดี เป็นกระเป๋าที่ใช้ได้ทุกวันและเข้ากันได้กับทุกสไตล์การแต่งตัว

สำหรับขนาดของ Wallet On Chain มีเพียงขนาดเดียว แต่มีการดีไซน์ออกมาเป็น Seasonal ซึ่งอาจมีขนาดแตกต่างกันไปเพียงเล็กน้อย ขนาดของรุ่นปกติคือ 12.3 x 19.2 x 3.5 เซนติเมตร (7.5 x 5 x 1.5 นิ้ว) โดยมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ US$2,700 หรือประมาณ 87,893 บาท นับว่าเป็นกระเป๋าที่ตอบโจทย์สาวๆ ที่ต้องการความคล่องตัวได้เป็นอย่างดี เป็นสุดยอด Everyday Bag อีกหนึ่งรุ่น ที่สาวๆไม่ควรพลาดมีไว้ในคอลเลกชั่น

Chanel Classic Camera Case

The Chanel Classic Camera Case ปรากฏโฉมครั้งแรกในงานแฟชั่นโชว์ The Spring Summer 2018 Collection โดยเป็นการรีดีไซน์กระเป๋า Camera Case รุ่นวินเทจ ให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น ได้รับความนิยมอย่างสูงด้วยรูปทรงและการออกแบบอันคลาสสิค ด้วยรูปร่างสี่เหลี่ยมผืนผ้าของกระเป๋า พร้อมกับลวดลาย Diamond Pattern อันเป็นเอกลักษณ์ และอะไหล่ CC ไขว้ขนาดใหญ่ตรงกลาง

Chanel Classic Camera Case

Camera Case มาในรูปแบบของกระเป๋าทรง Boxy ด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย มีช่องกระเป๋าหน้าเป็นไฮไลท์ที่ทำให้ดูแตกต่างและโดดเด่นกว่ากระเป๋ารุ่นอื่น แต่ยังคงเอกลักษณ์ความเรียบหรูของชาแนลไว้ด้วยลาย Quilt โดยวัสดุหนังที่นิยมนำมาตัดเย็บได้แก่หนังลูกวัวคาร์เวียร์และหนังแกะ รวมถึงสายโซ่สะพายร้อยหนัง สำหรับ Camera Case มีด้วยกัน 2 ขนาดคือ

  • Small : 11 x 18 x 6 เซนติเมตร (4.3 x 7.1 x 2.4 นิ้ว) ราคาปัจจุบันอยู่ที่ US$3,000 หรือประมาณ 97,660 บาท
  • Classic : 15.4 x 23 x 7.1 เซนติเมตร (6.1 x 9.1 x 2.8 นิ้ว) ราคาปัจจุบันอยู่ที่ US$3,400 หรือประมาณ 110,681 บาท

 

Chanel Coco Top Handle

Chanel Coco Top Handle หรือชื่อเรียกสั้นๆ ว่า “Coco Handle” เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 2015 ในงานแฟชั่นโชว์ Pre Fall-Winter 2015 collection และได้รับความนิยมจากเหล่าแฟชั่นนิสต้ารวมถึงเหล่าสาวกชาแนลในทันที ความสวยงามอันเป็นเอกลักษณ์ ทำให้ Handle Bag ขึ้นแท่นเป็น IT-Bag ไปอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งชื่อของกระเป๋านั้น ตั้งตามเจ้าแม่แฟชั่นตลอดกาลอย่าง Gabrielle Coco Chanel

ภาพลักษณ์ของกระเป๋า Chanel Coco Top Handle เป็นตัวแทนของหญิงสาวสมัยใหม่ที่มีความทันสมัย ความสง่างามที่สาวๆ ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง กระเป๋ารุ่นนี้ คือการผสมผสานความงามแบบดั้งเดิมกับความทันสมัยที่ลงตัวอย่างสมบูรณ์แบบ รูปทรงสี่เหลี่ยมคางหมู หูจับด้านบนอันแข็งแรง พร้อมด้วยตัวล็อค CC ไขว้ อันเป็นเอกลักษณ์ รวมทุกเสน่ห์ของ Chanel เอาไว้ในใบเดียว สมกับตำแหน่งกระเป๋ายอดนิยมที่สาวๆ ต่างอยากได้มาไว้ในครอบครอง

Coco Handle

กระเป๋ารุ่น Coco Handle มีด้วยกันทั้งหมด 4 ขนาดด้วยกัน คือ Mini, Small, Medium และ Large แต่ในปัจจุบัน ขนาด Large ไม่ค่อยเป็นที่นิยมและพบเห็นได้ยาก ใน Website หลักของ Chanel จะไม่มีรุ่น Large ปรากฏอยู่ในเว็บ และมีชื่อเรียกใน Website ต่างกันไป โดยในไซซ์ Mini ในเว๊ปจะเป็นรุ่น Small สำหรับรุ่น Small จะเป็นรุ่น Medium และในรุ่น Medium จะเป็นรุ่น Large ทั้ง 4 ไซซ์มีขนาดดังต่อไปนี้

