To top
25 Feb

ทำความรู้จัก Virginie Viard มือขวาของคาร์ล ลาเกอร์เฟลด์

ทำความรู้จัก Virginie Viard มือขวาของคาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ จากเด็กฝึกงานของ Chanel เมื่อปี ค.ศ. 1987 สู่ดีไซเนอร์ชื่อดังและเป็นผู้สืบตำแหน่งอันทรงเกียรติในวงการแฟชั่น ต่อจากเจ้าพ่อแฟชั่นผู้ยิ่งใหญ่อย่าง คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ เธอผู้นั้นคือ Virginie Viard ในบทความนี้ KATEXOXO จะพาไปทำความรู้จักผู้ที่เปรียบเสมือนแขนขวาและแขนซ้ายของคาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ ดีไซเนอร์หญิงคนแรก ที่ได้กุมบังเหียนแบรนด์หรูแห่งนี้นับตั้งแต่ผู้ก่อตั้ง Gabrielle Chanel

 

Who is Virginie Viard ?

Virginie Viard เริ่มต้นการทำงานของเธอที่ Chanel ในฐานะเด็กฝึกงานเมื่อปี ค.ศ. 1987 และคงทำงานให้กับ Chanel ตลอดการทำงานในอาชีพของเธอ นอกเหนือจากการทำงานที่ Chloé ในช่วงสั้น ๆ เธอเป็นที่รู้จักในนามผู้หญิงมือขวาของคาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ เขาเรียก Viard ว่า “แขนขวาและแขนซ้ายของฉัน” จนกระทั่งเขาเสียชีวิตในเดือนกุมภาพันธ์ 2019 Viard ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจาก Lagerfeld ที่ Chanel และเปิดตัวคอลเล็กชั่นแรกของเธอ สำหรับแฟชั่นเฮ้าส์ชาวปารีเชียน ในเดือนมีนาคม 2019

Viard เกิดในปี 1962 และเติบโตในเมืองลียง ประเทศฝรั่งเศส เส้นทางสู่โลกของแฟชั่นของเธอ เริ่มต้นจากปู่ย่าตายายของเธอซึ่งเป็นผู้ผลิตผ้าไหม พ่อของเธอเป็นแชมป์สกีที่ผันตัวมาเป็นศัลยแพทย์ Viard ศึกษาการออกแบบที่ Le Cours Georges โรงเรียนแฟชั่นในลียง ซึ่งเธอเชี่ยวชาญด้านเครื่องแต่งกายและภาพยนตร์

แม่ของเธอเป็นคนสอนให้เธอรู้จักงานฝีมือและเรียนรู้การเย็บผ้า แถมเมืองลียงเองยังเป็นศูนย์กลางสิ่งทอสำคัญของประเทศฝรั่งเศส ยิ่งส่งให้เธอมีพื้นฐานด้านนี้ตั้งแต่เริ่มต้น โดยในวัย 20 เธอทำแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเองขึ้นในชื่อ Nirvana โดยใช้ผ้าจากโรงงานคุณตาของเธอเอง เธอเริ่มเรียนทำแพตเทิร์นเพิ่มเติมที่โรงเรียนแฟชั่นท้องถิ่น พร้อมทั้งทำงานเป็นพนักงานขายเครื่องประดับ แม้จะขายไม่เก่งเลยก็ตาม แต่ Virginie กลับชื่นชอบหน้าที่ตกแต่งร้านที่เธอมักมาพร้อมธีมใหม่ ๆ เกือบทุกวัน

Viard เติบโตท่ามกลางในครอบครัวที่หลงไหลในแฟชั่น คุณปู่และคุณย่าของเธอมีโรงงานทอผ้าเป็นของตัวเอง เธอกล่าวว่า “ฉันหลงไหลในอุตสาหกรรมแฟชั่นมาโดยตลอด โดยสิ่งที่ชื่นชอบและอยากทำมากที่สุดก็คือการออกเสื้อผ้าสำหรับนักแสดงละครเวที

