To top
26 Nov

Anatomy of Hermes Bearn Wallet

Hermes Bearn Wallet เป็นกระเป๋าสตางค์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ด้วยการออกแบบที่ดูคลาสสิก พร้อมด้วยโลโก้ตัว H ขนาดพอดี ไม่ใหญ่เกินไป ให้ความรู้สึกเรียบง่าย หรูหรา รวมถึงงานฝีมือ คุณภาพ ที่ไม่ได้น้อยหน้ากระเป๋าสตางค์รุ่นอื่นจากค่ายเดียวกัน วันนี้เราจะมาเจาะลึกชิ้นส่วนต่าง ๆ ของกระเป๋าสตางค์รุ่นนี้ ว่ามีความพิเศษอย่างไร ทำไมจึงได้รับความนิยม และขึ้นชื่อว่าเป็นกระเป๋าสตางค์ที่ขายดีที่สุดอีกรุ่นหนึ่งจากแบรนด์หรูระดับโลกอย่าง Hermes 

 

Front Design : ด้านหน้าของกระเป๋า

Hermes Bearn Wallet

  • Leather : วัสดุที่นิยมใช้ คือ หนัง Epsom Calfskin และ Mysore Goatskin สำหรับหนัง Epson คือ หนังลูกวัวที่มีคุณสมบัติทนทาน น้ำหนักเบา ดูแลรักษาง่าย และสามารถคงรูปของกระเป๋าให้เป็นทรง ไม่ย้วย ส่วนหนัง Mysore คือหนังแพะ ซึ่งเป็นรอยยาก รวมถึงมีน้ำหนักเบา นอกจากนี้ยังมีหนังหายากอื่น ๆ เช่น หนังนกกระจอกเทศ (Ostrich), หนังจระเข้ (Alligator) อีกด้วย
  • ‘H’ Tab Closure : ในส่วนของอะไหล่ตัวปิดกระเป๋ารูปตัว “H” จะมีทั้งอะไหล่สีทองและสีเงิน อะไหล่สีเงินจะทำจากวัสดุ Palladium อะไหล่สีทองจะเป็นทองชุบ 24K ใช้เพื่อรัดแถบหนังสำหรับเปิด-ปิดกระเป๋า
ซ้าย Mysore goatskin ขวา Epsom Calfskin

ซ้าย Mysore goatskin ขวา Epsom Calfskin

 

Inside Design : ด้านในของกระเป๋า

Hermes Bearn Wallet

  • Interior : สำหรับรุ่น Compact และ Medium ภายในประกอบด้วยช่องซิปขนาดใหญ่ 1 ช่อง ช่องสำหรับใส่บัตร 5 ช่อง และช่องใส่เอกสารขนาดเล็ก ๆ อีก 2 ช่อง นอกจากนี้ยังมีช่องใส่บัตร 2 ช่อง และช่องสำหรับเก็บเหรียญอีก
  • Stitching : การเย็บตะเข็บ เย็บด้วยช่างฝีมือที่มีประสบการณ์ นับว่าเป็นจุดเด่นของเครื่องหนังจาก Hermes แบรนด์ใช้เทคนิคอันเป็นเอกลักษณ์ที่เรียกว่า “Consu Sellier” เป็นการเย็บโดยใช้ฝีมือมนุษย์ล้วน ๆ โดยไม่ผ่านการใช้เครื่องจักร
  • Date Code and Craftsman Code : รหัสที่บ่งบอกปีที่ผลิตกระเป๋าพร้อมด้วย “รหัสประจำตัวของช่างฝีมือ” ผู้ทำการเย็บกระเป๋าใบนั้น ๆ โดยช่างฝีมือผู้นั้นจะทำการรับผิดชอบซ่อมแซมกระเป๋าใบนั้นไปตลอด รหัสจะระบุเป็น Heat Stamp แบบไม่มีสี อยู่ด้านในช่องซิป
  • Zipper : หัวซิปปั๊มตรา Hermes มีอะไหล่รูปตัว H อยู่ตรงปลายสุดของตัวซิป
  • Heat Stamp : ตัวปั๊ม HERMES / PARIS เป็นตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมด และรอยพิมพ์เป็นสีเดียวกับอะไหล่ของกระเป๋า
Hermes Bearn Wallet

