To top
3 Feb

Louis Vuitton ของแท้ – เจาะลึก 8 วิธีตรวจกระเป๋าแบบกูรู

Louis Vuitton แบรนด์ Luxury ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงทั่วโลก จัดได้ว่าเป็นแบรนด์อันดับต้นๆ ที่มักจะถูกลอกเลียนแบบและมีสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ แต่เราจะบอกได้อย่างไรว่า Louis Vuitton ใบที่เราต้องการ ใบที่เราเป็นเจ้าของอยู่นั้นเป็นของแท้หรือว่าของปลอมเกรดมิลเลอร์ ที่ปลอมได้อย่างแนบเนียน มีแม้กระทั่งใบเสร็จและถุงผ้า ดังนั้นในวันนี้ เรามีจุดสังเกตง่ายๆ สำหรับตรวจสอบกระเป๋า Louis Vuitton ของแท้ ไว้ให้ผู้อ่านได้นำไปลองสังเกตได้ด้วยตัวเอง

 

1. Louis Vuitton Style

เริ่มแรก เราต้องทำการรู้จัก Style เฉพาะของแบรนด์ก่อน โดยกระเป๋า Louis Vuitton ของแท้ ทุกใบจะไม่มีการทำโฆษณา ไม่มีการลดราคาหรือโปรโมชั่นส่งเสริมการขายใดๆ ไม่มีการนำสินค้ามีตำหนิมาขายเลหลัง ไม่มีร้านขายส่ง ไม่มีห้อยแท็คราคาที่กระเป๋า ไม่มีการใช้พลาสติกห่อหุ้มหูกระเป๋า และไม่มีการใช้วัสดุใดๆ ในการดันทรงกระเป๋า ดังนั้นเมื่อเห็นรายการลดราคาของ Louis Vuitton สามารถคาดคะเนได้เบื้องต้นเลยว่าไม่ใช่ Louis Vuitton แท้อย่างแน่นอน (แต่บางกรณีอาจะเป็นร้านค้ามือ 2 หรือร้านขายของ Luxury ดังนั้นข้อนี้ขึ้นอยู่กับบริบทของทางร้านค้า)

สิ่งที่จำเป็นต่อมา คือ เราควรทำ Research หาข้อมูล รายละเอียด ราคา และรูปแบบกระเป๋าที่ต้องการ โดยสามารถศึกษาหาข้อมูลได้จากเว็บไซต์ของ Louis Vuitton หรือเว็บไซต์ที่จำหน่าย Luxury Handbag โดยทั่วไป เพื่อศึกษาคุณสมบัติรวมทั้งรายละเอียดของแต่ละรุ่นให้ละเอียดก่อนการตัดสินใจซื้อ ที่สำคัญควรหมั่น Update ข้อมูลใหม่ๆ อยู่เสมอ

อีกจุดหนึ่งของ Louis Vuitton Style คือ ไม่มี Authenticity Cards เหมือนเช่นแบรนด์อื่นๆ ฉะนั้นสิ่งที่จะบ่งบอกว่ากระเป๋าเป็นของแท้หรือไม่นั้น ต้องอาศัยองค์ประกอบหลายอย่างรวมกัน จะต้องใช้ความละเอียดรอบคอบอย่างมาก เนื่องในปัจจุบัน ของละเมิดลิขสิทธิ์สามารถผลิตสินค้าออกมาได้ละม้ายคล้ายของจริงจนแทบแยกไม่ออก จนบางครั้งคนที่ไม่คุ้นเคยหรือไม่มีความรู้มาก่อน อาาจะตกเป็นเหยื่อ เสียเงินก้อนใหญ่ แต่กลับได้กระเป๋าปลอมกลับมาแทน

 

