To top
21 Sep

เปิดประวัติ Lamborghini

เมื่อพูดถึงซูเปอร์คาร์ที่มีฉายาว่าเป็นเจ้าแห่งความเร็ว จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก Lamborghini รถยนต์หรูสัญชาติอิตาลีที่ถือกำเนิดขึ้นจากการที่ เฟร์รุชชิโอ ลัมโบร์กินี (Ferruccio Lamborghini) ซึ่งเขาไม่พอใจในการบริการของรถหรูยี่ห้อหนึ่ง เขาจึงได้สร้างรถยนต์ของตัวเองออกมาขาย ด้วยความตั้งใจที่จะทำรถสปอร์ตออกมาให้มีสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม และวันนี้เราจะพาคุณย้อนเวลาเพื่อทำความรู้จักกับ ประวัติ Lamborghini รถยนต์หรูที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก

ประวัติของ เฟร์รุชชิโอ ลัมโบร์กินี

Ferruccio Lamborghini

เฟร์รุชชิโอ ลัมโบร์กินี (Ferruccio Lamborghini) เกิดเมื่อวันที่  28 เมษายน ค.ศ. 1916 ในตระกูลชาวนา เขาเองมีความสนใจในด้านเครื่องยนต์เป็นพิเศษ พ่อจึงส่ง เฟร์รุชชิโอ ไปเรียนวิศวกรรมศาสตร์ อุตสาหกรรมจักรกล หลังจากที่เรียนจบได้ไม่นานก็เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ขึ้น เขาจึงเข้ารับใช้ชาติโดยทำงานให้กับฐานทัพอากาศอิตาลี ซึ่งหลังสงครามสิ้นสุด เขาได้เดินทางกลับมายังบ้านเกิด

เฟร์รุชชิโอ ลัมโบร์กินี ได้เริ่มต้นงานซ่อมแซมรถแทรกเตอร์ โดยใช้อะไหล่จากยวดยานของทหาร และนั้นคือจุดเริ่มต้นในการตั้งโรงงานแทรกเตอร์ของเขาเอง ในชื่อว่า Lamborghini Trattori S.p.A. ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ และได้กลายมาเป็นบริษัทผลิตรถแทร็กเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี นอกจากนี้ เฟร์รุชชิโอ ลัมโบร์กินี ยังเป็นเจ้าของกิจการเครื่องปรับอากาศอีกด้วย

จากคำถากถางสู่การสร้างซูเปอร์คาร์

เฟร์รุชชิโอ ลัมโบร์กีนี เริ่มมีฐานะมั่งคั่งขึ้น เขาหลงไหลและเริ่มซื้อรถแบรนด์ดังต่าง ๆ อาทิ อัลฟา โรเมโอ (Alfa Romeo), มาเซราติ (Maserati), จากัวร์ (Jaguar), แอสตัน มาร์ติน (Aston Martin), เชฟโรเลต (Chevrolet) และ เฟอร์รารี่ (Ferrari) รถยนต์เหล่านี้กำเนิดขึ้นในยุค 1950-1960 มีเครื่องยนต์ที่ให้แรงม้ามากกว่ารถทั่วไปและควบคุมได้ยาก ต่อมาเขาได้ออกรถคันใหม่ นั่นคือ Ferrari รุ่น 250 GT และเกิดปัญหาการใช้งานบางอย่าง เฟร์รุชชิโอจึงได้แจ้งให้กับทาง Ferrari ทราบ แต่เขากลับโดนดูถูกว่าเขาไม่ได้มีความรู้เรื่องรถสปอร์ต เป็นเพียงคนบ้านนอกเท่านั้น

หลังจากนั้น ในขณะที่เขายังเป็นเจ้าของกิจการผลิตรถแทรกเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี เฟร์รุชชิโอ ลัมโบร์กีนี ได้รวบรวมเอาบุคลากรที่ดี มีความสารมารถมาร่วมกันผลิตรถ ภายใต้ชื่อ ออโตโมบิล ลัมโบร์กีนี (Automobile Lamborghini) ในช่วงปี ค.ศ. 1962 เป็นปรากฏการณ์ใหม่ของวงการรถสปอร์ตในยุโรป

ทั้งรูปแบบของตัวรถ Lamborghini เทคโนโลยีของเครื่องยนต์ การวางตำแหน่งเครื่อง การบังคับควบคุมที่วิศวกร และนักขับทดสอบของบริษัทร่วมกันคิดค้นและพัตนา จนเสร็จสมบูรณ์เป็น Lamborghini 350 GTV เรียกได้ว่ารถคันนี้คือมาสเตอร์พีสของแบรนด์ในเวลานั้น

