To top
6 Jul

กว่าจะเป็นลิปสติก Chanel

กว่าจะเป็นลิปสติก Chanel ได้นั้น เริ่มจากใครไปไม่ได้เลย นอกจาก กาเบรียล บอนเนอร์ ชาแนล (Gabrielle Bonheur Chanel) ลิปสติกสีแดงสดที่ตัดอย่างพอดีกับใบหน้าขาวนวลเนียน ผมดำสลวย คิ้วคมเข้ม รับกับใบหน้าที่ได้รูป ที่ไม่ว่าใครได้เห็นก็เป็นอันต้องตกหลุมรักในความงามนี้ ด้วยสีที่แดงสดของตัวลิปสติกในยุคสมัยนั้น ทำให้กลายเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของ Chanel

ตำนานกว่าจะมาเป็น ลิปสติก chanel

กาเบรียล บอนเนอร์ ชาแนล (Gabrielle Bonheur Chanel)

การแต่งหน้าของ ชาแนล ไม่ใช่เฉพาะเพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่เพื่อเป็นการแสดงถึงความเป็นตัวตนของเธอให้ทุกคนได้รับรู้ ซึ่งเธอเองเคยได้กล่าวไว้ว่า “To be irreplaceable one must be different” หากต้องการเป็นคนที่ไม่มีใครมาแทนที่ได้นั้น เราจะต้องสร้างความแตกต่าง และนี่คือจุดเริ่มต้นของ ลิปสติก Chanel

 

History of Chanel Lipstick

ตำนานกว่าจะมาเป็น ลิปสติก chanel

กว่าจะเป็นลิปสติก Chanel

ชาแนลนั้นได้ให้ความสำคัญกับการแต่งหน้าเป็นอย่างมาก พอ ๆ กับการดีไซน์ออกแบบเสื้อผ้าหรือกระเป๋า เธอถือว่าการแต่งหน้าคืออีกหนึ่งสิ่งหนึ่งที่เธอรัก โดยเธอต้องการที่จะสร้างความโดดเด่นและแตกต่างจากคนอื่น ๆ  ประกอบกับความเป็น Perfectionism ของชาแนล จึงทำให้วันหนึ่ง ใน ปี ค.ศ. 1917 เธอตัดสินใจที่จะตัดผมของตัวเองให้เป็นหน้าม้าหนา รับกับดวงตาคมโตของเธอ พร้อมกับเริ่มนำ ลิปสติกสีแดงสดมาทาบนริมฝีปากที่ได้รูป ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คนหันมาสนใจในลิปสติกสีแดงที่น่าหลงไหลและเย้ายวลนี้

 

เนื่องจาก ชาแนล นั้นเป็นคนที่ใส่ใจในรายละเอียดของทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า หน้า ผม ดังนั้น เธอจะไม่พอใจอย่างมาก ถ้าหากสีลิปสติกของเธอเฟดสีลง จึงเกิดเป็นไอเดียของการ ออกแบบ ดีไซน์ช่องกระเป๋าเล็ก ๆ ขึ้นมาอีก 1 ช่อง เพื่อที่จะไว้ใส้แท่งลิปสติกโดยเฉพาะ

และอีกหนึ่งจุดเด่นของเธอก็คือ ชาแนล นั้นไม่เคยไปไหน หรือ ออกจากห้องโดยหน้าที่ยังไร้เครื่องสำอางแม้แต่ครั้งเดียว เธอยังได้กล่าวไว้ว่า การแต่งตัวให้ดูดีนั้นคือสิ่งจำเป็น ชาแนลจะไม่ยอมรับข้อแก้ตัว หรือความขี้เกียจในการแต่งตัวให้ดูดีอยู่เสมอ เฉพาะนั้น จะไม่มีทางเลยที่จะมีใครได้เห็นเธอในวันที่โทรม หน้าสด และไ่ม่ได้แต่งตัว เธอไม่เคยลืมที่จะทาลิปสติกสีแดงคู่ใจ และพกไว้ในกระเป๋าตลอดเวลา ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ตาม