2. Date Code

Date Code หรือรหัสที่ระบุว่ากระเป๋าผลิตขึ้นที่ใดและเมื่อไหร่ ประกอบด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษด้านหน้า 2 ตัว แสดงถึงประเทศผู้ผลิต ตามด้วยหมายเลข 3-4 ตัว ที่ระบุว่า กระเป๋าใบนี้ถูกผลิตขึ้นเมื่อใด สิ่งสำคัญไม่ใช่แค่การดูรหัส Date Code เท่านั้น แต่รหัส 2 ตัวแรกที่บ่งบอกถึงประเทศที่ผลิตนั้น จะต้องตรงกับ Heat Stamp Made in ………. บนตัวกระเป๋าด้วย

ตัวอย่างการอ่าน Date Code SD0085 ตัวอักษรภาษาอังกฤษ 2 ตัวแรก SD คือสถานที่ที่ผลิตสินค้า ตัวเลขที่ 1 และตัวเลขที่ 3 ได้แก่ 08 คือสัปดาห์ที่ผลิตสินค้า  หลังจากนั้น ตัวเลขที่ 2 และ 4 ได้แก่ 05 คือปีที่ผลิต  สรุปว่ากระเป๋าใบนี้ผลิตที่ประเทศสหรัฐอเมริกา(SD)  ในสัปดาห์ที่ 8 (08) และผลิตในปี ค.ศ. 2005 (05) ฉะนั้น Heat Stamp บนตัวกระเป๋า ต้องเป็น Made in USA เท่านั้น

Luois Vuitton date code

Luois Vuitton date code

รหัส Date Code ไม่ใช่รหัสเฉพาะของกระเป๋า มันเป็นเพียงรหัสที่ระบุสถานที่ผลิตและผลิตเมื่อไหร่เท่านั้น ซึ่งหมายความว่า การซ้ำกันของรหัสบนกระเป๋าถือหลายๆ ใบจึงเป็นเรื่องปกติ ตัวรหัสนั้นมาในรูปแบบของตัวพิมพ์ที่แตกต่างกันออกไป โดยอาจระบุบนTag หนังขนาดเล็กที่เย็บติดในกระเป๋า ในซับด้านในของกระเป๋า หรือปั๊มลงบนกระเป๋าเลยก็ได้

ปัจจุบัน กระเป๋า Louis Vuitton ไม่ได้มีฐานการผลิตที่ฝรั่งเศสที่เดียว ยังมีผลิตที่ประเทศ สหรัฐอเมริกา สเปน และอิตาลีด้วย ฉะนั้น การอ่านรหัส Date Code ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งเลยทีเดียว แต่ยังมีอีกจุดหนึ่งที่ต้องรู้ คือ สำหรับกระเป๋าที่ผลิตขึ้นก่อนปี ค.ศ. 1980 (หมวดกระเป๋าวินเทจ) จะไม่มีรหัส Date Code ฉะนั้น วิธีนี้จะไม่สามารถใช้ตรวจสอบกระเป๋ารุ่นวินเทจได้

date code

date code

 

3. Dust Bag

Dust Bag หรือ ถุงกันฝุ่น เป็นสิ่งหนึ่งที่สินค้าเลียนแบบจะทำได้เหมือนค่อนข้างยาก แม้ว่าตัวสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์จะเหมือนของแท้มากเท่าไหร่ก็ตาม โดย Dust Bag จะแบ่งเป็น 3 รุ่นด้วยกัน รุ่นแรก ผลิตขึ้นก่อนปี ค.ศ. 2004 ตัวถุงผ้าทำจากผ้าฝ้าย 100% สีของผ้ามีสีน้ำตาลเข้มและหนา ภายนอกพิมพ์ตัวอักษร “LV” สีน้ำตาลเข้ม

