To top
7 Feb

ประวัติแบรนด์ Prada แบรนด์ชั้นนำระดับโลก

“ผู้หญิงไม่ควรมีบทบาท หรือเข้ามายุ่งเกี่ยวในการดำเนินธุรกิจ” ประโยคนี้อาจจะฟังดูขัดใจผู้คนในยุคปัจจุบันที่กำลังให้ความสำคัญเรื่องความเท่าเทียมสักหน่อย แต่ใครจะรู้ว่านี่คือทัศนคติการดำเนินธุรกิจของนักออกแบบที่ชื่อ มาริโอ พราด้า (Mario Prada) ผู้ริเริ่มธุรกิจครอบครัวและผู้ก่อตั้งบริษัท Prada ซึ่งในบทความนี้เราจะเล่าย้อนไปถึงการก่อตั้งแบรนด์ Prada จุดเปลี่ยนสำคัญทางธุรกิจ การบริหารจากผู้หญิงที่ขัดกับความเชื่อของเขา ที่ทำให้ Prada กลายเป็นตำนานความหรูหรา Luxury Fashion ที่เป็นที่นิยมของชนชั้นสูง สู่แบรนด์ชั้นนำระดับโลก

 

ประวัติแบรนด์ Prada

มาริโอ พราด้า (Mario Prada)

มาริโอ พราด้า (Mario Prada)

มาริโอ พราด้า (Mario Prada) เกิดที่มิลาน ประเทศอิตาลี และเสียชีวิต ในปี 1958 เขาประกอบอาชีพเป็นนักออกแบบ ทั้งเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทนำเข้าเครื่องหนัง กระเป๋าเดินทาง คุณภาพเยี่ยมจากประเทศอังกฤษ และยังเป็นผู้ออกแบบดั้งเดิมของแบรนด์ Prada ที่เชี่ยวชาญเรื่องแฟชั่นชั้นสูงสำหรับสุภาพบุรุษ และสุภาพสตรี รวมไปถึงกระเป๋า รองเท้า และเครื่องหนัง

ประวัติแบรนด์ Prada มีจุดเริ่มต้นในปี 1913 มาริโอ พราด้า (Mario Prada) และ มาร์ติโน่ พราด้า (Martino Prada) ได้ก่อตั้งบริษัทนำเข้าเครื่องหนัง กระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ กระเป๋าถือ จากประเทศอังกฤษ ในตอนแรกพวกเขาใช้ชื่อบริษัทว่า Fratelli Prada และเปลี่ยนเป็น Prada ในภายหลัง ด้วยความเชื่อของ Mario Prada ที่ว่า ผู้หญิงไม่ควรเข้ามามีบทบาททางธุรกิจ ทำให้เขากีดกันสมาชิกในครอบครัวที่เป็นเพศหญิงไม่ให้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัท

ความคาดหวังทั้งหมดจึงไปตกอยู่ที่ลูกชายของเขา แต่ลูกชายของเขาไม่มีความสนใจในธุรกิจครอบครัว ลูอิสะ พราด้า (Luisa Prada) ผู้เป็นลูกสาวจึงรับช่วงต่อธุรกิจของครอบครัว เธอสานต่อธุรกิจของครอบครัวเป็นเวลานานร่วมยี่สิบปี จากนั้นจึงเริ่มให้ มิวฉะ พราด้า (Miuccia Prada) ผู้เป็นหลานสาวของ Mario Prada เข้ามามีบทบาททางธุรกิจ Miuccia Prada เริ่มเข้าสุ่ธุรกิจครอบครัวในช่วงปี 1970 และในปี 1978 เธอเทค โอเวอร์ กิจการทั้งหมดจาก Luisa Prada ผู้เป็นแม่

 

Miuccia Prada ผู้พลิกโฉม ประวัติแบรนด์ Prada

เธอเริ่มแสดงความเป็นอัจฉริยะด้านการออกแบบโดยการรังสรรค์ผลงานชิ้นเยี่ยมออกมาจนเป็นที่ยอมรับในวงการอุตสาหกรรมแฟชั่น หนึ่งในผลงานที่สร้างชื่อให้เธอได้เป็นที่รู้จักคือ กระเป๋าสะพายผ้าไนล่อนสีดำขลับ ด้วยการออกแบบที่ประณีต เรียบหรู ทนทานต่อการใช้งานทำให้ผลงานนั้นได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของ Prada ทำให้แบรนด์เป็นเครื่องประดับชั้นนำในอิตาลี และเป็นที่นิยมในระดับสากล

