10 ประวัติแบรนด์เนมชื่อดัง ที่จะทำให้คุณต้องทึ่ง – โลกของแฟชั่นและสินค้าหรูหรามีเรื่องราวที่น่าหลงใหลซ่อนอยู่เบื้องหลังแบรนด์ชั้นนำที่เราเห็นในปัจจุบัน แต่ละแบรนด์ต้องเผชิญกับอุปสรรคยาวนาน ผ่านการคิดวิเคราะห์อย่างรอบคอบและการทดลองตลาดเพื่อสร้างสรรค์ผลงานที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค จากการล้มลุกคลุกคลาน

บางแบรนด์สามารถยืนหยัดมาได้มากกว่า 100 ปีจนกลายเป็นตำนาน ในวันนี้ KATE XOXO จะพาคุณไปรู้จักประวัติศาสตร์และเรื่องราวเบื้องหลังของ 10 ประวัติแบรนด์เนมชื่อดัง พร้อมเผยข้อมูลที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน

1. Louis Vuitton

แบรนด์ Louis Vuitton ก่อตั้งขึ้นในปี 1854 โดย มองซิเออ หลุยส์ วิตตอง ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ด้วยความเชี่ยวชาญในการออกแบบกระเป๋าเดินทางที่มีน้ำหนักเบา แข็งแรง และกันน้ำ หลุยส์ วิตตอง ได้ปฏิวัติวงการการเดินทางด้วยการสร้างหีบเดินทางที่มีดีไซน์ทันสมัย และแตกต่างจากหีบทรงโดมในยุคนั้น โดยสามารถซ้อนเก็บได้ง่าย ผลงานชิ้นแรกอย่าง หีบ Trianon (หีบรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า) ได้รับความนิยมในหมู่ชนชั้นสูงอย่างรวดเร็ว ทำให้ Louis Vuitton กลายเป็นแบรนด์ที่โดดเด่นในด้านความหรูหรา และคุณภาพ

ความสำเร็จและการเติบโตระดับโลก

จากธุรกิจครอบครัวเล็ก ๆ Louis Vuitton ได้ขยายอาณาจักรอย่างต่อเนื่องผ่านการเปิดตัวลายโมโนแกรมอันเป็นเอกลักษณ์ในปี 1896 โดย จอร์จ วิตตอง บุตรชายของหลุยส์ ลายนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของความหรูหราและป้องกันการลอกเลียนแบบ ปัจจุบัน Louis Vuitton เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม LVMH ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าหรูที่ใหญ่ที่สุดในโลก

โดยยังคงนำเสนอสินค้าแฟชั่น กระเป๋า รองเท้า และเครื่องประดับที่สะท้อนความเป็นเลิศของงานฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ พร้อมการร่วมงานกับดีไซเนอร์ระดับโลก เช่น Marc Jacobs และ Virgil Abloh ทำให้แบรนด์ยังคงครองตำแหน่งผู้นำในอุตสาหกรรมแฟชั่นระดับโลก

2. Chanel

Chanel ก่อตั้งขึ้นในปี 1910 โดย Gabrielle “Coco” Chanel ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เริ่มต้นจากร้านหมวกเล็ก ๆ ที่ชื่อว่า “Chanel Modes” ก่อนขยายไปสู่การออกแบบเสื้อผ้าที่เน้นความเรียบง่าย แต่แฝงไว้ด้วยความหรูหรา Coco เป็นผู้ปฏิวัติวงการแฟชั่นโดยปลดปล่อยผู้หญิงจากชุดที่รัดแน่น ไม่สบายตัว ด้วยการนำเสนอชุดที่ใส่สบาย เช่น Little Black Dress และ เสื้อผ้าทวีด ซึ่งกลายเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ นอกจากนี้ การเปิดตัวน้ำหอม Chanel No. 5 ในปี 1921 ยังสร้างความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ ทำให้ Chanel เป็นที่รู้จักในวงการแฟชั่นและความงามทั่วโลก

Chanel ความยิ่งใหญ่จากอดีตสู่ปัจจุบัน (2024)

