215 แบรนด์ Luxury ขวดน้ำลดโลกร้อน – ในปัจจุบันภาวะโลกร้อน นับเป็นปัญหาระดับโลกที่น่าจับตามอง และพูดถึงอย่างกว้างขวาง ซึ่งหลายประเทศทั่วโลก ต่างให้ความสนใจ และตื่นตัว ในการรณรงค์เรื่อง การลดใช้ พลาสติกขวดน้ำ ถุงช้อปปิ้ง และภาชนะบรรจุอาหารต่าง ๆ เนื่องจาก รายงานของนักวิทยาศาสตร์ที่ตีพิมพ์ในวารสาร PLOS ONE ระบุว่า พลาสติกจะปล่อยก๊าซเรือนกระจกมีเทน และเอธิลีน เมื่อถูกแสงแดด และการถูกย่อยสลาย ซึ่งเป็นอันตรายต่อโลก สิ่งแวดล้อม รวมทั้งทรัพยากรมนุษย์เป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ ทางแบรนด์หรูลักชัวรี่หลายแบรนด์ ต่างก็ตื่นตัวกับปัญหาสภาวะโลกร้อน ออกแคมเปญรวมถึงผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยใส่ใจตั้งแต่กระบวนการผลิต ไปจนถึงวัสดุที่นำมาใช้ ซึ่งวันนี้ ทาง KATEXOXO ได้ทำการรวบรวม ITEM ลดโลกร้อนที่น่าสนใจ นั่นคือ ขวดน้ำรักษ์โลก จากแบรนด์ Luxury ทั้งหมด 6 แบรนด์ดัง มาไว้ในบทความนี้ จะมีแบรนด์อะไรบ้าง สาวกรักษ์โลก ตามไปดูกันเลย
Dior
Bottle with Shoulder Strap
ขวดน้ำสุดหรูจากแบรนด์ Dior ซึ่งมาในรูปแบบสเตนเลสสตีลเคลือบแพลเลเดียม (Palladium-Finish Stainless Steel) เป็นวัสดุที่นิยมนำมาทำขวดน้ำรักษ์โลก โดดเด่นด้วยลวดลาย “Dior Oblique” อันเป็นเอกลักษณ์ของ ‘DIOR’ ที่ทำการสลักลงบนพื้นผิวของขวดน้ำด้วยเลเซอร์ ส่งผลให้ลวดลายเรียบเนียนสวยงาม ไร้ซึ่งจุดตำหนิ มาพร้อมกับที่วางขวด ตัดเย็บจากหนังลูกวัว (Calfskin) ลายเกรนสีขาวที่แสดงถึงซิกเนเจอร์ของของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี สำหรับสายสะพายไหล่ วัสดุทำจากผ้าไนลอน (Nylon) สามารถถอดและปรับได้
ราคาจำหน่ายอยู่ที่ $ 850 คิดเป็นเงินไทยประมาณ 28,000 บาท
Prada
500 ml Stainless Steel Water Bottle
ขวดน้ำรุ่นนี้ ตัวขวดใช้วัสดุสแตนเลส (Stainless steel) ซึ่งเป็นวัสดุที่ทนทานต่อการใ้ชงานเป็นอย่างมาก มาในลวดลายที่บ่งบอกความเป็น Prada อย่างชัดเจน เป็นการสกรีนลายที่สวยงามไม่มีตำหนิใด ขวดน้ำขนาดความจุที่ 500 มิลลิลิตร มาพร้อมกับที่กระเป๋าสำหรับใส่ขวด ซึ่งตัดเย็บมาจากผ้าไนลอน (Nylon) สีดำ สีเดียวกันกับตัวขวด ด้านหน้าของตัวกระเป๋ามีสัญลักษณ์ Prada สกรีนติดกับแผ่นแม่เหล็กรูปสามเหลี่ยม เย็บติดกับตัวกระเป๋าอย่างแน่นหนา
ราคาจำหน่ายอยู่ที่ $ 525 คิดเป็นเงินไทยประมาณ 18,000 บาท
Loewe