Miuccia Prada

Miuccia Prada เกิดเมื่อ 10 พฤษภาคม 1949 ที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี จบการศึกษาระดับปริญญาเอกด้านรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยมิลาน ปัจจุบันเป็นผู้บริหารรุ่นที่ 3 ของ Prada และเป็นผู้ก่อตั้ง Miu Miu

ด้วยความคิดสร้างสรรค์ ความสามารถในการออกแบบของ Miuccia Prada และการบริหารธุรกิจของ ปาตริซิโอ เบรเตลลิ (Patrizio Bertelli) ทำให้แบรนด์ Prada เติบโตขยายกิจการไปทั่วยุโรปและสหรัฐอเมริกาได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว พวกเขาได้เปิดร้านเสื้อผ้าแห่งที่ 2 ที่ Galleria Vittorio Emanuele ใจกลางแหล่งช้อปปิ้งที่มิลาน ในปี 1983 ไม่นานนักพวกเขาก็เริ่มขายรองเท้า และตัว Miuccia Prada เองก็ได้เปิดตัว กระเป๋า Prada คลาสสิค ที่มีการใช้งานทนทาน ประกอบกับการตัดเย็บที่ประณีต เหรียบหรูทำให้ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางจนทำให้กลายเป็นสัญลักษณ์ของ Prada

Classic Prada handbag : ผลงานชิ้นโบว์แดงของ Miuccia Prada

ในปี 1987 Miuccia Prada และ Patrizio Bertelli ได้แต่งงานกัน หลังจากนั้นในปี 1989 Prada ได้ปล่อยคอลลเล็กชั่น เสื้อผ้าสตรีพร้อมสวมใส่ การออกแบบให้เป็นเอวต่ำ เข็มขัดเส้นเรียวเล็ก Prada ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นจากการแสดงให้เห็นถึงการใช้ลวดลายที่สะอาดตา ผ้าที่ใช้ในการตัดเย็บหรูหรา และใช้สีพื้นในการออกแบบ

Prada ได้รับรางวัลการันตีความสำเร็จในการออกแบบภายใต้แบรนด์มากมาย อาทิเช่น ในปี 1993 Prada ได้รับรางวัลสำหรับเครื่องประดับจากสภาแฟชั่นดีไซเนอร์แห่งสหรัฐอเมริกา จากนั้นไม่นานเพียงไม่กี่ปี ในปี 1995 Prada ได้รับรางวัลอีกครั้งจาก CFDA ในฐานะนักออกแบบแห่งปี

แบรนด์ Prada ภายใต้การบริหารงานของ Miuccia Prada และสามี ทำให้มูลค่าของบริษัท Prada เพิ่มสูงขึ้น Prada เริ่มต้นจากการเป็นที่รู้จักเรื่อง Fashion House และมีอิทธิพลมากที่สุด และแบรนด์ก็เป็นที่รู้จักในสถานะสัญลักษณ์ของความพรีเมี่ยมแห่งยุค ในปี 1992 Miuccia Prada ได้เปิดตัวแบรนด์ Miu Miu ออกมารองรับกลุ่มลูกค้าอายุน้อยเช่น ดารา เซเลบริตี้ ฯลฯ

เสื้อผ้าจาก Miu Miu

เสื้อผ้าจากแบรนด์ Miu Miu

Prada เปิดตัวร้านบูติกในแมนฮัตตัน สหรัฐอเมริกาและเปิดตัวบ้านของ Prada อีก 40 สถานที่ทั่วโลก มีสาขากว่า 20 สาขาในญี่ปุ่น ในปีนี้ได้เห็นจุดเปลี่ยนแปลงสำคัญของ Prada นักข่าวให้การยกย่อง Miuccia Prada ในเรื่องการพัฒนาสไตล์ “ugly chic” ถึงแม้ว่าลูกค้าจะสับสนเพราะเสื้อผ้าดูไม่ทันสมัย ตรงนี้นำเสนอให้เห็นถึงความกล้าหาญ และความต้องการแรกเริ่มเกี่ยวกับความปรารถนาและแฟชั่น ตั้งแต่นั้นมา Prada ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในนักออกแบบที่มีแนวคิดความคิดสร้างสรรค์