หลังการจากไปของ Coco Chanel ในปี 1971 แบรนด์ได้รับการยกระดับโดย Karl Lagerfeld ที่เข้ามาเป็นครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ในปี 1983 เขาเติมเต็ม Chanel ด้วยความทันสมัย แต่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ดั้งเดิมไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ในปัจจุบัน (2024) Chanel ยังคงเป็นแบรนด์แฟชั่นที่มีอิทธิพลระดับโลก ภายใต้การบริหารงานของ Virginie Viard ซึ่งสืบสานวิสัยทัศน์แห่งความหรูหราและความคลาสสิกที่ไม่เคยล้าสมัย Chanel ยังคงสร้างสรรค์คอลเลกชันใหม่ ๆ พร้อมขยายฐานลูกค้าทั่วโลกด้วยสินค้าหลากหลาย ตั้งแต่แฟชั่นชั้นสูง กระเป๋า เครื่องสำอาง ไปจนถึงน้ำหอมระดับตำนาน

3. Gucci

Gucci ก่อตั้งขึ้นในปี 1921 โดย Guccio Gucci ในเมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี เริ่มต้นจากร้านเครื่องหนังที่ผลิตกระเป๋าเดินทางและอานม้า โดยได้รับแรงบันดาลใจจากงานฝีมือชั้นเลิศและดีไซน์คลาสสิกที่พบในโรงแรมหรู

ต่อมา Gucci กลายเป็นที่รู้จักในด้านคุณภาพและดีไซน์ที่หรูหรา หนึ่งในเอกลักษณ์ที่สร้างชื่อเสียงให้แบรนด์คือ ลาย GG และ แถบสีเขียว-แดง-เขียว ซึ่งสะท้อนความเป็นอิตาเลียนที่แท้จริง Gucci ได้รับความนิยมจากชนชั้นสูงและเหล่าเซเลบริตี้ในยุค 1950s โดยเฉพาะกระเป๋า Bamboo Bag ที่กลายเป็นไอคอนของแบรนด์

Gucci การพลิกโฉมสู่แฟชั่นล้ำสมัย (2024)

Gucci เผชิญช่วงเวลายากลำบากในยุค 1990s แต่กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้งเมื่อ Tom Ford เข้ามาเป็นครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ในปี 1994 เขานำความเซ็กซี่และทันสมัยมาสู่แบรนด์ ต่อมาในปี 2015 Alessandro Michele ได้เข้ามาปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ Gucci ด้วยสไตล์ที่แหวกแนวและมีความโรแมนติก

ปัจจุบัน (2024) Gucci ยังคงเป็นหนึ่งในแบรนด์แฟชั่นที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกภายใต้การบริหารของกลุ่ม Kering โดย Gucci มีคอลเลกชันที่หลากหลาย ตั้งแต่แฟชั่นเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ไปจนถึงเครื่องประดับและน้ำหอม โดยยังคงดึงดูดคนรุ่นใหม่ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นและการผสมผสานระหว่างความหรูหรา และความทันสมัยอย่างลงตัว

4. Hermès

Hermès ก่อตั้งขึ้นในปี 1837 โดย Thierry Hermès ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เริ่มต้นจากการเป็นร้านผลิตอานม้าและอุปกรณ์สำหรับม้า โดยเน้นคุณภาพงานฝีมือและความประณีตในทุกรายละเอียด

ต่อมา Hermès ได้ขยายสู่การผลิตกระเป๋าและสินค้าเครื่องหนังอื่น ๆ โดยในปี 1935 ได้เปิดตัวกระเป๋า Sac à Dépêches ซึ่งต่อมาถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Kelly Bag ตามชื่อของเจ้าหญิงเกรซแห่งโมนาโก ในปี 1984 Hermès ได้สร้างกระเป๋า Birkin ตามคำแนะนำของนักแสดงสาว Jane Birkin ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในกระเป๋าที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดในโลก

Hermès สัญลักษณ์แห่งความหรูหราที่ไร้กาลเวลา (2024)

ปัจจุบัน (2024) Hermès ยังคงเป็นแบรนด์ที่ยืนหยัดด้วยงานฝีมือแบบดั้งเดิม และความหรูหราในระดับสูงสุด โดยมีผลิตภัณฑ์หลากหลาย ตั้งแต่กระเป๋า ผ้าพันคอ น้ำหอม ไปจนถึงนาฬิกาและเครื่องประดับ Hermès ยังคงผลิตสินค้าในปริมาณจำกัดเพื่อรักษาคุณภาพและความพิเศษของแบรนด์ ภายใต้การบริหารของ Axel Dumas Hermès ยังคงรักษาสมดุลระหว่างความคลาสสิกและนวัตกรรม ด้วยแนวคิด “ความหรูหราที่เรียบง่าย” แบรนด์ยังคงดึงดูดผู้ที่ชื่นชอบแฟชั่นระดับโลก และเป็นตัวแทนของสไตล์ที่เหนือกาลเวลา

