กระเป๋าน่าลงทุน Chanel Classic Flap Bag – คุณอาจเคยได้ยินหรือเคยได้อ่านบทความเกี่ยวกับการลงทุนในกระเป๋า Chanel มาบ้าง ซึ่งคงคุ้นเคยกันดีกับประโยคที่ว่า การเป็นเจ้าของ Chanel Classic Flap Bag สักใบ ถือเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่ากว่าการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์หรือตลาดทองคำเสียอีก (ผลตอบแทนระหว่าง Chanel ทองคำ และตลาดหุ้น)
ย้อนกลับไปเมื่อปี ค.ศ. 1959 เมื่อกระเป๋า Chanel 2.55 เปิดตัวครั้งแรกออกสู่สายตาประชาชนด้วยราคาเริ่มต้นเพียง US$220 หรือเป็นเงินไทยโดยประมาณ 7,500 บาทเท่านั้น แต่ในปัจจุบัน เป็นการยากนักที่จะซื้อกระเป๋า Chanel ด้วยราคาเพียงเท่านี้ เพราะเหตุใดนั้น เรามีคำตอบ
The History
โคโค่ ชาแนล (Coco Chanel) ได้เปิดตัวกระเป๋า Chanel รุ่น 2.55 ครั้งแรก เมื่อปี ค.ศ. 1959 เป็นการปฏิวัติรูปแบบกระเป๋าถือของผู้หญิง โดยการเพิ่มสายสะพายเข้าไป เพื่อความสะดวกสบายในการพกพา ราคาเปิดตัวขายในครั้งนั้นอยู่ที่ US$220 หรือราวๆ 7,500 บาท ตัวกระเป๋าอัดแน่นไปด้วยเรื่องราวของตัวเธอเอง ตั้งแต่ภายในของกระเป๋าที่บุด้วยหนังสีแดงเบอร์กันดี ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากชุดยูนิฟอร์มของเธอขณะเรียนอยู่ ณ สถานสงเคราะห์เด็กกำพร้า หรือช่องซิปที่ฝาของกระเป๋าด้านใน ซึ่งออกแบบเพื่อใช้สำหรับเก็บจดหมายลับๆ จากคนรักของเธอ
ด้วยความเป็นเอกลักษณ์เหล่านี้ กระเป๋ารุ่นนี้ จึงได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม และเป็นที่นิยมอย่างมาก จนถึงปี ค.ศ. 1983 เมื่อ คาร์ล ลาเกอร์เฟล (Karl Lagerfeld) เข้ามารับตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ของชาแนลคนใหม่ ได้ทำการดีไซน์กระเป๋ารุ่นนี้ใหม่ โดยทำการดัดแปลงตัวล็อคแบบเดิม ที่ใช้เป็นตัวล็อคแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า ที่มีชื่อเรียกว่า “Mademoiselle Lock” มาเป็นตัวล็อคแบบใหม่เป็นรูปตัวอักษร C ไขว้ (CC turn-lock design) ซึ่งได้กลายเป็นเอกลักษณ์ของชาแนลในเวลาต่อมา และเรียกกระเป๋ารุ่นนี้ว่า “Chanel Classic Flap Bag” ซึ่งถือได้ว่า เป็นกระเป๋ารุ่นที่พัฒนามาจากกระเป๋ารุ่น 2.55 ในตำนาน
ในส่วนของกระเป๋ารุ่น 2.55 ดั้งเดิม ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 2005 ซึ่งเป็นปีที่กระเป๋ารุ่นนี้มีอายุครบ 50 ปี คาร์ล ลาเกอร์เฟล (Karl Lagerfeld) ได้ทำการดัดแปลงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ จากกระเป๋ารุ่น 2.55 ดั้งเดิม ก่อกำเนิดกระเป๋ารุ่นใหม่ที่มีนามว่า “Chanel 2.55 Reissue” เป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ของกระเป๋ารุ่นนี้ รวมทั้งมีการเปลี่ยนชื่อเรียกแต่ละขนาดเป็นตัวเลขอีกด้วย
Why Chanel Has Raised Its Prices?
