Louis Vuitton Alma Bag กระเป๋าที่ถูกขนานนามว่าเป็น “Archetype of a feminine city bag” กระเป๋าที่สื่อถึงความเป็นผู้หญิงอย่างชัดเจน ผ่านการออกแบบที่เข้ากับทุกยุคทุกสมัย ถูกดีไซน์ครั้งแรกโดย Gaston-Louis Vuitton เมื่อปี ค.ศ. 1934 จากรีเควสพิเศษของเจ้าแม่วงการแฟชั่นอย่าง โคโค่ ชาแนล (Coco Chanel) และได้ทำการปรับเปลี่ยนดีไซน์อีกครั้งเมื่อปี ค.ศ. 1955 จนพร้อมออกจำหน่ายอย่างเป็นทางการเมื่อปี ค.ศ. 1992 ชิ้นส่วนของกระเป๋าที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในกระเป๋าระดับตำนานของหลุยส์วิตตองรุ่นนี้ จะมีอะไรบ้างนั้น เรามาเจาะลึกกันค่ะ
Front and Back Design : ด้านหน้าและด้านหลังของกระเป๋า
- Hardware and Padlock : อะไหล่จะมีทั้งสีเงิน (ในรุ่นหนัง Epi) และสีทอง โดยแม่กุญแจและลูกกุญแจจะเป็นสีเดียวกันกับอะไหล่ของกระเป๋า
- Material : วัสดุที่นิยมใช้ในกระเป๋า Alma มีทั้งวัสดุที่เป็นหนังทั้งใบ (หนังลูกวัว) และเป็นผ้าใบ Canvas ร่วมกับหนัง Cowhide ในส่วนของผ้าใบ Canvas ที่นำมาตัดเย็บกระเป๋ามีทั้งหมด 3 แบบ คือ ลาย Monogram, Damier Ebene, Damier Azur
- Patterned : ด้านหน้าและด้านหลังของกระเป๋ามีลักษณะเดียวกัน ตัดเย็บจากวัสดุหนังหรือผ้าใบจำนวน 2 ชิ้น
- 2 Toron Handles : หูหิ้วแบบ 2 ชั้น สำหรับคล้องแขนหรือใช้ถือ (สำหรับรุ่น BB กระเป๋าจะมาพร้อมกับสายสะพายที่สามารถถอดออกได้ ใช้สะพายเป็น Crossbody หรือ สะพายไหล่ โดยสายสะพายมีความยาว 56 ซม. (22 นิ้ว) สำหรับในรุ่นอื่นๆ สายสะพายจะจำหน่ายแยกต่างหาก)
- Two-Way Zipper : อะไหล่ซิปคู่ มีตัวอักษร LV เป็นตัวนูน อยู่ที่หัวซิปทั้ง 2 ข้าง ตรงปลายหัวซิปของทั้ง 2 ข้างจะมีรูเล็กๆ ไว้สำหรับคล้องแม่กุญแจเพื่อล็อคกระเป๋า
- Leather : วัสดุหนังที่นำมาตัดเย็บเป็นหนังลูกวัว โดยในรุ่นที่ใช้หนังทั้งใบ ได้แก่ Epi Leather และ Monogram Vernis
- Leather Key Bell : ซองหนังสำหรับใส่กุญแจ โดยขึ้นรูปจากหนังเพียงแผ่นเดียว พับทบกัน และเย็บขอบทั้ง 2 ข้าง ระบุ Heat Stamp “LOUIS VUITTON / PARIS”
Inside Design : ด้านในของกระเป๋า
- Interior Double Pocket : ช่องใส่ของขนาดเล็ก 2 ช่องด้านใน (สำหรับรุ่น BB จะมีเพียงช่องเดียว – Inside Flat Pocket)
- Interior : สำหรับรุ่น Monogram Vernis และ Epi leather ภายในบุด้วยผ้า Microfiber สีเดียวกับวัสดุด้านนอก ในรุ่นอื่น ภายในจะบุด้วยผ้าทอไม่มีลวดลาย ผ้าสีน้ำตาลในรุ่น Monogram และสีแดงในรุ่น Damier Ebene