รถหรูอย่างลัมโบร์กีนีใช้สัญลักษณ์เป็นรูป “วัวกระทิง” ซึ่งได้ไอเดียมาจากการแข่งขันสู้วัวกระทิง ในประเทศสเปน เฟร์รุชชิโอ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ ได้พัฒนารถสปอร์ตสุดหรูเพื่อตอบสนองลูกค้าที่มี “รายได้สูง รสนิยมสูง” ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของเขา โดยที่ลัมโบร์กีนีได้ดำเนินธุรกิจภายใต้คำขวัญ “มาหาลัมโบร์กีนี หากคุณต้องการรถที่ดีที่สุดในโลก”

ประวัติ Lamborghini

ต่อมาเขาได้ขายกิจการรถแทร็กเตอร์และรถไถนาของ ลัมโบร์กีนี ให้กับบริษัทเซม (Same) ผู้ผลิตเครื่องจักรกลทางการเกษตร จากนั้นไม่นาน บริษัทได้ประสบกับปัญหาทางการเงินจนถึงขั้นล้มละลายลงในปี ค.ศ. 1977 พี่น้องตระกูลมิมรัน (Mimran) จึงมารับช่วงต่อโดยการซื้อกิจการ แต่ธุรกิจก็ยังคงติดขัดอยู่ จึงถูกขายต่อให้กับบริษัท ไครสเลอร์ (Chrysler) และถูกขายต่ออีกทอดไปยังกลุ่มทุนจากอินโดนีเซีย

ในท้ายที่สุดบริษัท อาวดี้ อาเก (AUDI AG) เครือฟ็อลคส์วาเกินกรุ๊ป (Volkswagen) ได้เข้ามาดูแลกิจการแล้วก็ได้ทำให้ ลัมโบร์กีนี กลับมามั่นคงอีกครั้งจากการดูแลพัฒนาตัวผลิตภัณฑ์ จากวิศวกรและทีมงานของทางเยอรมันที่มีความมุ่งมั่น บวกกับบริษัทมีเงินทุนมหาศาล ทำให้ลัมโบร์กีนีหวนสู่วงการซูเปอร์คาร์อีกครั้ง โดยได้เปิดตัวรถรุ่น กัลลาร์โด (Gallardo) และ มูร์เซียลาโก (Murciélago) ซึ่งเป็นการผสานนวัตกรรมของ ลัมโบร์กีนี และ อาวดี้ เข้าด้วยกัน ทำให้ขายได้มากกว่า 9,000 คันในเวลานั้น

Limited Edition Supercar

lamborghini limited edition supercar

ลัมโบร์กีนี เรเบนตัน (Lamborghini Reventón)

Lamborghini Reventón

Reventón เป็นรถยนต์สมรรถนะสูง ที่ได้รับแรงบันดาลใจการออกแบบมาจาก “เครื่องบินขับไล่ที่เร็วที่สุด” ตำแหน่งของเครื่องยนตร์อยู่กลางลำหลัง ขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) 2 ประตู และ 2 ที่นั่ง เปิดตัวในปี ค.ศ. 2007 ที่งานแฟรงค์เฟิร์ตมอเตอร์โชว์ และกลายเป็นรถที่มีมูลค่าสูงที่สุดในงาน ด้วยราคา 1 ล้านยูโร หรือ กว่า 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รถคันนี้สามารถทำความเร็วสูงสุดไว้ที่ 356 กม./ชม. มีจำหน่ายเพียง 20 คันเท่านั้น โดยแบ่งเป็น 10 คันที่ประเทศสหรัฐอเมริกา อีก 7 คันที่ทวีปยุโรป 1 คันที่ประเทศแคนาดา และอีก 2 คันที่ทวีปเอเซีย

ลัมโบร์กีนี เซสโต เอเลเมนโต (Lamborghini Sesto Elemento)

Lamborghini Sesto Elemento

Sesto Elemento เป็นรถยนต์นั่งสมรรถนะสูง เครื่องยนตร์อยู่กลางลำด้านหลังของรถ ขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) 2 ประตู และมี 2 ที่นั่ง มีจุดเด่นตรงที่ เป็นรถที่มีน้ำเบากว่ารถทั่ว ๆ ไปมีน้ำหนักเพียง 999 กิโลกรัมเท่านั้น เป็นรถลัมโบร์กีนีที่มีน้ำหนักน้อยที่สุดเท่าที่เคยมีมา! และสามารถทำความเร็ว 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 2.5 วินาที โดยเปิดตัวครั้งแรกที่งาน ปารีส มอเตอร์ โชว์ ปี ค.ศ. 2010 และเริ่มผลิตในปี ค.ศ. 2011 ในจำนวนจำกัดเพียง 20 คัน แต่ละคันมีราคาจำหน่ายระหว่าง 2.2 – 2.9 ล้านดอลลาร์ ซึ่งปัจจุบันรถทั้ง 20 คันนี้ก็ได้ถูกจำหน่ายออกไปหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ลัมโบร์กีนี เบเนโน (Lamborghini Veneno)

