Louis Vuitton x Frank Gehry ที่สุดของที่สุดเพียง 5 เรือนในโลก Louis Vuitton เดินหน้าอย่างเต็มสูบด้านอุตสาหกรรมการผลิตนาฬิกา ซึ่งเป็นคำอุปมาที่เหมาะสมสำหรับแบรนด์ที่ก่อตั้งขึ้นบนผืนผ้าใบที่ปฏิวัติวงการของ Monsieur Vuitton และมีความเกี่ยวข้องมาอย่างยาวนานกับ ‘ศิลปะแห่งการเดินทาง’ ด้วยการรวมตัวกันของผู้ผลิตนาฬิการะดับไฮเอนด์ La Fabrique du Temps ในปี 2011 แบรนด์สามารถผลิตนาฬิกาที่ซับซ้อนได้อย่างน่าทึ่ง โดยเน้นย้ำด้วยการมุ่งเน้นที่ความคิดสร้างสรรค์และภาษาการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์

สำหรับนาฬิการุ่นล่าสุด เป็นผลมาจากความร่วมมือกับ Frank Gehry สถาปนิกชื่อดังระดับโลกชาวแคนาดา ผลลัพธ์ที่ได้คืองานศิลปะ ที่ดึงดูดความรักของสถาปนิกต่อความโปร่งใสและปริมาตรเพื่อแสดงให้เห็นถึงกลไก tourbillon อันสวยงามภายใน และที่สำคัญมีเพียง 5 เรือนเท่านั้นในโลก จะสวยงามและพิเศษขนาดไหนนั้น KATEXOXO จะพาไปยลโฉมพร้อมกัน

 

The Louis Vuitton X Frank Gehry Tambour Moon Flying Tourbillon Sapphire

สถาปนิกชาวแคนาดา Frank Gehry อัจฉริยะผู้อยู่เบื้องหลังพิพิธภัณฑ์กุกเกนไฮม์ (Guggenheim Museum) อันโด่งดังในเมืองบิลเบา (Bilbao) โดยทาง Louis Vuitton ได้เชิญเขา มาออกแบบมูลนิธิ Louis Vuitton Foundation อันตระการตาในปารีส (2014) โดยถูกออกแบบเมื่อปี 2001 แล้วเสร็จในปี 2014 และ Louis Vuitton Maison Seoul (2019) ที่ประเทศเกาหลี ซึ่งเป็นสถานที่ทางสถาปัตยกรรมสำคัญสองแห่งที่รวบรวมการเล่นแบบไดนามิกของสถาปนิกในรูปทรงออร์แกนิกและ ความโปร่งใส

มูลนิธิ Louis Vuitton ของ Frank Gehry ตั้งอยู่ที่ Bois de Boulogne ติดกับสวนน้ำ ชวนให้นึกถึงใบเรือที่โบกสะบัดของเรือขนาดมหึมา ประกอบด้วยใบเรือกระจกขนาดมหึมา 12 ใบที่รองรับด้วยคานไม้ มูลนิธิ LV Foundation ถือเป็นปรากฏการณ์แห่งความโปร่งใสและการเคลื่อนไหว

สถาปัตยกรรมบทกวีอันงดงามของพิพิธภัณฑ์ศิลปะและศูนย์วัฒนธรรมแห่งปารีสยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับการออกแบบของ Frank Gehry สำหรับ Louis Vuitton Maison ในกรุงโซล LV Foundation ในปารีสเวอร์ชันย่อส่วน หน้าร้านโดดเด่นด้วยโครงสร้างกระจกขั้นบันไดที่โฉบเฉี่ยวซึ่งลอยอยู่เหนือหลังคาอาคารอย่างไร้น้ำหนัก ถือเป็นผลงานการออกแบบที่ยอดเยี่ยมสำหรับอาคารระดับไอคอนิค และเมื่อนำแนวทางการออกแบบมาใส่ในผลงานกระเป๋าและนาฬิกา ทำให้มันยิ่งเป็นผลงานที่สุดของที่สุด

เมื่อสองปีที่แล้ว Frank Gehry ยอมรับความท้าทายในการสร้างสรรค์นาฬิกาเรือนแรกในอาชีพของเขา การย้ายจากสถาปัตยกรรมขนาดมหึมาไปสู่ขอบเขตของนาฬิกาขนาดย่อส่วนนั้นเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมาก แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับทำให้ความโปร่งใสและปริมาณของโครงสร้างอันโด่งดังของเขายกระดับขึ้น โดยเขาอธิบายว่า “แรงบันดาลใจของฉันมาจากทะเล ปลา เรือ และโลกท้องทะเล เพราะมันรวบรวมเอาแนวคิดของการเคลื่อนไหว ความคล่องตัว และความเร็ว”

การสร้างสรรค์นาฬิกาที่มีขนาดตัวเรือน 43.8 มิลลิเมตร ที่มาพร้อมกับความสูง 11.27 มิลลิเมตรนั้น ไม่ได้เกินความสามารถของเขา แต่ผลลัพธ์ก็คือ Tambour Frank Gehry ได้ผสมผสานความโปร่งใสและความลื่นไหลของคริสตัลแซฟไฟร์เข้ากับการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องของระบบกลไก flying tourbillon ได้อย่างลงตัว

