Lamborghini Urus Performante หลังจากที่ Urus รถยนต์อเนกประสงค์ซูเปอร์สปอร์ตยูทิลิตี้ (Super Sport Utility) คันแรกของโลก ภายใต้เครื่องหมายกระทิงดุ ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น ในวันนี้ ค่ายรถยนต์สัญชาติอิตาลี ได้ทำการเปิดตัวรถยนต์อเนกประสงค์ Urus รุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งเคลมว่าเร็วและแรงกว่าเดิม ในน้ำหนักที่เบาลง เร้าใจยิ่งขึ้นกับขุมพลัง 666 แรงม้า ในบทความนี้ KATEXOXO จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับกระทิงดุ ยนตรกรรมอเนกประสงค์สุดหรูคู่ความแรงตัวใหม่นี้ไปพร้อมกัน
Lamborghini Urus Performante
Lamborghini Urus รุ่นใหม่นี้ ถือได้ว่าเป็นมาตรฐานใหม่ แห่งสุดยอดงานดีไซน์อันเปี่ยมพลัง ที่ผสานระบบวิศวกรรมยานยนต์ระดับซุปเปอร์สปอร์ตไว้อย่างลงตัว โดยใช้หลักการ “Form follow function” การใช้ส่วนประกอบคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบาอย่างเสรี ช่วยให้น้ำหนักลดลง 103 ปอนด์ จาก Urus รุ่นเดิม เป็นลักษณะสำคัญของการออกแบบของ Urus Performante ความเป็นสปอร์ต โฉบเฉี่ยว และโดดเด่นอย่างปฏิเสธไม่ได้ โดยมีสัดส่วนที่สะท้อนถึงซูเปอร์สปอร์ตคาร์อย่างเต็มเปี่ยม
กระทิงดุ Urus ที่มีกล้ามเนื้อมัดแน่นและเกรี้ยวกราดตัวนี้ ถูกขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ทวินเทอร์โบ V8 ขนาด 4.0 ลิตร ให้กำลังแรงม้าสูงถึง 666 แรงม้า แรงบิด 850 นิวตันเมตร เพิ่มขึ้นจากเดิม 16 แรงม้า ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลาเพียง 3.3 วินาที ก่อนไปถึงความเร็วสูงสุดที่ 306 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งจับคู่กับกระปุกเกียร์อัตโนมัติแปดสปีด ขุมพลังนี้มอบประสบการณ์ด้านประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น ทัศนคติที่ทรงพลัง สไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ ให้ผู้ขับขี่สัมผัสประสบการณ์ตื่นตาตื่นใจที่สุดบนทุกภูมิประเทศ
ดีไซน์การออกแบบด้านนอก ฝากระโปรงและแผงกันชนขนาดใหญ่ถูกออกแบบให้มีรูปทรงเฉียบคม แผงกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ มาพร้อมกับช่องระบายลมซึ่งผลิตจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์สีเดียวกับตัวรถ ซึ่งในส่วนนี้ ลูกค้าสามารถเลือกแบบโชว์ของวัสดุคาร์บอรไฟเบอร์ได้ อีกทั้งยังสามารถเลือกใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์นี้ในส่วนของหลังคารถได้ด้วย เพื่อให้เหมือนกับยานยนต์สปอร์ตอย่าง Huracán Performante และ Super Trofeo โดยสามารถปรับแต่งได้ตามต้องการ เพื่อทำให้รถของตนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและแสดงออกถึงสไตล์ของตัวเอง