Dust Bag รุ่นแรก

Dust Bag รุ่นแรก

รุ่นที่ 2 เป็นรุ่นที่ใช้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2004 – ค.ศ. 2016 เป็นผ้าฝ้าย 100% เช่นกัน เนื้อผ้าจะมีขนาดบางกว่ารุ่นแรก สีเหลืองครีม โลโก้ “LOUIS VUITTON” ใช้ตัวอักษรอังกฤษตัวพิมพ์ใหญ่ พิมพ์ด้วยสีน้ำตาลเข้ม อยู่กึ่งกลางอย่างสมบูรณ์ ซึ่งในรุ่นที่เป็นหูรูด เชือกจะเป็นสีน้ำตาลเข้ม

dust bag รุ่นที่ 2

Dust Bag รุ่นที่ 2

ในปี ค.ศ. 2016 หลุยส์ วิตตอง ได้ทำการเปลี่ยน Packaging ใหม่ทั้งหมด ในเฉดสีเหลืองแซฟฟรอน ที่มีชื่อเรียกเฉพาะว่า Imperial Saffron ถุงผ้าผลิตจากผ้าฝ้าย 100% เนื้อผ้ามีขนาดบางกว่า 2 รุ่นแรก ออกสีเหลืองครีมกว่ารุ่นที่ผ่านมา โลโก้ “LOUIS VUITTON” พิมพ์ด้วยสีน้ำเงินเข้ม ในรุ่นที่เป็นหูรูด เชือกหูรูดจะเป็นสีน้ำเงินเช่นกัน

Imperial Saffron dust bag and box

Imperial Saffron dust bag and box

ภายในถุงผ้าทุกรุ่นจะมีการเย็บติดป้ายเล็กๆสีขาวภายใน มีข้อความว่า “100% cotton Made in India” พร้อมทั้ง Serial Number ของถุงผ้านั้นๆ

ตัวอย่างป้ายแท็คในถุงผ้า

ตัวอย่างป้ายแท็คในถุงผ้า

 

4. Heat Stamps

Heat Stamps หรือ ตัวปั๊ม Louis Vuitton จะเป็นตัวอักษรแบบพิเศษ ใช้วิธีการประทับตราลงบนหนัง และอะไหล่โลหะเกือบทั้งหมด ตราประทับของ Louis Vuitton สามารถพบได้ทั้งภายในและภายนอกกระเป๋า โดยมีข้อความดังต่อไปนี้

LOUIS VUITTON (หลุยส์ วิตตอง)
PARIS (ปารีส)
made in (Country) (ผลิตใน…ประเทศ…)

ซ้าย : Heat Stamp ด้านนอก ขวา : Heat Stamp ด้านใน

ซ้าย : Heat Stamp ด้านนอก ขวา : Heat Stamp ด้านใน

ตัวปั๊มควรมีความคมชัด ไม่มีตัวอักษรที่บิดเบี้ยว เลอะเทอะ หรือการสะกดคำที่ผิดพลาด สังเกตง่ายๆ จากฟ้อนตัวอักษร คือ หางบนตัว L จะสั้นมาก ตัว O จะกลมเท่ากัน ตัว T ทั้ง 2 ตัวอยู่ติดกันมากจนดูกลมกลืนเหมือนเป็นคำๆ เดียวกัน ซึ่งกระเป๋ารุ่นใหม่ๆ ที่ผลิตในสหรัฐอเมริกา อาจจะไม่มีตราประทับ “Made In USA” แล้ว แต่จะเป็นป้ายหนังหรือผ้าเย็บติดด้านใน ซึ่งอ่านว่า “Made in USA of imported materials” แทน

Louis Vuitton ของแท้

ตราปั้ม Made in U.S.A. “Made in USA of imported materials”

 

ฟ้อนตัวอักษร

จุดสังเกต ในเรื่องของฟ้อนตัวอักษร

 

5. Materials

Materials หรือวัสดุที่ใช้ทำตัวกระเป๋า หลักๆ คือผ้าใบแคนวาส ผ้าใบแคนวาสแท้จะค่อนข้างมีน้ำหนักและมีความแน่นหนา ซึ่ง Louis Vuitton จะใส่ใจรายละเอียดในการวางลายสัญญลักษณ์มาก โดยในเคสนี้ จะขอยกตัวอย่างผ้าใบที่คุ้นหูคุ้นตากันดี คือลาย Monogram และลาย Damier ที่เป็นซิกเนอเจอร์ของแบรนด์นี้ มาเปรียบเทียบเพือให้เกิดความเข้าใจ