Hermes Bearn Wallet ช่องซิป

 

รุ่น Short หรือ Mini

รุ่น Short หรือ Mini

 

Back Design : ด้านหลังของกระเป๋า

Hermes Bearn Wallet

  • The Back Side : ด้านหลังของกระเป๋าเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ดีไซน์ของกระเป๋าใช้หนังเพียงชิ้นเดียวในการเย็บกระเป๋าสตางค์ ดังนั้นบริเวณรอยโค้งด้านบนกระเป๋า จะไม่มีรอยตัดปะหรือรอยเย็บ
  • Stitching : ฝีเข็มของกระเป๋า เกิดจากการเย็บด้วยมือ จะแตกต่างกับฝีเข็มที่เกิดจากเครื่องจักรอย่างเห็นได้ชัด จะปรากฏความไม่เท่ากันของฝีเข็มอยู่บ้างเล็กน้อย แต่จะไม่ออกนอกแถวหรือดูไม่เป็นระเบียบ
  • Tab Closure : ด้านหลังของแถบหนังที่ใช้ปิดกระเป๋า ถูกเย็บติดไว้กับตัวกระเป๋าด้วยแผ่นหนังสี่เหลี่ยมผืนผ้าเล็ก ๆ

 

Side Design : ด้านข้างของกระเป๋า

Hermes Bearn Wallet

 

  • Grout : การยาแนวขอบกระเป๋า เพื่อความเรียบร้อยและเพิ่มความแข็งแรงให้กับตัวกระเป๋าในเรื่องของรูปทรง
  • The Shape : ด้านข้างสามารถขยายได้เมื่อมีการบรรจุของจำนวนมากหรือสิ่งของขนาดใหญ่ลงในกระเป๋า

 

Bottom Design : ด้านล่างของกระเป๋า

Hermes Bearn Wallet

  • The Bottom : ด้านใต้ของกระเป๋าไม่มีรอยต่อใด ๆ เพราะตัดเย็บจากวัสดุหนังเพียงชิ้นเดียว
  • Stitching : การเย็บขอบและมุมเป็นงานฝีมือที่เกิดจากช่างฝีมือของ Hermes เพียงคนเดียว ฝีเข็มจะมีความห่างที่เท่ากัน สวยงาม แต่ยังคงดูเป็นฝีมือมนุษย์อยู่

 

Size Of Bearn Wallet : ขนาดของกระเป๋า Bearn Wallet

Hermes Bearn Wallet Sizing

  • Bearm Mini Wallet : 10.9 x 7.6 เซนติเมตร (4.3 x 3 นิ้ว)
  • Bearn Compact Wallet : 11.9 x 9.3 เซนติเมตร (4.7 x 3.7 นิ้ว)
  • Bearn Wallet : 17.5 x 8.8 เซนติเมตร (6.9 x 3.5 นิ้ว)

ด้วยราคาที่สมเหตุสมผลเมื่อเทียบกับกระเป๋าสตางค์รุ่น Kelly หรือ Constance ทำให้ Bearn Wallet เป็นที่นิยมอย่างไม่ต้องสงสัย งานฝีมือที่ประณีตจากช่างมากประสบการณ์ของ Hermes รวมทั้งคุณภาพที่ไม่ด้อยไปกว่าใคร ขนาดที่ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป พร้อมประโยชน์ใช้สอยที่มีเต็มเปี่ยม นับว่าเป็นกระเป๋าสตางค์ที่คุ้มค่าในการลงทุน และควรค่าแก่การมีไว้ในครอบครองสักใบ

รัก
xoxo

KATE