  • Mini : 14 x 24 x 10 เซนติเมตร (5.5 x 9.4 x 3.9 นิ้ว) ราคาปัจจุบันอยู่ที่ US$3,700 หรือประมาณ 120,448 บาท
  • Small : 18 x 29 x 12 เซนติเมตร (7.1 x 11.4 x 4.7 นิ้ว) ราคาปัจจุบันอยู่ที่ US$4,000 หรือประมาณ 130,214 บาท
  • Medium : 22 x 33 x 12 เซนติเมตร (8.7 x 13 x 4.7 นิ้ว) ราคาปัจจุบันอยู่ที่ US$4,300 หรือประมาณ 139,980 บาท
  • Large : 33 x 25 x 11 เซนติเมตร (13 x 10 x 4.3 นิ้ว) สำหรับขนาด Large ในตลาดซื้อขายมือ 2 ราคาจะเริ่มต้นอยู่ที่ US$3,600 หรือประมาณ 117,192 บาท ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับ Condition ของกระเป๋า

Chanel Bi Classic Waist

Chanel Bi Classic Waist เปิดตัวครั้งแรกในงานแฟชั่นโชว์ Spring-Summer 2008 Collection กระเป๋าคาดเอวที่มีความคลาสสิคไม่แพ้กับ Classic Flap เลยทีเดียว ดีไซน์ที่ดูหรูหราเรียบง่าย ด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานที่ไม่สิ้นสุด สายสะพายโซ่ที่สามารถปรับระดับได้ นอกจากใช้คาดเอวยังสามารถสะพายบนไหล่ได้อีกด้วย ปากกระเป๋ากว้าง กระเป๋าด้านหน้าที่ตัดเย็บด้วยลายข้าวหลามตัดอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ อีกทั้งหัวซิปรูปตัว C ไขว้อันโดดเด่น

Chanel Bi Classic Waist

กระเป๋าคาดเอว (Waist Bag) เป็นอีกหนึ่งแฟชั่นวินเทจ ออกไปทางสไตล์ Street ที่ปัจจุบันได้หวนกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง การออกแบบที่เน้นความสะดวกสบาย ไม่ต้องใช้มือถือให้เกะกะ ทำให้เกิดการคล่องตัว เหมาะกับชีวิตที่เร่งรีบในปัจจุบัน นับว่าเป็น Item สุดชิคที่ช่วยเพิ่มความทันสมัย สะท้อนความเป็นแอคทีฟลุคได้เป็นอย่างดี สำหรับขนาดของกระเป๋าคือ 13.9 x 34 x 7.11 เซนติเมตร (5.5 x 13.4 x 2.8 นิ้ว) ราคาปัจจุบันอยู่ที่ US$3,700 หรือประมาณ 120,446 บาท

 

Chanel Rectangular

Chanel Rectangular หรือที่เรารู้จักคุ้นเคยกันในชื่อเรียก “ชาแนล 8 นิ้ว” หรือ “Mini Rectangular” ซึ่งเป็นกระเป๋าที่หลายคนเข้าใจผิด คิดว่าเป็นรุ่นหนึ่งของกระเป๋ารุ่น Classic Flap แต่ความเป็นจริงนั้น Rectangular หรือแปลตรงตัวว่า “สี่เหลี่ยมมุมฉาก”  เป็นชื่อเรียกอย่างเป็นทางการของกระเป๋ารุ่นนี้ ซึ่งจะผลิตออกมาเป็น Seasonal แถมขึ้นชื่อว่าเป็นรุ่นที่หายาก และเป็นที่นิยมอย่างมากรุ่นหนึ่ง ของแบรนด์ Chanel เลยก็ว่าได้

Chanel Rectangular

รูปทรงภายนอก มีลักษณะเหมือนกับกระเป๋ารุ่น Classic Flap ทุกประการ ต่างกันที่ภายในของกระเป๋า โดย Rectangular เป็นกระเป๋าที่มีฝาเปิดชั้นเดียว (Single Flap) ความยาวของสายสะพายอยู่ที่ประมาณ 22-23 นิ้ว ส่วนวัสดุที่ตัดเย็บจะแตกต่างกันไปตาม Season นั้นๆ โดยวัสดุหนังที่นิยมอย่างมากคือ Calfskin หนังคาร์เวียร์ และหนังแกะ (Lambskin) สำหรับขนาดของกระเป๋ารุ่นนี้คือ 20 x 13 x 5 เซนติเมตร (8 x 5 x 2 นิ้ว) ราคาปัจจุบันเริ่มต้นที่ US$3,500 หรือประมาณ 113,935 บาท โดยแตกต่างกันออกไปแล้วแต่รุ่น

chanel ชาแนล

และทั้งหมดนี้คือสุดยอดกระเป๋าจาก Chanel ทั้ง 10 รุ่น ที่ติดอันดับความนิยมตลอดกาล และบางรุ่นยังเป็นกระเป๋าที่หายากมากๆ อีกด้วย ไม่ใช่ว่ามีเงินอย่างเดียวแล้วจะได้ครอบครองเป็นเจ้าของง่ายๆ บางคนอาจต้องลงชื่อรอเป็นปีๆ เลยทีเดียว มูลค่าของกระเป๋าไม่สามารถตีเป็นเงินได้อย่างเดียวเท่านั้น แต่มันยังมีคุณค่าทางจิตใจ สำหรับใครที่ได้เป็นเจ้าของอีกด้วย ที่สำคัญก่อนการซื้อขายทุกครั้ง ต้องเลือกซื้อกับตัวแทนจำหน่ายที่เชื่อถือได้ เพื่อจะได้มั่นใจว่าได้กระเป๋าของแท้มาอยู่ในอ้อมกอดกับเราไปนานแสนนานนะคะ

รัก
xoxo

 

KATE