แผงกันหน้าและสปลิตเตอร์ ซึ่งผลิตจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์เช่นเดียวกัน ถูกออกแบบให้มีเส้นสายรูปลักษณ์ที่ดูดุดันมากยิ่งขึ้น ช่องดักอากาศสีดำด้านหน้า ช่วยเสริมประสิทธิภาพการระบายความร้อนเครื่องยนต์ พร้อมม่านดักลมแบบใหม่ ทำให้อากาศไหลเข้าทางล้อหน้าได้มากขึ้น ผสานการออกแบบตรงช่องระบายลมบนฝากระโปรง ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์ พร้อมทำให้เครื่องยนต์เย็นลง
สปอยเลอร์ด้านหลัง ได้รับการดีไซน์ใหม่ ที่ช่วยเพิ่มแรงกดด้านหลังของ Urus Performante ได้อีก 38% การออกแบบสปริงใหม่ยังช่วยให้โครงแชสซีของ Performante ต่ำลงอีก 20 มิลลิเมตร และเพิ่มความกว้างฐานล้อขึ้นอีก 16 มิลลิเมตร ซุ้มล้อวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ล้อน้ำหนักเบาขนาด 23 นิ้วหรือแบบมาตรฐาน 22 นิ้ว พร้อมน็อตไทเทเนียมและยาง Pirelli ที่พัฒนาขึ้นเพื่อรุ่นนี้โดยเฉพาะ คือยาง ยาง P Zero Trofeo R
ยาง P Zero Trofeo R เป็นยางกึ่งลื่นและได้รับการออกแบบมาให้ทำงานได้ดีในสภาพเปียก/แห้ง รวมถึงอุณหภูมิสูง/ต่ำ การอัพเกรดระบบกันสะเทือนและแอโรไดนามิกของ Urus Performante หลายครั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมอีกด้วย Performante ไม่ใช้ระบบกันสะเทือนแบบถุงลมของรุ่นปกติ แต่มีสปริงเหล็กที่เบากว่าซึ่งลดลง 0.8 นิ้วแทน ตามข้อมูลของ Lamborghini จุดศูนย์ถ่วงที่ลดลงนี้ช่วยปรับปรุงการตอบสนองและประสิทธิภาพโดยรวม
Urus Performante ยังมาพร้อมกับโหมดการขับขี่ ที่สามารถปรับได้ตามสภาพภูมิอากาศ ซึ่งช่วยให้ส่งแรงบิดไปยังล้อหลังได้มากขึ้นเพื่อเพิ่มอัตราเร่งและการควบคุมรถที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโหมด Strada, Sport และ Corsa มาตรฐานแล้วคือโหมด Rally ใหม่ทั้งหมด โหมดนี้เตรียม SUV สำหรับการขับขี่บนทางวิบากด้วยความเร็วสูงโดยการเปลี่ยนระบบกันโคลงและระบบกันสะเทือนของช่วงล่าง
กันชนหลังและดิฟฟิวเซอร์ใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ความตื่นเต้นอยู่ในเสียงคำราม มาพร้อมกับระบบไอเสียแบบสปอร์ตไททาเนียม Akrapovic ช่วยเพิ่มพลังเสียงของเครื่องยนต์ให้สูงขึ้นไปอีกระดับ ผสมผสานความเร้าใจในการขับขี่และสมรรถนะอันบริสุทธิ์เข้าด้วยกันอย่างลงตัวในดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่กำหนดลักษณะอันทรงพลังในแวบแรก มีการโหลดตัวรถให้ต่ำลง เพื่อเสริมภาพลักษณ์ที่บึกบึนด้วยการออกแบบกันชนหน้าและหลังขนาดใหญ่ ซึ่งเพิ่มความยาวของตัวรถ 25 มิลลิเมตร
การออกแบบด้านหลังมีความสวยงามไม่แพ้ด้านหน้าด้วยสปอยเลอร์ขนาดใหญ่และการออกแบบฟินสปอยเลอร์หลัง ที่ทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์นั้นได้แรงบันดาลใจจากรุ่น Aventador SVJ ซึ่งช่วยเพิ่มแรงกดให้ตัวรถ ยิ่งไปกว่านั้นการใช้ธีมสีทูโทนยังช่วยเสริมภาพลักษณ์ของ Performante ให้โดดเด่นขึ้น จากการทำชิ้นส่วนอื่น ๆ ให้มีสีแตกต่างจากตัวรถ ทั้งมือจับประตูสีดำ ช่องระบายลมคาร์บอนไฟเบอร์เคฟลาร์บนฝากระโปรงและสปอยเลอร์ลิปคาร์บอนไฟเบอร์เคฟลาร์ เป็นต้น
การออกแบบภายใน (INTERIOR)