ไม่นานหลังจากนั้น ทาง Virginie Viard ได้เดินทางสู่เมืองหลวงแฟชั่นอย่างปารีสผ่านการชักจูงจากเพื่อน ซึ่งเธอได้ฝึกงานกับ Jacqueline de Ribes สาวสังคมคนดังของปารีส ก่อนจะได้งานประจำเป็นผู้ช่วยของ Dominique Borg นักออกแบบเครื่องแต่งกายภาพยนตร์ที่ทำให้เธอค้นพบแพสชันการทำงานจริง ๆ ของเธอ จากนั้นเธอก็ได้เป็นดีไซเนอร์ออกแบบชุดให้กับละครและภาพยนตร์ จนกระทั่งฉันได้พบกับ Karl ผู้ที่ชักจูงให้ฉันได้มีโอกาสร่วมงานกับ Chanel และ Chloé

ทั้งยังได้ร่วมงานกับนักแสดงหญิงชาวฝรั่งเศส อิซาเบล อัดจานี (Isabelle Adjani) และผู้กำกับ บรูโน นวยต์เทน (Bruno Nuytten) และเธอยังคงมีส่วนร่วมในการออกแบบเครื่องแต่งกายในขณะที่ทำงานที่ Chloé โดยออกแบบเครื่องแต่งกายสำหรับภาพยนตร์เรื่อง “Three Colours: Blue” (1993) นำแสดงโดย Juliette Binoche  และ “Three Colours: White” (1994) ซึ่งเธอร่วมงานกับแบรนด์ Chloé ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1992-1997

 

เริ่มต้นทำงานกับ Chanel

Viard เริ่มต้นที่ Chanel ในตำแหน่งเด็กฝึกงานด้านงานเย็บปักถักร้อยโอต์กูตูร์ในปี ค.ศ. 1987 ตามคำแนะนำของ Lagerfeld โดยร่วมงานกับสี่ปีหลังจากที่เขากลายเป็นผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของแบรนด์หรูในขณะนั้น โดยได้มหาดเล็กของเจ้าหญิง Rainier แห่งโมนาโค รับรองการฝึกงานนี้ให้เธอ หลังจากนั้นเธอก็ติดตามคาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ไปร่วมงานกับแบรนด์ Chloé เมื่อปี ค.ศ. 1992 ก่อนย้ายกลับมาที่ Chanel ในอีก 5 ปีต่อมา คือปี ค.ศ. 1997 ในตำแหน่งผู้อำนวยการสตูดิโอออกแบบแฟชั่น

ในระหว่างที่ฝึกงานที่ CHANEL ทาง Virginie Viard ถูกมอบหมายให้ดูแลแผนกของงานปัก และต้องร่วมงานกับ François Lesage ที่ขึ้นชื่อเรื่องความเนี้ยบแห่งโรงงานปักระดับตำนาน Karl ชื่นชอบ Virginie อย่างมาก เพราะบุคลิกที่สุขุมและรอบคอบของเธอทำให้เขามักถามความคิดเห็นของเธออยู่เสมอ

ทั้งสองตัวติดกันตลอด Karl มักส่งสเกตช์ให้เธอดูก่อนเสมอ แถม Virginie ยังเป็นพรายกระซิบให้เขาโอบรับดีไซน์คลาสสิกซิกเนเจอร์ความเป็น CHANEL ให้นำกลับมาใช้ในหลายๆ ครั้ง เพราะส่วนตัว Karl ไม่ชอบมองย้อนอดีต เขาชอบงานดีไซน์ที่ร่วมสมัยมากกว่า จะเห็นได้ในหลายๆ คอลเล็กชันของ CHANEL ยุคก่อนว่ามีอิทธิพลของ Virginie อยู่ เพราะว่า Karl เชื่อใจเธอมาก ๆ นั่นเอง

