Chanel 2.55 หนึ่งในกระเป๋า iconic bag ยอดนิยมตลอดกาล จาก Chanel โดยกระเป๋าต้นแบบ Chanel 2.55 นั้น ออกแบบโดย Coco Chanel ออกจำหน่ายครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1955 เดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อรุ่น “2.55” นั่นเอง ต่อมาในปี ค.ศ. 2005 Karl Lagerfeld ได้ทำการดัดแปลงรายละเอียดเล็กน้อยจากรุ่นดั้งเดิม โดยเพิ่มคำว่า “Reissue” เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีของกระเป๋ารุ่นนี้ จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติม ในกระเป๋าระดับตำนานนี้บ้างนั้น เราจะมาเจาะลึกไปพร้อมกันค่ะ
Front Design : ด้านหน้าของกระเป๋า
- All Chain Handles : สายโซ่ของกระเป๋าเป็นโลหะทั้งหมด สีของโซ่จะเป็นสีเดียวกับอะไหล่ของกระเป๋า ซึ่งมีทั้งโลหะรมดำ โลหะสีเงิน และโลหะสีทอง
- Diamond-patterned : การตัดเย็บเป็นลายข้าวหลามตัดอันเป็นเอกลักษณ์ของชาแนล
- Leather : รอยยับย่นแปลกตาที่เป็นจุดเด่นของกระเป๋ารุ่นนี้ มีชื่อเรียกว่า “Aged Calfskin”
- Material : เดิมทีแล้ว วัสดุหนังที่นำมาใช้จะมีแค่หนังแกะ (Lambskin) เนื่องจากทำให้ผิวของกระเป๋านิ่มประดุจผ้าไหม แต่ในปัจจุบันมีการนำหนังลูกวัว (Calfskin) มาใช้เป็นวัสดุเช่นเดียวกัน
- Mademoiselle Lock : ตัวล็อคที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของรุ่น 2.55 เป็นลักษณะสี่เหลี่ยมผืนผ้า ด้านล่างสลักคำว่า “CHANEL” ตัวล็อคบิดหมุนเพื่อเปิดและปิด คำว่า “Mademoiselle” มีความหมายว่า ผู้หญิงที่ไม่ได้แต่งงาน ซึ่งหมายความถึง Coco Chanel นั่นเอง
Inside Design : ด้านในของกระเป๋า
- The Zippered Compartment : ช่องซิปบนฝากระเป๋าด้านใน ได้รับการออกแบบโดย Coco Chanel จุดประสงค์เพื่อเก็บซ่อนจดหมายรักจากคนรักของเธอ
- The Iconic Double C : การเย็บรูปตัว C ไขว้ขนาดใหญ่ เย็บติดไปบนแผ่นหนังบนฝากระเป๋าด้านใน
- Interior Color : ภายในบุหนังสีแดงเบอร์กันดี มีที่มาจากชุดยูนิฟอร์มของ Coco Chanel ขณะที่เรียนอยู่ที่คอนแวนต์ สำหรับเด็กกำพร้า
- The Bag Inside : ด้านในกระเป๋ากว้าง มีช่องขาดใหญ่ด้านหน้า 1 ช่อง และมีช่องเก็บของขนาดเล็กเท่ากันด้านใน 2 ช่อง
- Quilting : การเย็บแบบพิถีพิถัน โดยใช้เครื่องมือที่เรียกว่า “Clamming” เพื่อตรวจสอบฝีเข็มทุกเข็มให้เป็นไปอย่างเรียบร้อย โดยช่างฝีมือส่วนใหญ่ที่ได้รับอณุญาตให้ผลิตกระเป๋ารุ่นนี้ จะเป็นผู้หญิง เพื่อความละเอียดเรียบร้อยของผลงาน
Back Design : ด้านหลังของกระเป๋า
- The Back : ช่องกระเป๋าเล็กๆ ด้านหลัง ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากรอยยิ้มของ โมนา ลิซ่า (Mona Lisa) เนื่องจาก Coco ชื่นชอบในรอยยิ้มที่อ่อนหวานของเธอ
- Stitching : รอยตะเข็บต้องมีความเรียบร้อย โดยการตัดเย็บ 7-8 ฝีเข็มต่อหนึ่งด้านข้าวหลามตัด
- All Chain Handles : สายโซ่ของกระเป๋าเป็นโลหะ สายโซ่จะมีสีเดียวกันกับอะไหล่ของกระเป๋า
- Diamond-patterned : รูปแบบการเย็บแบบข้าวหลามตัด โดยได้แรงบันดาลใจมาจากเสื้อคลุมของนักแข่งม้า ที่เธอเคยสังเกตเห็นบริเวณรอบๆสนามแข่งม้า สมัยสาวๆ
Side Design : ด้านข้างของกระเป๋า
- The Shape : ด้วยลักษณะของวัสดุของกระเป๋าที่ทำจากหนังคุณภาพดี จึงมีลักษณะอ่อนนุ่ม ตัวกระเป๋าดูอ่อนนุ่มแต่ไม่อ่อนย้วย รูปทรงของกระเป๋ายังคงตั้งตรงและสมดุล
- The Part of Side : โครงสร้างด้านข้าง เพิ่มความแข็งแรงและเสริมทรงของกระเป๋า
Bottom Design : ด้านล่างของกระเป๋า
- Leather : วัสดุหนัง ลักษณะเป็นรอยยับย่น ที่มีชื่อเรียกว่า “Aged Calfskin” เป็นหนังลูกวัวที่ได้รับการคัดพิเศษ โดยแผ่นหนังจะต้องไม่มีรอยตำหนิเลยแม้แต่น้อย
- Bottom : พื้นฐานของกระเป๋าเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า เพื่อช่วยคงรูปฐานของกระเป๋า และช่วยเรื่องความแข็งแรง
Size of Chanel 2.55 Reissue : ขนาดของกระเป๋า 2.55 Reissue
- Reissue224 (Small) : ยาว 20 x สูง 15.5 x ลึก 6 เซนติเมตร (7.8 x 6 x 2.3 นิ้ว)
- Reissue225 (Medium) : ยาว 24 x สูง 16 x ลึก 7.5 เซนติเมตร (9.4 x 6.2 x 2.9 นิ้ว)
- Reissue226 (Large) : ยาว 28 x สูง 19.5 x ลึก 7.5 เซนติเมตร (10.9 x 7.6 x 2.9 นิ้ว)
- Reissue227 (Maxi) : ยาว 31.5 x สูง 20 x ลึก 10 เซนติเมตร (12.3 x 7.8 x 3.9 นิ้ว)
กระเป๋า Chanel ทุกใบ ได้รับการผลิตอย่างพิถีพิถันทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลือกวัสดุหนังที่จะนำมาใช้ผลิตกระเป๋า ไปจนถึงเครื่องมือ ชิ้นส่วนประกอบต่างๆ สำหรับกระเป๋า Chanel รุ่น 2.55 Reissue นั้น ใช้เวลาในการผลิตต่อชิ้นส่วน นานสูงสุดถึง 15 ชั่วโมง จนได้ผลลัพธ์คือกระเป๋าสุดหรู ที่รวบรวมทั้ง ความงาม คุณค่า แรงบันดาลใจ และยังคงชื่อเสียงไว้ มานานถึงครึ่งศตวรรษ
รัก
xoxo