5. Prada

Prada ก่อตั้งขึ้นในปี 1913 โดย Mario Prada ในเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี เริ่มต้นจากร้านเล็ก ๆ ที่จำหน่ายกระเป๋าหนังและสินค้าเดินทางที่มีคุณภาพสูง ความใส่ใจในรายละเอียดและความประณีตทำให้ Prada ได้รับการยอมรับอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นผู้จัดหาสินค้าให้กับราชวงศ์อิตาลีในปี 1919 โดยสินค้าของ Prada มีความหรูหราและโดดเด่นด้วยการเลือกใช้วัสดุพิเศษ เช่น หนัง Saffiano ที่เป็นเอกลักษณ์

Prada การผสมผสานระหว่างความคลาสสิก และโมเดิร์น (2024)

ในปี 1978 Miuccia Prada หลานสาวของ Mario เข้ามารับช่วงต่อ และเปลี่ยนแปลงแบรนด์ให้กลายเป็นผู้นำในวงการแฟชั่นระดับโลก เธอเปิดตัวกระเป๋าไนลอนสีดำในปี 1985 ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่คนรุ่นใหม่ Prada ได้ขยายไลน์สินค้าไปสู่เสื้อผ้า น้ำหอม และรองเท้า พร้อมเปิดตัวแบรนด์น้องสาว Miu Miu เพื่อเจาะกลุ่มตลาดที่หลากหลาย

ปัจจุบัน (2024) Prada ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของความหรูหรา และทันสมัย โดยมีคอลเลกชันที่เน้นการผสมผสานระหว่างความเรียบง่ายและนวัตกรรม ภายใต้การบริหารงานของ Patrizio Bertelli และ Miuccia Prada แบรนด์ยังคงเติบโตในตลาดโลกและดึงดูดผู้ชื่นชอบแฟชั่นอย่างต่อเนื่อง

6. Dior

Dior ก่อตั้งขึ้นในปี 1946 โดย Christian Dior ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส แบรนด์เริ่มต้นด้วยความตั้งใจที่จะฟื้นฟูวงการแฟชั่นหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ในปี 1947 Dior ได้เปิดตัวคอลเลกชันแรกที่สร้างกระแสในชื่อ New Look ซึ่งเน้นทรงเอวคอด กระโปรงบาน และความสง่างามที่ตัดเย็บอย่างประณีต ความสำเร็จของ New Look ทำให้ Dior กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความหรูหรา และความเป็นผู้หญิงในยุคนั้น พร้อมขยายไลน์สินค้าไปสู่กระเป๋า เครื่องประดับ และน้ำหอม เช่น Miss Dior ที่กลายเป็นไอคอน

Dior ความต่อเนื่องของความหรูหราและนวัตกรรม (2024)

หลังการจากไปของ Christian Dior ในปี 1957 แบรนด์ได้รับการพัฒนาโดยดีไซเนอร์ชื่อดังหลายคน เช่น Yves Saint Laurent, John Galliano, และ Raf Simons ปัจจุบัน (2024) ภายใต้การดูแลของ Maria Grazia Chiuri ซึ่งเป็นดีไซเนอร์หญิงคนแรกของ Dior แบรนด์ยังคงนำเสนอคอลเลกชันที่สะท้อนถึงความสง่างาม และพลังของผู้หญิง

Dior ได้ขยายตลาดทั่วโลกและกลายเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมแฟชั่นหรูหรา ด้วยผลิตภัณฑ์หลากหลายที่ครองใจผู้บริโภค ตั้งแต่เสื้อผ้า กระเป๋า Lady Dior ไปจนถึงน้ำหอม J’adore และยังคงรักษามรดกของ Christian Dior ด้วยการผสมผสานความคลาสสิกและนวัตกรรมเข้าด้วยกัน