First ‘Stick’ of Blood-Red Lip Color

ตำนานกว่าจะมาเป็น ลิปสติก chanel

จุดเริ่มต้นของการออกแบบลิปสติกนั้น เห็นจะเป็นในช่วงปี ค.ศ. 1921 การออกแบบนั้นค่อนข้างเรียบง่าย แต่ครบทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน ตัวลิปสติกจะถูกห่อด้วยกระดาษไขพิเศษ ที่จะช่วยคงรูปของตัวลิปสติกไว้อย่างดี ก่อนที่จะถูกบรรจุลงในกล่องหรือแท่งลิปสติกที่ดีไซน์หรูหรา คงความเป็น Chanel ได้อย่างลงตัว

ถ้านั้นยังไม่พอ ชาแนลได้เพิ่มลูกเล่นให้กับตัวแท่งลิปสติก โดยการนำแท่งมุขสีขาวนวลมาใช้แทนที่ปลอกสีดำตัวเดิม ในส่วนของตัวหมุนนั้นก็ได้นำโลหะสีเทามันวาว ที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งานที่ง่ายขึ้น อีกทั้ง ได้ปรับรูปแบบโลโก้ จากตัว C เพียงตัวเดียวให้เป็นตัว CC  ในปี ค.ศ. 1930 อีกด้วย

ตำนานกว่าจะมาเป็น ลิปสติก chanel

และนั้นก็คือจุดเปลี่ยน ที่ไม่ว่าใครได้เห็นแท่งลิปสติกของ Coco Chanel ใช้นั้น ต่างก็ต้องการได้มาเป็นเจ้าของ จึงได้มีการผลิตออกมาให้ทุกคนสามารถเลือกซื้อกัน ด้วยความที่ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จึงทำให้ 2 นักแต่งหน้าของทางแบรนด์ Chanel ได้แก่ โดมินิค มอนโคทรอยส์ (Dominique Moncourtois) กับ ฮาดิ มอโรวัสซ์ (Heidi Morawetz)

ทั้งคู่ได้รังสรรค์ออกโทนสีแดงออกมาเพิ่มอีก 8 เฉดสี มากกว่านั้น ได้มีการพัฒนาเนื้อของตัวลิปสติกและความเข้มข้นของสีอีกด้วย ซึ่งได้แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในทุกรายละเอียด และการพัฒนาคุณภาพของตัวลิปสติกอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ตอบโจทย์ผู้ใช้สินค้า และมีความเข้ายุคเข้าสมัย

 

A New Way to Wear Lipstick

ตำนานกว่าจะมาเป็น ลิปสติก chanel

ณ ปัจจุนบันนี้ ทาง Chanel ก็ไม่ได้หยุดพัฒนาตัวลิปสติก ที่ได้มีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาช่วยเพิ่มความฉุ่มชื้นให้กับริมฝีปาก รวมไปถึงเนื้อลิปสติกให้มีความเบาขึ้น ทำให้ผู้ทามีความรู้สึกเบา ไม่หนักริมฝีปากโดยที่สีก็ยังมีความเด่นชัด เน้น อยู่นาน โดยไม่ต้องเติมสีระหว่างวันเหมือนรุ่นก่อน ๆ บวกกับเฉดสีที่มีความหลากหลายมากขึ้น

ซึ่งมีให้เลือกตั้งแต่ Pale beige ไปจนถึง Deep plum ซึ่งมีให้ได้เลือกสรรกันมากกว่า 15 เฉดสีเลยทีเดียว อีกอย่างที่ไม่พูดถึงเลยไม่ได้ก็คือ ลิปกลอส ที่ได้มีการเพิ่มความมันเงาและกลิตเตอร์เข้าไป ที่ทำให้นอกจากเพิ่มความชุ่มชื่นแล้วนั้นยังเพิ่มความน่าสนใจให้กับริมฝีปากนั้นเอง

โดยทุก ๆ การออกแบบของ ลิปสติก Chanel นั้น ออกแบบมาด้วยความเข้าใจว่าทุก ๆ คน นั้นมีความต้องการและเอาใจใส่ในรูปแบบที่แตกต่างกัน นั้นทำให้ทาง Chanel สนใจ และเล็งเห็นในส่วนนี้ จนเกิดเป็นลิปสติกที่สามารถตอบโจทย์ของสาว ๆ หลายต่อหลายคน เพราะไม่ว่าจะซื้อมาใช้เอง หรือซื้อให้เป็นของขวัญในวันพิเศษ ก็ถูกใจทั้งผู้รับ และสุขใจผู้ให้อย่างแน่นอน

รัก
xoxo

KATE