MONOGRAM CANVAS ตัว LV และสัญญลักษณ์บนผืนผ้าใบนี้ควรออกเป็นสีทองอ่อน กระเป๋าใบนึงหากใช้ผ้าใบมากกว่า 1 ผืนมาเย็บติดกัน ลาย LV จะต้องหัวตั้งขึ้นเท่านั้น แต่หากใช้หนังผืนเดียวกัน ดังเช่นในรุ่น Speedy , Keepall , Papilon , Saumur (ส่วนของฝากระเป๋า) จะเห็นลาย LV ด้านหนึ่งตั้งขึ้น และอีกด้านหนึ่งกลับหัว

Monogram Canvas

Monogram Canvas

DAMIER CANVAS ลักษณะพื้นผิวควรเป็นแบบเดียวกับ Monogram ในลาย Ebene และ Azur ผืนผ้าใบไม่ควรมันวาวมากนัก เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณว่ามันคือพลาสติกและเป็นของปลอม ลายพิมพ์ต้องต่อกันสนิท แต่ความมันวาวของประเป๋าก็ใช่ว่าจะทำให้มันดูปลอมเสมอไป กระเป๋าบางใบหากผ่านการใช้งานมาพอสมควร ก็สามารถเกิดเงาเล็กๆ น้อยๆ ได้ และนั่นก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร เป็นลักษณะโดยทั่วไปของการใช้งาน

Damier Ebene Canvas

Damier Ebene Canvas

 

6. Stitching

Stitching ฝีเข็มหรือการเย็บ Louis Vuitton ใช้เส้นด้ายลินินคุณภาพสูง เสริมความแข็งแรงด้วยขี้ผึ้ง ซึ่งหมายความว่า จะไม่มีการหลุดลุ่ยของด้ายออกมาอย่างเด็ดขาด การเย็บ เส้นตะเข็บและฝีเย็บต้องมีระยะห่างสม่ำเสมอ การเย็บซับในจะเรียบร้อยแนบเนียนพอดีไปกับกระเป๋า ต้องไม่มีรอยพับหรือรอยยับซ่อนอยู่ รุ่นและแบบเดียวกัน จำนวนฝีเข็มต้องเท่ากัน ซึ่ง Louis Vuitton ค่อนข้างจะเอาใจใส่ดูแลการตัดเย็บพิถีพิถันมากเป็นพิเศษแบบใบต่อใบ

ซ้าย : รุ่น Speedy , ขวา : รุ่น Neverfull

ซ้าย : รุ่น Speedy , ขวา : รุ่น Neverfull

กระเป๋า Louis Vuitton ของแท้ ขนาดของกระเป๋าจะมีมาตรฐานของแต่ละรุ่น โดยแต่ละรุ่นจะมีขนาดกว้างยาวที่เท่ากันทุกใบ รวมถึงสายสะพายและหูจับที่ได้สัดส่วน เนื่องจากความประณีต การตัดเย็บ และเอาใจใส่ในการใช้งานของลูกค้า

 

7. Hardware

Hardware ในที่นี้ หมายถึงอะไหล่โลหะแท้ เคลือบทองหรือเงิน ที่ติดมากับตัวกระเป๋า ไม่ว่าจะเป็นกุญแจแม่ลูก หัวซิป ตัวซิป วงแหวนสำหรับคล้องสาย โดยจะมีลักษณะมันวาว ไม่ด้าน ไม่ลอกหรือเปลี่ยนสี ซิปลื่น รูดไม่ติดขัด เมื่อรูดจะเห็นเป็นตัวอักษร Y หัวซิปมีลักษณะแตกต่างออกไปแล้วแต่รุ่น Louis Vuitton ไม่ใช้ซิปจาก YKK (บริษัททำซิปจากญี่ปุ่น) หรือแบรนด์อื่น ด้านหลังของซิปจะว่างเปล่า ไม่มีตีตรายี่ห้อใดๆ กุญแจแม่ลูกจะมีหมายเลขรหัสเฉพาะ จะไม่สามารถใช้เปิดตัวล็อคที่รหัสไม่เหมือนกันได้