Lamborghini Veneno

รถยนต์สมรรถนะสูงคันแรกของเบเนโน ใช้รหัสว่า “Car Zero” ได้โชว์ตัวครั้งแรกที่งาน เจนีวา มอเตอร์ โชว์ ปี 2013 เครื่องยนต์ได้นำมาจากรถยนต์รุ่น อะเวนตาโดร์ (Aventador) ทั้งหมด คือเครื่องยนต์ 6.5 ลิตร V12 ซึ่งรถได้ถูกออกแบบมาเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีของบริษัทลัมโบร์กีนี ถูกเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์ของลัมโบร์กีนี ซึ่ง Lamborghini Veneno Coupe ผลิตออกมาจำหน่ายจะมีเพียง 3 คัน และ Lamborghini Veneno Roadster ผลิตออกจำหน่ายเพียงแค่ 9 คันเท่านั้น

 

ลัมโบร์กีนี เซนเตนารีโอ (Lamborghini Centenario)

Lamborghini Centenario

ลัมโบร์กีนีคันนี้ ถูกเปิดตัวในงาน Geneva Motor Show 2016 เพื่อฉลองวันเกิดครบรอบ 100 ปีของ Ferruccio Lamborghini Centenario เป็นรถยนต์คันแรกที่มีระบบเพื่อเพิ่มความคล่องแคล่วในสภาพแวดล้อมการขับขี่ในเมือง มีการปรับปรุงให้มีระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ ISR ความเร็ว 7 ระดับ พร้อมกับระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ ที่พัฒนาโดย Haldex Centenario ถูกผลิตออกมาทั้งหมด 40 คัน แบ่งออกเป็น Coupe 20 คัน และ Roadster 20 คัน ซึ่งได้ถูกขายให้กับลูกค้าที่ได้รับคำเชิญ

 

ลัมโบร์กีนี เอสซี 18 อัลสเตอร์ (Lamborghini SC18 Alston)

Lamborghini SC18 Alston

SC18 Alston เป็นรถซูเปอร์คาร์คันแรกที่ออกแบบโดยแผนกมอเตอร์สปอร์ต Lamborghini Squadra Corse ซึ่งมีแค่คันเดียวในโลก ได้ต้นแบบมาจาก Lamborghini Aventador และด้านหน้าของตัวรถโดดเด่นด้วยช่องลำเลียงอากาศแบบ S-Duct ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถแข่ง Huracan GT3 ซึ่งรถคันนี้เน้นสมรรถนะสำหรับการแข่งในสนาม มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 12 V ขนาด 6.5 ลิตร  มีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 2.8 วินาที แต่ทางลัมโบร์กีนีไม่ยอมเปิดเผยความเร็วสูงสุดของรถรุ่นนี้

 

ลัมโบร์กีนี ชีอาน (Lamborghini Sián)

Lamborghini Sián

Sián คือ ซูเปอร์คาร์พลังงาน Hybrid รุ่นแรกที่มีต้นแบบมาจากรถ Lamborghini Terzo Millennio ถูกเปิดตัวครั้งแรกในงาน Frankfurt Motor Show 2019 รถคันนี้มาพร้อมกับเครื่องยนต์ V12 ขนาด 6.5 ลิตร ให้กำลัง 785 แรงม้า เมื่อทำงานรวมกับระบบไฮบริดจะมีกำลังสูงสุด 819 แรงม้า โดยแบตเตอรี่ที่ใช้เก็บพลังงานไฟฟ้า คือ Lithium-ion แบบใหม่ซึ่งให้กำลังไฟมากกว่าทั่วไปถึง 3 เท่า ถ้าเทียบในน้ำหนักเท่ากัน Lamborghini แล้ว Sián สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ด้วยเวลาเพียง 2.8 วินาที มีความเร็วสูงสุดหยุดอยู่ที่ 350 กม./ชม และถูกผลิตออกมาทั้งหมด 63 คัน แน่นอนว่าแต่ละคันได้ถูกขายไปเรียบร้อยแล้ว

Lamborghini

ข้อมูลจากปี ค.ศ. 2017 ทำให้เราทราบว่ามูลค่าของบริษัท Lamborghini เพิ่มมากขึ้นจนแตะหลักพันล้านยูโร โดยมีมูลค่าถึง 1,009 ล้านยูโร เพิ่มจากเดิมถึง 11% ความสำเร็จเหล่านี้เกิดจากการวางกลยุทธทางธุรกิจ โดยมีการพัฒนาเทคโนโลยีของซูเปอร์คาร์ และเพิ่มกำลังการผลิตที่มากขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้ยอดขายทุบสถิติเดิมที่เคยมีมาเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้ผู้คนยังนิยมตามหารถในรุ่น Limited Edition ซึ่งผู้นักสะสมจะยินดีจ่ายเงินมากขึ้น เพื่อรถยนต์ที่หายากจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงอย่างเช่น Lamborghini

รัก
xoxo

khwanchanok