Boucheron ผู้ผลิตเครื่องประดับเก่าแก่ของฝรั่งเศส – เครื่องประดับเป็นสิ่งสำคัญส่วนหนึ่งของการแต่งกายที่มีมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และแน่นอนว่าไม่มีใครปฏิเสธความงามของอัญมณีได้ ซึ่งเครื่องประดับอัญมณีมีความงดงามที่เป็นอมตะและแฝงไปด้วยศิลปะตามยุคสมัย นอกจากนี้เครื่องประดับรวมถึงอัญมณีต่าง ๆ นั้น ยังถูกใช้เป็นเครื่องบ่งบอกฐานะของผู้คนในสมัยก่อนได้อีกด้วย และเราได้รวบรวมเอาเรื่องราวของแบรนด์ดังอย่าง Boucheron (บูชฮง) ผู้ผลิตเครื่องประดับอัญมณีเก่าแก่ของฝรั่งเศส ที่ได้สร้างความงดงามมามากกว่า 160 ปี

160 YEARS OF HISTORY

ประวัติ Boucheron นั้นได้เริ่มต้นจาก เฟรดเดริก บูชฮง (Frédéric Boucheron) เกิดเมื่อ 17 ธันวาคม ค.ศ. 1830 เขามาจากครอบครัวช่างตัดเสื้อแต่ไม่ได้สานต่อธุรกิจเกี่ยวกับเสื้อผ้า เขาได้เปิดร้านเครื่องประดับ บูชฮง (Boucheron) ขึ้นเป็นแห่งแรกใน ปี ค.ศ. 1858 โดยร้านตั้งอยู่ที่ 150, Galerie de Valois ใน Palais Royal ซึ่งเป็นศูนย์กลางของความหรูหราของชาวปารีสในเวลานั้น หลังจากนั้นเพียงไม่กี่ปี เขาก็ได้เปิด Workshop และได้ให้หลานชายของเขา จอช เรเดียส (Georges Radius) มาฝึกงานและทำงานจนถึง ปี ค.ศ. 1919

ต่อมาใน ปี ค.ศ. 1893 เฟรดเดริก บูชฮง (Frédéric Boucheron) ได้เปิดร้านที่ 26 Place Vendôme และเปิด workshop เพิ่มอีก ซึ่งในขณะนั้นความสัมพันธ์ของแบรนด์และราชวงศ์รัสเซีย เริ่มตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1860 นับเป็นเวลาเกือบ 40 ปี ที่ราชวงศ์รัสเซียเป็นลูกค้าคนสำคัญของ Boucheron ทั้งแกรนด์ดัชเชส มารีเยีย นีคะลายีฟนา แห่งรัสเซีย (Grand Duchess Maria Nikolaevna), จักรพรรดินีมารีเยีย อะเลคซันโดรฟนาแห่งรัสเซีย (Tsarina Maria Alexandrovna)

นอกจากนี้ยังมีจักรพรรดิอะเลคซันดร์ที่ 3 แห่งรัสเซีย (Alexander III) และ แกรนด์ดยุคแห่งรัสเซีย (Grand Duke Alexei) ต่างแวะมาที่ร้าน Boucheron ทุกครั้งที่มาเยือนปารีส ทำให้ชื่อเสียงของ Boucheron เป็นที่ยอมรับในราชสำนักรัสเซียในฐานะนักอัญมณี ด้วยเหตุนี้ใน ปี ค.ศ. 1897 เฟรดเดริก บูชฮง (Frédéric Boucheron) จึงตัดสินใจเปิดร้านแรกในต่างประเทศ ที่เมืองมอสโกว ของรัสเซีย