7. Cartier

Cartier ก่อตั้งขึ้นในปี 1847 โดย Louis-François Cartier ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยเริ่มต้นจากร้านเครื่องประดับเล็ก ๆ แต่ด้วยความประณีตและการออกแบบที่หรูหรา ทำให้ Cartier ได้รับการยอมรับในหมู่ชนชั้นสูง และราชวงศ์ ในปี 1904

Cartier สร้างชื่อเสียงในวงการนาฬิกาเมื่อ Santos de Cartier นาฬิกาข้อมือสำหรับนักบินรุ่นแรกถูกออกแบบให้กับ Alberto Santos-Dumont ตั้งแต่นั้นมา Cartier ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของความหรูหรา และดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น ลายเสือแพนเทอร์ และนาฬิกา Tank

Cartier ความเป็นเลิศที่ยั่งยืนสู่อนาคต (2024)

ปัจจุบัน (2024) Cartier ยังคงเป็นหนึ่งในแบรนด์เครื่องประดับ และนาฬิกาหรูที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก ภายใต้การบริหารของกลุ่ม Richemont แบรนด์ยังคงสืบสานมรดกของ Louis-François ด้วยการผสมผสานงานฝีมือดั้งเดิมกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ผลงานยอดนิยม เช่น Love Bracelet, Juste un Clou, และ Ballon Bleu ยังคงดึงดูดผู้หลงใหลในเครื่องประดับหรูทั่วโลก

Cartier ยังมุ่งมั่นในด้านความยั่งยืน และความรับผิดชอบต่อสังคม โดยร่วมมือกับองค์กรเพื่อพัฒนาการจัดหาวัตถุดิบอย่างโปร่งใส และรักษาสิ่งแวดล้อม

8. Rolex

Rolex ก่อตั้งขึ้นในปี 1905 หนึ่งใน ประวัติแบรนด์เนมชื่อดัง ที่มาจากสายนาฬิกาหรู ก่อตั้งโดย Hans Wilsdorf และ Alfred Davis ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ต่อมาในปี 1919 บริษัทได้ย้ายไปยังเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการผลิตนาฬิกาคุณภาพสูง

Rolex เป็นที่รู้จักในฐานะผู้บุกเบิกนวัตกรรม เช่น การพัฒนานาฬิกาข้อมือกันน้ำรุ่นแรกของโลก Oyster ในปี 1926 และการเปิดตัวนาฬิกา Datejust ในปี 1945 ซึ่งเป็นนาฬิกาเรือนแรกที่แสดงวันที่โดยอัตโนมัติ ความเที่ยงตรงและความทนทานของ Rolex ทำให้นักสำรวจ และนักกีฬาเลือกใช้ในกิจกรรมสำคัญ เช่น การปีนยอดเขาเอเวอเรสต์ และการดำน้ำลึก

Rolex สัญลักษณ์แห่งความหรูหราและความน่าเชื่อถือ (2024)

ปัจจุบัน (2024) Rolex ยังคงครองตำแหน่งผู้นำในอุตสาหกรรมนาฬิกาหรู โดยมอบความสมบูรณ์แบบในด้านการออกแบบและคุณภาพ ผลงานยอดนิยม เช่น Submariner, Daytona, และ GMT-Master ยังคงเป็นที่ต้องการของนักสะสมทั่วโลก Rolex ยังมุ่งมั่นสนับสนุนการสำรวจ การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมผ่านโครงการ Perpetual Planet แบรนด์ยังคงสืบสานมรดกของ Hans Wilsdorf ด้วยการผลิตนาฬิกาที่สะท้อนถึงความเป็นเลิศ ความหรูหรา และนวัตกรรมที่ไม่มีวันหยุดนิ่ง

9. Burberry

Burberry ก่อตั้งขึ้นในปี 1856 โดย Thomas Burberry ในเมืองบาซิงสโตค ประเทศอังกฤษ จุดเริ่มต้นของแบรนด์เกิดจากการออกแบบเสื้อโค้ทและเสื้อผ้าที่ตอบโจทย์การใช้งานจริง โดยเฉพาะการคิดค้นผ้ากาบาร์ดีน (Gabardine) ในปี 1879 ซึ่งเป็นผ้าที่กันน้ำ และระบายอากาศได้ดี