ในปี 2000 Viard ได้ย้ายไปอยู่แผนก เสื้อผ้าสำเร็จรูป ready-to-wear ธอเป็นผู้อำนวยการสตูดิโอสร้างสรรค์ของ Chanel ซึ่งเธอดูแลคอลเลกชั่นโอต์กูตูร์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป และเครื่องประดับ เธอทำงานอย่างใกล้ชิดกับลาเกอร์เฟลด์ในคอลเลกชั่นทั้ง 10 รายการที่ชาแนลผลิตในแต่ละปี เริ่มต้นด้วยคอลเล็กชั่น cruise 2019 show ในช่วงท้ายของปี 2018 ซึ่ง Viard โค้งคำนับกับ Lagerfeld หลังจบการแสดงแฟชั่นโชว์

Lagerfeld ให้สัมภาษณ์ในนิตยสาร Elle ฉบับพฤศจิกายน 2018 “ความสัมพันธ์ของเราคือของจริง ที่เต็มไปด้วยมิตรภาพที่แท้จริงและความรัก” “Virginie Viard เป็นทั้งมือขวาและมือซ้ายของผม” ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ช่างแน่นแฟ้น

เธอเดินออกมาทักทายบรรดาแขกแทน Karl ในโชว์แฟชั่นกูตูร์คอลเล็กชั่นโอต์กูตูร์ Spring/Summer 2019 เมื่อเดือนมกราคม ปีถัดมา Karl ไม่สามารถมาร่วมแฟชั่นโชว์ Chanel ในปารีสได้ เพราะเขารู้สึกอ่อนแรง Viard จึงทำหน้าที่ปิดโชว์แทนเขาพร้อมกับนางแบบ Vittoria Ceretti ที่สวมชุดฟินาเล่เป็นลุคเจ้าสาวในชุดว่ายน้ำปักเพชร และเธอยังเคยออกมาเดินร่วมกับ Karl เมื่อโชว์ Metiers D’Art 2018/2019 ที่นิวยอร์กเมื่อเดือนธันวาคมอีกด้วย

ต่อมา เธอได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ของ Chanel Fashion House ในปารีสตั้งแต่ปี 2019 หลังจากลาเกอร์เฟลด์เสียชีวิต คอลเลกชันเดี่ยวชุดแรกของ Viard อยู่ในการแสดงแฟชั่นโชว์ Chanel’s Resort Cruise 2020 ซึ่งจัดขึ้นที่ Grand Palais เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2019

Chanel's Resort Cruise 2020

Chanel’s Resort Cruise 2020

คอลเล็กชั่น Cruise 2020 เป็นคอลเล็กชั่นแรกของ Virginie Viard ในฐานะครีเอทีฟไดเรกเตอร์ของ CHANEL ซึ่งเมื่อก่อนสิ่งที่ทำให้ CHANEL ยิ่งใหญ่และเป็นที่พูดถึงของทั้งลูกค้าและสื่อแฟชั่นคือการทำโชว์ตระการตาและไอเท็มเก๋ ๆ ที่กลายเป็นไวรัลทันทีหลังจากโชว์จบ

แต่ในทางกลับกัน Virginie ให้ความสำคัญในการสร้างสรรค์ไอเท็มที่คลาสสิกมากกว่าตามเทรนด์เพื่อให้คุ้มค่าสำหรับการลงทุน จุดโฟกัสของเธอที่ CHANEL คือการลดทอนความฟู่ฟ่าของแบรนด์ให้ทุกอย่างสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น เน้นเสื้อผ้าที่สวมใส่ได้จริงมากกว่าเสื้อผ้าโชว์บนรันเวย์เท่านั้น เธอพยายามปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์จากสาวแฟชั่นสู่ผู้หญิงมีเทสต์แต่งตัวเป็นและดูธรรมชาติมากกว่า

ซึ่งคอลเล็กชัน Cruise 2020 ของเธอกลายเป็นหนึ่งในคอลเล็กชั่นที่ประสบความสำเร็จที่สุดของแบรนด์ CHANEL โดยนั่นหมายความว่าทิศทางการปรับสมดุลของเธอสัมฤทธิ์ผลนั่นเอง