เฟรดเดริก บูชฮง (Frédéric Boucheron) ได้เรียนรู้และจดจำรายละเอียดต่าง ๆ ของวัสดุ และเรียนรู้เกี่ยวกับวัสดุต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวมาจากพ่อแม่ของเขาที่เป็นช่างทอผ้า เขาจึงนำเอาประสบการณ์เหล่านี้มาสร้างแนวความคิดในการออกแบบเครื่องประดับทองคำ อัญมณี ที่ปราณีตและละเอียดอ่อน โดยเครื่องประดับที่เขาสร้างขึ้นนั้นเป็นสไตล์คลาสสิกที่มาในคอนเซ็ปต์ “Classic of tomorrow” และทั้งหมดนั้นอยู่ในคอลเลกชั่น High Jewelry

หลังจากที่ เฟรดเดริก บูชฮง (Frédéric Boucheron) เสียชีวิตใน ปี ค.ศ. 1902 ธุรกิจก็ตกทอดมาถึงลูก ๆ ของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลุยส์ บูชฮง (Louis Boucheron) ที่เป็นผู้ดูแลการขยายตัวในต่างประเทศ จึงทำให้เกิดการเดินทางไปอินเดียครั้งแรกของ หลุยส์ บูชฮง (Louis Boucheron) ใน ปี ค.ศ. 1909 ที่มุ่งเน้นไปที่การซื้ออัญมณีสำหรับการสร้างเครื่องประดับชั้นสูงของ Boucheron นั่นเอง

HIGH JEWELRY

Sapphire Necklace

ในงาน Universal Exhibition 1878 ที่กรุงปารีส Boucheron ได้รับรางวัลเหรียญทองจากการสร้างสรรค์ผลงาน และปีเดียวกันนั้นเองแบรนด์ก็ได้สร้างสร้อยคอขึ้นสำหรับ มารี ลูอีซ แมคเคย์ (Marie-Louise Mackay) ประดับด้วยแซฟไฟร์สีน้ำเงินน้ำหนัก 159 กะรัต ที่ได้มาจากแคชเมียร์ นั่นสร้างความพึงพอใจให้กับ มารี ลูอีซ แมคเคย์ (Marie-Louise Mackay) เป็นอย่างมาก ซึ่งสร้อยคอเส้นนี้ได้รับการกล่าวขานว่าเป็น “เจ้าแห่งแซฟไฟร์ที่สวยที่สุดในโลก” ผลงานนี้ทำให้ เฟรดเดริก บูชฮง เข้าใจถึงความงามของอัญมณี ที่ช่วยทำให้ผู้หญิงเปล่งประกายงดงามเมื่อสวมใส่มัน

 

The Serpent

ในปี ค.ศ. 1968 มีการสร้างเซอเพนท์ โบแอม (Serpent Bohème) ด้วยการออกแบบที่น่าดึงดูดและเต็มไปด้วยความลึกลับ ทำให้กลายเป็นเครื่องประดับที่น่าหลงไหล จุดประกายความเป็นผู้หญิง ซึ่งคอลเลกชั่นนี้สะท้อนให้เห็นถึงจิตวิญญาณอิสระ ความคิดสร้างสรรค์ของ Boucheron ซึ่งเป็นผลงานชิ้นเอกที่เป็นตำนานของแบรนด์ โดย Frédéric Boucheron เคยมอบสร้อยคอรูปงูให้ภรรยาของเขาเพื่อเป็นของขวัญ และ 50 ปี หลังจากการเปิดตัว Serpent Bohème ก็ได้รับการออกแบบสร้างสรรค์ขึ้นมาใหม่อีกครั้งด้วยการผสมผสานระหว่างโอปอลเพชรและคริสตัล อย่างกลมกลืน

 