Burberry ได้รับความนิยมจากนักสำรวจและผู้เดินทาง เช่น Ernest Shackleton ในการสำรวจขั้วโลก เสื้อโค้ท Trench Coat ที่ออกแบบมาเพื่อกองทัพอังกฤษในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง กลายเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ เช่นเดียวกับลายตารางสีเบจ-ดำ-แดง-ขาวอันโดดเด่น

Burberry การผสมผสานมรดกดั้งเดิมกับแฟชั่นสมัยใหม่ (2024)

ปัจจุบัน (2024) Burberry ยังคงเป็นแบรนด์แฟชั่นหรูที่มีอิทธิพลระดับโลก โดยนำเสนอดีไซน์ที่ผสมผสานความคลาสสิกกับความทันสมัย ภายใต้การบริหารของ Jonathan Akeroyd และครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ Daniel Lee แบรนด์ได้ปรับภาพลักษณ์ให้สดใหม่มากขึ้น

โดยยังคงเอกลักษณ์เดิม เช่น Trench Coat และลายตารางไว้ Burberry ยังมุ่งเน้นความยั่งยืนในกระบวนการผลิต พร้อมกับการขยายตลาดในกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ผ่านสินค้าแฟชั่น เครื่องประดับ และน้ำหอม ทำให้แบรนด์ยังคงครองใจแฟน ๆ ทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง

10. Tiffany & Co.

Tiffany & Co. ก่อตั้งขึ้นในปี 1837 โดย Charles Lewis Tiffany และ John B. Young ในเมืองนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เริ่มต้นจากร้านจำหน่ายของขวัญ และสินค้าแฟนซี

ต่อมาแบรนด์ได้เปลี่ยนโฟกัสไปที่เครื่องประดับสุดหรู โดยในปี 1848 Tiffany ได้รับการยอมรับว่าเป็น “ราชาแห่งเพชร” ด้วยการนำเพชรคุณภาพสูงจากยุโรปมาจำหน่าย Tiffany ยังเป็นผู้บุกเบิกการสร้างมาตรฐานสำหรับเพชรด้วยการเปิดตัว Tiffany Setting ในปี 1886 ซึ่งเป็นดีไซน์แหวนหมั้นที่ทำให้เพชรโดดเด่น และยังคงได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน

Tiffany & Co. สัญลักษณ์แห่งความงดงามอมตะ (2024)

ปัจจุบัน (2024) Tiffany & Co. ยังคงเป็นหนึ่งในแบรนด์เครื่องประดับที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก ภายใต้การบริหารของกลุ่ม LVMH ซึ่งเข้าซื้อกิจการในปี 2021 แบรนด์ยังคงสืบสานเอกลักษณ์ผ่านกล่องสีฟ้า Tiffany Blue อันเป็นสัญลักษณ์ และเครื่องประดับที่ผสมผสานความคลาสสิกและความร่วมสมัย

ผลงานที่โดดเด่น เช่น คอลเลกชัน Atlas, Return to Tiffany, และ Tiffany HardWear ยังคงได้รับความนิยม Tiffany ยังขยายตลาดด้วยการร่วมงานกับศิลปิน และนักออกแบบชื่อดัง เพื่อสร้างผลงานที่ดึงดูดลูกค้ารุ่นใหม่ พร้อมทั้งเน้นย้ำความยั่งยืนในอุตสาหกรรมเพชร และโลหะมีค่า

แบรนด์เนมหรูระดับโลกแต่ละแบรนด์ ล้วนมีเรื่องราวเบื้องหลังที่น่าทึ่ง ทั้ง Louis Vuitton, Chanel, Gucci, Hermès, Prada, Dior, Cartier, Rolex, Burberry และ Tiffany & Co. ต่างเผชิญความท้าทาย และพัฒนานวัตกรรมเพื่อสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตั้งแต่การคิดค้นผลงานที่เปลี่ยนแปลงวงการแฟชั่นอย่าง New Look ของ Dior และ Little Black Dress ของ Chanel ไปจนถึงการพัฒนาสินค้าระดับตำนาน เช่น กระเป๋า Birkin ของ Hermès หรือนาฬิกา Oyster ของ Rolex

ทุกแบรนด์ล้วนสืบสานมรดกดั้งเดิมพร้อมปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยอย่างมีสไตล์ และในปี 2024 แต่ละแบรนด์ยังคงครองใจผู้บริโภคทั่วโลกด้วยความหรูหรา และคุณภาพที่ไร้ที่ติ

รัก
xoxo