การออกแบบภายในห้องโดยสารนั้น ถูกออกแบบมาเพื่อสุนทรีภาพของผู้ขับขี่อย่างแท้จริง เสริมด้วยการใช้วัสดุที่เป็นนวัตกรรมใหม่และน้ำหนักเบา เช่น Alcantara หรือหนังกลับสังเคราะห์ สีดำ Nero Cosmus เป็นมาตรฐาน และคาร์บอนไฟเบอร์ ด้วยโทนสีเข้ม พร้อมงานเย็บเบาะนั่งแบบตะเข็บหกเหลี่ยมในสไตล์ “Performante Trim” การเย็บแบบตัดกัน และโลโก้ Performante แบบเอกสิทธิ์เฉพาะบุคคลนี้ จะเพิ่มรายละเอียดที่เป็นเอกลักษณ์เพื่อแสดงออกถึงบุคลิกความสปอร์ตของรถ
ภายในของ Urus Performante ได้รับการขัดเกลา ร่วมสมัย และมีประสิทธิภาพตามหลักสรีรศาสตร์ ออกแบบมาเพื่อให้คนขับ “รู้สึกเหมือนเป็นนักบิน” นอกจากนี้ยังเลือกออปชันเสริมได้จากธีมการตกแต่งด้วยหนังทั้งคัน และสีสันภายใน โดยสามารถเลือกสไตล์ “Performante Trim” ให้ครอบคลุมทั้งในส่วนประตู เส้นแนวหลังคา พนักพิง และผนังด้านหลังห้องโดยสาร
รวมถึงโปรแกรมการตกแต่งเฉพาะแบบ Ad Personam ของลัมโบร์กินีที่มีตัวเลือกวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ผิวด้านเพื่อการตกแต่งภายใน มือจับประตูสีแดง และขอบประตูพร้อมโลโก้ Ad Personam
ในส่วนของพวงมาลัยถูกตกแต่งด้วยหนัง Alcantara สีดำด้าน ซึ่งมาในโทนสีดำเช่นเดียวกัน เพื่อให้เข้ากับห้องโดยสาร ที่ถูกตกแต่งด้วยโครงอะลูมิเนียมชุบอะโนไดซ์สีดำแล้ว สำหรับออปชั่น “Dark Package” จะสามารถเลือกการตกแต่งโทนสีดำด้านให้ครอบคลุมรายละเอียดของห้องโดยสารส่วนอื่น ซึ่งรวมถึงส่วนก้านของแผงควบคุมกลาง TAMBURO ที่ควบคุมฟังก์ชั่นทั้งปุ่มเปิด/ปิดเครื่องและตัวเลือกโหมดการขับขี่ต่าง ๆ ส่วนการแสดงผลกราฟิก HMI เป็นแบบใหม่ที่ออกแบบสำหรับ Urus Performante โดยเฉพาะ
Urus Performante ประกาศการมาถึงด้วยมาตรฐานใหม่ของรูปลักษณ์ที่สวยงามและวิศวกรรมที่ล้ำสมัย ยังคงมีเสน่ห์ในการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นภูมิประเทศหรือสภาพอากาศ และยังคงไว้ซึ่งความสามารถในการปรับตัวที่หรูหรา โดยได้ผ่านการวิ่งทดสอบบนทางลาดชันสุดหฤโหดของ Pikes Peak International Hill Climb Road ที่มีระดับความสูงกว่า 4,302 เมตร (14,115 ฟุต) โดยสามารถทำเวลาเพียง 10:32.064 นาที ทุบสถิติเดิมที่เคยมีไว้ที่ 10:49.902 นาที เมื่อปี 2018 เป็นเครื่องพิสูจน์ความแข็งแกร่งได้เป็นอย่างดี
Urus Performante เป็นวิวัฒนาการแบบสปอร์ตของ Super Sport Utility Vehicle ตัวแรกที่นิยามเซกเมนต์ใหม่ว่าเป็นซูเปอร์คาร์ที่มีความสมบูรณ์รอบด้านอย่างแท้จริง Urus Performante ยกระดับความสนุกในการขับขี่และสมรรถนะของรถ SUV ขึ้นอีกระดับด้วยการออกแบบที่สปอร์ตโดดเด่น การปฏิวัติการใช้ส่วนประกอบน้ำหนักเบาและแอโรไดนามิกส์ที่ปรับปรุงใหม่ รุ่นพิเศษสุดในตระกูล Urus ยกระดับมาตรฐาน SUV สมรรถนะสูงสู่พรมแดนใหม่แห่งการขับเคลื่อนมนุษย์ให้เหนือกว่า
Lamborghini ได้กำหนดราคาพื้นฐานของ Urus Performante ไว้ที่ 260,676 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 9,562,000 บาท (ราคายังไม่รวมภาษี) โดยจะเริ่มส่งมอบในปลายปีนี้
รัก
xoxo