Mazarin diamonds

หนึ่งในงานประมูลเครื่องประดับที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกจัดซึ่งได้จัดขึ้นใน ปี ค.ศ. 1887 ที่พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ แห่งกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสนั้นก็คือการประมูลมงกุฎเพชรของฝรั่งเศสในเวลานั้นเรียกว่า “การขายแห่งศตวรรษ” ภายในงานมีการขายเพชรที่ประดับอยู่บนมงกุฎด้วย และ เฟรดเดริก บูชฮง สามารถซื้อเพชรดังกล่าวไว้ได้ถึง 31 เม็ด และในบรรดาเพชรเหล่านี้มี “เพชรมาซาริน” ที่มีชื่อเสียง ซึ่งมีน้ำหนัก 18 และ 16 กะรัต ตามลำดับ และเขาได้นำมารังสรรค์แหวนให้กับ แกรเบียล (Gabrielle) ภรรยาของเขา เพื่อเป็นคำมั่นสัญญาถึงความรักนิรันดร์ของทั้งคู่

Animals

แบรนด์ Boucheron ได้เพิ่มคอลเลกชั่นของสัตว์ที่น่าอัศจรรย์ Fabulous Animals ในคอลเลกชั่นนี้มีแหล่งที่มาของแรงบันดาลใจ คือการรวบรวมพลังเหนือธรรมชาติของสัตว์มาทำเป็นเครื่องประดับ เครื่องรางที่มีพลังป้องกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือเป็นตำนาน แต่เครื่องประดับทุกชิ้นล้วนมีความหมาย ซึ่งสัตว์แต่ละชนิดนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่เหมือนใคร และมีโดดเด่นในตัวเอง

Le Point d’ Interrogation

ใน ปี ค.ศ. 1883 แกรนด์ดยุคแห่งรัสเซีย (Grand Duke Alexei) ซึ่งเป็นลูกค้าคนสำคัญของ Boucheron ได้ซื้อสร้อยคอขนนกยูงสีเขียวมรกตและเพชร เรียกว่า “Question mark” เนื่องจากรูปทรงที่เป็นสร้อยคอแบบใหม่ โอบรอบคอของผู้สวมใส่โดยปราศจากตัวล็อก ทำให้ได้ความสวยงามแบบใหม่แก่หญิงสาว สร้อยนี้ออกแบบโดย เฟรดเดริก บูชฮง (Frédéric Boucheron) และ พอล รีแกรนด์ (Paul Legrand) หัวหน้าเวิร์คช็อปของเขา ถือเป็นผลงานชิ้นที่ไม่สมมาตร แต่กลับมีความทันสมัยอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน และได้รับรางวัลเหรียญทองในงาน World’s Fair ในปี ค.ศ. 1889

 

The Boucheron

ปัจจุบัน Gucci ได้ซื้อกิจการของ Boucheron แล้ว ในปี ค.ศ. 2000 โดย 4 ปี ต่อมากลุ่มบริษัทแบรนด์หรู Kering ก็ได้ซื้อกิจการของ Gucci ต่อ ดังนั้นวันนี้ Boucheron จึงอยู่ในเครือของ Kering โดยมี แคลร์ ชัวเน่ (Claire Choisne) เป็น Creative Director ตั้งแต่นั้นมาร้านค้าหลายแห่งได้เปิดขึ้นและ Place Vendôme ได้รับการปรับปรุงใหม่ ซึ่งนอกจากเครื่องประดับอัญมณีแล้ว แบรนด์ก็ยังมีสินค้าเกี่ยวกับน้ำหอม นาฬิกา และแหวนแต่งงานอีกด้วย

ในโลกแห่งความ Luxury นั้นต้องการแบรนด์อัญมณีอย่าง Boucheron ที่มีเรื่องราววิวัฒนาการของการทำเครื่องประดับชั้นดี โดนเด่นและมีแบบแผนที่ประสบความสำเร็จอยู่เสมอ นับเป็นเวลากว่า 161 ปี ของธุรกิจที่ยังคงดำเนินการอยู่ และมีฐานลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งรวมไปถึงราชวงศ์และดาราภาพยนตร์ แบรนด์ได้ขีดเขียนเรื่องราว และประวัติศาสตร์อันน่าทึ่งนี้ด้วยเอกลักษณ์ความงดงามของเหล่าอัญมณีชั้นสูง HIGH JEWELRY

รัก
xoxo