- Date Code : สำหรับรหัส Date Code ของ Alma จะอยู่ด้านในของกระเป๋าช่องเล็ก เมื่อเปิดดูจะพบกับแผ่นหนังสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดเล็ก ระบุเลขรหัสของกระเป๋า
Side Design : ด้านข้างของกระเป๋า
- The Shape : ตัวกระเป๋าด้านข้างออกแบบมามีรูปร่างคล้ายโดม ในทุกรุ่นกระเป๋าจะทำจากวัสดุหนัง Cowhide
- Heat Stamp : ฐานกระเป๋าด้านขวามือระบุ Heat Stamp คำว่า “LOUIS VUITTON/PARIS / made in ประเทศที่ผลิต” (ในรุ่น Monogram Vernis ตัว Heat Stamp จะระบุอยู่บนแผ่นหนังสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก เย็บติดอยู่ด้านในของกระเป๋า) โดยกระเป๋า Alma จะมีฐานการผลิตอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส, สเปน, อิตาลี หรือสหรัฐอเมริกา
- Stitching : การเย็บเรียงเป็นคู่ขนานอย่างเป็นระเบียบ ในส่วนของซิปเป็นการเย็บแบบตะเข็บคู่ เพิ่มความแข็งแรงของกระเป๋า
Bottom Design : ด้านล่างของกระเป๋า
- The Bottom : ฐานของกระเป๋าเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า โดยขอบมุมมีความโค้งมน
- Protective Metal Studs : อะไหล่รูปร่างกลม นูน สลักคำว่า “LOUIS VUITTON ตามด้วยลายดอกไม้ 4 กลีบปลายแหลม” ที่มีชื่อเรียกว่า quatrefoils เป็น 1 ในสัญญลักษณ์บนลาย Monogram อันเป็นเอกลักษณ์ของ Louis Vuitton โดยมีทั้งหมด 4 ชิ้นด้วยกัน ติดตั้งบนแผ่นหนังสี่เหลี่ยมผืนผ้าซึ่งเย็บติดกับฐานใต้กระเป๋าอีกที ช่วยปกป้องฐานกระเป๋าไม่ให้วัสดุหนังเป็นรอยขีดข่วนได้ง่ายเมื่อมีการใช้งาน (สำหรับกระเป๋ารุ่นเก่า จะมีหมุดใต้กระเป๋าเฉพาะรุ่น BB เท่านั้น)
Size of Alma Bag : ขนาดของ Alma Bag
- Alma Nano : 18 x 12 x 8 ซม. (7 x 4.7 x 3.1 นิ้ว)
- Alma BB (Bebe Bandouliere) : 23.5 x 17.5 x 11.5 ซม. (9.25 x 6.89 x 4.53 นิ้ว)
- Alma PM (Petite Modele) : 32.6 x 24 x 15.3 ซม. (12.6 x 9.84 x 6.3 นิ้ว)
- Alma MM (Moyen Modele) : 36 x 28 x 17 ซม. (14.17 x 11.02 x 6.69 นิ้ว)
แม้ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ในวงการกระเป๋าแบรนด์เนม แต่เชื่อว่า กระเป๋า Louis Vuitton รุ่น Alma จะต้องเคยผ่านหูผ่านตามาบ้างแล้ว ชื่อ Alma มีที่มาจาก Pont de l’Alma สะพานในมหานครปารีส Alma ไม่ใช่แค่กระเป๋าที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสัญญลักษณ์ของ Louis Vuitton เท่านั้น แต่การออกแบบรูป Domed Shape ในกระเป๋า Alma ยังคงเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์และเป็นเครื่องหมายการันตีถึงความหรูหราฟู่ฟ่าของประวัติศาสตร์การผลิตเครื่องหนังชั้นนำ และยังคงความคลาสสิคจนถึงทุกวันนี้
รัก
xoxo