และผลงานล่าสุด Tambour Moon Sapphire (2022) และเพื่อสื่อถึงความหลงใหลในโครงสร้างอันบริสุทธิ์และโปร่งใสของ Frank Gehry ตัวเรือน หน้าปัด เม็ดมะยม ตัวล็อค และเข็มนาฬิกาของ Tambour สกัดจาก Sapphire Single Block ขนาด 200 กิโลกรัม โดยนำมาแกะสลักคำว่า Louis Vuitton รอบตัวเรือน เม็ดมะยมเก็บรายละเอียดได้เป็นอย่างดี ด้วยการแกะสลักโลโก้ LV หน้าปัดบางเฉียบเทียบเท่ากระดาษ พร้อมงานแกะสลักแซฟไฟร์แบบสลักนูนต่ำที่ต้องใช้เวลาทำถึง 250 ชั่วโมง

เครื่องมือที่ถูกใช้ในการผลิต มีความเฉียบคมประหนึ่งเครื่องมือผ่าตัด ลายเซ็นต์ของ Frank Gehry  ที่ปรากฏบนหน้าปัดแซฟไฟร์จึงถูกสร้างขึ้นด้วยมือ หน้าปัดแบบบางเหมือนกระดาษต้องใช้เวลากว่า 250 ชั่วโมง และช่างฝีมือก็อาศัยกล้องจุลทรรศน์ เครื่องมือปลายเพชร และผงเพชรเพื่อสร้างการหมุนแบบด้าน เพื่อป้องกันไม่ให้แซฟไฟร์ได้รับความเสียหายจากความร้อนของสว่านหรือการสั่นสะเทือนที่กระตุ้น การดำเนินการทั้งหมดด้วยมือนี้ จึงต้องใช้ระยะเวลา และใช้ความระมัดระวังอย่างสูง

โครงสร้างแบบโปร่งใส แบบ Diaphanous ของ Frank Gehry เผยให้เห็นถึงกลไก flying tourbillon ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา โดยมีการตกแต่งด้วยลวดลาย LV Monogram flower จะปรากฏบนเมนสปริงที่ประกอบขึ้นเป็นโครงกระดูกในตอนเที่ยง และรูปแบบแนวนอนของกลไกไขลานแบบแมนนวล – LFT MM05.01 – วางตัวอยู่บนแผ่นฐานสีโรสโกลด์ฉลุ ด้วยความเร็ว 21,600vph กลไกสำรองพลังงานได้ 80 ชั่วโมง

ทุกส่วนประกอบของกลไกไขลานแบบเปิดของ La Fabrique du Temps ได้รับการตกแต่งตามมาตรฐาน Poinçon de Genève อันเข้มงวด พร้อมด้วยเฟืองขัดเงา การลบมุม และการเคลือบแบบซาตินตลอดทั้งชิ้น สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ลายเซ็นของ Frank Gehry ปรากฏบนฝาหลังแซฟไฟร์

 

Details

• ตัวเรือน : เส้นผ่านศูนย์กลาง 43.8 มม. x ความหนา 11.27 มม. – ตัวเรือน Tambour, ตัวเชื่อม และเม็ดมะยมผลิตจากคริสตัลแซฟไฟร์ป้องกันแสงสะท้อน – กันน้ำลึก 30 เมตร – ลายเซ็นของ Frank Gehry บนฝาหลังแซฟไฟร์ – ตัวเรือนตรงกลางสลักด้วย Louis Vuitton และเม็ดมะยมสลักด้วยอักษรย่อ LV
• หน้าปัด : แซฟไฟร์ขัดเงาตกแต่งด้วยลวดลายใบเรือด้านซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมของ Gehry ซึ่งประดิษฐ์ขึ้นด้วยมือ – เข็มชั่วโมงและเข็มนาทีของแซฟไฟร์พร้อมโครงร่างของ HyCeram Luminex
• กลไกการเคลื่อนไหว : calibre LFTMM05.01 – ไขลานแบบแมนนวลพัฒนาและประกอบโดย La Fabrique du Temps Louis Vuitton – การรับรอง Poinçon de Genève มองเห็นได้บนสะพานกลาง – ส่วนประกอบ 160 ชิ้น – จิวเวล 17 ชิ้น – แรงสั่นสะเทือน 21,600 ครั้ง/ชั่วโมง – ตูร์บิญงบินหนึ่งนาทีพร้อมกรงดอกไม้ Monograph – สำรองพลังงาน 80 ด้วยกลไก tourbillon
• สาย : มาพร้อมกับสายหนัง Taurillon สีขาว ซึ่งเป็นหนังนุ่มคุณภาพสูงของ LV มีพื้นผิวด้านและมีลายเกรน พร้อมตัวรัดสีโรสโกลด์

และทั้งหมดนี้คือ Louis Vuitton x Frank Gehry ที่สุดของที่สุดเพียง 5 เรือนในโลก ความพิเศษของมัน นอกจากจะใช้วัสดุพิเศษคุณภาพดีแล้ว แต่มันยังเป็นผลงานการฝีมือที่ต้องใช้เวลามาก และผลิตออกมาเพียงแค่ 5 เรือนทั่วโลกเท่านั้น สนนราคาของมันจึงอยู่ที่ 33.6 ล้านบาทต่อเรือน แน่นอนว่า หากใครได้ครอบครอง นอกจากจะเป็นการบ่งบอกถึงความ Excusive ระดับโลกแล้ว ยังเปรียบเสมือนได้งานประติมากรรมระดับโลกย่อส่วนมาอยู่บนข้อมืออีกด้วย

รัก
xoxo