หลังจากที่ Prada ขยายตัวเติบโตในในทางธุรกิจ Miuccia Prada ก็ก่อตั้งมูลนิธิเกี่ยวกับศิลปะและวัฒนธรรมร่วมสมัยในนามว่า “Fondazione Prada” เป็นหน่วยงานที่ไม่แสวงกำไร และใช้เป็นพื้นที่จัดแสดงงานศิลปะร่วมสมัย ซึ่งปัจจุบัน Fondazione Prada ตั้งอยู่ที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี

Fondazione Prada

Fondazione Prada มิลาน, ประเทศอิตาลี

 

Prada กับวัฒนธรรมสมัยนิยม

จะเห็นได้ชัดเจนว่า Prada จะมีชื่อในฐานะแบรนด์ชั้นนำระดับโลก สามารถกล่าวได้ว่า แบรนด์ Prada เป็นตัวแทนในเรื่องความ Luxury สวยเลิศหรู และมีอิทธิพลกับสื่อต่างๆ มากมาย แม้แต่หนังดังแห่งยุคอย่างเรื่อง The Devil Wears Prada ยังใช้คำว่า “Prada” เพื่อสื่อถึง ชีวิตอัน Luxury เลิศหรู สวย เชิด ของ มิรันด้า พลีสทรี (Miranda Priestly) ซึ่งในหนังได้ตีแผ่ชีวิตของเธอ ซึ่งเป็นนักออกแบบและเป็นบรรณาธิการนิตยาสารแฟชั่น ที่โด่งดังมากจนกระทั่งได้นำไปทำเป็นภาพยนต์ออกฉายในปี 2006

The Devil Wears Prada

The Devil Wears Prada

ปัจจุบัน Prada มีสินค้าที่ผลิตออกมามากมาย หลากหลายคอลเล็กชั่น แบรนด์ Prada เองมีการซื้อขายหุ้นและทำงานร่วมกับแบรนด์อื่นๆ และบริษัทชั้นนำต่างๆทั่วโลก ผู้เขียนจะยกตัวอย่างผลงานของ Prada ที่มีความน่าสนใจและเป็นสินค้าที่มีแบบเฉพาะ มีการออกแบบที่เรียบหรูตามแบบฉบับของ Prada เช่น แว่นตา Luxottica ที่อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของแบรนด์ Prada และ Miu Miu

แว่นตา Prada

Prada ได้ร่วมมือกับ LG electronics เพื่อเริ่มผลิตสินค้าเทคโนโลยีอย่างโทรศัพท์มือถือในปี 2007 โดยผลของความร่วมมือนี้ทำให้ผลิตโทรศัพท์มือถือออกมาสามรุ่นได้แก่ LG Prada (KE850), LG Prada II (KF900) และ LG Prada 3.0 ยังมีนาฬิกา Prada Link หนึ่งในนาฬิกาที่ผลิตโดย Prada สามารถใช้เทคโนโลยีบลูทูธเชื่อมต่อกับ LG Prada II ได้

prada link watch

Prada Link Watch

Luxury แบรนด์จากอิตาลีอย่าง Prada สร้างความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในวงการแฟชั่นชั้นสูง กับกระแสรักษ์โลก โดยคำนึงถึงจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจ และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมธรรมชาติ แบรนด์ Prada ประกาศยกเลิกใช้วัสดุที่ทำจากขนสัตว์ในสินค้าทุกคอลเล็กชั่นเริ่มตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นไป และจะเริ่มใช้วัสดุรีไซเคิลกับไลน์การผลิตสินค้าในปี 2021

Prada ต้องสู้กับความท้าทายเรื่องภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่หรูหรา ใช้วัสดุต้องแพงและพรีเมี่ยม โดยการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ จะสร้างมุมมองที่แตกต่างจากเดิม ปัจจุบันกลุ่มลูกค้าเริ่มยอมรับในตัวสินค้า และความต้องการในตลาดก็เพิ่มมากขึ้น นับว่า Prada สร้างแรงขับเคลื่อนกระแสรักษ์โลกให้กับวงการอุตสาหกรรมแฟชั่นอย่างแท้จริง

รัก
xoxo

khwanchanok