ซิป LouisVuittonของแท้

ซิปกระเป๋า Louis Vuitton

 

8. Leather

Leather หรือหนังแท้ ที่นำมาเป็นวัสดุตัดเย็บกระเป๋า โดยกระเป๋า Louis Vuitton แท้ส่วนใหญ่จะใช้วัสดุที่ทำมาจาก หนังลูกวัว หรือที่เรียกว่า คาวไฮด์ (Cowhide) นำมาตัดเย็บ หนังจะผ่านกระบวนการฟอก บางครั้งเรียกว่า “Vachetta” เมื่อแรกใหม่ๆ จะเป็นสีนวล แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานๆ จะค่อยๆ กลายเป็นสีเข้มขึ้น และอาจมีริ้วรอยหรือคราบเล็กน้อย (เนื่องจากกระบวนการเคลือบ) รวมถึงการดูดซับน้ำมันจากผิวหนังของเจ้าของกระเป๋า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเปลี่ยนแปลงของ Cowhide

ที่สำคัญ กลิ่นของกระเป๋าหนังแท้ และกลิ่นของผ้าใบ Louis Vuitton จะมีกลิ่นหนังที่ชัดเจนเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งของละเมิดลิขสิทธิ์เกรดต่ำบางตัว จะมีกลิ่นพลาสติกชัดมากทีเดียว

Cowhide ของ Alma ใบนี้เริ่มเปลี่ยนสีเข้มขึ้น

Cowhide ของ Alma ใบนี้เริ่มเปลี่ยนสีเข้มขึ้น

 

แบรนด์ Louis Vuitton ถือว่าเป็นแบรนด์กระเป๋าที่มีการปลอมแปลงมากที่สุดในจำนวนแบรนด์หรูทั้งหมด โดย 90% ของกระเป๋าที่ขายในเว็บไซต์ E-bay ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นของละเมิดลิขสิทธิ์ทั้งสิ้น ในปี ค.ศ. 2008 ศาลของประเทศฝรั่งเศส ได้สั่งให้ตลาดขายของออนไลน์ จ่ายเงินให้กับ บริษัทแม่ของ Louis Vuitton อย่าง LVMH เป็นจำนวนเงิน 61 ล้านดอลล่าสหรัฐ สำหรับการละเมิดลิขสิทธิ์ครั้งนั้น

จนถึงวันนี้ เป็นเวลาเกือบ 12 ปีแล้ว การปลอมแปลงกระเป๋า Louis Vuitton ก็ยังคงเป็นปัญหาระดับโลก สิ่งที่เรามองข้ามไม่ได้เลยคือ การใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของตัวกระเป๋า ที่ของแท้จะทำออกมาอย่างประณีต ซึ่งนั่นเป็นหลักสำคัญที่ทำให้แตกต่างจากกระเป๋าละเมิดลิขสิทธิ์อย่างสิ้นเชิง

การซื้อสินค้าแบรนด์เนมสักใบไม่ใช่เรื่องเล็ก เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีมูลค่าสูงทั้งทางกายภาพและทางจิตใจ ดังนั้น ทางเราหวังว่าสิ่งที่ถูกนำเสนอในวันนี้ จะเป็นประโยชน์ เพื่อนำไปใช้ในการวิเคราะห์และสังเกตก่อนตัดสินใจเป็นเจ้าของ Louis Vuitton สักใบ

รัก
xoxo

 

 

KATE