Parrots Water Bottle in Aluminium and Calfskin
Versace
Trésor de la Mer Print Water Bottle
คู่หูคู่ใจในการพกพาใบใหม่จากแบรนด์ Versace ขวดน้ำลดโลกร้อนที่มาพร้อมลายพิมพ์ “Trésor de la Mer” ในรูปแบบขวดสีขาวลายปลาดาว สีสันสายงาม มีหลากหลายสีสัน โดดเด่นเป็นอย่างมาก อันเป็นสัญลักษณ์ของรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี ตัวขวดทำมาจากเหล็ก 100% (Steel) ส่วนของฝาขวด มีสายรัด Greca สีดำ ทำมาจากไนลอน 100% (Nylon) ที่มีคุณสมบัติเด่น คือ แข็งแรง เหนียว ทนทานต่อแรงดึง แรงฉีกขาดได้ ทนต่อการกัดกร่อนและการเสียดสีได้ดีอีกด้วย
ราคาจำหน่ายอยู่ที่ $ 370 คิดเป็นเงินไทยประมาณ 12,500 บาท
Saint Laurent
Sigg Bottle
ขวดน้ำสีดำเงาเรียบง่าย แต่ดูหรูหรา ลึกลับ จากแบรนด์ SAINT LAURENT SIGNATURE ด้านหน้าของขวดสกรีนคำว่า SAINT LAURENT /PARIS ตัวอักษรพิมพ์ใหญ่สีขาว สวยงามเด่นชัดตั้งแต่แรกเห็น ตัวขวดทำมาจาก อะลูมิเนียม 100% (Aluminium) ซึ่งตัวอะลูมิเนียม มีจุดหลอมละลายที่ 660 องศาเซลเซียส เป็นโลหะที่มีความหนาแน่นน้อย มีน้ำหนักค่อนข้างเบา สามารถรับน้ำหนักได้มาก ยังขึ้นรูปได้ง่าย ไม่เป็นสนิม ไม่เสี่ยงต่อรอยร้าว และการแตกหัก ทนต่อการกัดกร่อน และที่สำคัญ ไม่เป็นพิษต่อมนุษย์
ราคาจำหน่ายอยู่ที่ $ 82 คิดเป็นเงินไทยประมาณ 2,700 บาท
ปัจจุบัน ประเทศไทยมีขยะพลาสติกเกิดขึ้นปีละประมาณ 2 ล้านตัน ซึ่งในจำนวนนี้ สามารถนำไปรีไซเคิลได้เพียง 0.5 ล้านตัน อีก 1.5 ล้านตัน ต้องกำจัดด้วยการเผาหรือฝังกลบ โดย 0.3 ล้านตันนั้น เป็นขยะประเภทขวดพลาสติก ซึ่งการเผาไหม้ก่อให้เกิดก๊าซไดออกซิน การฝังกลบก่อให้เกิดก๊าซมีเทน เป็นสาเหตุหนึ่งที่นำไปสู่ภาวะโลกร้อน (Climate Change) ด้วยปัญหาที่เกิดขึ้นนี้เอง จึงทำให้ผู้คนทั่วโลกเริ่มตื่นตัวและหันมาพกกระติกน้ำส่วนตัวกันมากขึ้น
ทั้ง 6 แบรนด์ที่เรานำมาแนะนำในวันนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่มีจำหน่ายเท่านั้น ซึ่งนอกจากดีไซน์ที่ถูกออกแบบให้สามารถพกพาได้ง่าย สะดวกสบายในการใช้งาน ทำความสะอาดง่าย ยังสามารถรักษาสุขลักษณะของเราได้อีกด้วย และสำหรับคนรักษ์โลก เป็นอีกทางเลือกที่สามารถลดขยะให้แก่โลกนี้ได้ ปัจจุบันหลาย ๆ แบรนด์ก็หันมาสนับสนุนเรื่องของการมีกระติกน้ำส่วนตัวเป็นของตัวเอง เพื่อเน้นย้ำให้ผู้บริโภคหันมาปรับพฤติกรรมการใช้ซ้ำ หรือใช้สิ่งที่มีให้คุ้มที่สุดนั่นเอง
รัก
xoxo