ในปัจจุบัน กระเป๋า Chanel Classic Flap มีการปรับราคาขึ้นทุกปี นั่นเป็นเพราะว่ามูลค่าของแบรนด์ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงปัจจัยรอบข้างต่างๆ อีกทั้งในสถานการณ์ปัจจุบัน มีความยากในการเฟ้นหาวัตถุดิบหลักที่นำมาใช้ในการตัดเย็บกระเป๋า รวมถึงต้นทุนของแรงงานที่สูงขึ้น เหตุผลเหล่านี้ ล้วนเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้มูลค่าของกระเป๋ารุ่นนี้มีแต่เพิ่มขึ้น การได้เป็นเจ้าของกระเป๋า Chanel ซักใบ จึงไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับการซื้อขายเพียงอย่างเดียว แต่มันยังหมายถึงการลงทุน ที่ให้ผลกำไรตอบแทนอย่างงามในอนาคต
การขยายตัวและสภาพทางเศรษฐกิจ ความต้องการของตลาดที่มีเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ราคาของสินค้าเพิ่มขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย ทางชาแนลจะมีการขึ้นราคาของกระเป๋าอย่างต่อเนื่อง ตราบใดที่ความต้องการของตลาดยังคงสูงอยู่ คุณค่าของแบรนด์ที่เติบโตขึ้นนั้น จะขึ้นอยู่กับจำนวนเงินรวมถึงกำลังซื้อของผู้บริโภค
หากคุณทำการซื้อกระเป๋ารุ่น Classic Flap เมื่อปี ค.ศ. 1959 ในราคา 7,500 บาท ในปัจจุบันจะถือว่าเป็นกระเป๋ารุ่นวินเทจ ที่มีมูลค่าเฉลี่ยต่อใบสูงถึง 152,000 บาท ซึ่งหากนำมาซื้อขายแลกเปลี่ยน คุณจะได้กำไรจากการลงทุนครั้งนี้ถึง 20 เท่าเลยทีเดียว ทั้งนี้ราคาอาจมีการเปลี่ยนผันได้ ขึ้นอยู่กับสภาพโดยรวมของกระเป๋า และความต้องการของตลาดในขณะนั้น
จากตัวอย่างตารางด้านบนจะเห็นได้ว่า ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1990 เป็นต้นมา ราคาของกระเป๋า Classic Flap ขนาด Jumbo พุ่งทะยานสูงขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด โดยล่าสุด เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ปี ค.ศ. 2020 ได้มีการปรับราคากระเป๋า Chanel บางรุ่น 5-17% (ในสกุลเงินยูโร) และจะทยอยปรับราคาทั่วโลกในระดับใกล้เคียงกัน โดยราคาที่ขายในประเทศไทยมีการปรับขึ้นจากเดิมประมาณ 15-20%
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณซื้อกระเป๋ารุ่น Jumbo ในปี 2006 ได้ในราคา US$1,795 (ประมาณ 64,700 กว่าบาท) แต่หากคุณซื้อรุ่น Jumbo ในปี 2015 ราคาก็จะพุ่งไปอยู่ที่ US$5,500 (ประมาณ 198,500 กว่าบาท) พูดง่ายๆ ก็คือ หากคุณเป็นเจ้าของกระเป๋า Chanel มากกว่า 10 ปีขึ้นไปแล้วล่ะก็ จงมั่นใจได้เลยว่าคุณมีสมบัติล้ำค่าอยู่ในมือ
ในระยะเวลา 10 ปี กระเป๋า Chanel รุ่น Classic Flap ได้มีการปรับราคาขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับขนาด Medium ราคาเมื่อปี 2010 อยู่ที่ 96,000 บาท แต่ราคาในปัจจุบันอยู่ที่ 191,000 บาท อัตราเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 81.25% เลยทีเดียว สำหรับขนาด Jumbo ราคาเมื่อปี 2010 อยู่ที่ 105,000 บาท ส่วนราคาปัจจุบันอยู่ที่ 213,000 บาท อัตราการเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 82.86%
How to Invest?
การลงทุนกับกระเป๋า Chanel ซักใบ ไม่ใช่เรื่องที่สามารถทำได้ง่ายๆ ถ้าหากไม่มีการศึกษาข้อมูลอย่างถี่ด้วน เพราะเมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นการลงทุนแล้ว ทุกการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง หลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้ จะช่วยทำให้การลงทุนในกระเป๋า Chanel มีความคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น
- รุ่นของกระเป๋า (Model) : Model คือสิ่งสำคัญอันดับแรกที่นักลงทุนควรศึกษาให้ละเอียด เพราะในแต่ละปีทาง Chanel จะมีการเปิดตัวกระเป๋ามากมายด้วยกันหลายรุ่น ทั้งที่เป็น Seasonal รวมทั้ง Limited Edition ในบางรุ่นที่มีความหายาก รุ่นที่เลิกผลิตแล้วและยังคงเป็นที่นิยมมาก จะเป็นรุ่นที่มีแนวโน้มอัตราการเพิ่มของราคาจะเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอัตราการเพิ่มของกระเป๋ารุ่น Chanel Classic Flap จะเพิ่มขึ้นในอัตรา 6-9% ในทุกๆ ปี
- วัสดุของกระเป๋า (Material) : เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญ เพราะในแต่ละรุ่น จะใช้วัสดุตัดเย็บที่แตกต่างกันออกไป สิ่งที่สามารถคงคุณค่าของกระเป๋าได้ คือ “ความคลาสสิก” หากคุณคิดที่จะลงทุนในกระเป๋า ไม่ควรซื้อกระเป๋าตามเทรนด์แฟชั่นเพราะเมื่อเวลาผ่านไป กระเป๋าแฟชั่นเหล่านั้นอาจจะมีมูลค่าลดลง
โดยปกติแล้ว ราคาของสินค้าที่ถีบตัวสูงขึ้น มักจะเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่ถอยหนี ในสังคมและเศรษฐกิจในปัจจุบัน คนส่วนใหญ่ต้องการเลือกซื้อสินค้าคุณภาพดีและราคาถูก แต่สำหรับ Chanel แล้ว มันกลับตรงกันข้าม การขึ้นราคาสินค้า เป็นการแสดงถึงคุณค่าของแบรนด์ที่พุ่งสูงขึ้นทุกปี มันกลับทำให้ลูกค้ามีความต้องการมากยิ่งขึ้น และนั่นคือคำตอบว่าทำไม การลงทุนกับ กระเป๋าน่าลงทุน Chanel Classic Flap ยังคงประสบความสำเร็จ ถึงแม้ราคาของกระเป๋าจะพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ก็ตาม
รัก
xoxo