ทรงของเพชร - เพชร (Damond) คือ อัญมณี ซึ่งเป็นตัวแทนของความงดงาม ล้ำค่า ที่เป็นอมตะ มีรากศัพท์มาจากภาษากรีกคำว่า "Adamas" หมายถึง ไม่มีผู้ใดเอาชนะได้ เปรียบได้กับความแข็งของเพชรที่ไม่มีอัญมณีใดเทียบเท่า เพราะเพชรเป็นอัญมณีที่มีความแข็งที่สุด วัดความแข็งได้อยู่ที่ระดับ 10 ของ Mohs' Scale ซึ่งเป็นมาตราวัดความแข็งของแร่ เพชรมักจะถูกนำมาใช้ทำเป็นเครื่องประดับ โดยเพชรนั้นมีการเจียระไนออกมาหลากหลายรูปทรงซึ่ง ทรงของเพชร นั้นก็จะมีส่วนในการประเมินราคาร่วมกับปัจจัยอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน
ทรงของเพชร : The Diamond Shapes
1. เพชรทรงกลม (Round)
ทรงของเพชร ทรงแรก คือ Round เป็นเพชรทรงมาตรฐานที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในบรรดารูปทรงเพชรทั้งหมด เพชรทรงกลมใช้เทคนิคการเจียระไนแบบเหลี่ยมเกสร (Brilliant Cut) ที่มีเหลี่ยมการเจียระไน 58 เหลี่ยมโดยมี 33 เหลี่ยมที่ด้านบน และ 25 เหลี่ยมที่ด้านล่างของเพชร คุณสมบัติที่โดดเด่นของเพชรทรงกลมนี้คือการสะท้อนแสงไฟได้อย่างยอดเยี่ยม รูปทรงดูสวยงามคลาสสิก ด้วยเหตุนี้เพชรทรงกลมจึงเป็นที่นิยมในการนำไปทำแหวนแต่งงาน และเครื่องประดับอื่น ๆ
2. เพชรทรงหยดน้ำ (Pear)
เพชรรูปทรงหยดน้ำเป็นหนึ่งในเพชรแฟนซีที่หายาก เพราะต้องอาศัยการเจียระไนอย่างปราณีต ทรงหยดน้ำมีเหลี่ยมการเจียระไน 58 เหลี่ยม อัตราส่วนระหว่างความกว้างและความยาวของเพชรคือ 1.6 เท่า เพื่อเพิ่มการหักเหของแสงและความเงางามของเพชรให้ได้มากที่สุด รูปทรงของเพชรที่ชวนหลงใหลและเป็นเอกลักษณ์ ทำให้ถูกนำไปประดับอยู่บนตัวเรือนของเครื่องประดับไม่ว่าจะเป็นแหวน จี้ และต่างหู
3. เพชรทรงไข่ หรือวงรี (Oval)
เพชรทรงไข่หรือวงรีถูกเจียระไนขึ้นโดย Lazare Kaplan บริษัทเพชรของอเมริกา เพชรทรงไข่นี้มีเหลี่ยมการเจียระไน 56 เหลี่ยม รูปทรงไข่เป็นส่วนผสมระหว่างเพชรทรงกลมและทรงมรกต เป็นการเอาจุดเด่นของเพชรทั้งสองรูปทรงมารวมเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้การสะท้อนแสงไฟนั้น ให้ผลคล้าย...
Continue reading
0 Comments