ตั้งแต่เธอขึ้นมาเป็นผู้อำนวยการสตูดิโอของชาแนล ก็หมายความว่าเธอเป็นคนรับผิดชอบในการสร้างจินตนาการของคาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ให้กลายเป็นความจริง โดย Virginie Viard เคยให้สัมภาษณ์ว่า “ฉันทำให้คอลเล็กชั่นมีชีวิตขึ้นตามภาพร่างของคาร์ล ฉันประสานงานกับทีมงาน ซัพพลายเออร์ เลือกผ้าและวัสดุต่าง ๆ ทันทีที่ฉันได้รับภาพร่างของเขา กระบวนการทำงานก็จะเริ่มขึ้น ฉันพยายามทำให้เขาพอใจ และฉันก็ชอบที่จะทำให้เขาประหลาดใจเช่นกัน”

หลังจากข่าวการเสียชีวิตของดีไซเนอร์ระดับตำนานอย่าง คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ ออกมา ก็ได้สร้างความเสียใจและความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับวงการแฟชั่น และในเวลาต่อมาสิ่งที่แวดวงแฟชั่นให้ความสนใจไม่น้อยคือใครจะมาทำหน้าที่สืบทอดตำแหน่งครีเอทีฟไดเร็คเตอร์ของ Chanel แทนปู่คาร์ล ซึ่งไพ่ก็ออกที่ Virginie Viard บุคคลผู้เป็นมือขวาของคาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ มากว่า 30 ปี

 

Virginie Viard หัวเรือใหญ่ของ CHANEL คนล่าสุด

กว่า 30 ปีที่ Virginie Viard อยู่ในตำแหน่งผู้อำนวยการสตูดิโอฝ่ายสร้างสรรค์แฟชั่นของชาเแนล และการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของดีไซเนอร์ระดับโลก คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ ทำให้ชาแเนลต้องเลือกผู้รับช่วงต่อ ซึ่งคนที่เหมาะสมที่สุดก็คือ Virginie Viard นั่นเอง แม้ว่าชื่อของเธอจะไม่เป็นที่รู้จักของคนนอกวงการแฟชั่น แต่ในตอนนี้ไม่มีใครจะรู้จักชาแเนลดีไปมากกว่าเธออีกแล้ว

แม้วันนี้เธอจะขึ้นแท่นเป็นครีเอทีฟไดเรกเตอร์แบรนด์แฟชั่นระดับโลก แต่ Virginie Viard กลับใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย กับคู่ชีวิต Jean-Marc Fyot นักแต่งเพลงและโปรดิวเซอร์ และ Robinson ลูกชายวัย 25 ปี  เธอไม่เน้นสังสรรค์หรือปาร์ตี้ แต่เธอจะตรงดิ่งกลับที่พักทันที ตัวตนของเธอกลายเป็นภาพลักษณ์ของผู้หญิง CHANEL อันเป็นเอกลักษณ์ ผู้หญิงของ CHANEL ยุคใหม่เองดูสะท้อนมาจากตัวตนของ Virginie ความสุขุม ฉลาด มีอารมณ์ขัน เป็นเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใครของเธอ

อย่างไรก็ตาม ชาแนลเป็นแบรนด์ที่แสดงให้เห็นว่าชอบความมั่นคงมากกว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นครั้งคราว เพราะตั้งแต่โคโค่ ชาเนล จากไป คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ ก็เข้ามาดูแลชาแนลจนวาระสุดท้ายของชีวิต แต่ Chanel ภายใต้การดูแลของ Virginie Viard อย่างเต็มตัวจะออกมารูปแบบไหน Virginie สามารถขับเคลื่อนแบรนด์ CHANEL ไปช้า ๆ แต่มั่นคงด้วยมุมมองของดีไซเนอร์ผู้หญิงที่ออกแบบเสื้อผ้าให้ผู้หญิงจนสามารถขยายกลุ่มฐานลูกค้าใหม่ให้กับแบรนด์ได้ เชื่อว่าทั้งโลกจะต้องจับตามองอย่างแน่นอน

รัก
xoxo

 

KATE